“บิ๊กป้อม” ลุยพิษณุโลก-นครสวรรค์ ไม่เหนียมอยากให้เป็นนายกฯ ต้องเลือกผม อดีต ส.ส.เพื่อไทยข้ามฟากซบ รทสช. “วิทยา” โอ่มีสิทธิ์แลนด์สไลด์ อ้างคนอยากมีนายกฯอีสาน “กำนันป้อ” ส่อยกก๊วนหนี ภท. “นิพนธ์” แฉ พวกทิ้ง ปชป. เหตุต่อรองขอตำแหน่งแล้วไม่ได้ เด็ก พท.ระแวง “บิ๊กตู่” ชิงยุบสภาก่อนซักฟอกแห้ง
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 20 ม.ค. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) พร้อมด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง และเลขาธิการพรรค พปชร., นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค พปชร., นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.), หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ จ.พิษณุโลก เพื่อตรวจเยี่ยมความก้าวหน้าการก่อสร้างโครงการประตูระบายน้ำท่านางงาม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก และโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำน่าน ต.พลายชุมพล อ.เมืองฯ จ.พิษณุโลก ก่อนที่ในช่วงบ่ายจะเดินทางไป จ.นครสวรรค์
สำหรับบรรยากาศการลงพื้นที่ อ.บางระกำ มีประชาชนในพื้นที่มารอต้อนรับ พร้อมมอบดอกกุหลาบและถ่ายรูปคู่กับ พล.อ.ประวิตร บางคนตะโกนอยากให้ลุงป้อมเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ขณะเดียวกัน มีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของ พปชร. จ.พิษณุโลก เดินตามประกบ อาทิ นายอุดลย์วิทย์ วิวัฒน์ธนาฒย์ บุตรชายของนายมนต์ชัย วิวัฒธนาฒย์ นายก อบจ.พิษณุโลก, นายศิริชิน หาญพิทักษ์พงศ์ ประธานสภา อบจ.พิษณุโลก
ขณะที่บรรยากาศที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์ ในช่วงบ่าย ก่อนที่ พล.อ.ประวิตรจะเดินทางมาเป็นประธานการประชุมติดตามโครงการเพิ่มประสิทธิภาพพื้นที่หน่วงนํ้าในช่วงฤดูน้ำหลาก และติดตามความคืบหน้าโครงการแก้มลิงบ้านแหลมทอง เป็นที่น่าสังเกตว่าบริเวณทางเข้าอุทยานนกน้ำบึงบอระเพ็ด ได้มีการนำป้ายหาเสียงของว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครสวรรค์ เขต 4 ถ่ายคู่กับ พล.อ.ประวิตร พร้อมข้อความนโยบายเพิ่มเงินบัตรประชารัฐเป็น 700 บาทต่อเดือน ที่ พปชร.เพิ่งแถลงเปิดนโยบายเมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา มาติดข้างทางให้เห็นเป็นที่สะดุดตา ขณะที่ภายในบริเวณงาน มีประชาชนในพื้นที่มารอต้อนรับคึกคัก
เวลา 15.30 น. พล.อ.ประวิตร พร้อมคณะ ได้แก่ นายสันติ, นายวิรัช, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และรองหัวหน้าพรรค พปชร., นายอภิชัย เตชะอุบล แกนนำพรรค พปชร. เดินทางถึง จ.นครสวรรค์ โดยมีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครสวรรค์ 5 เขต ได้แก่ นายธนรัชต์ วิเชียรรัตน์ เขต 1, นายนัยศาลิน ถนอมมิตรวัฒนา เขต 2, น.ส.สุภัสสร คล้ายแจ้ง เขต 3, นางจิตรา หมีทอง เขต 4, นายพรวิศิษฐ์ แจ่มใส เขต 5 รวมทั้งนายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พปชร. และประธานวิปรัฐบาล มารอต้อนรับ
โดยนายวิรัชได้กล่าวแนะนำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคทั้ง 5 เขต โดยเว้นเขตที่ 6 ซึ่งเป็นเขตของนายนิโรธ สุนทรเลขา เอาไว้ ซึ่งนายวิรัชได้พูดขึ้นว่า อยู่ด้านในเลยไม่ได้แนะนำ แต่ยังอยู่ ไม่ได้ไปไหน ขณะที่ผู้สนับสนุนได้พูดแทรกขึ้นว่า “ล่ามโซ่เอาไว้แล้ว”
ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามนายนิโรธ ถึงความชัดเจนว่ายังอยู่กับ พปชร.หรือไม่ แต่นายนิโรธเลี่ยงตอบคำถาม โดยระบุว่ายังเป็นสมาชิกพรรค พปชร.และพล.อ.ประวิตรได้สั่งแล้ว แต่วันนี้ยังไม่ขอพูดเรื่องของตัวเอง
‘ชาดา’ดักพบ‘บิ๊กป้อม’
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถาม พล.อ.ประวิตรถึงการลงพื้นที่ 2 จังหวัดในวันเดียว รวมถึงข้อวิพากษ์วิจารณ์ที่ พล.อ.ประวิตรลงพื้นที่ปาดหน้า พล.อ.ประยุทธ์ถึง 2 จังหวัด แต่ พล.อ.ประวิตรมีสีหน้าเรียบเฉย มองไปข้างหน้า ไม่สบตา ไม่หันมาฟังผู้สื่อข่าว
ขณะที่นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ได้มาดักรอ พล.อ.ประวิตร ระหว่างลงพื้นที่ จ.นครสวรรค์ โดยสวมเสื้อแจ็กเกตสีดำ มีตราไก่ปักอยู่ตรงอกด้านซ้าย ซึ่งเป็นเสื้อของคณะ พล.อ.ประวิตร และระยะหลัง พปชร.จะใช้สวมใส่ในเวลาลงพื้นที่ โดยทันทีที่ พล.อ.ประวิตรพบกับนายชาดา ได้แสดงความแปลกใจพร้อมตบไหล่ทักทายว่า “อ้าวชาดา มายังไงที่นครสวรรค์” โดยนายชาดาได้เข้าไปไหว้ พร้อมชี้ตราไก่ที่ปักอยู่ตรงอก พล.อ.ประวิตรจึงยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี และกอดนายชาดา ช่วงนี้นายวิรัชได้กระซิบกับ พล.อ.ประวิตร ว่า ชวนมาอยู่ พล.อ.ประวิตรจึงบอกว่าจริงหรือเปล่า นายชาดาจึงกล่าวว่า “ผมอยู่อุทัยฯ ครับ”
จากนั้นนายชาดาได้กระซิบที่หู พล.อ.ประวิตรว่า “มีเรื่องคุยกับลุงป้อมเยอะเลยครับ" พล.อ.ประวิตรจึงตอบว่า โอเค นายชาดายังพูดกับ พล.อ.ประวิตร อีกว่า นักรบไม่จำเป็นต้องอยู่ในกำแพงเสมอไป อยู่นอกกำแพงก็ช่วยเหลือกันได้ พล.อ.ประวิตรจึงหัวเราะแล้วกล่าวว่า โอเค
ต่อมา พล.อ.ประวิตรได้ร่วมรำวงกับนางรำที่มารอต้อนรับ ก่อนที่นายวิรัชจะบอกว่าได้ร่วมรำกับนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เลยนะ ขอเสียงกรี๊ดหน่อย
จากนั้นชาวบ้านได้มารุมล้อม พล.อ.ประวิตร โดยมีนางรำบางคนได้เข้ามาสวมกอดและหอมแก้ม ก่อนที่ พล.อ.ประวิตรจะพูดคุยกับชาวบ้าน ฝากทุกคนให้ช่วยเลือกว่าที่ผู้สมัครของ พปชร.ในพื้นที่นครสวรรค์ โดยยืนยันว่าจะทำให้ทุกคนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และโดยขอให้คำมั่นสัญญาว่ารัฐบาลจะดูแลปัญหาอย่างเต็มที่ ทั้งการบริหารจัดการน้ำ ขอให้ประชาชนร่วมมือกับข้าราชการและเป็นกำลังใจให้ อวยพรให้โชคดีทุกคน
ก่อนที่นายวิรัช ซึ่งทำหน้าที่เป็นพิธีกร จะบอกกับชาวบ้านว่า อยากได้พล.อ.ประวิตรเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 หรือไม่ ทำให้ได้รับเสียงกรี๊ดตอบรับว่าอยากได้จากประชาชน ขณะที่ พล.อ.ประวิตรบอกว่า “จะเป็นได้ก็ต้องเลือกผมด้วยนะ”
วันเดียวกัน นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดเผยว่า จากการที่ได้ประชุมร่วมกับนายชัชวาลล์ คงอุดม และนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ในฐานะผู้รับผิดชอบการสรรหาว่าที่ผู้สมัครในพื้นที่ภาคอีสาน ล่าสุดมีความคืบหน้าไปมากกว่า 80% โดยในจำนวนว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งทั้งหมด มีทั้งผู้เสนอตัวเข้ามาและผู้ที่พรรคสรรหา บางจังหวัดมีบุคคลที่เสนอตัวมาเกินกว่าจำนวน ส.ส.ที่เสนอได้ จึงต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน ในเบื้องต้นจะมีการประสานเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างผู้สมัครในแต่ละเขตเลือกตั้งต่อไป ส่วนจังหวัดที่เปิดตัวผู้สมัครครบแล้ว ได้แก่ จ.อุดรธานี ซึ่งผลจากการรณรงค์มาตั้งแต่ต้นพบว่ากระแสตอบรับดีมาก จนทำให้พรรคการเมืองบางพรรคต้องไปจัดปราศรัยเป็นครั้งที่สอง และดูเหมือนว่าจะมีอารมณ์เสียกันนิดหน่อยด้วย
นายวิทยากล่าวว่า ในสัปดาห์นี้มีผู้สมัครที่แสดงความจำนงล่าสุด คนแรกได้แก่ นางบุญญาพร นาตะธนภัทร ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อแผ่นดิน ซึ่งถูกพรรคเพื่อแผ่นดินขับออกจากพรรค หลังจากไปร่วมกิจกรรมพบปะสมาชิกของพรรค รทสช.ที่ จ.อุดรธานี โดยนางบุญญาพรได้รับแจ้งจากรัฐสภาว่าพรรคเพื่อแผ่นดินได้ขับนางบุญญาพรออกจากการเป็นสมาชิก และขอให้หาพรรคเข้าสังกัดภายใน 30 วัน ขณะเดียวกันได้รับแจ้งจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า ได้ลบชื่อนางบุญญาพรออกจากพรรคเพื่อแผ่นดิน ดังนั้นจึงได้มายื่นความจำนงเพื่อขอสมัครเป็นสมาชิกพรรค รทสช. ขณะนี้พรรคได้ทำหนังสือไปถึงพรรคเพื่อแผ่นดิน เพื่อขอให้แจ้งว่าได้ขับนางบุญญาพรเป็นลายลักษณ์อักษรไปยังสภาและ กกต.ภายใน 25 วัน เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปโดยสมบูรณ์ และ รทสช.จะได้รับสมัครนางบุญญาพรเข้าเป็นสมาชิกพรรคต่อไป
รองหัวหน้าพรรค รทสช.กล่าวว่า ส่วนคนที่สองเป็นอดีต ส.ส. 4 สมัยของพรรคเพื่อไทย (พท.) ที่ได้ลาออกจากพรรคเดิม และมาสมัครสมาชิกพรรค รทสช. พร้อมเข้ายื่นความจำนงขอลงสมัคร ส.ส.ในพื้นที่ที่เป็น ส.ส.เดิมอย่าง จ.มหาสารคามคือ นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท ก่อนมาได้ไปยื่นใบลาออกที่ กกต. และนำหลักฐานการยื่นใบลาออกจาก พท. มาสมัครเป็นสมาชิกพรรค รทสช.เรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งยื่นความจำนงขอสมัครในพื้นที่ จ.มหาสารคาม ถือเป็นความคืบหน้าที่เริ่มมีคณะบุคคลต่างๆ แสดงความจำนงเข้ามาอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติทุกวัน
รทสช.โอ่มีลุ้นแลนด์สไลด์
รองหัวหน้าพรรค รทสช.กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ภาคอีสาน ทำให้เห็นความน่าสนใจหลายอย่าง สิ่งสำคัญคือ เห็นได้ว่าประชาชนภาคอีสานขณะนี้เบื่อความขัดแย้งจากการที่ประชาชนต้องมาปะทะเข่นฆ่ากันเอง และหวังจะยุติให้เกิดความสงบเพื่อร่วมกันพัฒนาชาติอย่างจริงจัง โดยข้อเสนอแนะแนวทางนโยบายบางเรื่องเป็นเรื่องคาดไม่ถึงว่าทำไมชาวอีสานถึงกล้าเสนอนโยบายแบบนี้ อยากให้รออีกสัก 1-2 สัปดาห์ ที่จะได้เปิดเผยว่านโยบายที่จะทำให้หลายคนตกตะลึงว่ามรดกบาป 20 ปีคืออะไร
“ประชาชนในภาคอีสานพูดถึง นายกฯ อีสานมาก และสิ่งที่พวกเขาพูดมากขึ้นบ่อยเรื่อยๆ เพราะเขาเริ่มเจอตัวนายกฯ อีสานตัวจริงแล้ว ผมถามว่าเป็นใคร คำตอบจากผู้สมัครทั้งหมดคือ พล.อ.ประยุทธ์ไง ท่านเป็นคนโคราช แม่ท่านเป็นคนชัยภูมิ เขารู้สึกว่าความใกล้ชิดระหว่างพี่น้องชาวอีสานไม่ได้ห่างไกล ผมไม่แน่ใจว่าแลนด์สไลด์จะเกิดกับพรรคไหนนะครับ พรรคเราอาจจะมีโอกาสอย่างนั้นเหมือนกัน เพราะเขาเริ่มเจอนายกฯ อีสานตัวจริง ถ้าใครจะอ้างว่าเขยอีสาน ลูกอีสาน เจอลูกอีสานประยุทธ์ จันทร์โอชา สักคนเถอะครับ” นายวิทยากล่าว
นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และสมาชิกพรรค รทสช. เปิดเผยว่า นายประนอม โพธิ์คำ อดีตสมาชิกพรรค พปชร. ได้เข้ายื่นใบสมัครสมาชิกพรรค รทสช. กับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ตามคำเชิญชวนของตน โดยมั่นใจว่าหากได้ผู้มีความสามารถมาทำงานการเมืองกับพรรค จะสามารถนำชัยชนะในเขตเลือกตั้ง จ.นครราชสีมา ได้สำเร็จ เนื่องจากนายประนอมถือว่าประชาชนให้การสนับสนุน อีกทั้งเคยเป็นอดีต ส.ส.นครราชสีมาหลายสมัย เป็นที่ยอมรับของประชาชนในพื้นที่วังน้ำเขียวและ อ.ปักธงชัย
นายจิรวุฒิ สิงห์โตทอง นายกสมาคมกลุ่มอาชีพการเกษตรชลบุรี เปิดเผยว่า การเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะมีขึ้นในปี 66 ได้ตัดสินใจไป รทสช. ตามที่ได้รับปากนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และสมาชิกพรรค รทสช.
ด้านนายประมวล เอมเปีย อดีต ส.ส.ชลบุรี กล่าวว่า ช่วงนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะไปสังกัดพรรคการเมืองไหน และ พปชร.ก็มาทาบทามเหมือนกัน รอเวลาการตัดสินใจอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อวันศุกร์ นางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ออกมายอมรับว่า ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ และสภาได้มีการแจ้งไปยัง ปชป.แล้ว โดยจะไปสังกัด พปชร. สนับสนุนพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ส่วนที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าจะไปสังกัด พท.นั้น เป็นเพียงการไปพูดคุย แต่สุดท้ายตัดสินใจที่จะทำงานกับ พปชร.
มีรายงานว่า ภายหลังนางศรีสมร ลาออกจาก ส.ส.บัญชีรายชื่อ ทำให้นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ เลื่อนขึ้นเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อแทน นอกจากนี้ ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และคนใกล้ชิดนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ได้ยื่นใบลาออกจากการเป็น ส.ส. ทำให้นายสุรบถ หลีกภัย ลูกชายนายชวน ที่เป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในลำดับที่ 33 ของ ปชป. เลื่อนขึ้นมาเป็น ส.ส.แทน
นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวถึงกรณีนางศรีสมรลาออกจากพรรคว่า ทราบมาก่อนหน้านี้แล้วว่านางศรีสมรจะออกจากพรรค ซึ่งไม่รู้สึกกังวล เพราะนางศรีสมรเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ เมื่อออกไปก็เตรียมคนใหม่มาแทน อย่างไรก็ตาม ในอดีตเวลาออกก็ยกทีมออกกันไป แต่รอบนี้ออกทีละคน บางคนให้ข่าว 10 รอบกว่าจะออก ทำให้เห็นว่าเหมือน ปชป.มีปัญหาเยอะ แต่เรามาดูแล้วคนที่ออกจาก ส.ส.บัญชีรายชื่อ บางคนมีเงื่อนไขให้พรรค ต้องรับเป็นหลักประกันว่าจะต้องอยู่ในลำดับที่เท่านั้นเท่านี้ บางคนก่อนจะออกยื่นเงื่อนไขขอมีตำแหน่งบริหารด้วยในรอบหน้า ซึ่งพรรคจะรับปากได้อย่างไร ส่วนกรณีนางศรีสมร มีคนมาพูดเหมือนกันว่าถ้าอยู่จะได้ลำดับที่เท่าไหร่ ซึ่งไม่มีใครพูดหรือรับประกันให้ได้
ขณะเดียวกัน ยังมีรายงานข่าวจาก ปชป.แจ้งว่า กรณี พล.อ.ประวิตรเดินทางไปบ้านของนายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายก อบจ.ราชบุรี เมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งปรากฏว่ามี ส.ส.ราชบุรีของ ปชป. 2 คนอยู่ในวันนั้นด้วยคือ นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี และนายชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์ ส.ส.ราชบุรีนั้น ล่าสุดมีความคืบหน้าเป็นที่แน่นอนแล้วว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้า นายชัยทิพย์จะลงสมัคร ส.ส.ในนาม พปชร. ส่วนนายอัครเดช ตัดสินใจแล้วจะย้ายไปอยู่กับ รทสช. แต่ปัจจุบันนายอัครเดชยังไม่ลาออกจากการเป็น ส.ส.และสมาชิกพรรค ปชป.
เมื่อวันศุกร์ นายอภิชา เลิศพชรกมล ส.ส.นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย (ภท.) เปิดเผยว่า ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็น ส.ส. ต่อประธานสภาฯ แล้ว และมีผลในวันที่ 20 ม.ค. เนื่องจากสภาล่มบ่อย จึงไม่มีประโยชน์ที่จะอยู่ต่อ ขอไปทำพื้นที่ดีกว่า ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในสังกัดพรรค ภท. ยังไม่ได้ลาออกจากสมาชิกพรรคแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวถามว่า เตรียมตัวจะย้ายสังกัดไปพรรคอื่นหรือไม่ นายอภิชาระบุว่า ยังไม่ได้คิด รอดูนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.คมนาคม และแกนนำพรรค ภท.ก่อน เพราะนายวีรศักดิ์สุขภาพไม่ค่อยดี จะยุติบทบาททางการเมือง ตนเลยออกมาตั้งหลัก และสภาล่มบ่อยด้วย อย่างไรก็ตาม ตนได้แจ้งเรื่องการลาออกจาก ส.ส.กับนายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรค ภท.แล้ว ซึ่งนายสรอรรถไม่ได้ว่าอะไร เพราะเห็นว่าเป็นการตัดสินใจที่เป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส.
มีรายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อเย็นวันที่ 19 ม.ค. นายอภิชาได้ส่งข้อความเข้าไปยังไลน์กลุ่ม ส.ส.ของ ภท. พร้อมระบุว่า “ขอบคุณสำหรับมิตรภาพ และสิ่งดีๆ ที่มีให้ผมนะครับ ขออนุญาตกราบลาทุกท่านครับ” จากนั้นนายอภิชาได้ออกจากไลน์กลุ่มดังกล่าวทันที ท่ามกลางความงุนงงของเพื่อน ส.ส.ในพรรค โดยมีรายงานว่า นายอภิชาอาจจะย้ายไปสังกัด พท.ตามนายวีรศักดิ์ ซึ่งถือเป็นลูกพี่ของนายอภิชา ที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ว่าจะไปอยู่กับ พท.
ขณะที่เมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา ในส่วนของนายวีรศักดิ์ ได้ลาออกจากกรรมการบริหารพรรค ภท. แต่ยังไม่ได้ลาออกจากสมาชิกพรรค แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า ในช่วงเช้าวันที่ 20 ม.ค. นายอภิชายังได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า “เราไม่ทิ้งกัน” เป็นอดีต รมช.คมนาคม และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแล้วครับ ขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้กันและกัน “แล้วพบกันใหม่นะครับ”
ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์คอนเวนชั่น ถ.วิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) เป็นประธานการประชุมใหญ่สามัญ ครั้งที่ 1/2566 จากนั้นมีการนำเสนอนโยบายของพรรค ชทพ. ภายใต้สโลแกน รับฟัง ทำจริง ที่จะใช้ในการเลือกตั้งปี 2566 ผ่านแคมเปญที่ใช้ชื่อว่า ว้าว ไทยแลนด์
โดยนายวราวุธกล่าวถึงที่มาของแคมเปญหาเสียง ว้าวไทยแลนด์ ว่า ว้าว ไทยแลนด์ หรือ WOW มาจากคำว่า Wealth, Opportunity and Welfare For All คือ การสร้างความมั่งคั่ง สร้างโอกาส และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีเพื่อประชาชน โดยที่ครอบคลุมและทั่วถึงคนไทยทั้ง 4 กลุ่ม ประกอบด้วย ประชาชนเข้มแข็ง เกษตรกรแข่งขันได้ ธุรกิจขยับขยายและคนไทยแข็งแรง
หัวหน้าพรรค ชทพ.ระบุว่า 10 นโยบายที่จะใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งปี 66 ประกอบด้วย 1.รัฐธรรมนูญประชาชน บรรหารโมเดลปี 40 เราทำสำเร็จมาแล้ว โดยเป็นจุดยืนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยกลไกของสภาร่างรัฐธรรมนูญที่พรรคชาติไทยเคยทำสำเร็จมาแล้วในสมัยของนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี 2.เกษตรกรรุ่นใหม่ขายคาร์บอนเครดิตได้ 3.แจกพันธุ์ข้าวฟรีทั่วประเทศ 60 ล้านไร่เพื่อลดต้นทุนและยกระดับผลผลิตให้มีคุณภาพมากขึ้น 4.ขยายเขตไฟฟ้าการเกษตรทั่วประเทศหน่วยละ 2 บาท 5.สานต่อระบบบาดาลขนาดใหญ่ทุกตำบลน้ำสะอาดทุกหมู่บ้าน 6.งบลงทุนท้องถิ่น 10 ล้านบาท 7.เรียนในสิ่งที่ใช่ ใช้ในสิ่งที่เรียน ปรับปรุงการเรียนการสอนพัฒนาทักษะวิชาชีพให้นักเรียนที่จบ ม.6 หรือ ปวช. สามารถออกมามีงานมีรายได้รองรับ 8.สุขภาพดีมีเงินคืน 3,000 บาทสวัสดิการอัพเกรดได้ 9.สร้างงานสร้างรายได้แก่ผู้สูงอายุเบี้ยคนพิการเดือนละ 3,000 บาท 10.ระบบขนส่งมวลชนเข้าถึงเท่าเทียม
ด้านนายสมเกียรติ ถนอมสินธุ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ภายหลังการเข้าร่วมสังเกตการณ์การประชุมใหญ่ของ ชทพ. ว่าหลังการยุบสภาจะเข้าร่วมงานการเมืองกับ ชทพ. และลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.กทม. หลังจากที่พรรคก้าวไกลมีมติส่งนายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ หัวหน้าการ์ดวีโว่ เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.แทน และก่อนหน้านี้หลังจากที่พรรคก้าวไกลมีมติไม่ส่งตนลงเลือกตั้งครั้งหน้า ตนได้พูดคุยกับพรรคการเมืองฝ่ายค้านคือ พท. และและพรรคเสรีรวมไทย แต่พบว่าทั้ง 2 พรรคมีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตพระโขนงและบางนาแล้ว จึงไม่ต้องการไปเบียดแย่ง ทำให้ตนเปลี่่ยนมาพูดคุยกับพรรคฝ่ายรัฐบาล และจากการพูดกับ ชทพ.เห็นความตั้งใจนายวราวุธ
ระแวงยุบสภาก่อนซักฟอก
ขณะที่ความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและแกนนำพรรค พท. มีกำหนดการลงพื้นที่เยาวราช เพื่อพูดคุยกับกลุ่มนักธุรกิจที่มูลนิธิเทียนฟ้า รวมถึงสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ วัดเล่งเน่ยยี่ (วัดมังกร) ในวันที่ 21 ม.ค. ซึ่งจะได้นายเศรษฐา ทวีสิน นักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ และเป็นบุคคลที่ปรากฏเป็นกระแสข่าวว่าจะเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ ของ พท. จะร่วมลงพื้นที่กับ น.ส.แพทองธารในครั้งนี้ด้วย ถือเป็นครั้งแรกที่ทั้งคู่จะปรากฏตัวและทำกิจกรรมร่วมกันในฐานะสมาชิกพรรคพท.
นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พท. กล่าวว่า ใน จ.สมุทรปราการ มีการทำลายและขโมยแผ่นป้ายนโยบายที่มีภาพ น.ส.แพทองธาร ที่ติดอยู่ทั่วประเทศจำนวนมาก มองเป็นอื่นไม่ได้นอกจากการกระทำของกลุ่มที่เสียประโยชน์ กลัวประชาชนจะเทใจให้พรรค พท.แบบแลนด์สไลด์จนพวกตัวเองหมดอำนาจ
น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรค พท. กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ว่า รัฐบาลกำลังตกอยู่ในบ่วงของความผิดพลาด ล้มเหลว ไร้ประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาหลายอย่าง ทั้งเรื่องปากท้องชาวบ้าน การทุจริต ยากต่อการชี้แจงหรือแก้ตัว การให้อภิปรายโดยไม่ลงมติหลังวันที่ 15 ก.พ. จะมีหลักประกันอะไรที่จะเชื่อได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่ชิงยุบสภาก่อนจะเริ่มอภิปราย
น.ส.ตรีชฎากล่าวอีกว่า สภาจะปิดสมัยประชุมวันที่ 28 ก.พ. การกำหนดให้ประชุมสภาเพื่อพิจารณาญัตติซักฟอกหลังวันที่ 15 ก.พ. ซึ่งพรรคฝ่ายค้านต้องการใช้เวลา 3 วัน ครั้งนี้ไม่ได้มีข้อห้ามยุบสภาก่อนอภิปราย ต่างกับญัตติอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ ที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ว่าห้ามยุบสภา ประกอบกับระยะเวลาหมดวาระ ทั้งนี้ พท. ไม่เห็นด้วยกับทอดเวลาการอภิปรายเนิ่นนานเกินไป และมาจ่อเอาช่วงที่สภาใกล้ปิดสมัยประชุม
นายสำราญ ตันพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงข้อห่วงใยการหาเสียงเลือกตั้งของพรรคการเมืองและผู้ประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ช่วงเทศกาลวันตรุษจีน 22 ม.ค. ว่า ช่วงตรุษจีนอยากเน้นย้ำให้งดแจกอย่างเคร่งครัด อย่าเผอเรอคิดว่าเป็นช่วงประเพณีแล้วจะทำได้โดยไม่มีความผิด กฎหมายเลือกตั้งไม่ได้มีเจตนาไปทำให้ประเพณีอันดีงามเสียไป เพียงแต่ต้องปฏิบัติตามข้อกฎหมายที่กำหนดไว้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ลุยมาเฟียปราจีนฯ ไร้เงาคนสนิทโกทร
นายกฯ อิ๊งค์พร้อมนั่งหัวโต๊ะทีมเฉพาะกิจปราบมาเฟียตามบัญชาพ่อ
พท.ฝัน‘หน่อย’ ชิงอบจ.โคราช ในนามเพื่อไทย
“อนุทิน” ตอกย้ำ “ภูมิใจไทย” ไม่ลงเล่นสนามท้องถิ่น เด็กเพื่อไทยยังหวัง
ตีปี๊บโลกยกย่องนายกฯ ‘แพทองธาร’ไปมาเลย์
“รมต.น้ำ” แห่ตีปี๊บ “ฟอร์บส์” จัดอันดับ “แพทองธาร” ติดอันดับ 29
เชื่อ2วัน‘น้ำท่วมใต้’ลดลง
นายกฯ กำชับ ศปช.เร่งบรรเทาน้ำท่วมใต้ 4 จังหวัดยังหนัก คาด 2 วันคลี่คลาย
อิ๊งค์แก้ต่างแทนพ่อ อ้างพูดให้พรรคร่วมช่วยกัน/อนุทินชี้ดรามาจบแล้ว
“อิ๊งค์” แจง "พ่อนายกฯ" พูดถึงพรรคร่วมในภาพกว้าง ต้องช่วยกัน
‘หนู’ ลั่นฟังแค่ ‘อิ๊งค์’ ยันร่วมรัฐบาลเป็นไฟต์บังคับ ‘ทักษิณ’ พูดไม่นำพา
"อนุทิน" ลั่น! รับสัญญาณจากนายกฯ อิ๊งค์เท่านั้น ยันที่ "ทักษิณ" พูดไม่ได้หมายถึงรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย "ท่านทักษิณพูดถึงพรรคที่ไม่เข้าร่วมประชุม ผมก็ไม่นำพาไปฟังอะไรมาก"