จวกลักไก่ตั้งรัฐบาล ‘บิ๊กตู่’ลั่นไม่ใช่เวลาตอนนี้! พท.ชี้ปชช.ยังไม่ให้อำนาจ

"บิ๊กตู่" ลาราชการสวมเสื้อ  รทสช.เปิดตัวทีม ศก.พรรค เปรียบตัวเองเป็นผู้บริหารคณะพระเอก ปชช.เป็นหุ้นส่วนบริหาร ปท. ลั่นไม่หวั่นภาพ "เสี่ยหนู-ลุงป้อม" กินข้าวชื่นมื่น บอกเจออะไรมามากกว่านี้ อ้อน FC ไม่กลัวถูกทิ้ง ขอ ปชช.อย่าทิ้งแล้วกัน "ชัยวุฒิ" ยัน สองลุงฝั่งเดียวกัน "ประวิตร" ปลื้มเปิดตัว "ธรรมรักษ์" ช่วยงานอีสาน ปัดตอบเป็นผู้จัดการรัฐบาล แย้มเตรียมปล่อยซิงเกิล "เพลงไม่รู้" ตอบคำถาม "น้องมายด์ 3 นิ้ว" ไม่มีรัฐประหารแล้ว "ตระกูลม่วงศิริ" เข้า ปชป.สู้ศึกสนาม กทม. "สมศักดิ์-สุริยะ" ชูเสื้อเพื่อไทย ลั่นพรรคต้องแลนด์สไลด์

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 23 มี.ค.  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้เดินทางเข้าปฏิบัติภารกิจงานในเวลา 10.21 น. โดยใช้รถยนต์เบนซ์ส่วนตัว ทะเบียน ญค 1881 กรุงเทพมหานคร ก่อนที่ในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จะลาราชการเพื่อเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการฯ ณ ที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติ และจะสวมเสื้อให้กับบิ๊กเนมที่เข้าสมัครสมาชิกพรรคด้วย

ต่อมาเวลา 13.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวมาที่ทำการพรรค รทสช. เพื่อเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคฯ โดยนายกฯ สวมเสื้อยืดสีน้ำเงินและแจ็กเกตสีขาว โลโก้พรรค รทสช.

เมื่อมาถึงมีผู้สนับสนุนจากจังหวัดชัยนาทได้มอบเหรียญหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม (วัดบ้านแค) อำเภอสรรคบุรี  จังหวัดชัยนาท ให้กับนายกฯ พร้อมบอกเป็นของดีเมืองชัยนาทให้พกติดตัวไว้ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "ราคาเกินกว่ากฎหมายกำหนดหรือไม่ ช่วยระวังให้ผมหน่อยนะ"

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้พบกับสอง สามีภรรยาที่เป็นแฟนคลับ โดยสามีเป็นชาวเยอรมัน พล.อ.ประยุทธ์จึงทักทายว่า How are you ก่อนขึ้นลิฟต์ไปบนที่ทำการพรรค

กระทั่งเวลา 13.45 น. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค รทสช. นำเปิดตัวทีมเศรษฐกิจของพรรค และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. โดยได้เชิญ พล.อ.ประยุทธ์สวมเสื้อให้ทีมเศรษฐกิจและว่าที่ผู้สมัครส.ส. ซึ่งระหว่างเดินขึ้นเวที พล.อ.ประยุทธ์ได้ก้าวเท้าสะดุดพรมจนเสียหลักเล็กน้อย

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้สวมเสื้อพรรคให้ทีมเศรษฐกิจ ประกอบด้วย 1.นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน 2.นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 3.ม.ล.ชโยทิต กฤดากร ผู้แทนการค้าไทย เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ 4.นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรค รทสช. 5.นายจักร บุญหลง กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบ บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) อดีตเอกอัครราชทูตหลายประเทศ 6.นายชวิน อรรถกระวีสุนทร กรรมการบริหาร และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ดีเวล็อปเม้นต์คอร์ปอเรชั่น จำกัด 7.นายวิท วรรณไกรโรจน์ อาจารย์ประจำภาควิชาพาณิชยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  และ 8.นายวินท์ สุธีรชัย สมาชิกพรรค รทสช. และอดีต ส.ส.พรรคก้าวไกล ทั้งนี้ ทีมเศรษฐกิจได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคในวันเดียวกันนี้เรียบร้อยแล้ว

สำหรับทีมที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจทำหน้าที่ทำหน้าที่คอยดูแลให้คำแนะนำ ด้านนโยบายเศรษฐกิจสำคัญที่เกี่ยวข้องกับปากท้องของประชาชนทุกด้าน นำโดยนายไตรรงค์ เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจมหภาค นโยบายการคลัง, นายสุพัฒนพงษ์ ดูแลการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน, นายจุติ ดูแลกลุ่มคนเปราะบางและผู้สูงวัย, นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ดูแลนโยบายภาคเกษตร และนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ดูแลนโยบายด้านแรงงาน อีกทั้งมี พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ดูแลด้านคุณภาพชีวิตและสุขภาพของคนไทย ซึ่งได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคและได้สวมเสื้อพรรคในวันเดียวกันนี้ด้วย

'บิ๊กตู่' ลั่นไม่กลัวถูกทิ้ง

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้เรื่องแรกขอแสดงความยินดีกับทุกคนที่ให้เกียรติพรรค รทสช. ในการเดินหน้าประเทศของเราในระยะต่อไป ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีทั้งคนรุ่นเก่า คนรุ่นแก่ รุ่นกลางและรุ่นเด็ก ซึ่งมีหลายช่วงวัยในการพัฒนาประเทศ เพราะประเทศนี้ไม่ใช่ของคนไทยคนหนึ่งประเทศไทย ไม่ใช่สถานประกอบการธุรกิจประเทศไทยประชาชนมีส่วนร่วม ถือเป็นหุ้นส่วน สิ่งที่เราต้องทำต่อไปคือทำอย่างไรให้ทุกคนมีความสุข พึงพอใจพร้อมกันกับการพัฒนาประเทศและจัดหารายได้

"เราจะต้องสืบสานต่อให้ได้สิ่งสำคัญ คือความร่วมมือร่วมใจของคนไทยทุกคน รักชาติ บ้านเมืองต้องมาช่วยกัน ผมไม่สามารถทำคนเดียวได้ หรือแต่ละท่านก็ทำคนเดียวไม่ได้ ฉะนั้นสำหรับประเทศชาติไม่มีพระเอก มีแต่คณะพระเอกเข้าใจหรือไม่ เข้าใจคำว่าคณะพระเอกหรือไม่ คือทุกคนเป็นพระเอกหมด ซึ่งตนมีหน้าที่บริหารพระเอกเหล่านี้ เพราะมีประสบการณ์มากพอสมควร ในช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่ไม่ง่ายนัก แต่ก็ไม่ยากเกินไปที่จะร่วมกันทำได้สิ่งแรกสำคัญที่สุดขอความไว้วางใจ ขอแค่นี้ ถ้าเราไว้วางใจซึ่งกันและกันว่าจะเดินหน้าร่วมกันอย่างไร นั่นคืออนาคต และนี่คือสิ่งที่ทุกท่านจะได้แสดงศักยภาพของท่านในการขับเคลื่อนประเทศ" ประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีภาพนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) พร้อมแกนนำไปร่วมรับประทานอาหารกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อีกครั้ง หลังจากที่นายอนุทินได้ไปพบกับ พล.อ.ประยุทธ์ ด้วยเช่นกัน โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวย้อนถามว่า แล้วเป็นอย่างไรล่ะ เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่ามีการพูดถึงเงื่อนไขในการจัดตั้งรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า มันไม่ใช่เวลาอะไรในตอนนี้ มันยังไม่ได้เลือกตั้งเลย

ถามว่า ที่มีการระบุว่าต้องให้เฉพาะพล.อ.ประยุทธ์และ พล.อ.ประวิตรเท่านั้นพรรคได้อันดับ 1 ก็จะให้เป็นนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ถ้าท่านพูดอย่างนั้นก็อย่างนั้น แต่เราต้องดูวันหน้าก็แล้วกัน เมื่อถามย้ำว่าเห็นว่าได้มีการพูดกับพล.อ.ประยุทธ์แล้วจริงหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็คุยกันว่าจะทำอย่างไรให้บ้านเมืองสงบและปลอดภัย แต่ก็ต้องดูที่ผลการเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่ง ก็พูดแค่นั้น อย่าไปตีความกันเอาเองนะจ๊ะ

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ปฏิเสธที่จะตอบคำถามอีก และให้ไปถามกับบรรดาแกนนำพรรคแทน อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าเมื่อถึงเวลาแล้วค่อยมาพูดกันใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ถึงเวลาก็ให้มีการเลือกตั้งก่อนสิ ถ้ามันพูดตอนนี้แล้วมันจะได้อย่างไร ก็ยังไม่รู้ว่าใครจะได้มากได้น้อย ยังไม่รู้เลยตามกลไกของการเลือกตั้ง เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่สำคัญในอนาคต

ซักว่า แค่ภาพกินข้าวแค่นี้ไม่หวั่นใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "ปัดโธ่ ถ้าอย่างนั้นผมก็ต้องหวั่นเวลาที่เขาไปกินข้าวกินน้ำ กินอะไรต่างๆ แล้วผมจะไปหวั่นอะไรล่ะ" ก่อนจะเอามือทุบไปที่หน้าอกด้านซ้าย พร้อมกล่าวอีกว่า "ผมเจอยิ่งกว่านี้มาแล้ว ยืนยันว่าวันนี้ไม่มีฝั่งอะไร ยังไม่มีฝั่งอะไรทั้งนั้น"

เมื่อถามย้ำว่า ในส่วนของ 2 ลุง พรรคไหนได้เสียงอันดับ 1 พรรคนั้นได้เป็นนายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ต้องเป็นเรื่องการพิจารณาร่วมกันสิ เมื่อถามว่ามองหรือไม่ว่าภาพอะไรที่จะออกมาในขณะนี้ ทั้งภาพการรับประทานอาหารร่วมกันแค่เกมอย่างหนึ่งที่จะนำไปสู่บรรยากาศหลังการเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์หัวเราะพร้อมกล่าวว่า "ก็เขาไปกินข้าว และก่อนนายอนุทินไปกินข้าวท่านก็มาหาผม มาอวยพรวันเกิดให้ผม ก็เป็นเรื่องของท่าน ก็ยินดีที่มาอวยพรให้และนึกถึงผม ก็ว่ากันไป แต่หลังจากที่อวยพรผมแล้วจะไปกินข้าวที่ไหนก็ไปเลย ผมไม่ได้ว่าอะไรนี่"

ถามว่า ในการจัดตั้งรัฐบาลหน้าพรรค รทสช.จะไม่โดนทิ้งใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "ผมไม่กลัวตรงนั้น ผมขออย่างเดียวเพียงประชาชนอย่าทอดทิ้งผม"

ยัน 'ป้อม-ตู่' ฝั่งเดียวกัน

ทั้งนี้ เมื่อพูดจบบรรดาแกนนำพรรคและทีมเศรษฐกิจพรรคส่งเสียงเฮพร้อมปรบมือให้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หวังแลนด์สไลด์หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอให้เลือกตั้งก่อนสิ ก่อนที่พล.อ.ประยุทธ์จะเดินขึ้นไปประชุมคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคทันที และเดินทางกลับในเวลา 15.25 น.

ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวถึงการรับประทานอาหารร่วมกันระหว่างพรรค พปชร.กับพรรค ภท.ว่า เป็นเรื่องปกติ ไม่ว่าจะเป็นพรรคใหญ่ พรรคกลาง พรรคเล็ก รับประทานข้าวกันประจำอยู่แล้ว และส.ส. นักการเมือง เข้าออกกันเป็นประจำอยู่แล้ว แต่วงทานข้าวเมื่อวันที่ 22 มี.ค. อาจเป็นประเด็น เพราะนายอนุทินเขาเป็นพรรคใหญ่ มีการพูดคุยกันเรื่องการเมือง คุยกันประจำ แต่ยืนยันว่ามาทานข้าวกันทุกพรรคอยู่แล้ว ยกเว้นพรรคฝ่ายค้าน เพราะเราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล 

ถามว่า ในวงทานข้าวมีการพูดถึงการจับมือเพื่อจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งหรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า ไม่ได้คุยขนาดนั้น เพียงแต่บอกว่าเรื่องนี้ต้องรอหลังการเลือกตั้งก่อนว่าใครจะได้ ส.ส.เท่าไหร่ ค่อยมาดูกัน เมื่อถามว่า ถือเป็นการส่งสัญญาณการจับมือกันในอนาคตหรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า  สัญญาณชัดอยู่แล้ว พรรคร่วมรัฐบาลเดิมก็อยากทำงานร่วมกันต่อ เพราะทำงานร่วมกันมาราบรื่นดี สามารถประสานงานกันได้ด้วยดี ไม่อยากเปลี่ยนหรอก

ซักว่า การจับมือในอนาคตจะมีพรรค รทสช.ด้วยหรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า ความจริงพรรค รทสช.ถือเป็นพรรครัฐบาล ก็อยู่ด้วยกันนั่นแหละ รทสช.จะไปจับมือกับใครถ้าไม่ใช่ พปชร. ความจริงทุกพรรคการเมืองจับมือกันได้หมด ถ้านโยบายหรือแนวคิดตรงกัน แต่สุดท้ายอยู่ที่การเลือกตั้ง เราต้องเอาความจริงมาคุยกัน มันไม่มีใครได้เสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้หรอก ต้องอยู่ด้วยกันหมดแหละ

พอถามว่า ตามข่าวที่ออกมา พปชร.ตั้งเป้าว่าจะได้ 70 เสียง เป็นไปตามนั้นหรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า ความจริงเรื่องนี้ต้องทําโพล ตัวเลข 70 ที่ออกมาเป็นการคาดการณ์ของบางคนที่มีการประเมินกัน บางคนก็ประเมิน 100, บางคนประเมิน 70, บางคนประเมิน 40, บางคนประเมิน 150 ซึ่งเราอาจจะถึง 150 เสียงก็ได้ เพราะมีผู้สมัครเกรดเอ ตั้งเป้าไว้ 150 เสียง แต่ก็ยอมรับว่าไม่คิดว่าจะชนะทุกคน มันอาจจะมีพลาดบ้าง

เมื่อถามว่า เหมือนนายอนุทินจะเหยียบเรือสองแคม ไปหาทั้งลุงป้อมและลุงตู่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า “ทั้งลุงป้อมลุงตู่ก็อยู่ฝั่งเดียวกัน” เมื่อถามว่าแล้วทำไมไม่อยู่ด้วยกัน จะแยกกันทําไมให้เหนื่อย นายชัยวุฒิกล่าวว่า อันนี้ตนไม่ทราบ เมื่อถามว่าตอนนี้ปิดประตูไม่ร่วมกับ พท.แล้วใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า  สมัยก่อนก็อยู่พรรคเดียวกัน แล้วแยกออกมากันตั้งเยอะตั้งแยะ เมื่อถามว่า มั่นใจว่า พท.จะเป็นฝ่ายค้านต่อใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า ไม่ทราบ อยู่ที่ประชาชน อยู่ที่ผลการเลือกตั้ง

ประวิตรปัด ผจก.รัฐบาล

เวลา 15.00 น. พล.อ.ประวิตรพร้อมด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค และนายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค ร่วมกันแถลงเปิดตัว พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีต รมว.กลาโหม พร้อมกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กว่า 70 คน

พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า พล.อ.ธรรมรักษ์ได้มาอยู่กับ พปชร. โดยการทาบทามของพรรค เพื่อให้ท่านมาช่วยดูภาคอีสาน เพราะเคยดูภาคอีสาน มาดูว่าเราจะหาเสียงกันอย่างไร จะทำอย่างไรทำให้พรรคเกิดความเข้มแข็ง ต้องขอบคุณ พล.อ.ธรรมรักษ์ ที่มาอยู่กับ พปชร. เป็นบุญคุณอย่างยิ่ง ถึงแม้ท่านจะอายุมาก แต่อายุไม่มีความสำคัญ สมองสำคัญกว่า เราทุกคนรับทราบด้วยว่า พล.อ.ธรรมรักษ์ได้มาสังกัด พปชร.ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ตนในนามหัวหน้าพรรคต้องขอบคุณ

 ด้าน พล.อ.ธรรมรักษ์กล่าวว่า มีความยินดีที่ได้มาร่วมกับ พปชร.ในครั้งนี้ ธรรมดาตนวางมือวางการเมืองไปแล้ว แต่หัวหน้าพรรค พปชร.ชวนให้มาช่วยกัน สิ่งที่ตนตัดสินใจมาร่วมคือ นโยบายก้าวข้ามความขัดแย้ง สร้างความปรองดอง เพราะคนไทยแตกแยกรุนแรง เหลื่อมล้ำสูง ซึ่งปลายชีวิตราชการตนทำนโยบาย 66/23 ใต้ร่มเย็น การเมืองนำการทหาร จนสำเร็จมาด้วยดี เมื่อมีพรรคหนึ่งมีนโยบายที่จะทำเรื่องนี้ จึงตัดสินใจมาร่วมกัน สุขภาพตนยังดีอยู่ ไม่ต้องมาว่าแก่เกิน ด้วยความยินดีที่หัวหน้าพรรคให้เกียรติ ขอขอบคุณมาก 

ต่อมา พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์ถึงการรับประทานอาหารร่วมกับนายอนุทินว่า “ไปกินข้าวบ้านผมก็อร่อย” เมื่อถามว่ามีการประเมินตัวเลข ส.ส.กันบนโต๊ะอาหารว่า พปชร.จะได้ 70 ที่นั่ง ภท.จะได้ 70 ที่นั่ง เป็นไปตามนั้นหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ไม่รู้ ก็แล้วแต่ประชาชน เวลาตอบไม่รู้สื่อชอบบอกว่าไม่รู้อีกแล้ว ให้รอเดี๋ยวจะมีเพลงไม่รู้มาให้ฟัง เดี๋ยวจะออกแล้ว” เมื่อถามย้ำว่า หัวหน้าพรรคจะร้องเพลงไม่รู้ด้วยตัวเองหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่รู้ 

ถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่า พล.อ.ประวิตรเป็นผู้จัดการรัฐบาลใหม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ยังไม่ได้เลือกตั้งเลย สื่อไปคิดเองและพูดเอง ไม่ได้ปฏิเสธ แต่สื่อไปพูดเองเออเอง เมื่อถามว่าในวงรับประทานอาหาร มีคำพูดที่ว่าใครได้คะแนนมากกว่าให้เป็นนายกฯ ไป พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่มีๆ พร้อมกับส่ายหัวและระบุว่า ไม่ให้ถามแล้ว ตนหยุดพูดตั้งแต่ตอนนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลัง พล.อ.ประวิตรตัดบทจะไม่ตอบคำถาม แม้ผู้สื่อข่าวพยายามจะถามในอีกหลายเรื่องต่อ แต่ได้เปิดโอกาสให้ น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือมายด์ แกนนำกลุ่มคณะราษฎร 2563 ที่มาขอสัมภาษณ์ ได้ซักถาม โดยพล.อ.ประวิตรระบุว่า พรรคมีจุดยืนที่จะทำให้บ้านเมืองเจริญก้าวหน้า เดินไปข้างหน้าให้ได้ เป็นสิ่งที่ตนอยากจะทำ ส่วนในเรื่องการเมืองใครจะคิดอย่างไรก็ว่าไป พรรคต้องการที่จะทำให้คนไทยรักกัน มีความสามัคคี

พล.อ.ประวิตรยังตอบคำถามเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 60 ที่ยังมีข้อถกเถียงกันเป็นอย่างมาก มีแนวทางจะแก้ไขอย่างไรว่า ยังไม่ได้ดำเนินการตรงนี้ ไม่มีความคิดในการแก้ไข เพราะเป็นเรื่องของรัฐสภาที่จะดำเนินการ ต้องไปว่ากันตรงนั้น หลังเลือกตั้งค่อยว่ากัน นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตรยังตอบคำถามเรื่องการป้องกันการรัฐประหารว่า “รัฐประหารจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้วถ้าประเทศไทยเป็นหนึ่งเดียว บ้านเมืองจะไม่มีการรัฐประหารอีกแล้ว ไม่มีความขัดแย้ง ไม่มีการใช้กำลังให้ประชาชนล้มตาย ไม่มี แต่ถ้าเกิดความไม่สงบบ้านเมืองลุกเป็นไฟก็จำเป็น” 

ระหว่างนี้ผู้สื่อข่าวจึงถามเสริมขึ้นว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลจะมีการรัฐประหารเกิดขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบด้วยเสียงหนักแน่นว่า ไม่มี ถ้าคนไทยเป็นหนึ่งเดียว ตนรับรองได้ว่าจะไม่มีรัฐประหาร 

สองมิตรชูเสื้อเพื่อไทย

ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือเสธ.อ้าย อดีตประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก  เข้าพบนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ปชป. และได้เข้าพบนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค พร้อมกับได้สมัครสมาชิกพรรค ปชป.แบบตลอดชีพ โดยนายจุรินทร์และนายนิพนธ์ บุญญามณี ผู้อำนวยการเลือกตั้งของพรรค เป็นผู้มอบบัตรสมาชิกพรรคให้ด้วยตนเอง

พล.อ.บุญเลิศกล่าวว่า มาสมัครเป็นสมาชิกพรรค ปชป. เพราะมีความศรัทธาเชื่อมั่นในการทำงานของนายจุรินทร์ ที่มีความมุ่งมั่น ตั้งใจทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง และต้องการเข้ามาช่วยพรรคจริงๆ ไม่ได้มาหาตำแหน่งหรือหาผลประโยชน์ใดๆ จากพรรค

นอกจากนี้ นายเฉลิมชัยพร้อมด้วย นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ปชป. รับผิดชอบพื้นที่ กทม. รวมทั้งนายสากล นายสาคร นายสามารถ และ น.ส.วณิชชา ม่วงศิริ ร่วมกันต้อนรับ นายสุวัฒน์ ม่วงศิริ ซึ่งได้มาสมัครสมาชิก ปชป.แบบตลอดชีพ และเสนอตัวลงเป็นผู้สมัคร ส.ส.กทม.ในสังกัดพรรค ปชป.เขต 26

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค พท. พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหน้าพรรค, นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค และประธานคณะทำงานด้านกฎหมายพรรค พท., นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน ส.ส.พรรค พท. ให้การต้อนรับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีต รมว.ยุติธรรม และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีต รมว.อุตสาหกรรม รวมทั้งนางอนงค์วรรณ เทพสุทิน ภรรยานายสมศักดิ์ เพื่อเข้ามาเป็นสมาชิกพรรค พท.

นายสมศักดิ์กล่าวว่า วันนี้ฟ้าเปิด เมฆหมอกจางหายสู่บรรยากาศประชาธิปไตย ตนประทับใจทีมเพื่อไทยที่เข้าใจ เป็นกลุ่มคนธรรมดาไม่ใช่คนที่มียศถาบรรดาศักดิ์ที่พูดกับชาวบ้านแล้วไม่เข้าใจ ซึ่งพรรค พท.สามารถทำงานแก้ไขปัญหาให้ประชาชนและมีทีมงานที่คอยสนับสนุน ซึ่งในอดีตนโยบายพรรคไทยรักไทยสมัยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ บรรลุเป้าหมายเด่นชัด นำไปสู่การปฏิบัติได้ ไม่แลนด์สไลด์ก็เกือบแลนด์สไลด์โดยไม่ต้องมีพวกตนเลย ต้องขอขอบคุณพี่น้องสมาชิกพรรค พท.ที่ต้อนรับ โทร.มาให้กำลังใจ ซึ่งตนพร้อมเดินหน้าทำงานให้พรรคอย่างเต็มที่

ส่วนนายสุริยะกล่าวว่า มีโอกาสไปพบกับประธานหอการค้า ช่วงหลังทุกคนบอกว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้เลย ถ้าเกิดอยู่ต่อไปคงทุกข์ยากลำบากมาก บางคนที่สนิทกันก็มากระซิบว่าท่านย้ายพรรคเถอะ และตนลงพื้นที่เจอเพื่อนฝูง ไม่มีใครเชียร์ให้อยู่พรรค พปชร.เลย ดังนั้นจึงต้องย้ายพรรค และต้องได้ ส.ส.แลนด์สไลด์เพื่อผลักดันนโยบายตามสโลแกนคิดใหญ่ทำเป็น

ถามว่า หลังจากนี้จะมีการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองอีกหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่เปลี่ยนขั้วแน่นอน จะตั้งใจทำงานเต็มที่เพื่อให้ได้ ส.ส.มากที่สุด ยืนยันว่าพรรค พท.มีพื้นที่ใหม่ๆ ที่ให้ผู้แทนฯ เข้ามาได้ เพราะมีฐานคะแนนความนิยมที่ผู้บริหารพรรคได้ทำได้ การจะสร้าง ส.ส.คนใหม่ในพื้นที่ที่ไม่เคยมีผู้แทนนั้น เชื่อว่ามีสิทธิได้ผู้แทนฯ สูง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรค พท.ได้เผยแพร่คลิปเชิญชวนประชาชนร่วมงานเปิดวิสัยทัศน์ประเทศไทย ‘คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อคนกรุงเทพฯ’ โดยเนื้อหาภายในคลิป น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม (พท.) และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวเชิญชวนประชาชนทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย ทุกสาขาอาชีพ มางานเปิดวิสัยทัศน์ประเทศไทยคิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อคนกรุงเทพฯ พบกับทีมสปีกเกอร์ 4 คน ที่จะแสดงมุมมองเพื่ออนาคตของคนกรุงเทพฯ และประเทศไทยทั้ง 4 ด้าน พร้อมเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.กทม. 33 คน 33 เขต พบกันวันศุกร์ที่ 24 มี.ค. ที่ Stadium One จุฬาซอยฯ 4 และซอย 6 ถนนบรรทัดทอง เริ่มตั้งแต่เวลา 17.30 น..

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อดีตบิ๊กข่าวกรอง ชี้ 'บิ๊กทิน' กินยาผิด! ยันทหารไม่อยากยึดอำนาจถ้านักการเมืองไม่โกง

นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Nantiwat Samart หัวข้อ