"กรมการค้าภายใน" เดินหน้าลดราคาสินค้า ช่วยประชาชนต่อเนื่อง! ผ่านรถโมบายและจุดจำหน่าย 100 จุด ทั่วกรุงเทพฯ
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน นำสินค้าอุปโภคบริโภคกว่า 90 รายการ มาจำหน่ายลดราคาสูงสุดถึง 58% รวมถึงเชื่อมโยงสินค้าผลไม้จากเกษตรกร อาทิ มังคุด, สับปะรด, ส้มโอ ตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 กันยายน 2566
เนื่องจากที่ผ่านมา เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนจากปริมาณผลผลิตสินค้าเกษตรที่มีจำนวนมาก ส่งผลให้ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ซึ่งในปลายเดือนเมษายน 2566 ผลผลิตได้ทยอยออกสู่ตลาด มีปริมาณผลผลิตของสินค้าเกษตรจำนวนมาก เกษตรกรประสบปัญหาสินค้าเกษตรล้นตลาดอย่างต่อเนื่อง และได้มีการคาดการณ์ว่าจะมีปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในเดือนกรกฎาคม 2566 ซึ่งอาจทำให้เกิดการกระจุกตัวของผลไม้ที่จะออกสู่ตลาด ส่งผลให้สินค้าเกษตร โดยเฉพาะผลไม้มีราคาตกต่ำเป็นอย่างมาก เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน รวมถึงจากภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันที่อัตราเงินเฟ้อจะชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง ตามการลดลงของสินค้าในกลุ่มพลังงาน แต่อย่างไรก็ตาม จากการแปรปรวนของสภาพอากาศ ทำให้ปริมาณผลผลิตเข้าสู่ตลาดไม่มากนัก ประกอบกับอุปสงค์ในประเทศที่เพิ่มขึ้น และต้นทุนการผลิตสินค้าและบริการยังอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ราคาวัตถุดิบยังสูงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งปัจจุบันราคาก๊าซหุงต้มและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ราคาสินค้าในท้องตลาดปรับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคจำเป็นต่อการครองชีพยังคงมีการปรับตัวสูงขึ้น
กรมการค้าภายใน ในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการเสริมสร้างประสิทธิภาพการค้าภายในประเทศ ได้เล็งเห็นความสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และลดภาระค่าครองชีพในการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน จึงได้จัดจำหน่ายสินค้าในราคาประหยัด ซึ่งอธิบดีกรมการค้าภายใน (นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม) มีบัญชาให้ดำเนินการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน จากสถานการณ์สินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพสำหรับประชาชนมีราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น และรักษาเสถียรภาพด้านราคาสินค้าอุปโภคบริโภค รวมถึงเชื่อมโยงการบริโภคสินค้าผลไม้ เพื่อป้องกันไม่ให้ราคาสินค้าผลไม้ตกต่ำจากสถานการณ์ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ จึงได้จัดโครงการ “Mobile พาณิชย์...ลดราคา! กระตุ้นเศรษฐกิจสู่ชุมชน (กรุงเทพฯ)” ตามนโยบายของนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน จัดสรรให้มีจุดจำหน่ายเข้าไปทั่วถึงในชุมชน เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด โดยมีจุดจำหน่าย 100 จุด แบ่งเป็นรถโมบาย 25 คัน และจุดจำหน่าย 75 จุด และจะดำเนินการยาวต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2566 โดยในโครงการได้นำสินค้า อุปโภคบริโภคต่างๆ มากมายกว่า 6 หมวดสินค้า 90 รายการ ลดสูงสุด 58% มาจัดจำหน่าย โดยมีสินค้าไฮไลต์ อาทิ ไข่ไก่เบอร์ M แผงละ 95 บาท, น้ำตาลทราย กก.ละ 22 บาท, หมูเนื้อแดง กก.ละ 130 บาท, ไก่น่องสะโพก กก.ละ 70 บาท, น้ำมันพืชปาล์ม ขวดละ 42 บาท, ข้าวขาว 5% ถุง 5 กก. 90 บาท, ข้าวหอมไทย ถุง 5 กก. 115 บาท และยังมีสินค้าเชื่อมโยงจากเกษตรกร อาทิ มังคุด, ส้มโอ, สับปะรดภูแล คาดว่าตลอดโครงการนี้จะช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชนได้ไม่น้อยกว่า 400 ล้านบาท
โดยประชาชนสามารถเช็กตารางการจำหน่ายสินค้ารายวันได้ที่ Application Line โดยค้นหาคำว่า @mobilepanich หรือค้นหาคำว่า “โมบายพาณิชย์” ใน Google โดยใน Application จะมีรายละเอียดแจ้งให้ทราบว่าวันไหนจะไปจำหน่ายสินค้าที่ใด และสามารถตรวจเช็กราคาสินค้าและรายการสินค้าล่วงหน้าได้อีกด้วย หากประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้าและบริการ สามารถแจ้งมาได้ที่ สายด่วนกรมการค้าภายใน โทร.1569 และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘บุญทรง’พ้นคุก คุมตัวที่บ้าน3ปี ชื่นชมลูกผู้ชาย
"บุญทรง" ได้พักโทษ พ้นคุก ใส่กำไลอีเอ็มกลับบ้านที่เชียงใหม่
รุมดีดปาก‘เชิดชัย’ขู่ยุบสภา
"ภูมิธรรม" โบ้ย "หมอเชิดชัย" ให้ไปยุบสภาเอง ยันอำนาจอยู่ที่นายกฯ
เมินเปิดเวทีถกMOU รอทีบีซีช่วยคนไทย
“ภูมิธรรม” ปัดทิ้งข้อเสนอ พปชร.เปิดเวทีสาธารณะถก MOU 44
ชูแม่สายโมเดลแก้ท่วมใต้ เพิ่มงบผู้ว่าฯ-เร่งเยียวยา
"ในหลวง" โปรดเกล้าฯ ให้องคมนตรีเชิญสิ่งของพระราชทานมอบแก่ผู้ประสบภัย
เงิน10ล้านค่าหุ้นกู้ ศรีสวัสดิ์โต้แทนหวานใจบิ๊ก จ่อฟ้องคนทำให้เสียชื่อเสียง
"บิ๊กเต่า" เผยคดีรีสอร์ตหรูรุกที่ ส.ป.ก.เป็นอำนาจ ป.ป.ช. เชื่อมีผู้กระทำผิดหลายคน
กต.เรียกทูตเมียนมาแจง ‘มาริษ’ขึงขังทำเกินเหตุ!
“แพทองธาร” ไม่กล้าแหย็มเมียนมา บอกต้องรอให้ รมว.กต.คุยกับฝั่งหม่องก่อนถึงรู้ว่ารุกล้ำน่านน้ำหรือไม่