เร่งคุ้ยสาเหตุย่างสด11ศพ

ตร.เร่งหาสาเหตุอุบัติเหตุรถตู้มรณะสังเวย 11 ศพ ส่งร่างผู้เสียชีวิตตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์สถาบันนิติเวชฯ เผยรถตู้วิ่งความเร็ว 82 กม.ต่อ ชม. ก่อนชนการ์ดเรลจนพลิกคว่ำแล้วไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว หนุ่มรอดชีวิตรายเดียวคลานหนีตายทัน เตรียมบวชอุทิศส่วนกุศล คปภ.โคราชชี้มีประกันคุ้มครอง ชดเชยผู้โดยสารรายละ 1.1 ล้านบาท

จากกรณีอุบัติเหตุรถตู้โดยสารเสียหลักพุ่งชนราวเหล็กกั้นทางเกาะกลางถนนมิตรภาพ ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ ช่วงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 100-99 บ้านมอจะบก ตำบลมิตรภาพ อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา จนเกิดไฟลุกไหม้ท่วมรถตู้ทั้งคัน ทำให้มีผู้เสียชีวิตถูกไฟคลอก 11 ราย และมีผู้รอดชีวิตหวุดหวิดคลานหนีออกมาจากรถได้ทันอีก 1 ราย เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 22 ม.ค.2566 นั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 23 มกราคม พ.ต.อ.ยงยศ พลเดช ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสีคิ้ว เปิดเผยความคืบหน้าเรื่องดังกล่าวว่า   จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้นทราบว่ารถตู้คันเกิดเหตุเป็นรถตู้โดยสารยี่ห้อโตโยต้า คอมมิวเตอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 30-0078 อำนาจเจริญ รับผู้โดยสารเดินทางมาจากจังหวัดอำนาจเจริญ มุ่งหน้าไปส่งผู้โดยสารที่กรุงเทพฯ  หลังเกิดอุบัติเหตุสภาพตะแคงอยู่ร่องกลางของถนน ถูกไฟลุกไหม้ท่วมวอดทั้งคันรถ มีผู้เสียชีวิตถูกไฟคลอกอยู่ภายในรถรวมทั้งคนขับจำนวน 11 ราย และมีผู้รอดชีวิต 1 รายคือ นายธนชิต กิ่งแก้ว เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจจะเกิดจากการขับรถเร็ว ความประมาท หรือคนขับอาจหลับใน ทั้งนี้ ต้องรอการตรวจสอบพยานหลักฐานจากปากคำพยานและกล้องวงจรปิดใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง จึงจะสามารถสรุปสาเหตุที่แน่ชัดได้

ต่อมาช่วงบ่าย ได้มีญาติของผู้เสียชีวิตทยอยเดินทางมาที่ สภ.สีคิ้ว เพื่อยื่นเอกสารระบุตัวตนผู้เสียชีวิตเพื่อที่จะนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่ภูมิลำเนา ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจของญาติ ที่ต่างพากันร้องไห้ยืนมองดูซากรถตู้ที่ประสบเหตุ โดยภายในซากรถตู้ยังคงมีร่องรอยของสัมภาระที่ถูกไฟเผาจนเป็นตอตะโก ทั้งเสื้อผ้าและข้าวสารที่หล่นเกลื่อนอยู่เต็มพื้นรถตู้ สำหรับในส่วนของการติดต่อขอรับศพผู้เสียชีวิตทั้ง 11 รายนั้น ยังไม่สามารถทำได้ เนื่องจากผู้เสียชีวิตทั้ง 11 รายพร้อมเอกสารนั้นถูกไฟเผาจนไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้

พ.ต.อ.ยงยศระบุว่า วันนี้ญาติของผู้เสียชีวิตยังไม่สามารถรับศพออกไปได้ เนื่องจากผู้เสียชีวิตทั้งหมดยังไม่สามารถระบุตัวตนที่แน่ชัด โดย สภ.สีคิ้วได้ประสานงานไปยังสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ เพื่อส่งศพของผู้เสียชีวิตทั้ง 11 รายตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ  พร้อมประสานงานไปยังมูลนิธิฮุก 31 นครราชสีมา เพื่อขอสนับสนุนรถในการเคลื่อนย้ายศพของผู้เสียชีวิต โดยจะทยอยออกเดินทางจาก รพ.สีคิ้วในช่วงบ่าย ถ้าหากญาติคนไหนสะดวก ขอให้เดินทางมาที่ สภ.สีคิ้วก่อนเพื่อตรวจสอบเอกสาร แต่ถ้าไม่สะดวกสามารถเดินทางไปที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจได้เลย สำหรับในส่วนของสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุนั้น ได้ส่งชุดสืบสวนออกไปหาหลักฐานจากกล้องวงจรปิดบริเวณโดยรอบ เพื่อสืบหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริงต่อไป

จากการสอบถามนายธนชิต กิ่งแก้ว ผู้โดยสารที่รอดชีวิตหวุดหวิดและได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เล่าว่า ได้โดยสารรถตู้คันดังกล่าวมาจากจังหวัดอำนาจเจริญเพื่อเดินทางไปที่กรุงเทพฯ โดยนั่งหลับมาตลอดทาง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุตนได้ยินเสียงรถกระแทกเสียงดังสนั่น ตนตกใจตื่น จากนั้นรถก็พลิกคว่ำ มองเห็นเปลวไฟกำลังลุกไหม้อย่างรวดเร็ว และได้ยินเสียงเพื่อนผู้โดยสารร้องขอความช่วยเหลือ จึงรีบคลานออกมาทางประตูด้านข้างรอดตายอย่างหวุดหวิด ส่วนในรถตู้หัวเก๋งมีคนขับ (เสียชีวิต) เด็กและผู้หญิงรวม 3 คน ส่วนที่เหลือนั่งในรถตู้รวม 9 คน รวมตนนั่งแถวกลาง มีเด็ก 1 คนที่นั่งแถวสุดท้ายด้านขวา โดยที่ตนโชคดีรอดชีวิตมาได้อาจจะเป็นเพราะคล้องท้าวเวสสุวรรณ  วัดจุฬามณี จ.สมุทรสงคราม ซึ่งตนเองเคารพนับถือศรัทธา

ด้านนางศิริจันทร์ อัศวภูมิ อายุ 40 ปี แม่ของนายธนชิต ผู้รอดชีวิตจากอุบัติเหตุในครั้งนี้ ได้เดินทางมาเยี่ยมอาการลูกชายที่โรงพยาบาลสีคิ้ว พร้อมเล่าว่า รู้สึกโล่งใจที่ลูกชายบาดเจ็บไม่หนักมาก โดยลูกชายเล่าให้ฟังว่าขณะเกิดเหตุไฟกำลังลุกไหม้ ได้ยินเสียงคนในรถทั้งเด็กและผู้ใหญ่ร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด แต่ไม่สามารถช่วยอะไรได้ เพราะต้องรีบมุดหน้าต่างออกมาเอาตัวรอดก่อน ซึ่งลูกชายรู้สึกเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากนี้ลูกชายจะบวชอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตที่นั่งรถตู้มาด้วยกัน พร้อมทั้งเป็นการบวชเพื่อสะเดาะเคราะห์ที่รอดชีวิตในครั้งนี้ด้วย

พ่อสะอื้นสูญเสียลูกกับเมีย

ขณะที่นายสุรเดช อ่อนคำ อายุ 45 ปี ซึ่งสูญเสียลูกสาววัย 7 ขวบ พร้อมภรรยา ที่นั่งโดยสารมาในรถตู้มรณะ ร้องไห้จุกอก น้ำตาคลอเบ้า เล่าว่า ภรรยาพาลูกสาว 7 ขวบ เดินทางมาหาพ่อที่กรุงเทพฯ คุยกันครั้งสุดท้ายตอน 1 ทุ่ม บอกว่าขึ้นรถตู้แล้ว กระทั่งตนมารอรับตอนตี 1 ยังมาไม่ถึงเสียที ก่อนรู้ข่าวรถตู้ประสบอุบัติเหตุ ทั้งภรรยาและลูกสาวถูกไฟคลอกเสียชีวิต ทำใจไม่ได้ แม้จะมีเงินประกันคุ้มครอง 1 ล้านบาท ไม่สามารถทดแทนความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพจากกล้องวงจรปิดจุดบริการประชาชน หน่วยกู้ภัยฮุก 31 จุดสีคิ้ว สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้ ขณะรถตู้วิ่งมาด้วยความเร็วสูง ขามุ่งหน้ากรุงเทพฯ ก่อนเสียหลักชนการ์ดเรล แผงกั้นร่องกลางถนน ก่อนเกิดไฟลุกไหม้อย่างรุนแรงและรวดเร็ว เหตุการณ์นี้มีผู้โดยสารนั่งมาในรถรอดชีวิต 1 คน กระเสือกกระสนออกมาจากตัวรถได้ทันก่อนเกิดไฟลุกไหม้ ส่วนผู้โดยสารคนอื่นๆ และคนขับ ร่างอัดกระแทกติดคาซากรถ ก่อนถูกไฟคลอกเสียชีวิตทั้งหมด 11 ราย ในจำนวนนี้มีเด็ก 2 ราย อยู่ระหว่างการชันสูตรเพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์ตัวบุคคล ส่วนรถตู้คันเกิดเหตุ ถูกเคลื่อนย้ายมาไว้ที่หน้า สภ.สีคิ้ว สภาพถูกไฟไหม้เสียหายทั้งคันดำเป็นตอตะโก ภายในห้องโดยสารใต้เบาะนั่งมีถังเชื้อเพลิงก๊าซเอ็นจีวี 3 ถัง ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว

โดยเวลา 11.30 น.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมา ได้ร่วมกันตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ โดยในเบื้องต้นทราบว่าน่าจะเกิดจากที่รถตู้หลักจากพลิกคว่ำแล้วมีน้ำมันรั่วไหลออกมา ประกอบกับรถตู้เดินทางมาเป็นระยะเวลานาน จึงทำให้เกิดความร้อนจนเกิดประกายไฟจนเป็นสาเหตุทำให้เกิดไฟลุกท่วมรถตู้คันดังกล่าว สำหรับรถตู้ที่เกิดเหตุนั้น เป็นรถตู้ที่จดทะเบียนถูกต้องจากกรมการขนส่งทางบก และมีจีพีเอสในการวัดความเร็วของรถตู้คันดังกล่าวอยู่เป็นระยะ ซึ่งจากการตรวจสอบจากจีพีเอส พบว่าขณะเกิดเหตุรถตู้คันดังกล่าวขับมาด้วยความเร็วประมาณ 82 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก่อนที่จะเกิดเหตุสลดในครั้งนี้

นายนิคม แส้อุน หัวหน้ากู้ภัยฮุก 31 จุดสีคิ้ว (0818784702) ซึ่งอยู่ประจำจุดบริการประชาชน ถ.มิตรภาพ ตั้งอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุพอดี บอกว่า จุดเกิดเหตุอยู่หน้าสำนักงานพอดี ได้ยินเสียงรถครูดกับผิวถนนก่อนเกิดเสียงระเบิดดังสนั่นต่อเนื่อง 3 ครั้ง มีไฟลุกไหม้อย่างรุนแรง เปลวไฟลุกท่วมทั้งคัน ไม่สามารถเอาถังดับเพลิงฉุกเฉินไปช่วยดับไฟได้ ซึ่งถนนมิตรภาพจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง สัปดาห์นี้มีรถเสียหลักชนการ์ดเรลพลิกคว่ำ 3 ครั้ง คาดว่าสาเหตุมาจากสภาพผิวถนนมีจุดกลับรถอยู่บนเนินลาดชัน มีช่องจราจรเพิ่มอีก 1 เลน ถนนกว้างขึ้น จากทางเบี่ยงถนนมิตรภาพเชื่อมกับถนน 24 (สีคิ้ว-เดชอุดม) เมื่อรถมาทางตรง ผ่านจุดกลับรถ มักจะเบี่ยงเข้าเลนขวา และเสียหลักพุ่งชนการ์ดเรลเกิดอุบัติเหตุในที่สุด ที่ผ่านมาได้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยติดตั้งสัญญาณไฟกะพริบแจ้งเตือนผู้ใช้เส้นทาง เพิ่มความระมัดระวัง แต่ยังไม่มีการติดตั้งแต่อย่างใด

ชดเชยรายละ 1.1 ล้าน

ทางด้านนางสาวมณี  ไวยภาค ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) นครราชสีมา กล่าวว่า ในส่วนของสิทธิ์การประกันภัยคุ้มครอง คปภ. ในกรณีของผู้บาดเจ็บ ถ้าเป็นผู้โดยสาร ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล ไม่เกิน 80,000 บาท และความคุ้มครองของ 3+ ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ 100,000 บาท ในส่วนของผู้บาดเจ็บวงเงินค่ารักษาพยาบาลอยู่ที่ 180,000 บาท ในกรณีของผู้โดยที่เสียชีวิต พ.ร.บ.ความคุ้มครองเต็มจำนวน 500,000 บาทต่อราย และมีความคุ้มครองของ 3+ ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจซื้ออยู่ 500,000 บาทต่อราย และการประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล ของผู้โดยสารที่เสียชีวิต 11 คน คนละ 100,000 บาท รวมค่าชดเชยรายละ 1,110,000 ต่อคน ส่วนของผู้ขับขี่ความคุ้มครองจะน้อยกว่าผู้โดยสาร เพราะถ้าเกิดจากการขับขี่โดยประมาท พ.ร.บ.จะจ่ายค่าปลงศพ 35,000 บาท และการประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลของคนขับ 100,000 บาท และในกรณีคนขับเสียชีวิตความคุ้มครองอยู่ที่ 135,000 บาท ทั้งนี้ ต้องรอผลการตรวจระบุยืนยันตัวบุคคลจากทางสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจก่อนถึงจะสามารถจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาได้

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบชื่อผู้เสียชีวิตทั้ง 11 ราย ที่โดยสารมากับรถตู้คันนี้แล้ว ประกอบไปด้วย 1.นายวันชัย เสวาภพ (คนขับรถ) 2.นางอุทัย อุตราช 3.เด็กชายกฤติเดช สาตะสิน 4.นางทองยุ่น แสนโท 5.นางสาวทัศวรรณ์ บุญเนาว์ 6.นายรังสรรณ์ บุญนันต์ 7.นางสาวดวงนภา จารุไชย 8.เด็กหญิงพลอยชมพู จารุไชย 9.นางสุคนธี สีสันต์ 10.นางศิริพร หนูคำหอม และ 11.นายวีระ สุวชัย โดยมีผู้รอดชีวิต 1 รายคือ นายธนชิต กิ่งแก้ว อายุ 17 ปี.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง