พูดจริง!‘อนุทิน’โชว์DNAภูมิใจไทย

     เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2566 นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมผู้บริหารพรรค ได้เดินทางไปที่วัดประสิทธิเวช อ.องครักษ์ จ.นครนายก ซึ่งเขตเลือกตั้งที่ 2 ของจังหวัด เพื่อช่วยนายวุฒิชัย กิตติธเนศวร ผู้สมัครของพรรค ในพื้นที่ หาเสียงสู้ศึกเลือกตั้ง โดยมีนายปิยวัฒน์ กิตติธเนศวร เข้าร่วมกิจกรรมด้วย  ประชาชนเข้ารับฟังปราศรัยกว่า 2,000 คน บรรยากาศการหาเสียงเป็นไปอย่างคึกคัก มีการขอถ่ายรูปกับนายอนุทินและผู้สมัคร พร้อมมอบดอกไม้ให้กำลังใจ

     นายอนุทินกล่าวกับผู้มาฟังการปราศรัยว่า ขอให้เชื่อมั่นว่าเราคือพรรคปฏิบัติการ เราพูด แล้วทำ สิ่งที่บางคนว่ายากนักยากหนา เราทำมาหมดแล้ว ที่ภาคใต้ สะพาน ถนน ทางเชื่อมเกาะเชื่อมแผ่นดิน หลายที่ ก็เดินหน้าในยุคนี้ ตอนโรคโควิด-19 ระบาด มีแต่คนปรามาสตน แต่ประเทศไทยก็ฝ่าฟันมาได้ โดยที่ระบบสาธารณสุขของไทยยังได้รับคำชื่นชมระดับนานาชาติ การท่องเที่ยว ตอนนี้ ไทยคือจุดหมายปลายทางของคนทั่วโลก ประชาชนเชื่อมั่นได้เลย ว่าเราพูดจริง ทำจริง พูดจริง ทำเป็น

     จากนั้น นายอนุทินได้นำเสนอนโยบายของพรรคสำหรับการเลือกตั้งปี 2566 ประกอบไปด้วย การให้สิทธิพักหนี้คนละไม่เกิน 1 ล้านบาท เป็นการพักหนี้แบบหยุดต้น ปลอดดอก เป็นเวลา 3 ปี เฉพาะหนี้ถูกกฎหมาย ทั้งหนี้ธนาคาร หนี้สหกรณ์ หนี้บัตรเครดิต หนี้ผ่อนรถยนต์ หนี้ผ่อนรถมอเตอร์ไซค์ หนี้กองทุนหมู่บ้าน ฯลฯ ยกเว้นหนี้นอกระบบ ใช้สิทธิไม่ได้

     นายอนุทินกล่าวอีกว่า พรรคภูมิใจไทย มีนโยบายไฟฟ้าประชาชน คนไทยทุกครัวเรือนมีสิทธิเข้าร่วมโครงการ การไฟฟ้าประชาชนสนับสนุนให้ทุกครัวเรือนใช้พื้นที่บ้านของตัวเอง หรือพื้นที่ส่วนกลางในชุมชน ติดตั้งโซลาร์เซลล์ ผลิตกระแสไฟฟ้าขายให้กับรัฐบาล ลดค่าไฟฟ้าได้ไม่น้อยกว่า 450 บาทต่อเดือน และสิทธิซื้อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าบ้านละ 1 คัน ในราคา 6,000 บาท ด้วยระบบผ่อนชำระ เดือนละ 100 บาท เป็นเวลา 60 เดือน

     นโยบายฟอกไตฟรี ตั้งศูนย์ไตเทียมทุกอำเภอ การจัดหาเครื่องฉายรังสี รักษามะเร็ง ติดตั้งไว้ในทุกจังหวัด ให้สอดคล้องกับนโยบาย มะเร็งรักษาทุกที่เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชน พัฒนา อสม. เป็น สมาร์ท อสม. เพิ่มค่าตอบแทนให้ อสม. เป็นเดือนละ 2,000 บาท ให้ อสม.เป็นฐานรากที่เข้มแข็งของระบบสาธารณสุขไทย สร้างสุขภาพที่แข็งแรงให้คนไทย ลดค่าใช้จ่ายในการรักษาผู้ป่วย นำเงินที่ลดได้มาพัฒนาการทำงานของ อสม.

     และนโยบายล่าสุดของเรา นโยบายผู้สูงอายุ ให้สิทธิเป็นสมาชิกกองทุนประกันชีวิต และมีกรมธรรม์ประกันชีวิตทันทีโดยไม่ต้องสมัคร และไม่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันชีวิต ผู้สููงอายุ 60 ปีขึ้นไป ให้สิทธิกู้เงินดูแลตัวเอง และประกอบอาชีพ หาเลี้ยงตัวเองได้ในวงเงิน 20,000 บาท โดยไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน แต่จะใช้กรมธรรม์ประกันชีวิตที่รัฐบาลจัดทำให้ค้ำประกันตัวเอง ในวันที่เสียชีวิต ทุกคนจะมีมรดกให้ลูกหลาน ทายาท และครอบครัว รายละ 100,000 บาท

     "สิ่งที่พูดมานั้น เมื่อมีโอกาส ผมทำแน่นอน แล้วโอกาสมาจากไหน ก็มาจากพี่น้องประชาชน ทั้งนายวุฒิชัยและนายปิยวัฒน์ พ่อลูกกิตติธเนศวร ล้วนเป็นคนคุณภาพ ท่านรู้จักทั้งคู่ดีพอ แต่เขาก็รู้จักท่านเช่นกัน ไม่ใช่คนอื่นไกล แต่เป็น ครอบครัวที่รับใช้ท่านมาตลอดหลายปี เขารู้จักประชาชน รู้จักพื้นที่ รู้ปัญหา รู้วิธีแก้ นี่คือ DNA แบบภูมิใจไทย ขอให้เลือกเข้ามาทั้ง 2 คน เพื่อให้เราได้ทำงานรับใช้ชาวนครนายก"

     จากนั้นนายอนุทินและคณะเดินทางไปที่โรงเรียนสายมิตรศึกษา อำเภอ กบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ลงพื้นที่ช่วยนายนายสฤษดิ์ บุตรเนียร หาเสียงเลือกตั้ง ประชาชนจำนวนมากให้การต้อนรับเต็มลานอเนกประสงค์ ซึ่งจุคนได้ประมาณ 3,000 คน

     นายอนุทินกล่าวตอนหนึ่งว่า พรรคมีเป้าหมายที่จะขึ้นค่าตอบแทนให้ อสม. เป็นเดือนละ 2,000 บาท ให้ อสม.เป็นฐานรากที่เข้มแข็งของระบบสาธารณสุขไทย ตอบแทนที่ท่านต้องทำงานหนัก ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา และปัจจุบัน งานท่านเพิ่ม ความรับผิดชอบเพิ่ม ท่านเป็นหมอคนแรก แล้วเราใช้งานท่านหนัก เราต้องตอบแทนท่าน

     นอกจากนั้น เราจะผลักดันกองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ อสม. กรณีเสียชีวิต ครอบครัวได้รับ 500,000 บาท จากที่เคยได้ 200,000-300,000 บาท ท่านจะได้เพิ่มขึ้น.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง