ตู่ลงใต้ป้อมขึ้นเหนือ ‘รทสช.’ปล่อยคลิป‘ทำเยอะ’ ประวิตรชูปท.เป็นหนึ่งเดียว

นายกฯ ลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต   ยันยังเป็นนายกฯ คนเดิมจนกว่าเลือกตั้งได้รัฐบาลใหม่ ลั่นหน้าใหญ่พอแล้วไม่ต้องการอะไรอีก เป็นคนรับใช้ ปชช. ไม่ใช่คนวิเศษวิโส "รทสช." โวมีผู้สมัครครบ 400 เขตแล้ว จ่อเปิดตัวผู้สมัครทั่วประเทศ พร้อมประกาศแคนดิเดตนายกฯ 25 มี.ค. ให้ "บิ๊กตู่" ลงพื้นที่หาเสียง กทม. ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ด้วยตัวเองทุกภาค ปล่อยคลิปหาเสียงชุด "ทำเยอะ" ชูผลงานลุงตู่ที่ทำสำเร็จ "พปชร." ปราศรัยเชียงใหม่ "บิ๊กป้อม" อ้อนอยากให้ประเทศเป็นหนึ่งเดียวต้องเลือก  พปชร. "ชลน่าน” ไม่ใส่ใจแล้วยุบสภาวันไหน จ่อเคาะปาร์ตี้ลิสต์ 5 เม.ย.

เมื่อวันอาทิตย์ เวลา 11.00 น. ณ ห้องประชุมท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม รับฟังความคืบหน้าการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน Expo 2028 Phuket Thailand เพิ่มศักยภาพยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ด้านสังคม เกิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ระบบสาธารณูปโภค การพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน, นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมเละนิทรรศการ (องค์การมหาชน), นายพัฒนชัย สิงหะวาระ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการภาคใต้ ผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมการตรวจติดตาม

นายกรัฐมนตรีได้ติดตามความคืบหน้าที่ประเทศไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการจัดงาน Expo 2028  Phuket Thailand คือวาระแห่งชาติ ซึ่งประเทศไทยและจังหวัดภูเก็ตมีความพร้อมเต็มที่ โดยการเป็นเจ้าภาพ Expo ครั้งแรกของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากนั้น นายกฯ และคณะเดินทางไปยังตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง ตรวจความพร้อมการเตรียมสถานที่จัดงาน ซึ่งอยู่ในระหว่างการดำเนินการเพื่อเตรียมก้าวสู่การเป็นเจ้าภาพงานระดับโลก 

ต่อมาเวลา 13.00 น. ณ ชุมชนบ้านกิ่งแก้ว เทศบาลตำบลรัษฎา อำเภอเมืองภูเก็ต พล.อ.ประยุทธ์พร้อมคณะ ตรวจติดตามการใช้พื้นที่ป่าชายเลนภายใต้โครงการ "ป่าในเมือง" พร้อมกล่าวกับประชาชน ช่วงหนึ่งระบุว่า ยังเจ็บมืออยู่ แต่ไม่เป็นไร เพื่อพวกเราทนได้ วันนี้เราต้องทำทุกอย่างให้เกิดผลกับประเทศชาติในระยะยาว ถ้าทำผลีผลาม ทำแล้วเลิกคงไม่เป็นแบบวันนี้ จากนี้ไปนายกฯ ก็ยังเป็นนายกฯ อยู่จนกว่าจะเลือกตั้งเสร็จและได้รัฐบาลใหม่ ซึ่งก็แล้วแต่ประชาชน เมื่อพูดถึงช่วงนี้ประชาชนปรบมือและส่งเสียงเชียร์ พล.อ.ประยุทธ์จึงกล่าวต่อว่า วันนี้พูดไม่ได้ ไม่ได้มาหาเสียง พูดไม่ได้ ที่มามาเพื่อตรวจเตรียมความพร้อมในการจัดงาน Expo งานใหญ่ของประเทศในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า 2571 ที่ต้องเตรียมการตั้งแต่วันนี้

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ต้องทำให้ประเทศชาติเข้มแข็ง ร่วมมือร่วมใจกัน อย่าทะเลาะเบาะแว้ง อย่าขัดแย้งกันทั้งสิ้น ไม่เอา นายกฯ ไม่ชอบแบบนั้น ประเทศชาติเสียหาย และขอให้ทุกคนยึดมั่นในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นั่นเป็นหลักชัยของประเทศไทย ขอให้คนทุกรุ่นทุกวัยช่วยกันเดินหน้าประเทศ ทุกรุ่นทุกวัยต้องไม่มีความแตกแยกกัน เราก้าวหน้ามาไกลแล้ว อย่ากลับไปที่เดิม

ภายหลังตรวจติดตามโครงการ  นายกฯ พร้อมคณะร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับประชาชนในพื้นที่ชุมชนบ้านกิ่งแก้ว ซึ่งเป็นรายการอาหารที่ประชาชนแต่ละหมู่บ้านร่วมมือร่วมใจกันทำเพื่อนำมารับประทานร่วมกัน โดยในระหว่างรับประทานอาหาร มีตัวแทนประชาชนในจังหวัดภูเก็ตอวยพรวันเกิดให้นายกฯ ขอให้นายกฯ มีสุขภาพแข็งแรง ก้าวข้ามปัญหาทุกปัญหาอย่างยั่งยืน ขอให้นายกฯ ไปต่อ ขอให้ทำต่อ มีสุขภาพแข็งแรงและเอาชนะปัญหาทุกปัญหา และประชาชนได้ร่วมร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ให้กับนายกฯ พร้อมมอบดอกไม้ด้วย

ต่อมาเวลา 14.30 น. ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ตำบลรัษฎา อำเภอเมืองภูเก็ต พล.อ.ประยุทธ์ พบปะประชาชนที่มารอต้อนรับ พร้อมกล่าวทักทายด้วยบรรยากาศที่เป็นกันเอง ยืนยันว่ารัฐบาลจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ขอฝากหัวใจไว้กับทุกคนด้วย นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวเป็นภาษาใต้ว่า “รักจังฮู้ รักแรงแรง” สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับประชาชน จากนั้นนายกฯ  ได้เยี่ยมชมนิทรรศการต่างๆ

เป็นคนหน้าใหญ่ตลอด 8 ปีพูดจริง

ต่อมาเวลา 15.30 น. ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต พล.อ.ประยุทธ์รับฟังการนําเสนอวิสัยทัศน์เรื่อง “อันดามันพร้อม” โดยนายกฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า "วันนี้เราทำมาเยอะแล้ว และเดินมาไกลแล้วประเทศไทยเดินมาไกลแล้ว เราไม่สามารถย้อนกลับไปที่เดิมได้อีกแล้ว อย่างที่ท่านพูดทุกวัน ถ้าบ้านเมืองมีปัญหาอยู่อีก มันจะถอยกลับไปที่เดิมแล้วก็ไปไม่ได้ทั้งหมด ผมเป็นกังวลตรงนี้ ประชาชนต้องเข้าใจ และต้องมีส่วนร่วมทั้งหมด ไม่ใช่คนรวยจะได้ นายกฯ ได้ หรือใครจะได้อะไรต่างๆ ผมไม่เคย  หน้าผมใหญ่พออยู่แล้ว ผมจะต้องการอะไรอีก และผมไม่ถือว่าเป็นคนวิเศษวิโส ไม่ใช่ ผมเป็นมนุษย์คล้ายๆ ท่าน เป็นคนรับใช้ของท่านจะบอกให้ ผมคิดอย่างนี้เสมอมาตลอดระยะเวลา 8 ปี ผมพูดจริง ขอระบายสักหน่อย พอได้พูดหายใจออกหน่อย"

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ตนมีทีมที่ดี บริหารจนทำให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งรัฐบาลผสมอยู่กับตนได้ 4 ปี ไม่ใช่รัฐบาล คสช. จนถึงวาระสุดท้าย ขอบคุณแรงใจที่ให้นายกฯ เป็นกำลังใจให้ด้วย เป็นนายกฯรักษาการต่อไปได้ระยะหนึ่ง วันหน้าเป็นเรื่องของประชาชน อย่าให้บ้านเมืองกลับไปเหมือนเดิมเด็ดขาด ย้ำว่าเราเดินมาไกลมากแล้ว เดินถอยหลังก็ไม่ได้ เราต้องเลือกว่าจะเดินไปสู่ยอดหรือจะถอยหลังกลับไปเหมือนเดิม ฝากพวกเราทุกคนไว้ด้วย                                                    

"ผมตั้งใจทำงาน อะไรได้คือได้ ไม่ได้คือไม่ได้ อันนี้คือสิ่งที่ต้องให้รัฐบาลหน้าเขาทำให้ได้ ใครอยากทำก็ให้เขาทำไปเถอะ แล้วก็ไปเสนออีกครั้งก็ได้ในรัฐบาลหน้าก็แล้วกัน แต่ผมจะอยู่ตรงนี้ได้นานเท่าไหร่ก็จะทำตรงนี้ให้ดีที่สุด วันนี้ผมไม่ได้มาหาเสียงนะ ผมบอกให้  ผมไม่เข้าใจว่าทำไมคนต้องว่าผมมาหาเสียง กลับกลายเป็นว่าเดี๋ยวนี้ใครก็ว่าหาเสียงหาเสียงแล้วมันจะหาทำไมนักหนา ผลงานก็มีอยู่แล้วนี่ไงเล่า ใช่หรือเปล่า ทำแล้วหรือเปล่า" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

นายธนกร วังบุญคงชนะ แกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค รทสช.ว่า ผู้สมัครของพรรคมีครบ 400 เขตแล้ว และเตรียมเปิดตัวแต่ละภาคตามที่กำหนดไว้ ที่ทำการพรรค จากนั้นจะเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ทุกภาค โดยภาคใต้มีที่ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี  นราธิวาส, ภาคเหนือ เชียงใหม่ พิษณุโลก, ภาคกลาง ที่ชลบุรีและเพชรบุรี และเวทีที่ กทม. ซึ่ง พล.อ. ประยุทธ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคจะขึ้นปราศรัยด้วยตนเอง

นายธนกรกล่าวว่า นอกจากนี้จะมีเวทีขนาดกลาง แกนนำของพรรคลงพื้นที่ขึ้นเวทีปราศรัยด้วย ซึ่งหลังจากยุบสภา ทุกอย่างได้เตรียมการเอาไว้หมดแล้ว โดยคณะกรรมการกำหนดแนวทางยุทธศาสตร์พรรคที่ได้มีการประชุมทุกสัปดาห์ เพื่อติดตามความคืบหน้าและ กระแสความนิยมของพรรค ซึ่งขณะนี้กระแสความนิยม พล.อ.ประยุทธ์และพรรคเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว ยืนยันว่า  พรรคมีความพร้อมในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ และเตรียมทยอยเปิดตัวนโยบายต่างๆ ซึ่งจะมีแคมเปญใหญ่อีกสองถึงสามชุด พร้อมจะเปิดเผยในอีกไม่นานนี้

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค รทสช. พร้อมด้วยนายเกรียงยศ สุดลาภา นายทะเบียนพรรค ลงพื้นที่ในช่วงวันหยุดช่วย 3 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรค รทสช. หาเสียงในพื้นที่กรุงเทพฯ ใต้ ประกอบด้วย ว่าที่ ร.ต.อ.หญิงอัยรดา บำรุงรักษ์ เขตบางนา-พระโขนง, นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เขตสวนหลวง-ประเวศ และนายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ เขตวัฒนา-คลองเตย

นายเอกนัฏให้สัมภาษณ์กรณีจะมีโอกาสเห็น พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคลงพื้นที่ช่วยผู้สมัคร ส.ส.กทม.หาเสียงหรือไม่ ว่าได้เห็นอย่างแน่นอน แต่วันนี้ลุงตู่ไป จ.ภูเก็ต และมีภารกิจค่อนข้างมาก ดังนั้นทางพรรคจึงต้องแบ่งสายกันไปทำงาน และเนื่องจากนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรคและตนเองก็เคยเป็น ส.ส.กทม.มาก่อน ทำให้มีประสบการณ์ในการหาเสียงในพื้นที่กรุงเทพฯ ดังนั้นจึงจะเป็นคนที่ลงมาช่วยว่าที่ผู้สมัครหาเสียงในพื้นที่มากเป็นพิเศษ หลังการยุบสภาพรรคก็มีแผนที่จะเปิดเวทีหาเสียงใหญ่ในทุกภาคของประเทศ พร้อมเปิดตัวผู้สมัครในทุกพื้นที่ รวมถึงเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ คาดว่าจะเป็นวันที่ 25 มีนาคมนี้

เมื่อถามว่า หลังการยุบสภาพรรค รทสช.มีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน นายเอกนัฏกล่าวว่า ถึงแม้ยังไม่ยุบสภา  พรรค รทสช.ก็มีความพร้อมอยู่แล้ว เราลงพื้นที่รับฟังปัญหาประชาชนและหาเสียงอยู่ตลอด และถ้าหากยุบสภาก็จะเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ร่วมลงพื้นที่หาเสียงใน กทม.

รทสช.เปิดตัวบิ๊กตู่ 25 มี.ค.

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของพรรค รทสช.ว่า หลังจากที่มีกำหนดการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ทั่วประเทศ โดยกำหนดวันที่ 21 มี.ค. ภาคกลาง วันที่ 22 มี.ค.ภาคใต้และ กทม. วันที่ 23 มี.ค.ภาคเหนือ และวันที่ 24 มี.ค. ภาคอีสาน ซึ่งจะแถลงข่าวที่พรรค ล่าสุดวันที่ 19 มี.ค. ได้มีการแจ้งเปลี่ยนกำหนดการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้งหมดทุกภาค เป็นวันเสาร์ที่ 25 มี.ค.เพียงวันเดียว โดย  พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคฯ จะไปร่วมงานดังกล่าวด้วย และทางพรรคจะถือโอกาสเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคอย่างเป็นทางการ และการจัดงานดังกล่าวจะไม่ใช้ที่ทำการพรรค เนื่องจากสถานที่คับแคบ จึงมีการพิจารณาเช่าสถานที่ของโรงแรมในกรุงเทพฯ จัดงาน

ทั้งนี้ งานดังกล่าวถือเป็นการจัดกิจกรรมใหญ่อีกครั้งในกรุงเทพฯ หลังก่อนหน้านี้เคยเปิดตัว พล.อ.ประยุทธ์ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นอกจากนี้จะมีการเปิดนโยบายพรรคและนโยบายของ กทม.ด้วย

ขณะเดียวกัน พรรค รทสช.ได้ปล่อยคลิปหาเสียงชุดใหม่ล่าสุด หลังจากปล่อยคลิป “ไอติม” ภายใต้แคมเปญ  “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ” ที่ได้รับเสียงตอบรับดีมาก โดยพรรคได้เผยแพร่คลิปหาเสียงชุดใหม่อีก 2 ชุด คือคลิป “ทำเยอะ” และ “หวย” ผ่านทางเพจพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยเริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ทั้งนี้ คลิปชุด “ทำเยอะ” ได้รวบรวมนโยบาย มาตรการต่างๆ ในยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มีจำนวนมากมาย แค่ไล่ชื่อโครงการก็เหนื่อยแล้วแทบจะจำไม่ไหว ไม่ว่าจะเป็นการฝ่าวิกฤตโควิด-19 จนสามารถเปิดประเทศให้ต่างชาติเดินทางเข้ามา เปิดเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งรถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ ถนน มอเตอร์เวย์ การแก้ปัญหาที่ดินทำกิน เป็นต้น

นอกจากนั้นยังมีเรื่องที่เป็นปัญหายืดเยื้อคาราคาซังมาหลายสิบปี ก็มาแก้ไขได้ในยุคของ พล.อ.ประยุทธ์ เช่น การรื้อฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูตกับซาอุดีอาระเบีย 30 ปี ไม่มีใครทำได้ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ทำได้ หรือรถไฟสายเด่นชัย-เชียงของ ซึ่งคน จ.พะเยา แพร่ เชียงราย ไม่เชื่อว่าจะเป็นจริง เพราะพูดกันมา 50 กว่าปีแล้วไม่เกิดสักที พล.อ.ประยุทธ์ก็ ทำแล้ว ทำอยู่ และจะทำต่อให้เสร็จ

ขณะที่อีกคลิปที่เป็นทีเด็ดไม่แพ้กันคือ “หวย” ลอตเตอรี่แพง ขายเกินราคา เป็นปัญหา 7 ชั่วโคตรที่ไม่มีรัฐบาลไหนแก้ได้ แต่ พล.อ.ประยุทธ์เอาอยู่ โดยใช้แพลตฟอร์มดิจิทัล ให้คอหวยซื้อลอตเตอรี่ใบละ 80 บาท ซื้อกี่ใบก็ได้ ผ่านแอป "เป๋าตัง"

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า สำหรับภารกิจของ พล.อ.ประยุทธ์  ในวันจันทร์ที่ 20 มี.ค. เวลา 09.30 น. จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ครั้งที่ 1/2566 ที่ตึกภักดีบดินทร์ และเวลา 13.30 น. เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ครั้งที่ 2/2566 ที่ทำเนียบฯ ส่วนการลงพื้นที่ต่างจังหวัดหลังจากยุบสภา ซึ่งคาดว่าเป็นวันที่ 20 มี.ค.นั้น ยังไม่มีการแจ้งภารกิจใดๆ

ขณะเดียวกัน วันอังคารที่ 21 มี.ค. ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของ พล.อ.ประยุทธ์ มีรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ งดให้คณะบุคคลต่างๆ เข้าอวยพร แต่หากใครต้องการอวยพรให้ส่งการ์ดอวยพรมาได้ เนื่องจากต้องระมัดระวังระเบียบต่างๆ ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่วนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันดังกล่าวยังมีตามปกติ ซึ่งหากมีการยุบสภาก็ถือเป็นการประชุม ครม.รักษาการ

วันเดียวกัน เพจ FC ลุงป้อม ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) วิดีโอคอลไปยังมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย เพื่อพูดคุยกับนักศึกษา เมื่อช่วงค่ำวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา หลังจากจบเวทีปราศรัยใหญ่ของพรรคที่ลานคนเมือง กทม.

โดยตัวแทนนักศึกษาได้กล่าวสวัสดี พล.อ.ประวิตร และขอให้ช่วยแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ขอให้ พล.อ.ประวิตรใส่หน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นควันด้วย รวมทั้งขอให้แก้ปัญหาน้ำท่วมใน จ.เชียงรายอย่างยั่งยืน แม้ปัญหานี้ใน จ.เชียงรายจะลดระดับความรุนแรงลงแล้ว กลุ่มนักศึกษายังขอเป็นกำลังใจให้พล.อ.ประวิตร ในการสร้างความปรองดองในชาติให้เกิดขึ้น

ขณะที่ พล.อ.ประวิตร กล่าวกับนักศึกษาว่า “สวัสดีครับ ทุกคนสบายดีนะ ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ ผมยืนยันและตั้งใจจะทำให้เกิดความปรองดองในประเทศให้ได้ เพื่อให้คนไทยเป็นหนึ่งเดียว ความเห็นทางการเมืองนั้นแตกต่างกันได้ แต่ต้องนำประเทศไปสู่ความก้าวหน้า ด้วยการรวมกันด้วยความเป็นหนึ่งเดียว ส่วนการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5นั้น ต้องลดลง โดยต้องลดการเผาป่าให้ได้ ส่วนปัญหาน้ำแล้งน้ำท่วมนั้น ผมได้วางแผนแก้ปัญหาไว้ให้ทุกคนแล้ว วันที่ 19 มี.ค. ผมจะไปพบทุกคน แล้วเจอกันนะครับ”

'ลุงป้อม'อ้อนคนเชียงใหม่

นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตรได้โชว์ทำผัดซีอิ๊วเพื่อรับประทานเป็นอาหารกลางวัน ก่อนเดินทางขึ้นเหนือไปจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย เพื่อปราศรัยในนามหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมกล่าวว่า ผัดซีอิ๊วเป็นอาหารพื้นๆ ที่ใครๆ ทุกกลุ่ม ทุกอาชีพ ก็สามารถหารับประทานได้ เมนูผัดซีอิ๊วนี้ถือว่าเป็นเมนูที่ชอบทำ เป็นเมนูอาหารที่ก้าวข้ามความขัดแย้ง

เมื่อเวลา 15.00 น. ที่อาคารยิมเนเซียม สนามกีฬาสมโภช 700 ปี จ.เชียงใหม่ พรรค พปชร.จัดเวทีปราศรัย เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคเหนือตอนบน จำนวน 23 คน ขณะที่แกนนำพรรคคนสำคัญเดินทางมาหลายคน นำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ  ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนมาฟังการปราศรัยประมาณ 3,000 คน และมีมาสคอตเป็นช้างสวมเสื้อและหมวกสีฟ้า ติดโลโก้พรรค พปชร. ด้านหลังเขียนว่า “พลังประชารัฐเชียงใหม่” ส่วนบรรยากาศที่เวทีปราศรัย ปรากฏว่ามีฝนฟ้าคะนอง มีลมกระโชกแรง ฝนตกหนัก และลูกเห็บตกในหลายพื้นที่ของ จ.เชียงใหม่

สำหรับบรรยากาศก่อนการปราศรัย  มีชาวบ้านเดินทางมาร่วมเต็มยิมเนเซียมตั้งแต่ช่วงเวลา 13.00 น. ขณะที่ตามกำหนดการเดิม พล.อ.ประวิตรจะขึ้นปราศรัยเวลา 17.15 น. แต่ปรากฏว่าในช่วงที่ พล.อ.ประวิตรยังไม่มาถึง ประชาชนเริ่มทยอยเดินทางกลับ เนื่องจากมีลมแรงและเสียงฟ้าร้องดังต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนบางส่วนขอเดินทางกลับก่อนจนยิมเนเซียมดูโล่ง 

เวลา 17.20 น. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พปชร. ในฐานะกำกับดูแลการเลือกตั้งพื้นที่ภาคเหนือ กล่าวปราศรัยบนเวทีว่า ประเทศไทยของเรามีโครงสร้างเป็นฐานพีระมิด เริ่มจากฐานรากหญ้า ก็คือพี่น้องประชาชน นโยบายที่ พปชร.นำเสนอออกมา คือต้องการทำให้คนฐานรากมีความเข้มแข็ง อย่างเช่น บัตรประชารัฐ ที่จะมีการเพิ่มเงินจากมูลค่า 300 เป็น 700 บาททันทีเมื่อ พปชร.ได้บริหารประเทศ ยังมีนโยบายดูแลผู้สูงอายุ พร้อมดูแลผู้สูงอายุ 60 ปี เอาไปเลย 3,000 บาท, 70 ปี 4,000 บาท และ 80 ปีขึ้นไป 5,000 บาท การสร้างความเข้มแข็งให้กับคนฐานรากต่อสิ่งสำคัญที่สุด เพราะเราต้องการสร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่มเปราะบาง 

ต่อมา พล.อ.ประวิตรกล่าวบนเวทีปราศรัยว่า รู้สึกอบอุ่นใจเป็นอย่างยิ่งท่ามกลางพี่น้องชาวเชียงใหม่ซึ่งเป็นจังหวัดเมืองใหญ่ของไทย ฝาก พปชร.ไว้กับประชาชนทุกคนด้วย เราพร้อมจะทำงานรับใช้ชาวเชียงใหม่ทุกคน ฝากทุกคนไว้ว่า ให้เลือกผู้สมัคร ส.ส.ของ พปชร.ทุกคน เราต้องการแก้ปัญหาทุกเรื่องให้คนเชียงใหม่ให้อยู่ดีกินดี ผลักดันนโยบายที่เป็นประโยชน์ให้กับทุกคน

 “การเลือกตั้งที่จะมีขึ้น ขอให้ประชาชนให้โอกาส พปชร. พวกเราอาสาเข้ามานำความรัก สามัคคีมาสู่ประเทศชาติของเรา หมดเวลาแล้วที่คนไทยจะมาทะเลาะกันเอง ต้องจับมือกัน นำประเทศไปสู่ก้าวหน้า เพื่อความสงบของคนไทยทุกคน ฝากกับทุกคนว่า ถ้าอยากให้ประเทศมีความรัก สงบสุข สันติภาพเกิดขึ้น และมีความเป็นหนึ่งเดียว ต้องเลือก พปชร.” พล.อ.ประวิตร กล่าว

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรใช้เวลาปราศรัยประมาณ 10 นาที จากนั้นได้เดินทางลงไปพบปะประชาชน โดยมีชาวบ้านมาคล้องมาลัยและให้กำลังใจ ตะโกนขอให้เป็นนายกฯ และลุงป้อมสู้ๆ โดย พล.อ.ประวิตรยิ้มรับ นอกจากนี้ยังมีประชาชนมาหอมแก้ม กอด และขอถ่ายรูป รวมถึงเดินไปส่ง พล.อ.ประวิตรขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับ

ที่ จ.ปัตตานี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว. พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสของพรรค ปชป. หลังจากมีการลงพื้นที่และเปิดปราศรัยใหญ่ในช่วงที่ผ่านมาว่า กระแส ปชป.ดีขึ้น ดูได้จากคนที่แห่มาฟังปราศรัย เราก็บอกได้จากประสบการณ์ เช่นเดียวกับที่ปัตตานี ที่เพิ่งไปปราศรัยมาเมื่อไม่นาน มีคนล้นหลามมากหลายหมื่นคน และวันนี้ก็เชื่อว่าที่ยะลาก็จะมีคนเยอะเช่นกัน เพราะมีเสียงตอบรับเข้ามาเป็นจำนวนมากว่าจะไปฟังประชาธิปัตย์ปราศรัยที่ยะลา

เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่าจะมีการยุบสภาในวันที่ 20 มีนาคม และจะเลื่อนการเลือกตั้งออกไปเป็นวันที่ 14 พฤษภาคม นายจุรินทร์กล่าวว่า ไม่ได้ให้ความสำคัญเป็นพิเศษว่าจะยุบสภาเมื่อไหร่ เพราะยุบเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น แต่จะเลยวันที่ 23 มีนาคมไม่ได้อยู่แล้ว เพราะสภาหมดวาระ ดังนั้นจะยุบเมื่อไหร่ก็ไม่มีปัญหา ส่วนวันเลือกตั้งก็ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ สำหรับ ปชป.นั้นพร้อม เพราะเป็นหนึ่งในไม่กี่พรรคที่ขณะนี้สามารถส่งผู้สมัครได้ครบ 77 จังหวัด พร้อมทั้งคน นโยบาย และยุทธศาสตร์เพื่อเดินหน้าต่อไป

พท.เคาะปาร์ตี้ลิสต์ 5 เม.ย.

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ปชป. ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ กทม. เปิดเผยว่า คาดว่า นายกฯ จะยุบสภาภายใน 2-3 วันนี้ หลังจากนั้นจะเข้าสู่โหมดของการเลือกตั้งเต็มรูปแบบ ซึ่งในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ใน กทม. ได้เตรียมความพร้อมรองรับการยุบสภาอยู่แล้ว ไม่ว่านายกฯ จะยุบสภาวันไหน ก็พร้อมจะเดินหน้าทำตามกติกา กฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. และกฎหมายพรรคการเมืองทันที 

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีกระแสข่าวยุบสภาในวันที่ 21 มี.ค.หรือ 22 มี.ค.ว่า เราไม่ได้ใส่ใจอะไรแล้ว เพราะยังไงวันสุดท้ายก็วันที่ 23 มี.ค. ซึ่งหากจะยุบวันสุดท้ายก็คือวันที่ 22 มี.ค. แต่เราก็เตรียมความพร้อมการเพื่อการเลือกตั้งไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ เรายึดวันที่ 20 มี.ค. เป็นเกณฑ์ ซึ่งหากมีการยุบสภาวันที่ 20 มี.ค. วันที่ 3-7 เม.ย. จะมีการเปิดรับสมัคร ส.ส.แบบเขต วันที่ 4-7 เม.ย. มีการเปิดรับสมัครแบบบัญชีรายชื่อ ฉะนั้นเราต้องจัดไทม์ไลน์ให้สอดรับกับเรื่องนี้

เมื่อถามว่า นายกฯ เคยบอกว่าจะไม่มีการยุบสภาในวันเกิด นพ.ชลน่าน กล่าวว่า แล้วแต่ว่าจะเป็นวันที่เท่าไหร่ เพราะเราก็ไม่ได้ใส่ใจแล้ว แต่ไทม์ไลน์ของเราก็คาดการณ์ว่านายกฯ จะยุบสภาเร็วที่สุด

เมื่อถามว่า คนที่เป็นแคนดิเดต จำเป็นต้องอยู่ใน ส.ส.บัญชีรายชื่อในลำดับต้นๆ หรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้ ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละพรรคว่ามีความเห็นอย่างไร ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยกำหนดไว้ว่า วันที่ 5 เม.ย. จะมีการประชุมร่วมกันระหว่างกรรมการบริหารพรรค ตัวแทนสาขาพรรคการเมืองสาขาประจำจังหวัด ประธานสาขาพรรค และเราจะตัดสินวันนั้น ส่วนคนที่เป็นแคนดิเดตนายก ฯจำเป็นที่จะต้องอยู่ในบัญชีรายชื่อหรือไม่นั้น เรื่องนี้พรรคยังไม่ได้คุยกัน แต่ส่วนตัวตนเห็นว่าควร เพราะเราเคยยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรานี้มาแล้ว อย่างไรก็ตามคนที่เสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนนายกฯต้องได้รับความยินยอม

เมื่อถามว่า หากพรรครวมไทยสร้างชาติเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์เป็นแคนดิเดตนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ต้องเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อด้วยหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตนคิดว่าไม่ เขาน่าจะแยกกันว่านี่คือผู้ที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ จริงๆร้องขอหาก พล.อ.ประยุทธ์เปิดช่องว่าเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ก็ควรให้ความสำคัญกับสภาด้วย หากจะมาเป็นผู้แทน คุณจะรู้เห็นว่าสภามีความเห็นอย่างไร

เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลกล่าวบนเวทีปราศรัยว่าพรรคก้าวไกลคือพรรคเดียวที่เป็นประชาธิปไตย นพ.ชลน่านกล่าวว่า เป็นสีสันทางการเมือง ในมุมของตนถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา เวทีปราศรัยเป็นเวทีรณรงค์หาเสียงกับพี่น้องประชาชน อะไรที่สามารถยกตัวเองเด่นให้ได้ และสามารถที่จะกดคู่แข่งทางการเมืองได้ ในเวทีปราศรัยมักจะใช้ค่อนข้างแพร่หลาย ตนก็ไม่ได้ติดใจในประเด็นนี้ จะพิสูจน์ว่าใครเป็นประชาธิปไตยหรือไม่เป็นประชาธิปไตยอยู่ที่การกระทำและการยอมรับจากพี่น้องประชาชน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง