‘สมศักดิ์-สุริยะ’ ลาป้อมชิ่งพปชร.

สมศักดิ์ สุริยะ"บิ๊กตู่" ลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.นราธิวาส 15 มี.ค. "ครม." ตั้ง "สมศักดิ์-ธนกร" รักษาการ รมว.อุตสาหกรรม หากไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ 14 มี.ค. "ลุงป้อม" ยอมรับ "สมศักดิ์-สุริยะ" มาลาออกจากพรรคแล้ว รอไปเปิดตัว "พท." 17 มี.ค.นี้ "วิรัช" บอกเป็นวัฏจักรการเมือง "พปชร." เตรียมโชว์ตัว "อดีต รมว.คลัง" ยุคยิ่งลักษณ์พร้อม "ม.ล.กรกสิวัฒน์" เข้าร่วมงาน 15 มี.ค. "บุญยอด" โบกมือลา ปชป.ซบพรรค รทสช. สะพัด "จุติ" ไปอยู่กับลุงตู่ "เพื่อไทย" โวย "กกต." แบ่งเขตเลือกตั้ง กทม.พิลึก ส่อเอื้อผู้มีอำนาจ "สนธิญา" ร้องสอบ "เศรษฐา" ปราศรัยให้ ปชช.รับเงินซื้อเสียง

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 14 มี.ค.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ใช้เวลาการประชุมกว่า 6 ชั่วโมง ถึงกรณีวันที่ 16 มี.ค. มีข่าวนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม จะลาออกจากตำแหน่งว่า  ก็ไปถามเขาสิ

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กล่าวถึงการลงพื้นที่ตรวจราชการของนายกรัฐมนตรีว่า พล.อ.ประยุทธ์มีกำหนดลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.นราธิวาสในวันที่ 15 มี.ค.2566 โดยมีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และนายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  ร่วมลงพื้นที่ตรวจราชการ

โดยนายกฯ จะออกเดินทางเวลา 11.00 น. ไปยังท่าอากาศยานนราธิวาส แล้วเดินทางไปสักการะพระพุทธทักษิณมิ่งมงคล (วัดเขากง) ต.ลำภู อ.เมืองนราธิวาส นมัสการพระเทพศีลวิสุทธิ์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 18 เพื่อความเป็นสิริมงคลในโอกาสเดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการ จากนั้นจะเป็นประธานพิธีเปิดแพขนานยนต์ ณ ด่านศุลกากรอำเภอตากใบ แล้วเดินทางไปยังมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อพบปะหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนาในเขตพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ

ขณะที่ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม. ตอนหนึ่งระบุว่า ครม.มีมติอนุมัติเป็นหลักการมอบหมายให้แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามความในมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 ชุดใหม่ จำนวน 2 ราย ตามลำดับ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ดังนี้ 1. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม 2.นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค.2566 เป็นต้นไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระแสข่าวการย้ายพรรคของนายสมศักดิ์ ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และนายสุริยะ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร. ไปอยู่พรรคเพื่อไทย (พท.) ถูกจับตามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อพรรค พท.มีกำหนดการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ครบทั้ง 400 เขตในวันที่ 17 มี.ค.นี้ ที่ ม.ธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต แกนนำพรรคจึงมีความพยายามกดดันให้กลุ่มสามมิตรรีบตัดสินใจย้ายมาร่วมงานกับพรรค เพื่อร่วมมือในการต่อสู้เลือกตั้งครั้งต่อไป ซึ่งนายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี พรรค พปชร. หนึ่งในแกนนำกลุ่มสามมิตร และมีความใกล้ชิดกับนายสุริยะ ได้ประกาศตัดสินใจไปร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

"ตอนนี้มีความชัดเจนในส่วนของนายสมศักดิ์และนายสุริยะ เตรียมจะประกาศลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี และ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรค พปชร. ในวันที่ 16 มี.ค.นี้ เพื่อเปิดทางย้ายไปร่วมงานกับพรรค พท. และจะไปร่วมเปิดตัวอย่างเป็นทางการกับเพื่อไทยในวันที่ 17 มี.ค.นี้ นอกจากนั้น ในส่วนของนางพรรณสิริ กุลนาถศิริ ส.ส.สุโขทัย พรรค พปชร. ซึ่งเป็นน้องสาวของนายสมศักดิ์ก็จะย้ายไปร่วมงานกับเพื่อไทยด้วยเช่นเดียวกัน" แหล่งข่าวระบุ

ป้อมรับ'สมศักดิ์-สุริยะ'ออก

ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. ยอมรับว่านายสุริยะและนายสมศักดิ์มาลาออกจากพรรคแล้ว ซึ่งไม่ได้กระทบพรรค  

"ไม่ได้ยื้อ ทำไงได้เขาอยากไป จะยื้อไว้หรือไม่ขอให้ท่านคิด อย่างผมอยากอยู่ที่นี่ก็ยังอยู่ ก็ไม่เห็นมีใครมาคิดแทนเลย" พล.อ.ประวิตรกล่าว

ถามว่ายังคงเข้มแข็งและเป็นแกนนำได้เหมือนเดิมหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า วันที่ 15 มี.ค.ก็มีมาเข้าพรรคอีก 2 คน แต่ไม่ขอบอกว่าเป็นใคร  

มีรายงานว่า สำหรับ 2 คนที่พรรค พปชร.จะเปิดตัวในวันที่ 15 มี.ค. เวลา 15.00 น. คือ ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี และนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรมว.การคลัง ในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์

นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค พปชร.ว่า ในที่ประชุมได้มีการพูดถึงเวทีปราศรัยใหญ่วันที่ 17 มี.ค. ที่อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ส่วนวันที่ 18 มี.ค. จะมีการปราศรัยที่ กทม. โดยนายสกลธี ภัททิยกุล เป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนวันที่ 19 มี.ค.จะเปิดเวทีที่อำเภอแม่ริม เชียงใหม่ เวลา 15.00 น. และที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งจะแจ้งสถานที่อีกครั้ง โดยทั้ง 4 เวทีจะจัดก่อนยุบสภา

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีการพูดถึงนโยบายบัตรประชารัฐ จำนวน 17 ล้านคน จะมีการเพิ่มในเรื่องของการประกันค่าเสียชีวิต วงเงินไม่เกิน 200,000 บาท ดังนั้นอยากให้คนที่มีบัตรประชารัฐแล้ว หลังจากที่ พล.อ.ประวิตรได้มาเป็นนายกรัฐมนตรี โครงการนี้ก็จะเริ่มทันที

ถามถึงกรณีที่มีคนในพรรคลาออกเป็นจำนวนมาก รองหัวหน้าพรรค พปชร.กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติในช่วงเลือกตั้ง เดี๋ยวก็จะกลับมาเยอะอีก ส่วนคนที่มาใหม่จะทดแทนคนที่ออกไปได้หรือไม่นั้น เราจะไปบอกว่าเสียใจแล้วก็เสียดาย แต่เราต้องหาคนใหม่มาทดแทน มันเป็นวัฏจักรอยู่แล้ว 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุม ครม. วันที่ 14 มี.ค. นายสมศักดิ์ได้ลาประชุม หลังจากเมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา ลงพื้นที่ จ.กำแพงเพชร แล้วมีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรค พท.รอให้การต้อนรับ ส่วนนายสุริยะเมื่อมาถึงที่ทำเนียบฯ สื่อมวลชนได้พยายามสอบถามถึงความชัดเจนกรณีกลุ่มสามมิตรจะย้ายไปพรรคเพื่อไทยหรือไม่ และนายสมศักดิ์เคยระบุให้สอบถามเรื่องดังกล่าวกับนายสุริยะนั้น ทางนายสุริยะไม่ยอมหยุดให้สัมภาษณ์ เดินเข้าตึกสันติไมตรีโดยไม่ตอบคำถามใดๆ

ส่วนนายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี พรรค พปชร. และหัวหน้าภาคตะวันออก รวมทั้งอยู่กลุ่มสามมิตร กล่าวว่า ได้ตัดสินใจลาออกจากสมาชิกพรรค พปชร.แล้ว เพื่อจะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรค พท. โดยยังไม่ได้มีการพูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร แต่ถ้ามีโอกาสจะเข้าไปกราบลา อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ชลบุรี ตนลาออกเพียงคนเดียว ไม่ได้ชักชวนใครไปด้วย ส่วนตำแหน่งหัวหน้าภาคตะวันออก น่าจะมอบหมายให้คนที่ยังอยู่คือ ร.อ.จองชัย วงศ์ทรายทอง ส.ส.ชลบุรี

ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกหนังสือเตือนพรรคการเมืองถึงการปราศรัยเกี่ยวกับสถาบัน จะส่งผลกระทบอะไรกับพรรคการเมืองในการหาเสียงหรือไม่ว่า ต้องไปถามพรรคการเมืองเขาเอง ตนไม่เห็นคำเตือนว่าเตือนแบบไหน ทราบจากข่าวเท่านั้น ให้ไปถามนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เพราะตนไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้

ถามว่า ในฐานะนักกฎหมายมองเรื่องดังกล่าวอย่างไร นายวิษณุตอบว่า ตอบไม่ถูก เพราะยังไม่รู้เรื่อง ไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าคำเตือนมีว่าอย่างไร

นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกรณี กกต.เตือนถึงการปราศรัยของนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี  ประธานที่ปรึกษาพรรค รทสช. ที่มีการพาดพิงสถาบันว่า เราต้องรับฟัง ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค ได้กำชับแกนนำพรรคทุกคนให้ปฏิบัติตามระเบียบ กกต.อย่างเคร่งครัด ซึ่งเราก็ต้องรับฟัง

ถามว่า วันนี้จะเป็นการประชุม ครม.อำนาจเต็มเป็นวันสุดท้ายใช่หรือไม่ นายธนกรกล่าวว่า ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น ตนเห็นสื่อมวลชนเสนอไป การยุบสภาก็น่าจะเป็นไปตามไทม์ไลน์ ซึ่งนโยบายต่างๆของพรรค รทสช.ก็ทยอยออกแล้ว โดยเฉพาะแคมเปญไอติมที่ได้นำเสนอไปได้รับความสนใจจากโซเชียลมีเดียจำนวนมาก เหมือนเรื่องสวัสดิการต่างๆ ของรัฐบาลที่ออกมาถึงมือประชาชนไม่ตกหล่นระหว่างทาง ซึ่งถ้า พล.อ.ประยุทธ์ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาอีกรอบ จะใช้นโยบายนี้เป็นหลัก และเดี๋ยวนโยบายต่างๆ จะทยอยออกมาอีกเรื่อยๆ

'จุติ'จ่อทิ้งปชป.ซบ'รทสช.'

ในส่วนพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายบุญยอด สุขถิ่นไทย อดีต ส.ส. กทม. พรรค ปชป. ได้โพสต์ข้อความในไลน์กลุ่มสื่อมวลชน ปชป. ก่อนที่จะออกจากกลุ่ม เนื้อหาคร่าวๆ เป็นการกราบขอบพระคุณบนถนนการเมืองกับพรรคประชาธิปัตย์ตลอดกว่า 15 ปีที่ผ่านมา รวมทั้งบุคคลต่างๆ ในพรรค ปชป. ทั้งดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ที่เป็นผู้เปิดทางเข้าพรรค, นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ, นายชวน หลีกภัย, นายบัญญัติ บรรทัดฐาน, นายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์,  นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ปชป. เป็นต้น

นายบุญยอดให้สัมภาษณ์ว่า ได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ปชป.ต่อ กกต. ตั้งแต่วันที่ 7 มี.ค. และได้ยื่นสมัครเป็นสมาชิกพรรค รสทช. ในวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา พร้อมกับสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ 

ขณะเดียวกัน มีกระแสข่าวระบุว่า นายจุติ ไกรกฤษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) อดีตเลขาธิการพรรค ปชป. ก็เตรียมลาออกจากสมาชิกพรรค ปชป. เพื่อไปร่วมทำการเมืองกับพรรค รทสช.ด้วยเช่นกัน

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาค กทม., น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. เขตลาดกระบัง และนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.เขตคลองสามวา ร่วมกันแถลงข่าวกรณี กกต.แบ่งเขตเลือกตั้งที่อาจไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.

น.ส.ธีรรัตน์กล่าวว่า ในฐานะตัวแทน ส.ส.กทม. ที่หลายพรรคการเมืองไม่เห็นด้วยกับการแบ่งเขตที่ กกต. อาจจะเลือกใช้ โดยเห็นว่าหลักของการเป็นแบ่งเขต ควรรวมเขตขนาดใหญ่ไว้ด้วยกัน ไม่ใช่การรวมแขวง เพราะจะทำให้ ส.ส.เขต กลายเป็น ส.ส.แขวงไปอีก จะทำให้เกิดความสับสนทั้งสำหรับ ส.ส.ที่จะต้องดูแลพื้นที่ รวมถึงประชาชนที่จะไปใช้สิทธิเลือกตั้ง แต่หาก กกต.แบ่งแขวงหนึ่งไปรวมกับอีกเขตการปกครองที่ไม่ได้มีพื้นที่เชื่อมต่อกัน และประชาชนเองก็ไม่คุ้นเคย ไม่สะดวกในการเดินทางไปใช้สิทธิ อาจเป็นช่องโหว่ให้เกิดการทุจริตเลือกตั้งได้ และเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งเกิดความไม่คุ้นเคยกับประชาชนจากแขวงอื่นที่มาใช้สิทธิเลือกตั้ง

"การแบ่งเขตควรคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง แต่ดูแล้วการแบ่งเขตของ กกต.เองดูจะเข้าทางกลุ่มผู้มีอำนาจเป็นหลักหรือไม่ อันนี้ท่านจะกลับหลังทัน คิดถึงประโยชน์ของประชาชนให้มากกว่าจะคิดถึงประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง" น.ส.ธีรรัตน์กล่าว

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)​ นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เข้ายื่นคำร้องต่อ กกต. ขอให้ตรวจสอบการจัดปราศรัยของพรรคเพื่อไทยที่ จ.พิจิตร เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา รวมถึงคำปราศรัยของนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่

นายสนธิญากล่าวว่า ในการปราศรัยที่ จ.พิจิตร พบว่าประชาชนนับหมื่นคนที่มาร่ามฟังปราศรัย ต่างสวมเสื้อสีแดงที่สกรีนข้อความเดียวกัน แตกต่างจากเวทีปราศรัยของพรรคการเมืองอื่น ที่จะพบว่าประชาชนที่ไปร่วมฟังต่างสวมเสื้อหลากสี จึงมีคำถามว่าคนต่างจังหวัดที่ทำนาทำไรจะมีกำลังทรัพย์นำเสื้อไปสกรีนและใส่เข้าร่วมฟังการปราศรัยเหมือนกันทั้งหมดเป็นไปได้หรือ หรือเป็นการให้เพื่อจูงใจหรือไม่ จึงต้องการให้ กกต.ตรวจสอบ

นอกจากนี้ยังพบว่าในการปราศรัย วันดังกล่าว นายเศรษฐากล่าวตอนหนึ่งขณะปราศรัยว่า "ถ้ามีการแจกเงินก็ได้ให้รับไป จะกาเบอร์นั้นหรือไม่อย่างไรก็แล้วแต่ แต่ในส่วนของพรรคเพื่อไทยจะใช้นโยบายเป็นหลัก" คำกล่าวนี้เข้าข่ายเป็นการส่งเสริมให้เกิดการเลือกตั้งที่ไม่สุจริต เที่ยงธรรมหรือไม่ จึงต้องนำ 2 ประเด็นนี้มาร้องให้ กกต.ตรวจสอบเพราะไม่ต้องการให้การเลือกตั้งเกิดความไม่สุจริต เที่ยงธรรม

วันเดียวกัน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีการควบคุมตัวหญิงสูงอายุออกจากการลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา จนมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่ายว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่เกินกว่าเหตุว่า ก็ต้องให้ความเป็นธรรมเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย เพราะได้สอบถามและได้รับรายงานเบื้องต้นจาก ผบก.ภ.จว.ราชบุรี ซึ่งขณะนี้จะทำรายงานเป็นลายลักษณ์อักษร บอกว่ามีพยานหลายปากยืนยันกรณีดังกล่าว

"ต้องเข้าใจว่าเมื่อมีผู้นำรัฐบาลไปพื้นที่ไหน ตำรวจก็ต้องทำหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัย รักษาความสงบเรียบร้อยให้กับผู้นำรัฐบาลหรือบุคคลสำคัญในพื้นที่ต่างๆ ก็ต้องทำหน้าที่ ซึ่งการดำเนินการต่างๆ อยู่ในกรอบของกฎหมาย" ผบ.ตร.กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง