ธนกรชี้เฟกนิวส์ ยูเอ็นขีดเส้นไทย แก้ไขมาตรา112

โฆษกรัฐบาลโต้สหประชาชาติไม่ได้ขีดเส้นไทยแก้ ม.112 เตือนปชช.อย่าเชื่อเฟกนิวส์ เสี่ยงถูกดำเนินคดี “แรมโบ้” ซัด “วิโรจน์” เข้าข้างแอมเนสตี้ที่ทำลายชาติ แต่ไม่เห็นใจ ปชช.ส่วนใหญ่ของประเทศ ลั่นจะไล่แอมเนสตี้ออกไป "อมรัตน์" เผย กมธ.พัฒนาการเมืองฯ จ่อเรียก กสทช.แจงปมเบรกสื่อเสนอข่าวปฏิรูปสถาบัน

เมื่อวันอาทิตย์ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่มีคลิปวิดีโอในสื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่ข้อมูลเท็จว่า สหประชาชาติให้ประเทศไทยแก้ไขมาตรา 112 ว่า ไม่เป็นความจริง ต่อกรณีดังกล่าว กระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าวแล้ว ดังนี้ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 ไทยได้นำเสนอรายงานสิทธิมนุษยชนของไทยต่อสหประชาชาติ ภายใต้กระบวนการทบทวนรายงานสิทธิมนุษยชนตามกลไก Universal Periodic Review (UPR) รอบที่ 3 เป็นการดำเนินการตามปกติ ทั้งนี้ สหประชาชาติไม่ได้เป็นองค์การที่จะมาบังคับหรือมาขีดเส้นตายกำหนดเวลาให้ประเทศสมาชิกต้องตอบรับข้อเสนอแนะหรือต้องไปแก้กฎหมาย โดยจากการรายงานสิทธิมนุษยชนของไทยตามกลไก Universal Periodic Review เป็นที่น่าชื่นชมที่ไทยได้รับคำชมในพัฒนาการหลาย ๆ เรื่อง โดยเฉพาะด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม นโยบายประกันสุขภาพถ้วนหน้า รวมถึงการลดความเหลื่อมล้ำ และการดูแลกลุ่มเปราะบาง

"ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และไม่ส่งต่อข้อมูลดังกล่าว โดยขอให้ตรวจสอบข้อมูลข่าวสาร รับข้อมูลจากหน่วยงานโดยตรง ส่วนผู้ผลิตและเผยแพร่ข่าวปลอม บิดเบือน หรือเฟกนิวส์ เสี่ยงจะถูกดำเนินคดี ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์, พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง มีโทษทั้งจำและปรับ จึงขอเตือนผู้ไม่ประสงค์ดีทุกคนให้ปฏิบัติตามกฎหมาย อย่ากระทำการอันจะทำให้เกิดความสับสนในสังคม" นายธนกรกล่าว

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ​ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความระบุว่า แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เป็นองค์กรสิทธิมนุษยชนที่ได้รับการยอมรับ หากนายกฯ คุกคามจะถูกนานาชาติมองไทยไม่ใส่ใจเรื่องสิทธิมนุษยชน ว่าที่ผ่านมาประเทศไทยใส่ใจเรื่องสิทธิมนุษยชนอยู่แล้ว แต่นายวิโรจน์ควรเอาข้อเท็จจริงมาพูดกันว่าสิ่งที่แอมเนสตี้เคลื่อนไหวลักษณะช่วยกลุ่มม็อบนั้นถูกต้องหรือไม่ เพราะทำผิดกฎหมาย ก้าวล่วงสถาบัน สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ตนและประชาชนที่รักสถาบันยังต้องดำเนินการทางกฎหมาย ตรวจสอบและกดดันขับไล่องค์กรนี้ออกไป โดยจะไม่ยอมให้ใครเข้ามาทำลายประเทศชาติและสถาบันเด็ดขาด นายวิโรจน์เป็นถึง ส.ส.ควรที่จะเข้าใจในเรื่องนี้ ไม่ใช่ไปเข้าข้างองค์กรที่มาทำลายชาติ บ้านเมือง แต่ไม่ใส่ใจ เห็นใจประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ

นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชนและการมีส่วนร่วมของประชาชน เปิดเผยว่า จะขอเชิญ กสทช.เข้ามาชี้แจงกับ กมธ.พัฒนาการเมืองในสัปดาห์หน้า หลังจากที่ พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมกสทช. ขอความร่วมมือสื่อมวลชนหลีกเลี่ยงการนำเสนอข้อเรียกร้องของกลุ่มชุมนุมที่มีต่อสถาบันหรือการสัมภาษณ์บุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ตีความว่าเข้าข่ายล้มล้างการปกครองเป็นการกระทำผิดกฎหมาย และการเผยแพร่ข่าวนั้นอาจเป็นการกระทำซ้ำ รวมไปถึงเลี่ยงการนำเสนอการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เรื่องนี้เป็นเรื่องของเสรีภาพสื่อเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และสื่อมวลชนเองควรปกป้องศักดิ์ศรีในวิชาชีพของตน

เฟซบุ๊ก เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์ Parit Chiwarak โพสต์ข้อความระบุว่า วันที่ 26 พ.ย. เวลา 09.00 น. เพนกวิน-รุ้ง-เบนจา-ไมค์ ถูกเบิกตัวมาที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ในคดีใส่ครอปท็อปไปเดินห้าง ทั้งครอบครัวและเพื่อนต่างไปรอที่ศาลแต่เช้าด้วยหวังว่าจะได้พบหน้ากันในห้องพิจารณาคดีเพื่อไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบและพูดคุยเกี่ยวกับการเรียนของเพนกวิน แต่เจ้าหน้าที่ศาลก็ปฏิเสธไม่ให้ครอบครัวและเพื่อนเข้าไปในห้องพิจารณาคดี เทอมนี้อาจเป็นอีกเทอมหนึ่งที่เพนกวินต้องสูญเสียโอกาสในการศึกษาต่อ เพราะรัฐเผด็จการกักขังและกีดกันไม่ให้เพื่อนเราได้เรียนหนังสือ หากท่านให้ความสำคัญกับ “การศึกษา” หากท่านให้ความสำคัญกับ “อนาคตของชาติ” คืนสิทธิการประกันตัวให้พวกเราทุกคน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง