‘บิ๊กตู่’เอาใจเกษตรกร จ่ายเพิ่ม1.55แสนล้าน

เกษตรกรเฮ! "บิ๊กตู่" หัวโต๊ะคกก.นโยบายการเงินการคลัง ไฟเขียวขยับเพดานหนี้มาตรา 28 เป็น 35% ชง ครม.อังคารหน้าอนุมัติ 1.55 แสนล้านบาท จ่ายประกันรายได้ข้าว-ยางพารา ผ่านธ.ก.ส.เดือน ธ.ค.นี้

ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน เวลา 10.05 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ ครั้งที่ 2/2564 โดยมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง, นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

ต่อมาเวลา 11.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า วันนี้เป็นห่วงเกษตรกร ซึ่งรัฐบาลจำเป็นต้องรักษาวินัยการเงินการคลัง พร้อมหาวิธีการที่เหมาะสมในการดำเนินการ และให้ทราบถึงความห่วงใยของนายกรัฐมนตรีในฐานะที่เป็นหัวหน้ารัฐบาล ซึ่งจำเป็นต้องดูแลการใช้จ่ายของภาครัฐด้วย สิ่งสำคัญต้องรักษาวินัยการเงินการคลัง ทำอะไรก็ตามมีกฎหมายอยู่แล้ว และเร่งดำเนินการในส่วนที่ทุกคนรอคอยอยู่ จึงต้องปรับกระบวนการทั้งหมด ซึ่งการใช้จ่ายเงินจำนวนมากจะทำให้เกิดปัญหาและเป็นภาระด้านงบประมาณในภายหลัง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการพูดคุยถึงการประกันราคาข้าวหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ขอให้รอฟังการชี้แจง วันนี้เอาเรื่องปากท้องของประชาชนก่อน

จากนั้นนายกฯ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha” ว่า “พี่น้องประชาชนที่รักครับ ผมมีความห่วงใยพี่น้องเกษตรกรทุกคน ที่ประสบปัญหาในการประกอบอาชีพ รวมทั้งการแพร่ระบาดโควิดและน้ำท่วม-น้ำแล้ง จึงได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหางบประมาณมาให้พี่น้องเกษตรกรในโครงการต่างๆ เช่น โครงการประกันรายได้ข้าว โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าว โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการข้าวเพื่อช่วยเหลือเรื่องต้นทุนการผลิตข้าว โครงการประกันรายได้ยางพารา โครงการประกันรายได้ปาล์มน้ำมัน ฯลฯ ซึ่งวันนี้ผมขอแจ้งให้ทราบว่ารัฐบาลสามารถจัดสรรเงินให้ความช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรได้เพิ่มเติมอีก 155,000 ล้านบาท โดยจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติในวันอังคารหน้า (30 พ.ย.64) จากนั้นก็จะมีการเบิกจ่ายผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ถึงบัญชีพี่น้องเกษตรกรโดยตรง สำหรับรายละเอียดขอให้ติดตามข่าวสารจากทางภาครัฐอีกครั้งครับ”

ด้านนายอาคมเปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐเห็นชอบการขยายกรอบอัตรายอดคงค้าง รวมทั้งหมดของภาระที่รัฐต้องรับชดเชยค่าใช้จ่ายหรือการสูญเสียรายได้ในการดำเนินกิจกรรม มาตรการ หรือโครงการตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลัง พ.ศ.2561 จากที่กำหนดไว้ไม่เกิน 30% ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี เพิ่มขึ้นเป็น 35% เป็นระยะเวลา 1 ปี สำหรับปีงบประมาณ 65 เพื่อเปิดเป็นวงเงินให้สำหรับโครงการประกันรายได้พืชผลเกษตรตามนโยบายของรัฐบาล

สำหรับเหตุผลที่ต้องขยายกรอบครั้งนี้ เพราะวงเงินภายใต้กรอบอัตรายอดคงค้าง ณ วันที่ 19 พ.ย.64 มีวงเงินคงเหลือเพียง 5,360 ล้านบาท ไม่เพียงพอกับการดูแลโครงการประกันรายได้ ดังนั้นเมื่อขยายกรอบเพิ่มขึ้นมาอีก 5% จะมีวงเงินเพิ่มได้อีก 1.55 แสนล้านบาท รวมเป็น 160,360 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอกับโครงการประกันรายได้ โดยเฉพาะโครงการที่รอการอนุมัติในส่วนที่ 2 ทั้งการประกันรายได้ข้าวและยางพารา เพื่อให้เกษตรกรได้รับเงินจากโครงการประกันครบทั้งหมด และเมื่อผ่านการเห็นชอบแล้ว คาดว่าในเดือน ธ.ค.นี้ ธ.ก.ส.จะเร่งจ่ายเงินได้แล้วเสร็จภายในฤดูเก็บเกี่ยวนี้

อย่างไรก็ตาม นายกฯ ยังได้มอบนโยบายให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงบประมาณ หารือกับกระทรวงการคลัง พิจารณาจัดทำโครงการประกันรายได้พืชผลการเกษตรจากนี้ไปให้บรรจุไว้ใน พ.ร.บ.งบประมาณปกติ เพื่อไม่ให้สะสมเป็นภาระการเงินการคลังตามมาตรา 28.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง