ตร.ไซเบอร์เตือนภัย ‘โจรออนไลน์’ชุกชุม

ปทุมวัน ๐ ตำรวจไซเบอร์เตือนภัย   มิจฉาชีพจัดโปรโมชันลดแลกแจกแถม ในช่วงวันแม่แห่งชาติหลอกขายสินค้าและบริการออนไลน์ เปิดสถิติเดือน ก.ค.ประชาชนตกเป็นเหยื่อร่วม 8 พันราย  มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 140 ล้านบาท รัฐบาลเตือนโจรแอบอ้างหน่วยงานราชการล้วงเงินจากมือถือ

     วันที่ 12 สิงหาคม 2566 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษกกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.)   กล่าวว่า ได้รับรายงานจากการตรวจสอบสถิติการรับแจ้งความผ่านศูนย์บริหารการรับแจ้งความออนไลน์ พบว่า ในช่วงที่ผ่านมายังคงมีผู้เสียหายหลายรายถูกมิจฉาชีพหลอกลวงขายสินค้าและบริการออนไลน์ในหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวันแม่แห่งชาตินั้น มิจฉาชีพอาจฉวยโอกาสใช้วันสำคัญดังกล่าวจัดโปรโมชันต่างๆ   เพื่อหลอกลวงขายสินค้าหรือบริการให้แก่ประชาชนผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเพจร้านค้าปลอม หรือเพจที่พักปลอม หรือสร้างเพจปลอมเลียนแบบเพจจริง โดยจะมีการขายสินค้าหรือบริการในราคาต่ำกว่าปกติ เมื่อหลอกลวงได้ทรัพย์สินของผู้เสียหายแล้วก็จะปิดเพจหรือบล็อกบัญชีของผู้เสียหายทำให้ไม่สามารถติดต่อได้ ยกตัวอย่างกรณีของปีที่ผ่านๆ มา เช่น การปลอมเพจหลอกลวงขายผลไม้ในช่วงเวลาดังกล่าว, ผู้เสียหายซื้อโทรศัพท์มือถือเพื่อเป็นของขวัญให้แม่จากเพจร้านค้าปลอม, ผู้เสียหายสำรองห้องพักโปรโมชันวันแม่จากเพจที่พักปลอม เป็นต้น

     ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา นับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.66-31 ก.ค.66 การหลอกลวงขายสินค้าหรือบริการออนไลน์ มีประชาชนตกเป็นเหยื่อสูงเป็นลำดับที่ 1 มีจำนวนกว่า 7,714 เรื่อง หรือคิดเป็น 49.09% ของเรื่องที่มีการรับแจ้งความออนไลน์ในเดือนดังกล่าว และมีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 140 ล้านบาท

     บช.สอท. โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้เร่งรัดขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมออนไลน์ในทุกรูปแบบ รวมถึงการสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงขายสินค้าหรือบริการผ่านสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ

     โฆษก บช.สอท.กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมา บช.สอท.ได้เร่งระดมปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง สามารถทำการจับกุมผู้ต้องหาได้หลายรายมาลงโทษตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม การซื้อสินค้าหรือบริการผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่มิจฉาชีพฉวยโอกาสเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ หลอกลวงเอาทรัพย์สินของประชาชนโดยมิชอบ

     ด้าน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ยังคงเกิดกรณีมิจฉาชีพอ้างหน่วยงานรัฐติดต่อประชาชนและหลอกลวงให้ทำธุรกรรมผ่านโทรศัพท์มือถือก่อนใช้โปรแกรมเข้าควบคุมเครื่องแล้วโอนเงินออกจากบัญชีผ่านแอปพลิเคชันธนาคาร และมีผู้เสียหายหลายราย โดยส่วนใหญ่ที่ยังมีการแอบอ้างก็คือหน่วยงานที่ต้องให้บริการใกล้ชิดกับประชาชน  อาทิ กรมที่ดิน กรมสรรพากร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ตำรวจ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การไฟฟ้านครหลวง  ไปรษณีย์ สถาบันการเงิน

     รัฐบาลขอย้ำเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อผู้ที่ติดต่อผ่านช่องต่างๆ โดยง่าย แม้ผู้ติดต่อจะสามารถแจ้งข้อมูลส่วนบุคคลหรือธุรกรรมที่ประชาชนเคยติดต่อกับหน่วยงานต่างๆ ได้ถูกต้องแม่นยำก็ตาม โดยปัจจุบันหน่วยงานรัฐทุกหน่วยงานไม่มีนโยบายให้เจ้าหน้าที่ติดต่อไปยังประชาชนโดยตรง โดยเฉพาะหากเป็นการติดต่อมาแล้วให้ทำธุรกรรมผ่านมือถือ เช่น กดลิงก์ สแกนคิวอาร์โค้ด ติดตั้งแอปพลิเคชัน สแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตน อย่าลงมือทำธุรกรรมทันที ให้ตรวจสอบให้แน่ใจก่อน หากมีกรณีข้อสงสัย ให้ประชาชนเป็นฝ่ายติดต่อกลับไปยังหน่วยงานนั้นโดยตรง เช่น ผ่านเบอร์โทรศัพท์ของหน่วยงาน หรือไปติดต่อสอบถาม ณ สำนักงานหน่วยงานนั้นๆ

     น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า หากประชาชนต้องการใช้บริการหน่วยงานต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชันนั้น ขอให้ดาวน์โหลดผ่าน App Store หรือ Play Store เท่านั้น ไม่ดาวน์โหลดจากช่องทางอื่นหรือติดตั้งแอปพลิเคชันที่บุคคลไม่รู้จักส่งมาให้โดยเด็ดขาด ไม่ทำการสแกนใบหน้าหรือยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชันที่ไม่รู้จัก ไม่กดลิงก์จาก SMS แปลกปลอม เพื่อความปลอดภัยในการทำธุรกรรมผ่านโทรศัพท์มือถือ ไม่ควรตั้งรหัสเข้าเครื่องที่ซ้ำกับรหัสเข้า Mobile Banking

     ทั้งนี้ เมื่อมีผู้ติดต่อมาทางโซเชียลมีเดียโดยแอบอ้างหน่วยงานต่างๆ ให้สังเกตที่ชื่อแอกเคาต์จะต้องมีโล่สีเขียว หรือน้ำเงินเข้มเท่านั้น เพื่อยืนยันตัวตนจริง โดยหากมีข้อสงสัยเรื่องใด ขอให้ติดต่อกลับไปยังหน่วยงานนั้นด้วยตนเอง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กฤษฎาฉีกหน้าพิชัย ไม่ให้เกียรติร่วมงานไม่ได้ ‘ทักษิณ’โผล่โคราช25พ.ค.

“เศรษฐา” ทัวร์ ประเดิมดูงานโครงการพระราชดำริ ชี้รัฐบาลให้ความสำคัญ ก่อนลุยตรวจสนามบินหัวหิน สั่งเร่งขยายให้จบก่อนไตรมาส 4 แพลมมีไอเดียเปลี่ยนชื่อเป็น