ปชป.ฮึดปลุกเรตติ้ง ‘ชวน-มาร์ค’ทุ่มหาเสียง/เลื่อนถกครม.สมัครปาร์ตี้ลิสต์

"บิ๊กตู่" เมิน "ยงยุทธ"  เสนอทางออกกลืนเลือดคนละก้อน หลัง "ทักษิณ" ประกาศกลับไทย ยันไม่ใช่ตัวขัดแย้ง เผยไม่ลงปาร์ตี้ลิสต์เป็นเหตุผลส่วนตัว เตรียมนำทัพ รทสช.สมัคร ส.ส. ก่อนเปิดปราศรัยใหญ่ กทม. 7 เม.ย. "ครม." เลื่อนเวลาประชุม 4 เม.ย. เป็น 14.00 น. เปิดทาง "รมต." ไปสมัคร ส.ส. "ชวน" สะบัดมีดโกนกรีด "ประยุทธ์" ไม่ลงปาร์ตี้ลิสต์ บอกเห็นใจไม่ตั้งใจเล่นการเมืองแต่ต้น "ปชป." ให้สิทธิ์ "จุรินทร์-เฉลิมชัย" จัดลำดับบัญชีรายชื่อ "องอาจ" ยัน "ตั๊น" อยู่ 1 ใน 100 "มาร์ค" ขึ้นเวทีปราศรัยช่วยพรรคครั้งแรก "ภท." ไม่พลิก "อนุทิน" นั่งปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 คนเด่นดังโผล่อื้อ วางตัว ส.ส.เขตคืบกว่า 90% "พท." แห่ต้อนรับ "สุชาติ" กลับบ้าน  

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 29 มี.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เดินทางเข้าปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาลสายกว่าปกติ โดยเดินทางถึงทำเนียบฯ เวลา 10.09 น. เนื่องจากช่วงเช้าได้มีแพทย์จากโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าเข้าตรวจรักษาแผล และเปลี่ยนผ้าพันแผลที่มือด้านขวาให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่บ้านพักภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์

ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน EXPO 2028 Phuket Thailand โดยภายหลังการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเปิดรับสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อในวันที่ 4 เม.ย.ว่า การจะเดินทางไปหรือไม่ ขอคุยหารือกับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ก่อน วันนี้ยังคุยกับพรรคอยู่

ถามถึงกรณีที่นายยงยุทธ​ ติยะไพรัช ที่ปรึกษาพรรคเพื่อชาติ เสนอทางออกประเทศแก้ความขัดแย้ง โดยระบุว่า "ให้กลืนเลือดกันคนละก้อน" หลังนายทักษิณ ชินวัตร​ อดีตนายกฯ ประกาศเดินทางกลับประเทศไทยเพื่อมารับโทษ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า อยากพูดอะไรก็พูดไป

เมื่อถามว่า อยากให้นายทักษิณกลับมาหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า อยากพูดอะไรก็พูดไปเถอะ ส่วนตัวยังไม่มีความเห็นอะไร ก็คิดกันเอาแล้วกัน แล้วทั้งหมดตนไม่ได้เป็นตัวความขัดแย้ง ตนก็เข้ามาแก้ไขความขัดแย้ง ทุกคนก็เห็นอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นใครจะพูดอะไรก็พูดไป ประชาชนก็แยกแยะกันเอาเอง สื่อก็ช่วยแยกแยะด้วยแล้วกัน ถ้าเอาทุกคำพูดมาเป็นประเด็น ก็ทะเลาะกันทั้งวันนั่นแหละ โต้กันไปโต้กันมา เพราะฉะนั้นไม่พูดเสียดีกว่า

ซักว่า เหตุผลที่ไม่ลง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เฮ้อ มันเป็นเหตุผลส่วนตัวของตน แต่ทุกอย่างเขาก็มีการชี้แจงแล้วไม่ใช่หรือ จะลงก็ได้ไม่ลงก็ได้ รัฐธรรมนูญกำหนดอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น

"ก็มันเรื่องของผม แต่ผมยืนยันว่าผมไม่ใช่แต่ใช้อำนาจอย่างเดียว อยู่มา 4 ปีใช้อำนาจได้เต็มที่ได้ที่ไหนล่ะ ผมก็สามารถประคับประคองพรรคร่วมทำงานได้หมดทุกกระทรวง 36 คน แล้วผมไปใช้อำนาจบังคับเขาตรงไหน ผมรู้กาลเวลาและกาลเทศะในการทำงาน" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

มีรายงานด้วยว่า ในช่วงบ่ายวันที่ 30 มี.ค.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้แจ้งกับเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อขอลากิจ ซึ่งคาดว่าจะไปร่วมกิจกรรมของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)

ชวนกรีดบิ๊กตู่เลือดซิบ

ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 4 เม.ย. ซึ่งตรงกับวันรับสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อวันแรกว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่าจะเลื่อนการประชุม ครม.ในวันที่ 4 เม.ย. เป็นช่วงบ่าย เวลา 14.00 น. เพราะทุกพรรคก็ต้องไปสมัคร แต่บางคนคงจะลาทั้งวัน บางคนอาจจะดูฤกษ์ บางคนต้องการจับฉลากได้เบอร์ดีก็ไปเร็ว แต่ย้ำว่า ครม.ยังมีประชุมอยู่

ถามกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เตรียมลาราชการในช่วงเดือน เม.ย. ต่อเนื่อง 14 วัน สามารถทำได้หรือไม่​นั้น  นายวิษณุกล่าวว่า​ สามารถทำได้ แต่ไม่ควรลาทั้งเดือน ควรลาเป็นช่วงๆ ดีกว่า มาทำงานเสียบ้าง​ ซึ่งในเบื้องต้นในการประชุม ครม. ยังไม่มีใครมาแจ้งต่อตนว่าจะลายาว​ เพราะตนไม่ได้อยู่ในฐานะที่ต้องทราบ​ เนื่องจากต้องไปลาราชการกับรองนายกรัฐมนตรี​ที่กำกับดูแลกระทรวงนั้นๆ​ เช่นนายอนุทิน หากต้องการลาราชการ​ จะต้องไปลากับนายกรัฐมนตรี

ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มีรายงานว่า ในวันที่ 3 เม.ย.นี้ ซึ่งเป็นวันรับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง  พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค จะนำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตของพรรคไปสมัครด้วยตนเอง โดยจะขึ้นรถแห่ไปยังศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร ไทย-ญี่ปุ่น

อย่างไรก็ตาม ภายหลังว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคได้จับฉลากมีเบอร์แล้ว พรรคจะเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่กรุงเทพฯ เบื้องต้นวางไว้ในวันที่ 7 เม.ย.นี้ โดย พล.อ.ประยุทธ์จะขึ้นเวทีปราศรัยด้วย ส่วนสถานที่จัดเวทีปราศรัยอยู่ระหว่างการพิจารณา

ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวถึงแผนการลงพื้นที่เพื่อช่วยหาเสียงให้กับพรรคว่า คาดว่าจะเริ่มตระเวนลงพื้นที่หาเสียงทั่วประเทศ หลังจากวันจับสลากหมายเลขผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อในวันที่ 4 เม.ย.นี้ และแจ้งต่อนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ให้ทราบถึงแผนการหาเสียงของตนแล้ว โดยขอให้ช่วยเตรียมรถกระบะให้หนึ่งคัน เพื่อที่จะใช้ในการตระเวนลงพื้นที่ขอคะแนนเสียงในส่วนของบัญชีรายชื่อของพรรค โดยจะไม่ไปวุ่นวายกับผู้สมัครแบบแบ่งเขต ซึ่งในส่วนนั้นพรรคดูแลดีอยู่แล้ว

ถามว่า คณะที่จะไปลงพื้นที่จะมีใครร่วมออกตระเวนด้วยบ้าง นายชวน กล่าวว่า คงมีผู้ร่วมคณะกับตน 3-4 คน โดยขณะนี้กำลังดูอยู่ว่าจะมีใครมาร่วมบ้าง ส่วนวันเริ่มออกเดินทางหัวหน้าพรรคได้ขอให้มาเริ่มต้นจากที่ทำการพรรค ซึ่งจะมีการปล่อยขบวนพร้อมๆ กับขบวนอื่นๆ

ถามถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์จะไม่ลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค รทสช. นายชวนกล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องง่าย สำหรับคนที่ไม่ได้ตั้งใจตั้งแต่แรกในการมาทำงานการเมืองเต็มตัวเหมือนกับพวกตน  ดังนั้นจึงไม่อยากตำหนิ แต่เห็นใจทุกคน และรู้ว่าเวลาที่เขาตัดสินใจต้องคิดมากเหมือนกัน และเขาคงมีคณะที่ปรึกษาที่ให้คำแนะนำว่าผลจะเป็นอย่างไร แต่พวกเราเป็นคนที่ตัดสินใจมาตั้งแต่ต้นมาเป็นนักการมืองต้องการมาทำงานการเมืองจริงๆ จึงไม่กลัวว่าจะแพ้หรือชนะ

 ซักว่าตำแหน่งนายกฯ ควรจะมาจากผู้ที่ประชาชนเลือกโดยตรงหรือไม่ นายชวนกล่าวว่า เขาถือโอกาสว่ากฎหมายไม่ได้บังคับ สมัยที่ตนเป็นนายกฯ ตอนนั้นกฎหมายบังคับว่าคนที่จะเป็นนายกฯ ต้องเป็น ส.ส. ซึ่งตนเป็นนายกรัฐมนตรี 2 ครั้ง ก็เป็นนายกฯ ที่มาจากส.ส.ที่ได้รับการเลือกตั้งจากประชาชน

ส่วนนายจุรินทร์ ได้เรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) โดยมีกก.บห.เข้าร่วมประชุมทั้งที่ห้องประชุมพรรคและผ่านระบบโปรแกรมซูม ซึ่งน.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรค  ซึ่งมีการออกมาเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้เกี่ยวกับลำดับบัญชีรายชื่อ ได้เข้าร่วมประชุมโดยผ่านระบบซูม นอกจากนั้นได้มีการประชุมร่วมระหว่าง กก.บห.และอดีต ส.ส.ของพรรคชุดล่าสุดด้วย

มาร์คช่วยผู้สมัครหาเสียง

ภายหลังการประชุม นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ปชป. ดูแล กทม. แถลงว่า ที่ประชุม กก.บห.ได้พิจารณาเรื่องผู้สมัครเป็นสมาชิกพรรคและพิจารณารายชื่อผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อ โดยที่ประชุมเห็นชอบผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งในระบบเขตเลือกตั้งทั่วประเทศ 400 เขต ซึ่งจะไปยื่นสมัครพร้อมกันในวันที่ 3 เม.ย. และมีมติให้ความเห็นชอบผู้ลงสมัครรับเลือก ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 รายชื่อ ซึ่งรายชื่อทั้งหมดจะเปิดเผยในวันที่ 4 เม.ย. ซึ่งเป็นวันรับสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อวันแรก โดยนายจุรินทร์ จะเป็นผู้นำผู้สมัครบางส่วนไปด้วยตัวเอง นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบเสนอชื่อนายจุรินทร์เป็นแคนดิเดตนายกฯ เพียงชื่อเดียว

นายองอาจกล่าวว่า เรื่องการจัดลำดับบัญชีรายชื่อ พรรคดำเนินการเหมือนกับที่เคยทำมา คือให้หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคเป็นผู้พิจารณา ซึ่้งทุกคนในที่ประชุมก็ไม่มีข้อขัดข้องใดๆ โดยหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคยืนยันการจัดลำดับจะดำเนินการด้วยความเที่ยงธรรม คำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลัก

 ซักกรณีบัญชีรายชื่อ น.ส.จิตภัสร์ นายองอาจกล่าวว่า น.ส.จิตภัสร์ยังเป็นผู้สมัครของพรรค และเป็น 1 ใน 100  ของบัญชีรายชื่อแน่นอน ซึ่งในที่ประชุมไม่ได้มีการพูดถึงการลาออก ส่วนจะอยู่ที่ลำดับเท่าไหร่นั้น ขึ้นอยู่การพิจารณาของหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค 

ส่วนนายจุรินทร์ ได้แถลงเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของพรรค ปชป.อีก 4 จังหวัด จำนวน 33 คน เพื่อให้พรรคส่งผู้สมัคร ส.ส.ภาคอีสานครบทั้ง 133 เขตเลือกตั้ง

ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ปชป. ได้ไปช่วยนายชนินทร์ รุ่งแสง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตบางกอกน้อย บางพลัด พรรค ปชป. หาเสียงบนเวทีปราศรัยที่สวนสาธารณะใต้สะพานพระรามแปด ฝั่งธนบุรี เวลา 16.00 น. ซึ่งถือเป็นการปราศรัยครั้งแรกนับตั้งแต่มีประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎร

นายอภิสิทธิ์ปราศรัยตอนหนึ่งระบุว่า  4 ปีที่ผ่านมา จะบอกว่ามีคนชวนไปอยู่พรรคอื่น หรือไปตั้งพรรคก็พูดได้ไม่เต็มปาก เพราะเวลาใครจะเข้ามาหาตน จะเข้ามายังไงดี ก็มีคนบอกว่าอย่าเสียเวลาเลย ไอ้มาร์คกรีดเลือดก็เป็นสีฟ้า แม้จะไม่ลงสมัครก็ไม่ไปไหน ยืนยันจะสนับสนุนการทำงานของพรรค บอกได้ว่าสิ่งที่ทำให้พี่น้องมั่นใจในพรรคประชาธิปัตย์ได้ คือความเป็นระบบและความเป็นสถาบัน

ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายศุภชัย ใจสมุทร อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายทะเบียนพรรค แถลงถึงการจัดทำไพรมารีโหวตผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคในการเลือกตั้ง ทั้ง ส.ส.แบบระบบเขตและ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อว่า รายชื่อผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตทั้ง 400 เขต ขณะนี้ดำเนินการไปแล้วกว่า 90% ซึ่งขั้นต่อจากนี้จะส่งให้คณะกรรมการสรรหาพิจารณา แล้วสรุปส่งต่อเสนอไปยังคณะกรรมการบริหารพรรคไม่เกินวันที่ 31 มี.ค.นี้ ขณะนี้รายชื่อผู้เสนอตัวเป็นผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรคล่าสุดได้ครบ 100 คน โดยลำดับที่ 1  คือนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค,   ลำดับที่ 2 คือนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค ส่วนที่เหลืออีก 98 คนใช้รูปแบบการเรียงลำดับตัวอักษร หลังจากนี้ก็จะเข้ากระบวนการส่งให้คณะกรรมการสรรหาและคณะกรรมการบริหารพรรคตามลำดับ เพื่อพิจารณาเรียงลำดับผู้สมัครตั้งแต่หมายเลข 3-100 ต่อไป ซึ่งต้องเสร็จก่อนวันที่ 3 เม.ย."วันรับสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต พรรคจะไปยื่นสมัครในวันที่ 3 เม.ย. ส่วนวันรับสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ วันที่ 4 เม.ย.นี้ นายอนุทินจะนำทีมไปสมัครด้วยตัวเอง และจับสลากหมายเลขผู้สมัคร" นายศุภชัยระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อผู้เสนอตัวเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค ภท. มีบุคคลที่น่าสนใจ อาทิ น.ส.ชนม์ทิดา อัศวเหม, นายศุภชัย ใจสมุทร, นายทรงศักดิ์ ทองศรี, นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์, น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี, นายสรอรรถ กลิ่นประทุม, นายสวาป เผ่าประทาน, นายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร,   นายสุพล ฟองงาม, นายองอาจ ปัญญาชาติรักษ์, น.ส.อนุสรี ทับสุวรรณ, นายอารี ไกรนรา, นายภิญโญ นิโรจน์, นายนัจมุดดีน อูมา, นางนันทนา สงฆ์ประชา, นายบุญดำรง ประเสริฐโสภา,      น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล, นายสามารถ แก้วมีชัย, นายชลัฐ รัชกิจประการ, นายกิตติชัย เอ่งฉ้วน, นายพิกิฏ ศรีชนะ,   นายมารุต มัสยวาณิช, น.ส.เรวดี รัศมิทัต และนายวิรัช พันธุมะผล เป็นต้น

ภท.-ชทพ.เคาะชื่อผู้สมัคร

นายอนุทินให้สัมภาษณ์ว่า การจัดลำดับปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคเบอร์ 1 เบอร์  2 เสร็จแล้ว ส่วนตำแหน่งอื่นรอประชุมกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ก่อน แต่มีในใจอยู่แล้ว ซึ่งไม่มีปัญหาอะไร เราเตรียมตัวกันมาเป็นปีแล้ว มีการพูดคุยกับสมาชิกแล้ว ยืนยันในพรรคไม่มีปัญหาเรื่องพวกนี้ และไม่เคยทะเลาะกัน  ทะเลาะกันไม่ได้

ถามถึงการลาราชการ ได้ยื่นใบลากับนายกฯ แล้วหรือยัง นายอนุทินกล่าวว่า ก็จะยื่นลาเป็นวันๆ วันไหนที่ต้องใช้เวลาราชการก็จะลาตามช่วงที่ได้ใช้ไปจะได้ไม่มีปัญหา เพราะบางครั้งมีช่วงคาบเกี่ยวกันด้วย วันนี้กำลังจัดเวลาอยู่ ใครขอคิวมาก็ขอให้เสร็จในช่วงเวลา 16.00 น. ส่วนที่มีข่าวจะลาติดต่อกันตลอดทั้งเดือนนั้น ลาไม่ได้หรอก ลาเป็นเดือนเราก็ไม่กล้าเขียนหรอก เขียนไปถูกดุตายเลย

ซักถึงจำนวน ส.ส.ที่ตั้งเป้าไว้ก่อนหน้านี้เพิ่มขึ้นหรือยัง เพราะพรรคพลังประชารัฐตั้งเป้าไว้ที่ 100 นายอนุทิน กล่าวว่า ความจริงกระแสของพรรค ภท.ดีขึ้นเรื่อยๆ อุปสรรคที่เกิดขึ้นมาก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรที่ทำให้คะแนนนิยมของพรรคลดลง เราประเมินผลในทุกพื้นที่มาตลอด แต่จำนวนขอเก็บไว้ในใจ บอกไปไม่ได้

เมื่อถามว่า ตามโพลต่างๆ พรรค ภท.ไม่ค่อยจะแซงขึ้นมาเท่าไหร่ นายอนุทินกล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยเชื่อโพลอนุทิน โพลนี้ยังไม่เคยพลาด 2-3 ครั้งที่ผ่านมา ยังไม่เคยพลาดเลย 

ที่พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค ชทพ. แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อพิจารณารายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต และ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ว่าที่ประชุมมีมติจะส่งผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตใน 26 จังหวัด 50 เขต และส่งผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ จำนวน 89 คน โดยเรามั่นใจว่าจะได้ ส.ส.แบบแบ่งเขตได้มากกว่าครึ่งของจำนวนที่ส่งคือ 25 คน เพื่อให้ได้สิทธิในการเสนอชื่อหัวหน้าพรรคเป็นแคนดิเดตนายกฯ ขณะที่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคคำนวณแล้วว่าจะได้คะแนน 1.5-2 ล้านคะแนน หรือได้ 7-10 คน แต่ส่วนตัวเชื่อมั่นว่าพรรคจะได้ถึง 2 ล้านคะแนน

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ จำนวน 89 คน ในลำดับที่ 1-10 คน ได้แก่ 1.นายวราวุธ ศิลปอาชา 2.นายชาติชาย พยุหนาวีชัย 3.นายนิกร จำนง 4.นางนันทพร ดำรงพงศ์ 5.นายกนก วงษ์ตระหง่าน 6.นายสันติ กีระนันทน์ 7.นายนิติวัฒน์ จันทร์สว่าง 8.น.ส.ทัศน์ลักษณ์ ปัตตพงศ์ภัช 9.น.ส.สุจิตรา ทรงมัจฉา และ 10.น.ส.พัชรี โพธสุธน

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) แกนนำพรรคนำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค พท. ให้การต้อนรับนายสุชาติ ตันเจริญ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ซึ่งย้ายจากพรรค พปชร.มาเป็นสมาชิกพรรรค พท. โดยเดินทางมาพร้อมกับนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีตหัวหน้าพรรค มีนายคชาภา ตันเจริญ หรือมดดำ บุตรชาย ซึ่งเป็นสมาชิกพรรค และนายศักดิ์ชาย ตันเจริญ หรือมดเล็ก ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ฉะเชิงเทรา บุตรชาย มาร่วมงานด้วย

วันเดียวกัน นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวระบุตอนหนึ่งถึงการตัดสินใจไม่ลงปาร์ตี้ลิสต์ว่า จุดยืนของตนตั้งใจที่จะเข้าไปทำหน้าที่บริหาร โดยนำนโยบายที่ได้หาเสียงร่วมกับการออกกฎหมายจากฝ่ายนิติบัญญัติ

 “หากผมถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ซึ่งผ่านขั้นตอนการสรรหาจากกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรค นั่นคือสิ่งแสดงว่าผมยึดโยงกับประชาชน เพื่อให้ประชาชนร่วมกันตัดสินใจว่าหากต้องการให้นายกรัฐมนตรีมาจากพรรคเพื่อไทย จึงต้องเลือก ส.ส.จากพรรคเพื่อไทยครับ ผมไม่ได้ลอยมาจากไหน และทำตามกฎหมายรัฐธรรมนูญที่กำหนดขึ้นครับ” นายเศรษฐาระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง