แดงอุดรแห่รับบิ๊กตู่ ‘อานนท์’จับมือแรมโบ้เคลียร์พื้นที่ชูสลายสีเสื้อ

“บิ๊กตู่” อารมณ์ดี 1 ธ.ค.นี้ ไปคำชะโนดไหว้พระ-เยี่ยมเยียม ปชช.หาแนวทางพัฒนา วอนอย่าจ้องดูแต่ทะเบียนรถซื้อหวย "แรมโบ้" ลุย "อุดรธานี" ถกหน่วยงานเกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมรับเรื่องร้องทุกข์ ยันนายกฯ ให้ความสำคัญปัญหาความเดือดร้อนของ ปชช.ทุกพื้นที่ “อานนท์ แสนน่าน” เตรียมมวลชนอดีตหมู่บ้านเสื้อแดงต้อนรับ “บิ๊กตู่”หวังอุดรธานีเป็น "โมเดลการสลายสีเสื้อ" จับมือทุกฝ่ายเหมือนอดีต พคท.ที่วางอาวุธเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยพร้อมอยากเห็นคนอีสานตะโกน "เรารักลุงตู่" ดังกึกก้อง

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 30 พฤศจิกายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินทางลงพื้นที่ จ.อุดรธานี ในวันที่ 1 ธ.ค.นี้ ว่าไปติดตามงาน ส่วนที่ไปคำชะโนดด้วยนั้น เพราะจะไปไหว้พระ ทุกพื้นที่ของประเทศไทยตนก็ไปได้อยู่ ไม่ได้ไปส่วนตัวเสียเมื่อไหร่ ไปดู ไปเยี่ยมเยียนประชาชนในแต่ละท้องถิ่น แต่ละท้องที่ เพราะแต่ละพื้นที่อัตลักษณ์แตกต่างกันไป นายกฯ จึงจำเป็นต้องไป ไปเพื่อจะสร้างความเข้มแข็งให้กับประชาชน และดูว่าจะพัฒนาอะไรได้บ้าง แล้วทำไมจึงคิดว่านายกฯ จะไม่ไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า การลงพื้นที่คำชะโนด จะไปดูแนวทางการพัฒนาด้วยใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า อันนั้นอีกเรื่องหนึ่ง ขอให้ไปดูก่อน ไปฟังเขาดูก่อน ตนยังไม่เคยไป เห็นแต่ในข่าว เป็นเรื่องของคณะทำงานที่จะประสานมาในการพัฒนา

เมื่อถามว่า ประชาชนในพื้นที่ต้องการให้นายกฯ ลงพื้นที่คำชะโนดในช่วงเช้าก่อนที่จะมีการหมุนสลากกินแบ่งรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ตอบอย่างอารมณ์ดีว่า "อย่างนั้นหรือ แสดงว่านี่คือประเด็นหลัก โดยที่ไม่ได้สนใจผมเลยหรือ จ้องดูหวย ดูทะเบียนรถฉันอย่างเดียว ก็เดินทางตั้งแต่เช้า ออกจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่ 7 โมงเช้าแล้วกลับช่วงเย็น"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดอุดรธานีของนายกรัฐมนตรี วันที่ 1 ธ.ค. เพื่อติดตามแผนเปิดเมืองท่องเที่ยว โดยตรวจความก้าวหน้าการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว) จากนั้นประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนของจังหวัดอุดรธานี และตรวจความพร้อมในการเปิดเมืองเพื่อรับนักท่องเที่ยว ตามนโยบายรัฐบาล ที่วังนาคินทร์คำชะโนด

ล่าสุด มีรายงานว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ไม่ได้ร่วมคณะเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากติดภารกิจของกระทรวงมหาดไทย แต่ขณะเดียวกันได้ปรากฏชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ร่วมคณะมาด้วย โดยได้มีการเตรียมรถตู้เบนซ์ทะเบียน ฮธ 3389 กรุงเทพมหานคร จากกรุงเทพฯ มาใช้ในภารกิจด้วย อีกทั้งมีรายงานข่าวแจ้งด้วยว่าในการเดินทางไปยังวังนาคินทร์คำชะโนด นอกจากจะปฏิบัติภารกิจแล้ว พล.อ.ประยุทธ์อาจจะถือโอกาสสะเดาะเคราะห์ด้วย แต่ทั้งนี้ต้องรอยืนยันอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

ที่ห้องประชุมพระยาศรีสุริยราชวรานุวัตร อาคาร 1 ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ลงพื้นที่เพื่อประชุมเตรียมความพร้อมกับส่วนราชการ ในการรับเรื่องราวร้องทุกข์ของประชาชนและกลุ่มมวลชนต่างๆ ที่จะยื่นเรื่องร้องทุกข์ต่อนายกรัฐมนตรีในการลงพื้นที่ตรวจราช จ.อุดรธานี ในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ และได้มีการประชุมทางไกลกับจังหวัดใกล้เคียง ได้แก่ จังหวัดเลย บึงกาฬ หนองคาย หนองบัวลำภู สกลนคร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น เพื่อรับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ ไปในคราวเดียวกัน

โดยนายเสกสกลกล่าวในที่ประชุมว่า ได้รับมอบหมายจาก พล.อ.ประยุทธ์ ให้ปฏิบัติหน้าที่รับเรื่องราวร้องทุกข์ของประชาชนและกลุ่มมวลชนต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญและดูแลเอาใจใส่ต่อความเดือดร้อนของประชาชนถือว่าเป็นภารกิจสำคัญของรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีได้กำชับไม่ให้กีดกันกลุ่มมวลชนที่เดือดร้อน ให้ทุกกลุ่มได้ยื่นหนังสือ และให้รีบนำสู่กระบวนการการแก้ไขโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้แจ้งว่ามีกลุ่มชาวบ้านที่เดือดร้อนจะเข้ามายื่นหนังสือ เช่น กลุ่มปัญญาเรื่องที่ดินทำกิน เรื่องหนี้สินและผลผลิตของเกษตรกร ปัญหาจากโควิด-19 และกลุ่มอื่นๆ

นายเสกสกลกล่าวว่า นายกฯ ให้ความสำคัญกับปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในทุกพื้นที่ และในครั้งนี้นายกฯและคณะจะมาตรวจราชการเพื่อรับฟังปัญหาติดตามโครงการคมนาคมและระเบียงเศรษฐกิจพิเศษชายแดน และส่งเสริมเขตอุตสาหกรรมอุดรธานี พร้อมกับมอบให้ตนมาติดตามรับฟังความเดือดร้อนของประชาชนและกลุ่มมวลชนต่างๆ เพื่อนำปัญหามาดำเนินการแก้ไขให้ประชาชนคลายความเดือดร้อน และในครั้งนี้ สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย ได้ประสานขอความร่วมมือจากหน่วยราชการ ทั้งในจังหวัดอุดรธานีและจังหวัดใกล้เคียง เพื่อร่วมลงพื้นที่รับเรื่องราวร้องทุกข์และรับทราบปัญหาของประชาชน เพื่อบูรณาการปัญหาไปแก้ไขให้แล้วเสร็จภายในคราวเดียวกัน

ภายหลังการประชุม ได้มีกลุ่มชาวบ้านที่เดือดร้อนจากเรื่องต่างๆ ทยอยยื่นเรื่องถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านนายเสกสกล ซึ่งได้รับเรื่องเพื่อนำเข้าสู่ที่คณะกรรมการแก้ไขปัญหาตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีต่อไป

ขณะเดียวกัน ที่บริเวณวังนาคินทร์คำชะโนด ต.บ้านม่วง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี นายอานนท์ แสนน่าน ผู้ริเริ่มก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทย ได้รับมอบหมายจากนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชุมกับทางฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจอำเภอบ้านดุง ถึงการเตรียมความพร้อมต้อนรับนายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางมาเป็นประธานเปิดเมืองเพื่อรับนักท่องเที่ยววังนาคินทร์ คำชะโนด ตามนโยบายรัฐบาล เพราะถือได้ว่า “วังนาคินทร์คำชะโนด” แห่งนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมชมขอพรขอบารมี “องค์เจ้าปู่ศรีสุทโธนาคราช” และ “องค์เจ้าย่าศรีปทุมมานาคินี” ตามความเชื่อของแต่ละบุคคลจำนวนมาก

นายอานนท์เปิดเผยว่า ตนได้รับมอบหมายจากนายเสกสกลเข้าร่วมประชุมกับทางฝ่ายปกครอง ตำรวจ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ภายในวังนาคินทร์คำชะโนด ถึงมาตรการการรักษาความปลอดภัยของนายกรัฐมนตรี ที่นำเอาความเจริญมาสู่เมืองอุดรธานีกับโครงการต่างๆ เพื่อนำมาพัฒนาจังหวัดอุดรธานีให้เจริญก้าวยิ่งขึ้น การเดินทางมาจังหวัดอุดรธานีของนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ ตนก็ได้รับการประสานงานจากอดีตแกนนำเสื้อแดงและ ส.ส.ในพื้นที่หลายท่าน แม้ว่าจะเป็นฝ่ายค้าน แต่ทุกคนต้องการที่จะเห็นเมืองอุดรธานีพัฒนาในด้านต่างๆ จะไม่มีการออกมาต่อต้านแต่อย่างใด และต้องการให้จังหวัดอุดรธานีเป็น “โมเดลการสลายสีเสื้อ” มาจับมือกับทุกฝ่าย ทุกองค์กร แล้วร่วมพัฒนาประเทศชาติไปด้วยกันเหมือนกับในอดีตที่ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์วางอาวุธปืนแล้วมาร่วมเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ที่สำคัญต้องรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมใจของคนไทยทั้งประเทศ

นายอานนท์กล่าวอีกว่า ในการลงพื้นที่ตรวจสถานที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐในครั้งนี้ ก็ไม่มีปัญหาใดๆ แต่ทางตนก็ได้ประสานงานภาคประชาชนทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เพื่อเป็นอาสาสมัครดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่เดินทางมาต้อนรับนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ โดยแต่ละจุดน่าจะมีประชาชนที่รักศรัทธา ชื่นชมในผลงานและความดีของนายกฯ และรัฐบาลมาต้อนรับจำนวนมาก เพราะนอกจากท่านจะช่วยเหลือประชาชนในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ เยียวยาประชาชน และป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 จนสามารถเปิดประเทศสู่เมืองท่องเที่ยวได้แล้ว

"นายกรัฐมนตรีก็ยังต้องการให้ประชาชนร่วมมือร่วมใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเพื่อพัฒนาประเทศไปพร้อมๆ กัน หลังจากเจอวิกฤตเศรษฐกิจไวรัสโควิด-19 ระบาดไปทั่วโลก นายกรัฐมนตรีจึงอยากเห็นคนไทยรักกัน ผมเลยอยากเห็นพี่น้องชาวอีสานออกมาต้อนรับนายกรัฐมนตรี ตะโกนดังๆ ว่า “เรารักลุงตู่ เรารักลุงตู่ เรารักลุงตู่” ส่งเสียงดังกึกก้องเป็นกำลังใจให้นายกรัฐมนตรีมีพลังใจได้ทำงานเพื่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ต่อไปอย่างยาวนาน" นายอานนท์กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง