เก้าอี้ปธ.สภาเดือด ‘เพื่อไทย-ก้าวไกล’เปิดศึกรอบใหม่สอนมารยาทอัดกันยับ

ไทยโพสต์ ๐ ก้าวไกล-เพื่อไทย เปิดศึกแย่งเก้าอี้ประธานสภาฯ อีกรอบ "รังสิมันต์" ลั่น! ก้าวไกลต้องการ เพราะมีงานที่อยากผลักดัน ยันตั้งรัฐบาลแนวโน้มดี "พิธา" ได้เป็นนายกฯ แน่ เพราะปิดสวิตช์ส.ว.ได้สำเร็จ ด้าน “ภูมิธรรม” ดีดปาก  ตำแหน่งประธานสภาฯ ยังไม่คืบจากเดิม มารยาททางการเมืองเขาไม่พูดกัน ย้ำเรื่้องนี้โยงกับการตั้งรัฐบาล

     เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรค ที่นำโดยพรรคก้าวไกล ในวันที่ 20 มิ.ย. ซึ่งจะใช้พรรคไทยสร้างไทยเป็นสถานที่ประชุมนั้น กำหนดการเดิมจะประชุมคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลในช่วงเช้า ต่อด้วยการประชุมหัวหน้าและเลขาธิการพรรคร่วมทั้ง 8 ในช่วงบ่าย แต่เนื่องจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะรับรอง ส.ส. 95% ในวันที่ 21 มิ.ย. นี้ ทำให้แกนนำพรรคร่วมทั้ง 8 เห็นว่าการประชุมหัวหน้าพรรคควรเลื่อนออกไปเพื่อรอความชัดเจนจำนวน ส.ส.จาก กกต. ก่อน เพื่อการหารือเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลจะได้มีความชัดเจนเกี่ยวกับจำนวน ส.ส.ของแต่ละพรรค โดยหัวหน้าพรรคทั้ง 8 จะประชุมกันวันที่ 22 มิ.ย. ที่พรรคก้าวไกล

     ทั้งนี้ คาดว่าในวันที่ 22 มิ.ย. จะมีการวิเคราะห์สถานการณ์การเมือง และพูดคุยประเด็นในการจัดตั้งรัฐบาลในหลายเรื่องๆ ทั้งตำแหน่งรัฐมนตรีและตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร เพราะเมื่อ กกต.รับรอง ส.ส.แล้ว จากนั้นจะเข้าสู่การเปิดประชุมสภา ซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นในช่วงต้นเดือน ก.ค.นี้

     อย่างไรก็ตาม ข่าวอีกกระแสระบุว่า ทางพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยยังไม่ได้มีการหารือในเรื่องนี้แต่อย่างใด เนื่องจากมีการตกลงกันว่าจะรอให้ กกต. ประกาศรับรอง ส.ส.อย่างเป็นทางการก่อน

     นายรังสิมันต์ โรม ว่าที่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกล เผยถึงความคืบหน้าการหารือตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย โดยยืนยันว่า พรรคก้าวไกลต้องการตำแหน่งประธานสภาฯ  เพราะมีงานที่อยากผลักดัน ส่วนกระบวนการหารือระหว่างพรรค ต้องพูดคุยให้เรียบร้อย แต่ยังไม่ได้รับรายงานผลการเจรจาว่าเป็นอย่างไร แต่ยืนยันว่าพรรคก้าวไกลจะทำหน้าที่ประธานสภาฯ

     เขาบอกว่า ยังไม่เห็นว่ามีปัญหา ทุกเรื่องต้องพูดคุยกัน ไม่มีทางเห็นตรงกัน 100% เพียงแต่จุดไหนที่สองฝ่ายต้องการ ต้องหาทางพูดคุยกัน อย่างไรก็ตาม ทั้งสองพรรคเห็นเป้าหมายใหญ่ที่จะเดินไปร่วมกัน จึงไม่กังวลเรื่องความผิดใจกัน

     ส่วนแนวโน้มการรวมเสียง ส.ว. นายรังสิมันต์เผยว่า ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่จะจบอย่างไร ต้องไปดูวันโหวต ยังมีความเป็นไปได้สูงที่จะปิดสวิตช์มาตรา 272 ได้สำเร็จ

     “มาตรา 272 เป็นกระบวนการขั้นตอนตามกฎหมาย และจะหมดอายุปีหน้าอยู่แล้ว ดังนั้น ไม่รู้จะให้มาตรา 272 แผลงฤทธิ์ตอนนี้ไปทำไม คิดว่าเดินหน้าด้วยการเคารพการตัดสินใจของประชาชนจากวันที่ 14 พฤษภาคม ในทางออกที่ดีที่สุด เป็นการชี้แจงด้วยเหตุและผลหลายฝ่ายรับฟัง”

     นายรังสิมันต์ยังกล่าวว่า จากการพูดคุย บางส่วนขอเวลาตัดสินใจ แต่เท่าที่ทราบ ก็มีสัญญาณบวกในเรื่องนี้ พร้อมเชื่อมั่นว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอน

     ผู้สื่อข่าวถามถึงการติวเข้มสัมมนา ส.ส.ของพรรคก้าวไกล นายรังสิมันต์ระบุว่า จะมีการติวเข้ม แต่บอกตามตรงว่า ต้องขอให้เป็นเรื่องภายในของพรรค โดยจะมีการติวเข้ม ส.ส. ทั้งเรื่องข้อกฎหมายต่างๆ รวมถึงแบ่งปันประสบการณ์ให้ ส.ส.แต่ละท่านให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ตั้งแต่วันแรกๆ เพราะพรรคมี ส.ส.ใหม่เยอะ

ขั้วอำนาจเก่าจบไปแล้ว

     ส่วนการเดินทางไปรับหนังสือรับรอง ส.ส. นั้น พรรคก้าวไกลไม่ได้บังคับว่าต้องไปพร้อมกัน แต่อาจมีทั้งกิจกรรมที่ไปร่วมกัน และทั้งทยอยตามกันไป ส่วนวันเวลาใดนั้น จะมีการแจ้งอีกครั้งหลังสรุปแล้ว ขณะที่วันเปิดประชุมสภานัดแรกเพื่อเลือกประธานสภาฯ นั้น ยังกำหนดวันที่ชัดเจนไม่ได้ แต่พรรคก้าวไกลมีความพร้อม อยากให้กระบวนการเร็วที่สุด เพื่อเข้าไปทำประโยชน์กับประชาชน ทุกอย่างมีต้นทุนค่าใช้จ่าย

     ถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่อาจมีการรวมชื่อสมาชิกเพื่อเสนอญัตติให้เลื่อนการโหวตนายกฯ ออกไป เพราะ นายพิธายังติดปัญหาเรื่องคดีความ นายรังสิมันต์ตอบว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบ แต่คิดว่าจะเลื่อนจริงๆ หรือ เลื่อนไปเพื่ออะไร  ประชาชนไม่ได้อะไรจากเรื่องนั้น ใครก็ตามที่คิดเรื่องนี้ ขอให้มองประชาชนด้วย ว่าประชาชนกำลังรอคอยการพัฒนาเรื่องต่างๆ

     “สุดท้ายหากมีการดำเนินคดีกันจริงๆ  อย่าไปคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์จะได้ตำแหน่งนายกฯ ขั้วอำนาจเก่าจบไปแล้ว และข้อกล่าวหาใดๆ ไม่มีทางที่จะดำเนินการขัดขวางได้ รวมถึงเรื่องหุ้นสื่อไอทีวี” นายรังสิมันต์กล่าว

     ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีกระแสข่าวว่าพรรคก้าวไกลและเพื่อไทยตกลงเรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เป็นที่พอใจของทั้งสองฝ่าย แต่ยังไม่ได้ระบุตัวบุคคลว่าเรื่องดังกล่าวทุกอย่างยังคงเป็นเหมือนที่ตนเคยให้สัมภาษณ์ไปก่อนหน้านี้ว่า ตั้งแต่คุยกันครั้งก่อน ที่พรรคเพื่อไทยเสนอไปว่าอยากได้ตำแหน่งดังกล่าว แล้วพรรคก้าวไกลจะนำไปหารือภายในเพื่อแจ้งความเห็นของพรรคก้าวไกลกลับมา ตอนนี้เรายังคงรอคำตอบดังกล่าวอยู่

     เขาเผยว่า ซึ่งจากการสอบถามไปยังนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ที่เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลในส่วนของพรรคเพื่อไทยร่วมกับตน ยังไม่มีการประสานกลับมาจากพรรคก้าวไกลแต่อย่างใด เรื่องนี้อยากให้ทั้งสองพรรคคุยกันให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยสรุป

     "ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าจากจุดเดิม ส่วนตัวมองว่าประเด็นเหล่านี้ที่จะนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาล ทั้งพรรคก้าวไกลและเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคใหญ่ทั้งคู่ยังหารือกันไม่มากพอ เราต้องเร่งหารือกันเพื่อให้ผ่านการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ไปให้ได้ ส่วนประเด็นเรื่องนโยบายต่างๆ ที่จะขับเคลื่อนที่ทุกพรรคให้ความสำคัญนั้น มองว่าสามารถดำเนินการควบคู่ไปกับการเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลได้"

     เมื่อถามถึงกรณีนายรังสิมันต์ออกมาระบุตำแหน่งประธานสภาฯ ควรเป็นของพรรคก้าวไกล เพื่อขับเคลื่อนงานในสภาฯ นายภูมิธรรมตอบว่า เป็นการแสดงความคิดเห็นของนายรังสิมันต์ ส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้คนอื่นไม่ควรแสดงความคิดเห็น รอให้การหารือของสองพรรคจบเรียบร้อยก่อนจะดีกว่า

     "เมื่อการหารือยังไม่จบแล้วออกมาพูดเช่นนี้นั้น ตามมารยาททางการเมืองเขาไม่ทำกัน รอให้คนที่มีหน้าที่ในการหารือจริงๆ ดำเนินการให้เรียบร้อยก่อนจะดีกว่า  และตอนนี้พรรคเพื่อไทยก็รอคำตอบอยู่" นายภูมิธรรมกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จ่อผุด13อรหันต์นิรโทษ

กรมคุกร่อนแถลงการณ์ ยันทัณฑสถานราชทัณฑ์ช่วยชีวิต ‘บุ้ง ทะลุวัง‘ ตามมาตรฐานวิชาชีพอย่างเต็มกำลัง