‘ทร.’จ่อชงข้อมูล ซื้อเรือดำน้ำจีน ครม.ชุดใหม่เคาะ

ทร.ชงข้อมูล "เรือดำน้ำจีน" ให้ ครม.ใหม่ตัดสินใจ ผบ.ทร.เผยปากีสถานยอมรับเครื่องยนต์ CHD620 ที่จีนผลิตแล้ว ชี้เป็นปมสำคัญควบคู่ขีดความสามารถและความปลอดภัย ตั้งงบ 67 ต่อเรือฟริเกตลำที่ 2 ในไทย ไม่ซื้อต่างประเทศ ขณะที่ “เรือช้าง" พร้อมแล้ว ตั้งเป็น "ฐานลอยน้ำ" บรรเทาสาธารณภัยพร้อมรับมือพายุ

เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เดินทางไปตรวจเยี่ยมการทดสอบขีดความสามารถของเรือหลวงช้าง ในพื้นที่อ่าวไทยตอนบนและหาดยาว อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ประกอบด้วย การทดสอบขีดความสามารถการเคลื่อนกำลังจากเรือสู่ฝั่ง ในการปฏิบัติการยุทธสะเทินน้ำสะเทินบก และการทดสอบขีดความสามารถในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล และจัดตั้ง รพ.สนามบนเรือ อีกทั้งการใช้ขีดความสามารถของครัวประจำเรือเพื่อเตรียมอาหารสำหรับผู้ประสบภัย ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมกรณีเกิดภัยพิบัติในทะเล

ทั้งนี้ พล.ร.อ.เชิงชายกล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมการทดสอบขีดความสามารถของเรือหลวงช้างว่า การปฏิบัติในเรื่องของยุทโธปกรณ์ที่สนับสนุน เช่น เรือระบายพล ยานรบ ยังมีข้อขัดข้องอยู่บ้าง ซึ่งกองเรือยกพลขึ้นบกจะได้นำไปแก้ปัญหาเพื่อปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ขณะนี้เรือหลวงช้างมีความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือประชาชนแล้ว โดยเฉพาะการตั้งโรงพยาบาลระดับที่ 2 พร้อมให้การรักษาพยาบาลผู้ป่วยฉุกเฉิน วิกฤตได้ในระดับหนึ่ง อีกทั้งสามารถขนส่งลำเลียงอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในภัยพิบัติขนาดใหญ่หรือพื้นที่ห่างไกลได้ เนื่องจากเรือมีความทนทะเลสูง ระดับ sea state 9 รับคลื่นสูง 14 เมตร ซึ่งเคยเกิดขึ้นในช่วงที่เกิดพายุไต้ฝุ่นเกย์ สำหรับการติดอาวุธหรือการติดตั้งปืนนั้นเป็นเพียงระบบป้องกันตนเอง ส่วนระบบอำนวยการรบ ระบบตรวจการณ์ ก็ติดตั้งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเรือในการทำการรบได้อย่างเต็มรูปแบบเท่านั้น ส่วนด้านภารกิจสนับสนุนเรือดำน้ำนั้น ก็ต้องรอความชัดเจนในการจัดหาเรือดำน้ำจากประเทศจีนให้ได้ก่อน หลังจากนั้นก็จะเพิ่มขีดความสามารถในภายหลัง

เมื่อถามว่า ได้สอบถามไปยังปากีสถานซึ่งสั่งต่อเรือดำน้ำจากจีนหรือยัง ในประเด็นเครื่องยนต์ว่าพร้อมจะเปลี่ยนเป็น CHD620 ที่จีนผลิตหรือไม่ ผบ.ทร.กล่าวว่า กองทัพเรือได้ส่งคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ไปประเทศจีน เพื่อไปดูไลน์การผลิตเครื่องยนต์รุ่นดังกล่าวที่ทางการจีนนำมาใช้แล้ว ปัจจุบันเครื่องยนต์รุ่นนี้เป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้าของเรือผิวน้ำของจีนเป็นหลัก และใช้อยู่กับเรือรบของจีนทั้งหมด การที่จะดัดแปลงมาใช้กับเรือดำน้ำก็จะต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมไม่กี่ส่วน

 “เครื่องยนต์ที่ผลิตให้ปากีสถานได้มีการเริ่มไลน์การผลิตแล้ว นั่นหมายความว่า ถ้าจีนได้ผลิตเครื่องยนต์ CHD620 ให้เรือดำน้ำปากีสถาน ทางการจีนเองก็ต้องใช้เครื่องยนต์รุ่นนี้กับเรือดำน้ำจีนเช่นเดียวกันในการต่อเรือดำน้ำในอนาคต ซึ่งจีนก็ได้มีการผลิตเรือดำน้ำอยู่ทุกปีเพื่อใช้ในกองทัพเรือจีน”

เมื่อถามว่า ส่วนนี้จะนำมาเป็นเหตุผลสำคัญในการตัดสินใจของกองทัพเรือหรือไม่ พล.ร.อ.เชิงชายกล่าวว่า ก็เป็นเหตุผลสำคัญที่จะดูในเรื่องของประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ ความปลอดภัยของเครื่องยนต์ และขั้นสุดท้ายคือขีดความสามารถในการปฏิบัติการทางยุทธวิธีที่จะใช้กับเรือดำน้ำ ซึ่งเราได้พิจารณาทั้ง 3 หัวข้อเพื่อมาเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ว่าเราจะรับเครื่องยนต์ดังกล่าวมาติดตั้งกับเรือดำน้ำที่เราสั่งต่อจากจีนหรือไม่

 “เรื่องทั้งหมดนี้ได้มีการนำเสนอรัฐบาลผ่านกระทรวงกลาโหมอย่างต่อเนื่อง เป็นการรายงานให้กระทรวงกลาโหมรับทราบข้อมูลและความคืบหน้าในการเจรจา และแนวทางการตัดสินใจเพื่อเป็นผู้ตัดสินใจในขั้นสุดท้าย”

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่ารัฐบาลใหม่เข้ามาอาจจะไม่เข้าใจการดำเนินการของกองทัพเรือ ผบ.ทร.กล่าวว่า กองทัพเรือก็ต้องสรุปข้อมูลเข้าชี้แจงให้รัฐบาลใหม่ได้รับทราบถึงเหตุผลความจำเป็น และสิ่งที่กองทัพเรือทำมาตลอดในการแก้ไขปัญหา ซึ่งก็เป็นอำนาจการตัดสินใจของรัฐบาลชุดใหม่ ส่วนแผนรองรับนั้น เราได้ชะลอโครงการเรือดำน้ำลำที่ 2-3 ออกไปอยู่แล้ว โดยยกโครงการเรือฟริเกตลำที่ 2 มาทดแทนในช่วงที่เรามีปัญหาเรือดำน้ำลำที่ 1 ได้ข้อสรุปว่าเราจะต่อในประเทศเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมต่อเรือ และการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่ส่วนต่อเรือในประเทศไทย

 “เราอยู่ระหว่างการตัดสินใจว่าจะเดินหน้าต่อไปหรือยกเลิกสัญญา และยังไม่ได้ข้อสรุปซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจากับจีน ทั้งเรื่องการจ่ายค่าชดเชยหลังจากที่โครงการล่าช้าไป ไม่ว่าจะเป็นการให้รับประกันการใช้เครื่องยนต์รุ่นดังกล่าว หรืออะไหล่ชดเชย สิ่งอุปกรณ์ต่างๆ ที่จะมาชดเชยให้ ทร.ไทย”

ผบ.ทร.กล่าวย้ำว่า กำหนดการที่จะได้ข้อสรุปทั้งหมดยังเป็นช่วงสิ้นเดือนมิถุนายนเหมือนเดิม ที่ทางการจีนจะรวบรวมข้อมูลมาให้เรา เพื่อจะได้ตรวจสอบขั้นสุดท้ายแล้วนำเสนอรัฐบาลต่อไป จะเปลี่ยนแปลงจากที่เสนอหรือไม่ขึ้นอยู่กับ ครม.พิจารณา เพราะเป็นอำนาจของ ครม. ส่วนถ้ายกเลิกแล้วทางการจีนจะคืนเงินให้เราหรือไม่นั้น ในส่วนนี้เป็นเรื่องของการเจรจาระหว่างรัฐบาลกับรัฐบาลที่ต้องพูดจากัน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง