‘รุ้ง’ชี้แค่เริ่มต้นล่าแม่มด สมชายเดือดจ่อฟ้องกลับ

ด้อมส้มล่าแม่มด! ใช้โซเชียลมีเดียโจมตี ส.ว.ลามถึงครอบครัวและธุรกิจ “รุ้ง” ลั่นนี่แค่จุดเริ่มต้นต้องจ่ายมากกว่านี้ “สมชาย” ฉุนเตรียมเจอบทเรียนทางกฎหมายแน่ ยัน ส.ว.จะไม่มีการให้อภัย 3 นิ้วชุมนุมหน้าหอศิลป์ปลุกสัปดาห์หน้าร่วมใส่เสื้อแดง-ส้มแสดงพลัง

เมื่อวันที่ 14 ก.ค. ยังคงมีความต่อเนื่องในกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีไม่ผ่านความเห็นชอบของที่ประชุมรัฐสภาในการเป็นนายกฯ โดยเฉพาะในโลกโซเชียล ผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกลหรือด้อมส้ม ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นโจมตีการลงมติของ ส.ว.ที่ส่วนใหญ่งดออกเสียง และไม่เห็นชอบ รวมทั้งยังมีส่วนหนึ่งออกมาเปิดวาร์ปโซเชียลมีเดียของลูกชายนายสมชาย แสวงการ ส.ว.ที่อภิปรายไม่เห็นชอบให้นายพิธาเป็นนายกฯ จนทำให้ลูกชายนายสมชายต้องตั้งค่าอินสตาแกรมเป็นส่วนตัว แต่ชาวทวิตเตอร์จำนวนมากต่างออกมาตำหนิพฤติกรรมดังกล่าวว่า ไม่เหมาะสม เพราะลูกหลานของ ส.ว.ไม่ได้เกี่ยวข้องแต่ประการใด

นอกจากนั้นยังมีการผุดแฮชแท็กธุรกิจ ส.ว.จนติดเทรนด์ทวิตเตอร์ โดยมีการนำข้อมูลกิจการของ ส.ว.หรือคนในครอบครัว ส.ว.ที่ลงคะแนนไม่เห็นชอบ และงดออกเสียงมาแขวนเพื่อโจมตี และแบนธุรกิจนั้นๆ บางรายก็ระบุพิกัดให้ขนทัวร์ไปลง อาทิ ธุรกิจปั๊มน้ำมัน, คลินิกของลูก ส.ว., ร้านอาหาร, ตลาด, โรงพยาบาลสัตว์, ร้านขายรองเท้า, ทีมฟุตบอล เป็นต้น โดยอ้างว่าเพื่อไม่ให้มีที่ยืนในสังคม

ขณะที่บางส่วนได้นำข้อมูลเงินเดือน และค่าสวัสดิการต่างๆ ของ ส.ว.มาเปิดเผย แม้ ส.ว.บางรายที่เดินทางไปต่างประเทศก็ยังโดนโจมตีด้วย นอกจากนี้ยังมีธุรกิจในครอบครัวของ 5 คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ยังถูกขุดขึ้นมาล่อเป้า รวมทั้งนายชาดา ไชยเศรษฐ์ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ที่ลุกขึ้นอภิปรายนายพิธาก็ถูกขุดประวัติมาถล่มเช่นเดียวกัน

น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมทวีตข้อความว่า เรียนให้ ส.ว.ทราบว่าราคาที่พวกคุณต้องจ่ายไม่ใช่แค่นี้หรอก นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น ไล่ดูในเทรดไปแล้วก็เศร้า พวกเขามีทุกอย่างที่คนทั่วไปยังต้องดิ้นรนเพื่อให้ได้มาเพียงเสี้ยว ชีวิตดีกันจังเลย

ขณะที่ นายพายุ เนื่องจำนงค์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ทวีตข้อความว่า พฤติกรรมการชี้เป้าลูกหลานและเครือญาติของ ส.ว.ที่ไม่ยอมโหวตนายกฯ เป็นเพียงจุดเริ่มต้น การกระทำจะหนักขึ้นเรื่อยๆ จากแฟนด้อมที่ไม่ได้ดั่งใจ ซึ่งกรณีเช่นนี้มันเคยเกิดขึ้นแล้วในประเทศอื่นๆ สุดท้ายแล้วไม่ได้จบแค่การคุกคามทางโซเชียล แต่จะจบด้วยความรุนแรงต่อตัวบุคคลถึงชีวิตหรือทรัพย์สิน หากการกระทำเหล่านี้ไม่ได้รับการหยุดยั้งห้ามปราม โดยพรรคหรือนักการเมืองที่แฟนด้อมคลั่งไคล้และรับฟัง ซึ่งหากถึงวันนั้นใครจะออกมารับผิดชอบ? หรือจะออกมาบอกว่าไม่เกี่ยวข้องด้วยอีก แล้วปล่อยให้ผู้กระทำผิดโดนดำเนินคดีไป ทั้งๆ ที่รู้ทั้งรู้ว่าการกระทำเหล่านั้นเป็นอาวุธทางการเมืองให้กับใคร และใครได้ประโยชน์จากมัน หากสำเร็จในการใช้การคุกคามกดดันและกดขี่ให้ได้มาในสิ่งที่ต้องการทางการเมือง

ด้านนายสมชายกล่าวว่า ขณะนี้ ส.ว.หลายคนกำลังรวบรวมหลักฐานที่มีบุคคลอื่นมาบูลลี่ตนเองและครอบครัว เพื่อแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะถือเป็นการคุกคาม ซึ่งถือว่าเลวร้ายกว่าในอดีต เป็นวิธีการที่สกปรก ชั่วช้า และเลวทราม คนที่เห็นต่างก็เข้าไปบูลลี่เขาหมด ทั้งตามโรงเรียน มหาวิทยาลัย และครอบครัว ดังนั้น ส.ว.ประชุมกันแล้วว่าจะดำเนินคดีทั้งหมด และเบื้องต้นได้ส่งหลักฐานให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) แล้ว และอยู่ระหว่างตั้งทีมกฎหมาย

 “ขณะที่คุณล้ำเลิศประชาธิปไตย เวลาติดคุกไม่ต้องมาขอโทษนะ เพราะไม่มีปล่อยฟรี ถูกดำเนินคดีจริงจัง แล้วอย่าลืมนะว่าเป็นนักกฎหมายทั้งนั้นที่มาสนุกสนานเล่นๆ กันแบบนี้ดำเนินคดีหมด ตอนนี้ทุกคนเตรียมหลักฐานไว้หมดแล้ว จะเอาให้เต็มที่ต่างกรรมต่างวาระ ไม่ต้องออกจากคุกกันเลย ทำ 10 ครั้งก็ 10 กรรม 10 วาระ” นายสมชายกล่าว

นายสมชายกล่าวอีกว่า จากนี้จะตรวจสอบทั้งหมดและย้อนหลังไป หากพบว่าเข้าข่ายหมิ่นประมาทก็จะดำเนินคดีทั้งหมด เพราะถือว่าไม่เคารพคนอื่น ประชาธิปไตยของคุณเป็นประเภทไหน เป็นพวกโจราธิปไตยหรือไม่ ที่ผ่านมาเคยดำเนินคดีกับคนที่หมิ่นประมาทมาแล้ว บางคนร้องห่มร้องไห้เพราะต้องออกจากราชการก็ให้อภัยไปหลายคนแล้ว แต่หลังจากนี้จะไม่ให้อภัยแล้ว ขอเตือนให้หยุดทั้งหมด อย่าคิดว่าหาไม่เจอ ที่ผ่านมาถือว่าเป็นบุคคลสาธารณะ แต่จากนี้จะเริ่มนับหนึ่งในการดำเนินคดี เพราะคุณไม่ได้ใช้สิทธิเสรีภาพ แต่เป็นการใช้สิทธิคุกคามคนอื่นมีความผิดทางอาญา

 “ขอเตือนว่าสิ่งนี้ไม่ใช่ประชาธิปไตยที่จะไปคุกคามคนอื่น ส.ว.มีหน้าที่ที่ต้องทำ เช่นเดียวกันกับ ส.ส. หน้าที่ใครหน้าที่มัน การใช้สิทธิ์ของประชาชนไปหมิ่นประมาทคนอื่นย่อมได้รับผลตามกฎหมาย ยืนยัน ส.ว.ไม่ปล่อยเรื่องนี้แน่ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลัง ปั่นกระแส หากสืบไปถึงตัวกลางก็จะดำเนินคดี ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองคนไหนจะดำเนินคดีด้วย” นายสมชายย้ำ

วันเดียวกัน ที่หน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร มีการจัดชุมนุมของเครือข่าย Respect My Vote เคารพผลเลือกตั้งฟังเสียงประชาชน ซึ่งนำโดยแนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ, คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน (ครช.), กลุ่มโมกหลวงริมน้ำ และ 24 มิถุนาประชาธิปไตย เพื่อยืนยันเจตจำนงของประชาชน 14 ล้านเสียง ที่ต้องการให้นายพิธาเป็นนายกฯ

โดยบรรยากาศเวลา 17.00 น. เริ่มมีประชาชนทยอยเดินทางมารวมตัวอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนมากสวมเสื้อผ้าสีส้ม ซึ่งเป็นสีประจำพรรค ก.ก. และยังมีร้านค้าวางจำหน่ายสินค้าที่มีสัญลักษณ์ของพรรค ก.ก.และใบหน้าของนายพิธา และในเวลา 17.40 น. เริ่มมีการแจกใบปลิวขาด A3 สีแดงดำ ระบุข้อความว่า “ยกเลิก ส.ว.ไร้ประโยชน์ มีไว้เพื่อสืบทอดอำนาจเผด็จการ”

โดยก่อนเริ่มกิจกรรมปราศรัย มวลชนได้รวมตัวชู 3 นิ้วแสดงสัญลักษณ์ ถือป้ายระบุข้อความเรียกร้องให้ยกเลิก ส.ว. ต่อมาผู้ชุมนุมได้เริ่มการปราศรัย โดยโจมตีการทำหน้าที่ของ ส.ว. ซึ่งส่วนใหญ่โจมตี ส.ว.ที่ไม่เห็นด้วยและงดออกเสียงในการโหวตนายกฯ โดยเฉพาะนายเสรี สุวรรณภานท์, นายคำนูณ สิทธิสมาน, นายสมชาย แสวงการ และนายชาดา ไทยเศรษฐ์ และชื่นชม ส.ว.ทั้ง 13 คนที่โหวตเห็นชอบให้นายพิธา

นายเสกสิทธิ์ แย้มสงวนศักดิ์ แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้ ส.ว.และ ส.ส.ต้องเลือกนายกฯ ตามเจตจำนงของประชาชน ไม่มีทางเป็นอื่น ถ้าไม่ทำ ถนนทุกสาย แม่น้ำทุกเส้นก็จะไหลไปที่รัฐสภา และไม่ใช่แค่สภา แต่จะเลยไปถึงหน้าบ้านท่านแน่นอน ขอให้ทุกคนติดตามโซเชียลมีเดียทุกช่องทางในสัปดาห์หน้า เพื่อฟังนัดหมายให้มาชุมนุมกันอย่างมืดฟ้ามัวดิน แสดงพลัง 26 ล้านเสียง 52 ล้านตีน มารวมตัวกันเพื่อให้รู้ว่าจะมากมายแค่ไหน

“สัปดาห์หน้ายังขอเชิญชวน ทุกท่านที่เลือกพรรคก้าวไกลและเพื่อไทย สวมเสื้อสีส้มและสีแดงทุกวันก่อนถึงวันเลือกนายกฯ หรือติดสัญลักษณ์สีดังกล่าวเพื่อแสดงออกให้เห็นถึงเจตจำนงของพวกเรา”

ขณะที่ นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย กล่าวว่า ขอให้มวลชนจับตาการประชุมศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 19 ก.ค.นี้ ในประเด็นของการแก้ไขมาตรา 112 เป็นการล้มล้างการปกครองหรือไม่ ถ้าผลออกมาอย่างที่คาดการณ์กัน ก็ถึงเวลาแล้วที่ภารกิจล้มล้างการปกครองมาถึงพวกเราแล้ว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ก้าวไกล' ไม่กังวลถูกยุบพรรค 'ชัยธวัช' บอกคุยลูกพรรคหลายรอบแล้ว

นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการที่ศาลรัฐธรรมนูญขยายเวลาให้พรรคก้าวไกลแก้ข้อกล่าวหาในคดีล้มล้างการปกครอง ว่า คดีนี้มีความร้ายแรงมากกว่าคดีก่อนหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ