บิ๊กตู่ลงเยาวราชระอุ ‘กองเชียร-์กองแช่ง’พรึ่บ ประวิตรปาดหน้าเค้กอีก!

อีกแล้ว “พี่ป้อม” ใส่กางเกงยีนส์ เชิ้ตสีแดง ดอดลงเยาวราช ทำบุญรับตรุษจีน ก่อน “น้องตู่” รทสช.มาช่วงเย็น “บิ๊กตู่” ประเดิมไหว้เจ้าวัดเล่งเน่ยยี่ ขอพรให้คนไทยสุขภาพดี ประเทศเดินหน้า แฟนคลับรอถ่ายภาพเพียบ “นฤมล” ลั่น พปชร.พร้อมลุยศึกเลือกตั้ง ชู “ป้อม”แคนดิเดตนายกฯ คนที่ 30 โอ่บุคลิกไม่ขัดแย้งกับใคร จ่อเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เมืองกรุง “เพื่อไทย” ได้ทีตีปี๊บ “อิ๊งค์-เศรษฐา” ลงพื้นที่แลนด์สไลด์เกิดได้จริง

เมื่อวันอาทิตย์ เวลา 13.30 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี  และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้เดินทางไปถนนเยาวราช โดยสวมเสื้อเชิ้ตสีแดง กางเกงยีนส์ มีเสื้อแจ็กเกตสีเขียวคลุมอีกชั้นหนึ่ง รองเท้าผ้าใบ โดย พล.อ.ประวิตรได้เดินไปไหว้เจ้าแม่กวนอิม ทำบุญไหว้พระและบริจาคที่มูลนิธิเทียนฟ้า ขณะที่ระหว่างทางเดินไปมูลนิธิเทียนฟ้า พล.อ.ประวิตรมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส  มีประชาชนมาขอถ่ายรูปและทักทายด้วยความเป็นกันเอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเดินทางไปเยาวราชครั้งนี้ไม่ได้มีกำหนดการล่วงหน้า  แต่เป็นการเดินทางไปส่วนตัวเพื่อขอพรเนื่องในโอกาสเทศกาลตรุษจีน อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้แจ้งกำหนดการลงพื้นที่เยาวราชในช่วงเย็นวันเดียวกัน โดยมีรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม และสมาชิกพรรค รทสช. จะมากับคณะด้วย ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่าการลงพื้นที่ของ พล.อ.ประวิตรครั้งนี้ เป็นอีกครั้งที่เดินทางไปก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์จะลงพื้นที่ต่อจาก จ.ราชบุรีและนครสวรรค์

ในเวลา 17.00 น. ที่ศาลเจ้าไต้ฮงกง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค รทสช. พร้อมด้วยนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค, นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี แกนนำพรรค และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. กว่า 30 คน ร่วมกันไหว้ขอพรที่ศาลเจ้าไต้ฮงกง จากนั้นนายพีระพันธุ์และคณะได้เดินมายังวัดมังกรกมลาวาส หรือ เล่งเน่ยยี่ โดยเดินทักทายประชาชนสองข้างทาง แต่ระหว่างที่เดินมาถึงถนนมังกร ได้สวนกับคณะของพรรคก้าวไกล ที่นำโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค  และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคก้าวไกล ที่เดินทางมาร่วมเทศกาลตรุษจีนเช่นกัน โดยระหว่างที่เดินสวนกัน นายพีระพันธุ์ และนายพิธาได้หันไปโบกมือทักทายกันแต่ไม่ได้หยุดพูดคุยแต่อย่างใด และเมื่อเดินสวนกันไปแล้วกองเชียร์ทั้งสองฝ่ายต่างตะโกนชื่อพรรคตัวเองแข่งกัน

ต่อมา เวลา 18.05 น. พล.อ.ประยุทธ์เดินทางมาถึงวัดมังกรฯ โดยมีรายงานว่าที่ พล.อ.ประยุทธ์เดินทางมาถึงล่าช้ากว่ากำหนด เนื่องจากไม่มีรถนำขบวน อีกทั้งคนขับรถไม่ใช่คนขับประจำ ทำให้หลงทาง เพราะถนนเยาวราชช่วงตรุษจีนมีการปิดถนน

สำหรับบรรยากาศที่วัดมังกรฯ บรรดาแกนนำและสมาชิกพรรค รทสช.ต่างรอให้การต้อนรับ รวมถึง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าฯ กทม. มาให้กำลังใจ และเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์มาถึง ได้ไหว้เทพเจ้าเนื่องในเทศกาลตรุษจีน โดย พล.อ.ประยุทธ์สวมเสื้อสีชมพูลายสก็อต และมีเสื้อสูทรับรองสีเทาฟ้าคลุมอีกชั้น ขณะที่ประชาชนต่างให้ความสนใจรอขอถ่ายภาพ พล.อ.ประยุทธ์จำนวนมาก รวมถึงมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติขอถ่ายภาพคู่ด้วย และมีประชาชนบางส่วนตะโกน “รักลุงตู่” และ “ขอให้เป็นนายกฯ ต่อ”

บิ๊กตู่อารมณ์ดีลงเยาวราช

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้เยี่ยมชมตลาดเก่าเล่งบ๊วยเอี๊ยะ และย่านการค้า ร้านอาหารถนนเยาวราช มีกองเชียร์ส่งเสียงตะโกนสู้ๆ ตลอดทาง โดย พล.อ.ประยุทธ์เดินพบปะประชาชนพร้อมแวะเข้าไปทักทายประชาชนถึงในบ้าน พร้อมทำมือสัญลักษณ์มินิฮาร์ตโบกมือทักทายและกล่าวว่า “ขอให้มีความสุข ขอให้ร่ำรวยทุกคน ขอให้ช่วยกัน” โดย พล.อ. ประยุทธ์ยังได้เล่นป๋องแป๋งอย่างอารมณ์ดีด้วย ทั้งนี้ ในช่วงเดินทักทายประชาชน อากาศร้อน ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ได้ถอดสูทออกเหลือเพียงเสื้อเชิ้ตสก็อตสีชมพู

เวลา 18.35 น. ระหว่างเดินทักทายประชาชน พล.อ.ประยุทธ์ได้ให้สัมภาษณ์ตอนหนึ่งว่า วันนี้ตั้งใจจะมากราบไหว้พระวัดมังกรกมลาวาส และมาดูว่าสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจเป็นอย่างไร ซึ่งได้รับรายงานว่ามีหลายอย่างกระเตื้องขึ้น ในทุกระดับทุกภาค การท่องเที่ยวมีมากขึ้น มีการจองที่พักและโรงแรม วันนี้จึงมาดูที่เยาวราช เพราะมีการจับจ่ายใช้เงินกันหลายล้านบาท ทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้ใช้เวลาในระยะสั้น เราพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เชื่อมั่นว่าเราทำได้หรือไม่ ซึ่งในช่วงสถานการณ์โควิด-19 หลายคนไม่เชื่อว่าเราจะทำได้ วันนี้เราทำได้ และทำให้เห็น ทั้งนี้ สิ่งที่จะเกิดต่อไปจะต้องดูว่ามันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ต้องมีเหตุผล ไม่ใช่พูดแล้วจะเกิดขึ้นมา มันต้องใช้เวลาพอสมควรอย่างที่ทำมา ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ขออวยพรให้ตรุษจีนปีนี้ ให้ประชาชนทุกคน ทั้งคนไทยเชื้อสายจีนและคนไทย มีความสุขความเจริญและสุขภาพแข็งแรงตลอดไป

เมื่อถามว่า ในช่วงที่ไหว้พระได้ขอพรอะไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ได้ขอพรให้ประชาชนทุกคนมีความสุข สุขภาพแข็งแรง สามารถพัฒนาตนไปข้างหน้า เพื่อให้ประเทศไทยขับเคลื่อนไปในทิศทางที่ดีขึ้น เป็นสิ่งที่ตนขอพรทุกครั้ง นอกจากนี้ ตนยังขอพรให้ทำงานประสบความสำเร็จและปลอดภัย ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธตอบคำถามกรณีที่ผู้สื่อข่าวถามว่าจะลงพื้นที่เช่นนี้ทุกวันหยุดเสาร์-อาทิตย์หรือไม่

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ยืนให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น โดยเฉพาะย่านเยาวราช ปรากฏว่ามีหญิงวัยรุ่นคนหนึ่งได้ตะโกนเสียงดังใส่ว่า “ลุงตู่เมื่อไหร่จะลาออก” แต่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ตอบโต้อะไร นอกจากนี้ยังมีประชาชนส่วนหนึ่งตะโกนบอกว่า “ผู้สมัครรถติดมากไปแล้ว ช่วยเดินหลบหน่อย ประชาชนขอใช้ถนนบ้าง ช่วยหลบหน่อย” รวมถึงมีชายคนหนึ่งตะโกนว่า “หลอกลวงประชาชน ไหนบอกไม่เล่นการเมือง” และมีประชาชนที่ขับรถผ่านบางคันบีบแตรใส่ เพราะการจราจรติดขัดด้วย

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้เดินมาขึ้นรถยนต์ที่จอดรออยู่ตรงสถานีรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที สถานีวัดมังกรฯ และแวะสนทนากับชาวต่างชาติครู่หนึ่งด้วย ซึ่งมีประชาชนบางส่วนนำดอกไม้มามอบให้ พร้อมกับตะโกนลุงตู่สู้ๆ นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวกับประชาชนว่า ร่ำรวย สุขภาพแข็งแรงตลอดไป พร้อมกับหันมากล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ถามว่าเหนื่อยมั้ย โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่เหนื่อย ทำอะไรให้ประชาชนไม่เหนื่อยอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงที่รถยนต์ของ พล.อ.ประยุทธ์กำลังเคลื่อนออก มีประชาชนเข้ามารุมล้อมพร้อมตะโกนว่า “สู้ๆ” โดย พล.อ.ประยุทธ์ได้ลดกระจกรถลงทั้งสองข้างลง พร้อมโบกมือให้ประชาชน แต่เนื่องจากมีประชาชนและรถจำนวนมาก ทำให้คนขับรถเบรกรถกะทันหัน ทำให้รถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ซึ่งเป็นรถรักษาความปลอดภัย หมายเลขทะเบียน 3 กน 5451 กรุงเทพมหานคร ชนท้ายรถของ พล.อ.ประยุทธ์ แต่รถไม่เกิดความเสียหาย จากนั้นขบวนรถของ พล.อ.ประยุทธ์ได้เคลื่อนออกไปในเวลา 19.02 น.

 ด้านนายพีระพันธุ์เผยหลังลงพื้นที่ว่า  ไปที่ไหนก็มีแต่คนเชียร์แบบนี้ วันนี้ไม่ได้นัดหมายกับ พล.อ.ประยุทธ์ เพียงแต่แจ้งให้ทราบ ท่านบอกว่าถ้าว่างก็จะมา ก็มากับแกนนำพรรค นายกฯ ตั้งใจมาของท่านเองเพื่อไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในเทศกาลตรุษจีน วันนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการลงพื้นที่

ชู'ลุงป้อม'ผู้นำกล้าตัดสินใจ

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมของ พปชร.ในการสู้ศึกเลือกตั้งปี 2566 ว่า พปชร.อยู่ระหว่างการจัดทัพและเสริมทัพของว่าที่ผู้สมัครสมาชิก ส.ส.ในเขตที่ไม่เคยมี ส.ส. และเขตที่ ส.ส. มีแนวโน้มย้ายไปสังกัดพรรคใหม่และพรรคอื่นๆ และได้ทยอยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครมาตลอด โดยยืนยันว่าไม่ได้มีข้อกังวลใดๆ เพราะเชื่อว่าทุกพรรคดำเนินการในลักษณะเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ เราพอจะรับทราบถึงทิศทางของ ส.ส.มาได้สักพักแล้ว พล.อ.ประวิตร ในฐานะหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค ได้เตรียมผู้สมัครทั้งที่ในเขตที่มี ส.ส.อยู่แล้ว และเขตที่ไม่เคยมี ส.ส. รวมถึง ส.ส.ที่มีแนวโน้มจะย้ายออกไปอยู่พรรคใหม่และพรรคอื่นๆ เราได้เริ่มหาตัวผู้สมัครสำรองสำหรับเขตนั้นๆ ล่วงหน้ามาหลายเดือนแล้ว ซึ่งน้ำคงจะค่อยๆ นิ่งและตกผลึกในที่สุด เพราะมีส่วนหนึ่งขยับออก จะมีส่วนหนึ่งขยับเข้ามา จะมาเติมเต็มกัน

"ที่ผ่านมา พปชร.ได้ขับเคลื่อนนโยบายที่วางไว้มาต่อเนื่อง และผู้สมัคร ส.ส.ที่มีความเข้มแข็ง รวมถึงภาวะผู้นำของพรรค จะสามารถทำให้ประชาชนเชื่อมั่นจนสามารถผลักดันให้ พล.อ.ประวิตรขึ้นเป็นนายกฯ คนที่ 30 สอดรับกับภาพที่ประชาชนได้เห็นว่า พล.อ.ประวิตรเป็นผู้มีภาวะการเป็นผู้นำ ที่กล้าตัดสินใจในสถานการณ์ของประเทศไทยในปัจจุบัน อีกทั้งไม่เคยขัดแย้งกับใคร และสามารถทำงานได้กับทุกพรรคการเมือง เป็นผู้นำที่มีลักษณะพิเศษ ไม่ขัดแย้ง ไม่โกรธ ให้อภัยทุกคนตลอด กวาดสายตามองออกไปคนที่เป็นเช่นนี้มีไม่เยอะในประเทศไทย ซึ่งจะมาเป็นผู้นำที่ทำให้ประชาชนเห็นว่า ประเทศไทยมีผู้นำที่นำพาประเทศ ก้าวข้ามความขัดแย้งทั้งหมดได้จริงๆ หากไม่ได้ผู้นำเช่นนี้ ประชาชนยังตีกันอยู่” นางนฤมลกล่าว

นางนฤมลกล่าวว่า พปชร.มีฐานเสียงเดิม 8.4 ล้านเสียง ในการเลือกตั้งปี 2554 และปี 2562 เท่ากับฐานเสียงของทั้ง 2 ขั้วการเมืองยังคงสูสีกัน ดังนั้น การเลือกตั้งปี 2566 อาจจะต้องยังแบ่งครึ่งๆ เหมือนเดิม โดยคราวนี้ขั้วการเมืองตรงข้ามมีพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคไทยสร้างไทย พรรคเสรีรวมไทย และพรรคอื่นๆ เล็กน้อย อีกฝั่งมี พปชร. พรรคประชาธิปัตย์ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคสร้างอนาคตไทย พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคไทยภักดี ที่ต้องแชร์คะแนนกัน ดังนั้นจึงตอบยากมาก ส.ส.เขตได้เท่าไหร่ และคงตอบล่วงหน้าไม่ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรค พปชร.ว่า สำหรับการเตรียมพร้อมเลือกตั้งในส่วนของสนาม กทม. พรรคพลังประชารัฐ ขณะนี้มีความคืบหน้าการวางตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เสร็จแล้วกว่า 80% โดยในช่วงบ่ายวันที่ 24 ม.ค. เตรียมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.บางส่วนเป็นครั้งแรกก่อน โดยทีม กทม.ของ พปชร. มีนางนฤมล และนายสกลธี ภัททิยกุล อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. ร่วมกันรับผิดชอบ นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน พปชร.จะเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครปฐมและขอนแก่นด้วย 

โพลยก'ประวิตร'พี่ใหญ่ 

นายนพดล กรรณิกา หัวหน้าโครงการวิจัยสำนักวิจัยซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจ เรื่อง มุมมองประชาชน ต่อ พล.อ.ประวิตร กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 1,131 ตัวอย่าง โดยเมื่อถามถึง พล.อ.ประวิตร พบมุมมองของประชาชนว่า ส่วนใหญ่หรือ 68.4% ระบุเป็นพี่ใหญ่การเมือง ที่สามารถเชื่อมประสานเหนือความขัดแย้ง รองลงมาคือ 60.2% ระบุเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของรัฐบาล ที่เป็นวาระตัวแดงของชาติ เช่น การแก้ปัญหาค้ามนุษย์ ประมงผิดกฎหมาย การบินพลเรือน การจัดระเบียบสังคม และยาเสพติด เป็นต้น   60.1% ระบุเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสงบมั่นคงของประเทศ ซึ่งต่างชาติและอาเซียนให้การยอมรับ, 59.9% ระบุผลงานที่ประทับใจต่อเนื่อง คือไม่ทิ้งคนจนจริงๆ ทั้งแก้หนี้นอกระบบ ที่ดินทำกิน แก้ปัญหาน้ำและภัยแล้ง, 57% ระบุเป็นเหมือนโล่กำบัง ปกป้องผู้อื่นมาตลอด, 56.5% ระบุ เป็นพี่ใหญ่การเมือง สามารถประนีประนอมกับทุกฝ่ายได้,  55.5% ระบุมีผลงานประจักษ์แก่คนรากหญ้ามากที่สุด และ 53.9% ระบุเป็นแรงบันดาลใจขับเคลื่อนปัญหาปากท้องรากหญ้าให้ทุกคนได้อยู่ดีกินดี โดยเฉพาะพืชผลเกษตรตกต่ำ

เมื่อถามถึงภาพจำ ภาพหลอนการเมืองที่ไม่อยากเห็น พบว่า ส่วนใหญ่หรือ 75.9% ระบุภาพหลอนคือการแก้กฎหมายให้คนคนเดียว และเกิดปัญหาการเมือง ความไม่สงบในประเทศอีก,  69.4% ระบุไม่ต้องการให้แก้รัฐธรรมนูญเปิดทางให้สืบทอดอำนาจเกิน 8 ปีเกินเงื่อนไข สุดท้ายประเทศไม่พ้นวงจรอุบาทว์ ปฏิวัติรัฐประหาร, 67.6% ระบุ สืบทอดเสพอำนาจไม่รู้จบ, 66.6% ระบุ สืบทอดอำนาจแบบสายเลือด ทั้งที่ไม่มีผลงาน มาทั้งตระกูล และส่วนใหญ่เกือบร้อยละร้อยคือ 97.5% ระบุต้องการให้คนทำผิดกฎหมาย ที่หลบอยู่ต่างประเทศ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม มากกว่าการโจมตีกันเองลิดรอนประเทศ

นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรค ปชป. กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมของพรรคเพื่อสู้ศึกเลือกตั้งว่า วันนี้ถือว่าพรรคได้เตรียมผู้สมัคร ส.ส.ไว้เยอะแล้ว ทั้งภาคใต้ซึ่งครบ 100% แล้ว ส่วนภาคเหนือก็ได้ประกาศผู้สมัครไปแล้ว 61 คน ประมาณ 90-95% ส่วนภาคอีสานจะเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.กว่า 100 คน ในวันที่ 28 ม.ค. ที่ จ.นครราชสีมา ส่วนภาคกลาง ซึ่งมีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ ในฐานะเลขาธิการพรรค และนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สธ. ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ดูแลภาคกลาง เป็นผู้ดูแล ก็จะกำหนดเปิดตัวผู้สมัครต่อไป และเปิดตัวผู้สมัครปิดท้ายที่ กทม.ยืนยันว่า ปชป.ส่งครบ 400 เขตแน่นอน ส่วนผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อตอนนี้ล้นแล้ว ซึ่งมาจากพรรคอื่นก็มี แต่มาแบบระบุลำดับมาด้วย พรรคก็ไม่กล้ารับไว้ เพราะพรรคมีระบบคณะกรรมการสรรหาอยู่ ซึ่งต้องเป็นไปตามระเบียบของพรรค

นายนิพนธ์กล่าวต่อว่า ส่วนนโยบายหลังจากที่ได้ทยอยเปิดล็อตแรกไปแล้วคือ 3 สร้าง 8 นโยบาย ที่เน้นเรื่องการเกษตร ก็จะเปิดนโยบายล็อตที่ 2 ที่ จ.นครราชสีมา โดยเป็นการเปิดนโยบาย พร้อมกับเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. ทั้งนี้ นโยบายที่จะเปิด จะเน้นเรื่องการสร้างคน และสร้างเงินที่ยังค้างอยู่ในภาคการผลิตด้านอื่น และจะเปิดตัวนโยบายล็อตที่ 3 ประมาณเดือน ก.พ. ส่วนที่มี ส.ส.บางคนเตรียมย้ายออกจาก ปชป. ไม่มีผลกระทบกับพรรค เพราะคนที่ย้ายออกพรรคก็ได้เตรียมคนไว้แทนตลอด

เมื่อถามว่า แต่ละพรรคเริ่มประกาศแคนดิเดตนายกฯ กันแล้ว ปชป.จะเสนอแคนดิเดตนายกฯ คนเดียวหรือมากกว่า นายนิพนธ์กล่าวว่า จะเสนอกี่คนต้องรอให้กรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) พิจารณาก่อนว่าจะตัดสินใจอย่างไร แต่ไม่มีปัญหาแน่นอน เพราะ ปชป.มีระบบชัดเจน และเคารพการตัดสินใจกันอยู่แล้ว

ตีปี๊บเศรษฐา-อุ๊งอิ๊ง

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการปรากฏตัวร่วมกันของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และนายเศรษฐา ทวีสิน ว่า การปรากฏตัวของนายเศรษฐา เป็นการไปในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่เข้ามาทำงานกับพรรคเต็มตัว ตอกย้ำความเชื่อมั่นของพรรคเพื่อไทยให้มีมากขึ้นในความพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง ว่า เรามีทั้งนโยบายที่แข็งแรงสามารถทำได้จริง และบุคลากร ปรากฏการณ์แลนด์สไลด์จะเกิดขึ้นได้ไม่ยาก นายเศรษฐาเป็นนักธุรกิจ ประสบความสำเร็จ มีความรู้ความสามารถ เมื่อเข้ามาการเมืองก็เชื่อว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะมาร่วมผลักดันนโยบายของพรรคเพื่อไทยไปสู่ความสำเร็จ ประกอบกับพรรคเพื่อไทยมีสมาชิกพรรคที่พร้อมในการผลักดันนโยบายให้ประชาชน เชื่อว่าเลือกเพื่อไทยแล้วเราจะเป็นทางออกของประเทศ

เมื่อถามถึงการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 นายประเสริฐกล่าวว่า รัฐบาลกำหนดให้อภิปรายหลังวันที่ 15 ก.พ.เป็นต้นไป ไม่เข้าใจว่าจะรออะไรนานขนาดนั้น เพราะฝ่ายค้านเตรียมพร้อมมานานแล้ว หากพล.อ.ประยุทธ์มั่นใจในผลงานที่ทำมาตลอด 8 ปี อยากให้เร่งวันอภิปรายให้เร็วขึ้น ที่ท่านพูดมาตลอดถึงผลงานที่ผ่านมาก็ขอให้รับฟังเสียงสะท้อนของฝ่ายค้านอย่ายุบสภาหนีแล้วกัน หากรัฐบาลยุบสภาหนี ก็ตอกย้ำความล้มเหลวในการบริหาร กลัวความจริงที่ฝ่ายค้านจะนำมาฟ้องประชาชน

นายนพดล ปัทมะ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สถานะของประเทศขณะนี้ คนไทยยากจนเพิ่ม นำไปสู่ปัญหาหนี้สินสูงสุด คุณภาพชีวิตตกต่ำ เด็กไม่ได้เข้าโรงเรียน และความเหลื่อมล้ำถ่างขึ้นมากติดลำดับโลก รวยกระจุก จนกระจาย ประเทศไทยฟื้นตัวช้าหลังโควิด เติบโตต่ำท้ายตารางในอาเซียน การทดสอบขององค์กรในระดับสากลด้านทุนมนุษย์พบว่าคุณภาพด้านการศึกษาตกต่ำลงกว่าก่อนทำรัฐประหาร เสน่ห์ในการดึงดูดการลงทุนทางตรงลดลง หลังการเลือกตั้งอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ประเทศต้องมีรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ ตัวผู้นำมีความสามารถ สมองดี ทำงานเก่ง และต้องซื่อสัตย์ต่อนโยบายที่หาเสียงช่วงเลือกตั้ง

 “การจะเผชิญความท้าทายและแก้ปัญหาที่กล่าวถึงได้ จึงต้องมีรัฐบาลที่เข้มแข็ง ผู้นำที่มีความสามารถ มีประสิทธิภาพ และพรรคแกนนำมีนโยบายที่ตอบโจทย์ เป็นเหตุผลหนึ่งที่พรรคเพื่อไทยเดินหน้าเสนอนโยบายสร้างรายได้ เน้นนโยบายที่ทำได้จริง และเดินหน้าแลนด์สไลด์ เพื่อให้ได้รัฐบาลที่เข้มแข็งในการผลักดันนโยบายเพื่อทำให้ชีวิตคนไทยดีขึ้น” นายนพดลกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย เตรียมแถลงข่าวลาออกจากสมาชิกพรรค วันที่ 23 ม.ค. เวลา 08.30 น. ที่สำนักงานพรรคเพื่อไทย อ.นาแก จ.นครพนม เนื่องจากในการเปิดตัวผู้ประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.นครพนม ของ พท.เมื่อ 16 ม.ค. ไม่ปรากฏชื่อนายชวลิต เป็นว่าที่ผู้สมัคร แต่ได้เปิดตัวอดีตผู้สมัครนายก อบจ.นครพนม จากกลุ่มก้าวหน้า เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 นครพนมแทน โดยมีกระแสข่าวว่านายชวลิตอาจไปร่วมงานกับพรรคไทยสร้างไทย. 

 

23poe01.pol

 

ไทยโพสต์ ๐ อีกแล้ว “พี่ป้อม” ใส่กางเกงยีนส์ เชิ้ตสีแดง ดอดลงเยาวราช ทำบุญรับตรุษจีน ก่อน “น้องตู่” รทสช.มาช่วงเย็น “บิ๊กตู่” ประเดิมไหว้เจ้าวัดเล่งเน่ยยี่ ขอพรให้คนไทยสุขภาพดี ประเทศเดินหน้า แฟนคลับรอถ่ายภาพเพียบ “นฤมล” ลั่น พปชร.พร้อมลุยศึกเลือกตั้ง ชู “ป้อม”แคนดิเดตนายกฯ คนที่ 30 โอ่บุคลิกไม่ขัดแย้งกับใคร จ่อเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เมืองกรุง “เพื่อไทย” ได้ทีตีปี๊บ “อิ๊งค์-เศรษฐา” ลงพื้นที่แลนด์สไลด์เกิดได้จริง

เมื่อวันอาทิตย์ เวลา 13.30 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี  และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้เดินทางไปถนนเยาวราช โดยสวมเสื้อเชิ้ตสีแดง กางเกงยีนส์ มีเสื้อแจ็กเกตสีเขียวคลุมอีกชั้นหนึ่ง รองเท้าผ้าใบ โดย พล.อ.ประวิตรได้เดินไปไหว้เจ้าแม่กวนอิม ทำบุญไหว้พระและบริจาคที่มูลนิธิเทียนฟ้า ขณะที่ระหว่างทางเดินไปมูลนิธิเทียนฟ้า พล.อ.ประวิตรมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส  มีประชาชนมาขอถ่ายรูปและทักทายด้วยความเป็นกันเอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเดินทางไปเยาวราชครั้งนี้ไม่ได้มีกำหนดการล่วงหน้า  แต่เป็นการเดินทางไปส่วนตัวเพื่อขอพรเนื่องในโอกาสเทศกาลตรุษจีน อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้แจ้งกำหนดการลงพื้นที่เยาวราชในช่วงเย็นวันเดียวกัน โดยมีรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม และสมาชิกพรรค รทสช. จะมากับคณะด้วย ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่าการลงพื้นที่ของ พล.อ.ประวิตรครั้งนี้ เป็นอีกครั้งที่เดินทางไปก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์จะลงพื้นที่ต่อจาก จ.ราชบุรีและนครสวรรค์

ในเวลา 17.00 น. ที่ศาลเจ้าไต้ฮงกง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค รทสช. พร้อมด้วยนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค, นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี แกนนำพรรค และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. กว่า 30 คน ร่วมกันไหว้ขอพรที่ศาลเจ้าไต้ฮงกง จากนั้นนายพีระพันธุ์และคณะได้เดินมายังวัดมังกรกมลาวาส หรือ เล่งเน่ยยี่ โดยเดินทักทายประชาชนสองข้างทาง แต่ระหว่างที่เดินมาถึงถนนมังกร ได้สวนกับคณะของพรรคก้าวไกล ที่นำโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค  และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคก้าวไกล ที่เดินทางมาร่วมเทศกาลตรุษจีนเช่นกัน โดยระหว่างที่เดินสวนกัน นายพีระพันธุ์ และนายพิธาได้หันไปโบกมือทักทายกันแต่ไม่ได้หยุดพูดคุยแต่อย่างใด และเมื่อเดินสวนกันไปแล้วกองเชียร์ทั้งสองฝ่ายต่างตะโกนชื่อพรรคตัวเองแข่งกัน

ต่อมา เวลา 18.05 น. พล.อ.ประยุทธ์เดินทางมาถึงวัดมังกรฯ โดยมีรายงานว่าที่ พล.อ.ประยุทธ์เดินทางมาถึงล่าช้ากว่ากำหนด เนื่องจากไม่มีรถนำขบวน อีกทั้งคนขับรถไม่ใช่คนขับประจำ ทำให้หลงทาง เพราะถนนเยาวราชช่วงตรุษจีนมีการปิดถนน

สำหรับบรรยากาศที่วัดมังกรฯ บรรดาแกนนำและสมาชิกพรรค รทสช.ต่างรอให้การต้อนรับ รวมถึง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าฯ กทม. มาให้กำลังใจ และเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์มาถึง ได้ไหว้เทพเจ้าเนื่องในเทศกาลตรุษจีน โดย พล.อ.ประยุทธ์สวมเสื้อสีชมพูลายสก็อต และมีเสื้อสูทรับรองสีเทาฟ้าคลุมอีกชั้น ขณะที่ประชาชนต่างให้ความสนใจรอขอถ่ายภาพ พล.อ.ประยุทธ์จำนวนมาก รวมถึงมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติขอถ่ายภาพคู่ด้วย และมีประชาชนบางส่วนตะโกน “รักลุงตู่” และ “ขอให้เป็นนายกฯ ต่อ”

บิ๊กตู่อารมณ์ดีลงเยาวราช

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้เยี่ยมชมตลาดเก่าเล่งบ๊วยเอี๊ยะ และย่านการค้า ร้านอาหารถนนเยาวราช มีกองเชียร์ส่งเสียงตะโกนสู้ๆ ตลอดทาง โดย พล.อ.ประยุทธ์เดินพบปะประชาชนพร้อมแวะเข้าไปทักทายประชาชนถึงในบ้าน พร้อมทำมือสัญลักษณ์มินิฮาร์ตโบกมือทักทายและกล่าวว่า “ขอให้มีความสุข ขอให้ร่ำรวยทุกคน ขอให้ช่วยกัน” โดย พล.อ. ประยุทธ์ยังได้เล่นป๋องแป๋งอย่างอารมณ์ดีด้วย ทั้งนี้ ในช่วงเดินทักทายประชาชน อากาศร้อน ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ได้ถอดสูทออกเหลือเพียงเสื้อเชิ้ตสก็อตสีชมพู

เวลา 18.35 น. ระหว่างเดินทักทายประชาชน พล.อ.ประยุทธ์ได้ให้สัมภาษณ์ตอนหนึ่งว่า วันนี้ตั้งใจจะมากราบไหว้พระวัดมังกรกมลาวาส และมาดูว่าสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจเป็นอย่างไร ซึ่งได้รับรายงานว่ามีหลายอย่างกระเตื้องขึ้น ในทุกระดับทุกภาค การท่องเที่ยวมีมากขึ้น มีการจองที่พักและโรงแรม วันนี้จึงมาดูที่เยาวราช เพราะมีการจับจ่ายใช้เงินกันหลายล้านบาท ทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้ใช้เวลาในระยะสั้น เราพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เชื่อมั่นว่าเราทำได้หรือไม่ ซึ่งในช่วงสถานการณ์โควิด-19 หลายคนไม่เชื่อว่าเราจะทำได้ วันนี้เราทำได้ และทำให้เห็น ทั้งนี้ สิ่งที่จะเกิดต่อไปจะต้องดูว่ามันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ต้องมีเหตุผล ไม่ใช่พูดแล้วจะเกิดขึ้นมา มันต้องใช้เวลาพอสมควรอย่างที่ทำมา ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ขออวยพรให้ตรุษจีนปีนี้ ให้ประชาชนทุกคน ทั้งคนไทยเชื้อสายจีนและคนไทย มีความสุขความเจริญและสุขภาพแข็งแรงตลอดไป

เมื่อถามว่า ในช่วงที่ไหว้พระได้ขอพรอะไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ได้ขอพรให้ประชาชนทุกคนมีความสุข สุขภาพแข็งแรง สามารถพัฒนาตนไปข้างหน้า เพื่อให้ประเทศไทยขับเคลื่อนไปในทิศทางที่ดีขึ้น เป็นสิ่งที่ตนขอพรทุกครั้ง นอกจากนี้ ตนยังขอพรให้ทำงานประสบความสำเร็จและปลอดภัย ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธตอบคำถามกรณีที่ผู้สื่อข่าวถามว่าจะลงพื้นที่เช่นนี้ทุกวันหยุดเสาร์-อาทิตย์หรือไม่

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ยืนให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น โดยเฉพาะย่านเยาวราช ปรากฏว่ามีหญิงวัยรุ่นคนหนึ่งได้ตะโกนเสียงดังใส่ว่า “ลุงตู่เมื่อไหร่จะลาออก” แต่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ตอบโต้อะไร นอกจากนี้ยังมีประชาชนส่วนหนึ่งตะโกนบอกว่า “ผู้สมัครรถติดมากไปแล้ว ช่วยเดินหลบหน่อย ประชาชนขอใช้ถนนบ้าง ช่วยหลบหน่อย” รวมถึงมีชายคนหนึ่งตะโกนว่า “หลอกลวงประชาชน ไหนบอกไม่เล่นการเมือง” และมีประชาชนที่ขับรถผ่านบางคันบีบแตรใส่ เพราะการจราจรติดขัดด้วย

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้เดินมาขึ้นรถยนต์ที่จอดรออยู่ตรงสถานีรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที สถานีวัดมังกรฯ และแวะสนทนากับชาวต่างชาติครู่หนึ่งด้วย ซึ่งมีประชาชนบางส่วนนำดอกไม้มามอบให้ พร้อมกับตะโกนลุงตู่สู้ๆ นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวกับประชาชนว่า ร่ำรวย สุขภาพแข็งแรงตลอดไป พร้อมกับหันมากล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ถามว่าเหนื่อยมั้ย โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่เหนื่อย ทำอะไรให้ประชาชนไม่เหนื่อยอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงที่รถยนต์ของ พล.อ.ประยุทธ์กำลังเคลื่อนออก มีประชาชนเข้ามารุมล้อมพร้อมตะโกนว่า “สู้ๆ” โดย พล.อ.ประยุทธ์ได้ลดกระจกรถลงทั้งสองข้างลง พร้อมโบกมือให้ประชาชน แต่เนื่องจากมีประชาชนและรถจำนวนมาก ทำให้คนขับรถเบรกรถกะทันหัน ทำให้รถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ซึ่งเป็นรถรักษาความปลอดภัย หมายเลขทะเบียน 3 กน 5451 กรุงเทพมหานคร ชนท้ายรถของ พล.อ.ประยุทธ์ แต่รถไม่เกิดความเสียหาย จากนั้นขบวนรถของ พล.อ.ประยุทธ์ได้เคลื่อนออกไปในเวลา 19.02 น.

 ด้านนายพีระพันธุ์เผยหลังลงพื้นที่ว่า  ไปที่ไหนก็มีแต่คนเชียร์แบบนี้ วันนี้ไม่ได้นัดหมายกับ พล.อ.ประยุทธ์ เพียงแต่แจ้งให้ทราบ ท่านบอกว่าถ้าว่างก็จะมา ก็มากับแกนนำพรรค นายกฯ ตั้งใจมาของท่านเองเพื่อไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในเทศกาลตรุษจีน วันนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการลงพื้นที่

ชู'ลุงป้อม'ผู้นำกล้าตัดสินใจ

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมของ พปชร.ในการสู้ศึกเลือกตั้งปี 2566 ว่า พปชร.อยู่ระหว่างการจัดทัพและเสริมทัพของว่าที่ผู้สมัครสมาชิก ส.ส.ในเขตที่ไม่เคยมี ส.ส. และเขตที่ ส.ส. มีแนวโน้มย้ายไปสังกัดพรรคใหม่และพรรคอื่นๆ และได้ทยอยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครมาตลอด โดยยืนยันว่าไม่ได้มีข้อกังวลใดๆ เพราะเชื่อว่าทุกพรรคดำเนินการในลักษณะเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ เราพอจะรับทราบถึงทิศทางของ ส.ส.มาได้สักพักแล้ว พล.อ.ประวิตร ในฐานะหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค ได้เตรียมผู้สมัครทั้งที่ในเขตที่มี ส.ส.อยู่แล้ว และเขตที่ไม่เคยมี ส.ส. รวมถึง ส.ส.ที่มีแนวโน้มจะย้ายออกไปอยู่พรรคใหม่และพรรคอื่นๆ เราได้เริ่มหาตัวผู้สมัครสำรองสำหรับเขตนั้นๆ ล่วงหน้ามาหลายเดือนแล้ว ซึ่งน้ำคงจะค่อยๆ นิ่งและตกผลึกในที่สุด เพราะมีส่วนหนึ่งขยับออก จะมีส่วนหนึ่งขยับเข้ามา จะมาเติมเต็มกัน

"ที่ผ่านมา พปชร.ได้ขับเคลื่อนนโยบายที่วางไว้มาต่อเนื่อง และผู้สมัคร ส.ส.ที่มีความเข้มแข็ง รวมถึงภาวะผู้นำของพรรค จะสามารถทำให้ประชาชนเชื่อมั่นจนสามารถผลักดันให้ พล.อ.ประวิตรขึ้นเป็นนายกฯ คนที่ 30 สอดรับกับภาพที่ประชาชนได้เห็นว่า พล.อ.ประวิตรเป็นผู้มีภาวะการเป็นผู้นำ ที่กล้าตัดสินใจในสถานการณ์ของประเทศไทยในปัจจุบัน อีกทั้งไม่เคยขัดแย้งกับใคร และสามารถทำงานได้กับทุกพรรคการเมือง เป็นผู้นำที่มีลักษณะพิเศษ ไม่ขัดแย้ง ไม่โกรธ ให้อภัยทุกคนตลอด กวาดสายตามองออกไปคนที่เป็นเช่นนี้มีไม่เยอะในประเทศไทย ซึ่งจะมาเป็นผู้นำที่ทำให้ประชาชนเห็นว่า ประเทศไทยมีผู้นำที่นำพาประเทศ ก้าวข้ามความขัดแย้งทั้งหมดได้จริงๆ หากไม่ได้ผู้นำเช่นนี้ ประชาชนยังตีกันอยู่” นางนฤมลกล่าว

นางนฤมลกล่าวว่า พปชร.มีฐานเสียงเดิม 8.4 ล้านเสียง ในการเลือกตั้งปี 2554 และปี 2562 เท่ากับฐานเสียงของทั้ง 2 ขั้วการเมืองยังคงสูสีกัน ดังนั้น การเลือกตั้งปี 2566 อาจจะต้องยังแบ่งครึ่งๆ เหมือนเดิม โดยคราวนี้ขั้วการเมืองตรงข้ามมีพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคไทยสร้างไทย พรรคเสรีรวมไทย และพรรคอื่นๆ เล็กน้อย อีกฝั่งมี พปชร. พรรคประชาธิปัตย์ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคสร้างอนาคตไทย พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคไทยภักดี ที่ต้องแชร์คะแนนกัน ดังนั้นจึงตอบยากมาก ส.ส.เขตได้เท่าไหร่ และคงตอบล่วงหน้าไม่ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรค พปชร.ว่า สำหรับการเตรียมพร้อมเลือกตั้งในส่วนของสนาม กทม. พรรคพลังประชารัฐ ขณะนี้มีความคืบหน้าการวางตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เสร็จแล้วกว่า 80% โดยในช่วงบ่ายวันที่ 24 ม.ค. เตรียมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.บางส่วนเป็นครั้งแรกก่อน โดยทีม กทม.ของ พปชร. มีนางนฤมล และนายสกลธี ภัททิยกุล อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. ร่วมกันรับผิดชอบ นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน พปชร.จะเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครปฐมและขอนแก่นด้วย 

โพลยก'ประวิตร'พี่ใหญ่ 

นายนพดล กรรณิกา หัวหน้าโครงการวิจัยสำนักวิจัยซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจ เรื่อง มุมมองประชาชน ต่อ พล.อ.ประวิตร กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 1,131 ตัวอย่าง โดยเมื่อถามถึง พล.อ.ประวิตร พบมุมมองของประชาชนว่า ส่วนใหญ่หรือ 68.4% ระบุเป็นพี่ใหญ่การเมือง ที่สามารถเชื่อมประสานเหนือความขัดแย้ง รองลงมาคือ 60.2% ระบุเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของรัฐบาล ที่เป็นวาระตัวแดงของชาติ เช่น การแก้ปัญหาค้ามนุษย์ ประมงผิดกฎหมาย การบินพลเรือน การจัดระเบียบสังคม และยาเสพติด เป็นต้น   60.1% ระบุเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสงบมั่นคงของประเทศ ซึ่งต่างชาติและอาเซียนให้การยอมรับ, 59.9% ระบุผลงานที่ประทับใจต่อเนื่อง คือไม่ทิ้งคนจนจริงๆ ทั้งแก้หนี้นอกระบบ ที่ดินทำกิน แก้ปัญหาน้ำและภัยแล้ง, 57% ระบุเป็นเหมือนโล่กำบัง ปกป้องผู้อื่นมาตลอด, 56.5% ระบุ เป็นพี่ใหญ่การเมือง สามารถประนีประนอมกับทุกฝ่ายได้,  55.5% ระบุมีผลงานประจักษ์แก่คนรากหญ้ามากที่สุด และ 53.9% ระบุเป็นแรงบันดาลใจขับเคลื่อนปัญหาปากท้องรากหญ้าให้ทุกคนได้อยู่ดีกินดี โดยเฉพาะพืชผลเกษตรตกต่ำ

เมื่อถามถึงภาพจำ ภาพหลอนการเมืองที่ไม่อยากเห็น พบว่า ส่วนใหญ่หรือ 75.9% ระบุภาพหลอนคือการแก้กฎหมายให้คนคนเดียว และเกิดปัญหาการเมือง ความไม่สงบในประเทศอีก,  69.4% ระบุไม่ต้องการให้แก้รัฐธรรมนูญเปิดทางให้สืบทอดอำนาจเกิน 8 ปีเกินเงื่อนไข สุดท้ายประเทศไม่พ้นวงจรอุบาทว์ ปฏิวัติรัฐประหาร, 67.6% ระบุ สืบทอดเสพอำนาจไม่รู้จบ, 66.6% ระบุ สืบทอดอำนาจแบบสายเลือด ทั้งที่ไม่มีผลงาน มาทั้งตระกูล และส่วนใหญ่เกือบร้อยละร้อยคือ 97.5% ระบุต้องการให้คนทำผิดกฎหมาย ที่หลบอยู่ต่างประเทศ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม มากกว่าการโจมตีกันเองลิดรอนประเทศ

นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรค ปชป. กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมของพรรคเพื่อสู้ศึกเลือกตั้งว่า วันนี้ถือว่าพรรคได้เตรียมผู้สมัคร ส.ส.ไว้เยอะแล้ว ทั้งภาคใต้ซึ่งครบ 100% แล้ว ส่วนภาคเหนือก็ได้ประกาศผู้สมัครไปแล้ว 61 คน ประมาณ 90-95% ส่วนภาคอีสานจะเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.กว่า 100 คน ในวันที่ 28 ม.ค. ที่ จ.นครราชสีมา ส่วนภาคกลาง ซึ่งมีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ ในฐานะเลขาธิการพรรค และนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สธ. ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ดูแลภาคกลาง เป็นผู้ดูแล ก็จะกำหนดเปิดตัวผู้สมัครต่อไป และเปิดตัวผู้สมัครปิดท้ายที่ กทม.ยืนยันว่า ปชป.ส่งครบ 400 เขตแน่นอน ส่วนผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อตอนนี้ล้นแล้ว ซึ่งมาจากพรรคอื่นก็มี แต่มาแบบระบุลำดับมาด้วย พรรคก็ไม่กล้ารับไว้ เพราะพรรคมีระบบคณะกรรมการสรรหาอยู่ ซึ่งต้องเป็นไปตามระเบียบของพรรค

นายนิพนธ์กล่าวต่อว่า ส่วนนโยบายหลังจากที่ได้ทยอยเปิดล็อตแรกไปแล้วคือ 3 สร้าง 8 นโยบาย ที่เน้นเรื่องการเกษตร ก็จะเปิดนโยบายล็อตที่ 2 ที่ จ.นครราชสีมา โดยเป็นการเปิดนโยบาย พร้อมกับเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. ทั้งนี้ นโยบายที่จะเปิด จะเน้นเรื่องการสร้างคน และสร้างเงินที่ยังค้างอยู่ในภาคการผลิตด้านอื่น และจะเปิดตัวนโยบายล็อตที่ 3 ประมาณเดือน ก.พ. ส่วนที่มี ส.ส.บางคนเตรียมย้ายออกจาก ปชป. ไม่มีผลกระทบกับพรรค เพราะคนที่ย้ายออกพรรคก็ได้เตรียมคนไว้แทนตลอด

เมื่อถามว่า แต่ละพรรคเริ่มประกาศแคนดิเดตนายกฯ กันแล้ว ปชป.จะเสนอแคนดิเดตนายกฯ คนเดียวหรือมากกว่า นายนิพนธ์กล่าวว่า จะเสนอกี่คนต้องรอให้กรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) พิจารณาก่อนว่าจะตัดสินใจอย่างไร แต่ไม่มีปัญหาแน่นอน เพราะ ปชป.มีระบบชัดเจน และเคารพการตัดสินใจกันอยู่แล้ว

ตีปี๊บเศรษฐา-อุ๊งอิ๊ง

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการปรากฏตัวร่วมกันของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และนายเศรษฐา ทวีสิน ว่า การปรากฏตัวของนายเศรษฐา เป็นการไปในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่เข้ามาทำงานกับพรรคเต็มตัว ตอกย้ำความเชื่อมั่นของพรรคเพื่อไทยให้มีมากขึ้นในความพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง ว่า เรามีทั้งนโยบายที่แข็งแรงสามารถทำได้จริง และบุคลากร ปรากฏการณ์แลนด์สไลด์จะเกิดขึ้นได้ไม่ยาก นายเศรษฐาเป็นนักธุรกิจ ประสบความสำเร็จ มีความรู้ความสามารถ เมื่อเข้ามาการเมืองก็เชื่อว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะมาร่วมผลักดันนโยบายของพรรคเพื่อไทยไปสู่ความสำเร็จ ประกอบกับพรรคเพื่อไทยมีสมาชิกพรรคที่พร้อมในการผลักดันนโยบายให้ประชาชน เชื่อว่าเลือกเพื่อไทยแล้วเราจะเป็นทางออกของประเทศ

เมื่อถามถึงการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 นายประเสริฐกล่าวว่า รัฐบาลกำหนดให้อภิปรายหลังวันที่ 15 ก.พ.เป็นต้นไป ไม่เข้าใจว่าจะรออะไรนานขนาดนั้น เพราะฝ่ายค้านเตรียมพร้อมมานานแล้ว หากพล.อ.ประยุทธ์มั่นใจในผลงานที่ทำมาตลอด 8 ปี อยากให้เร่งวันอภิปรายให้เร็วขึ้น ที่ท่านพูดมาตลอดถึงผลงานที่ผ่านมาก็ขอให้รับฟังเสียงสะท้อนของฝ่ายค้านอย่ายุบสภาหนีแล้วกัน หากรัฐบาลยุบสภาหนี ก็ตอกย้ำความล้มเหลวในการบริหาร กลัวความจริงที่ฝ่ายค้านจะนำมาฟ้องประชาชน

นายนพดล ปัทมะ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สถานะของประเทศขณะนี้ คนไทยยากจนเพิ่ม นำไปสู่ปัญหาหนี้สินสูงสุด คุณภาพชีวิตตกต่ำ เด็กไม่ได้เข้าโรงเรียน และความเหลื่อมล้ำถ่างขึ้นมากติดลำดับโลก รวยกระจุก จนกระจาย ประเทศไทยฟื้นตัวช้าหลังโควิด เติบโตต่ำท้ายตารางในอาเซียน การทดสอบขององค์กรในระดับสากลด้านทุนมนุษย์พบว่าคุณภาพด้านการศึกษาตกต่ำลงกว่าก่อนทำรัฐประหาร เสน่ห์ในการดึงดูดการลงทุนทางตรงลดลง หลังการเลือกตั้งอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ประเทศต้องมีรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ ตัวผู้นำมีความสามารถ สมองดี ทำงานเก่ง และต้องซื่อสัตย์ต่อนโยบายที่หาเสียงช่วงเลือกตั้ง

 “การจะเผชิญความท้าทายและแก้ปัญหาที่กล่าวถึงได้ จึงต้องมีรัฐบาลที่เข้มแข็ง ผู้นำที่มีความสามารถ มีประสิทธิภาพ และพรรคแกนนำมีนโยบายที่ตอบโจทย์ เป็นเหตุผลหนึ่งที่พรรคเพื่อไทยเดินหน้าเสนอนโยบายสร้างรายได้ เน้นนโยบายที่ทำได้จริง และเดินหน้าแลนด์สไลด์ เพื่อให้ได้รัฐบาลที่เข้มแข็งในการผลักดันนโยบายเพื่อทำให้ชีวิตคนไทยดีขึ้น” นายนพดลกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย เตรียมแถลงข่าวลาออกจากสมาชิกพรรค วันที่ 23 ม.ค. เวลา 08.30 น. ที่สำนักงานพรรคเพื่อไทย อ.นาแก จ.นครพนม เนื่องจากในการเปิดตัวผู้ประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.นครพนม ของ พท.เมื่อ 16 ม.ค. ไม่ปรากฏชื่อนายชวลิต เป็นว่าที่ผู้สมัคร แต่ได้เปิดตัวอดีตผู้สมัครนายก อบจ.นครพนม จากกลุ่มก้าวหน้า เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 นครพนมแทน โดยมีกระแสข่าวว่านายชวลิตอาจไปร่วมงานกับพรรคไทยสร้างไทย. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง