‘นิด’รับสานต่อ‘ตู่’ คนรัฐบาลเก่าเพียบ!โผครม.นิ่งคลอด28ส.ค.‘บิ๊กเล็ก’มาแน่

พังงา ๐ ไม่ซ้ำรอย "ทักษิณ" "เศรษฐา" ยังหวานไม่เลิก บอกถึงพังงาไม่มี สส.เพื่อไทย แต่จะกลับมาอีก ไม่ยึดเรื่องการเมือง แต่ยึดคนไทยทั้งประเทศ อ้ำอึ้งไม่ตอบสานต่อยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี อ้างโลกเปลี่ยนไปเร็วขอศึกษาก่อน ยันโผ ครม.ใกล้ลงตัวแล้ว หวังว่าจะจบ 28 ส.ค. เปิดโผเริ่มนิ่ง นายกฯ ควบคลัง มี รมช.เป็นอดีตปลัดคลัง "บิ๊กเล็ก" มาแน่ จับตา รมว.ยุติธรรมยุคนายใหญ่อยู่ในคุก

     เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 สิงหาคม  2566 ที่โรงแรมมอริซี เขาหลัก พังงา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะทำงานด้านนโยบายพรรคเพื่อไทย (พท.),   น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย, นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ จังหวัดพังงา เพื่อพูดคุยกับผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว มีนายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา และนายกฤษ สีฟ้า อดีตผู้สมัคร สส.พังงา พรรคเพื่อไทย  ให้การต้อนรับ โดยผู้ประกอบการได้เสนอให้มีการก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่ให้สามารถรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ จัดระบบขนส่งมวลชนให้มีคุณภาพ เพื่อรับนักท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้จังหวัดพังงาและจังหวัดใกล้เคียง และขอให้รัฐบาลช่วยจัดกิจกรรมดึงนักท่องเที่ยวให้เข้ามาในช่วงโลว์ซีซั่น

     จากนั้นนายเศรษฐากล่าวว่า แปลกใจ ไม่มีนายกฯ มา จ.พังงาถึง 10 ปี เพราะทราบกันดีว่าพื้นที่โซนนี้เป็นแหล่งรายได้ที่มีอนาคต ทำรายได้ให้ประเทศ พรรคเพื่อไทยไม่มี สส.ในพื้นที่ ต้องขอบคุณนายกฤษ รวมถึงนายพร้อมพงศ์ ที่ดูแลพื้นที่ไม่เหน็ดเหนื่อยแม้ไม่มี สส.

     "แม้เพื่อไทยไม่มี สส. แต่ผมก็จะมาพื้นที่อีก แม้เราไม่มี สส. แต่เพื่อไทยไม่ยึดเรื่องการเมือง แต่ยึดคนไทยทั้งประเทศ เราดูองค์รวมการพัฒนาประเทศเป็นหลัก วันนี้เศรษฐกิจตกต่ำมาก เราต้องเพิ่มรายได้ ซึ่งการเพิ่มรายได้ที่ชัดเจนคือเรื่องของการท่องเที่ยว เรารับฟังการสร้างสนามบินใหม่ ขอให้มั่นใจ สนามบินใหม่รับเที่ยวบินขนาดใหญ่ได้แน่นอน"

     เขากล่าวว่า หากรัฐบาลเพื่อไทยผ่านการถวายสัตย์ฯ แล้วจะไม่ดูแยกโปรเจกต์  แต่จะดูองค์รวมทั้งหมด ไม่ใช่แค่พังงา  ภูเก็ต จะไปดูถึงระนอง รวมถึงจะไปดูเรื่องหลังบ้าน เรื่องสิ่งแวดล้อม ต้องทำควบคู่ไปกับการเติบโตของเศรษฐกิจ การดึงดูดนักท่องเที่ยวใหม่ก็สำคัญเช่นกัน เรื่องครม.สัญจร อาจแยกเป็น ครม.เศรษฐกิจ หรือ ครม.มั่นคง เป็นกลุ่มเล็กสะดวกมากกว่า แต่ยืนยันอย่างไรก็จะกลับมาอีก

     เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กจะส่งต่องานให้ นายเศรษฐากล่าวว่า ขอบคุณ แต่ยังไม่ได้อ่านเฟซบุ๊กของ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งจะรับไปพิจารณา และมีหลายท่านที่อยู่ในรัฐบาลเดิม ก็จะไปพูดคุยและไปรับฟังงานที่ทำค้างไว้ โดยเฉพาะการลงทุนที่ทำจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นอะไรที่น่าจะสามารถต่อยอดไปได้

     ถามว่า แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่พล.อ.ประยุทธ์จะฝากไว้กับรัฐบาลใหม่   พรรคเพื่อไทยจะสานต่ออย่างไรนั้น   นายกฯ ตอบว่า ก็ต้องมาดูกันว่าในส่วนไหนที่สามารถทำได้หรือไม่ได้อย่างไร  เพราะโลกปัจจุบันก็เปลี่ยนแปลงไปโดยเร็วพอสมควร ซึ่งต้องดูให้ดีก่อน ไม่อยากบอกว่าเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม ย้ำว่าขอศึกษาก่อน

     ซักว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ใหม่ลงตัวขึ้น พร้อมที่จะเสนอชื่อเลยหรือไม่ เขาตอบว่า ใกล้เคียงมาก พยายามเต็มที่ โดยชื่อที่มีการนำเสนอในข่าวถือว่าใกล้เคียง  เรามีคณะเจรจา และการเจรจาก็เป็นไปในทิศทางที่ดี โดยลงรายละเอียดไปถึงรัฐมนตรีช่วยฯ ว่าควบคุมกรมอะไร อยู่ในช่วงการต่อรอง สำคัญกว่าสิ่งอื่นใดคือเรื่องของความถนัดของบุคคลที่จะมาดูแลในเรื่องของกรมนั้นๆ ด้วย เพราะเราต้องเอาเรื่องของความเจริญบ้านเมืองเป็นหลัก ไม่ใช่เรื่องของการแบ่งสรรอะไรอย่างเดียว ทั้งนี้ ย้ำว่าอีกนิดเดียว ขอให้ใจเย็น

     เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยรอบนี้ได้กระทรวงมหาดไทยไป คุมภูมิภาคท้องถิ่นทั่วประเทศ พรรคเพื่อไทยจะเสียเปรียบหรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า ต้องดูไปก่อน ขอดูก่อนว่าจะมีการแบ่งงานกันอย่างไร เพราะต้องมีรัฐมนตรีช่วยฯ ด้วย ขอให้ใจเย็นๆ

     ถามว่า ที่บอกว่า ครม.สัดส่วนของพรรคเพื่อไทยลงตัว ร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วหรือยัง นายกฯ กล่าวว่า “นิดๆ หน่อยๆ 2-3 ตำแหน่ง”

     ส่วนกรณีที่ทีมเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยจะเป็นทีมที่แข็งแกร่งหรือไม่ เพราะนายกรัฐมนตรีจะควบตำแหน่ง รมว.การคลังด้วยตัวเอง นายเศรษฐาเผยว่า อยากให้ผลงานเป็นตัวพิสูจน์ ไม่อยากพูด แต่เราพยายามเต็มที่ ในสภาวะที่ค่อนข้างจะลำบาก เศรษฐกิจที่มีปัญหา ซึ่งตนคาดว่ามีความคาดหวังสูง แต่ตนเชื่อว่าคนที่ถูกคัดเลือกตัวมาก็พร้อมที่จะทำงานบนความเหน็ดเหนื่อย

     ซักว่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังต้องทำงานรู้ใจรัฐมนตรีเลยหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า เป็นธรรมดาที่ต้องทำงานร่วมกันได้ แต่เชื่อว่าทั้ง 11 พรรคที่มาทำงานร่วมกัน เข้าใจถ่องแท้ถึงความต้องการและปัญหาของพี่น้องประชาชน

     เมื่อถามว่า วันที่ 28 ส.ค.นี้จะพร้อมหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า “หวังว่า”

     สำหรับกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท จะใช้ได้เมื่อไหร่นั้น นายกฯ ตอบว่า เราเดินหน้าเต็มตัวแน่นอน ขอดูรายละเอียดอีกเล็กน้อย ซึ่งในวันที่ 28-29 ส.ค.นี้จะมีการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาพบปะพูดคุยกันเพื่อจะรวบรวมข้อมูล แล้วจะขอเขียนไทม์ไลน์อีกครั้ง หวังว่าในไตรมาส 1 ปีหน้าจะทำได้

     มีรายงานว่า โผ ครม.เศรษฐาเริ่มนิ่งแล้ว ในโควตาพรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ควบ รมว.การคลัง,   นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ ควบ รมว.พาณิชย์, นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง  รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมว.การต่างประเทศ,  น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา, นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมว.ประจำสำนักนายกฯ

     ขณะที่ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม ซึ่งกำลังถูกต่อต้านจากคนเสื้่อแดง เพราะมีความใกล้ชิดกับ พล.อ.ประยุทธ์, นายสุทิน คลังแสง รมว.วัฒนธรรม, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี, นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองนายกรัฐมนตรี, นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี, นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ, นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม, นางมนพร เจริญศรี  รมช.คมนาคม, นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.การคลัง

     โควตาพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย, พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ, นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ  รมว.แรงงาน, นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมว.การอุดมศึกษาฯ, นายชาดา ไทยเศรษฐ์  รมช.มหาดไทย, นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ, นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.เกษตรฯ, น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมช.พาณิชย์

     โควตาพรรครวมไทยสร้างชาติ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.พลังงาน, ม.ล.ชโยทิต กฤดากร รมว.อุตสาหกรรม, นายสุพล จุลใส รมช.มหาดไทย, นายอนุชา นาคาศัย รมช.เกษตรและสหกรณ์

     ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ  พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า  รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.มหาดไทย, นายไผ่ ลิกค์ รมช.คมนาคม และพรรคประชาชาติ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ขณะที่พรรคชาติไทยพัฒนา นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

     วันเดียวกันนี้ พรรคประชาชาติจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 ครั้งที่ 2 ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา โดยวาระสำคัญคือการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ผลการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาติ ได้แก่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ขณะที่รองหัวหน้าพรรค 12 คน ประกอบด้วย  1.นายวรวีร์ มะกูดี 2.นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ 3.นายสมมุติ เบ็ญจลักษณ์ 4.นายวิทยา พานิชพงษ์ 5.นายอับดุลอายี สาแม็ง 6.ดร.วรวิทย์ บารู 7.นายกูเฮง ยาวอหะซัน 8.พล.ต.ท.อนุรุต กฤษณะการะเกตุ 9.นายปราโมทย์ แหล่ทองคำ 10.นายฐาคณิษฐ์ พรทองประเสริฐ 11.นายยู่สิน จินตภากร 12.นายสุธีรพันธ์ สุขวุฒิชัย

     นายซูการ์โน มะทา ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรค, นายพิสุทธิ์ อังจันทร์เพ็ญ นายธนาวิทย์ ไชยานุพงษ์ นายมังโสด หมะเต๊ะ และนายมูหะมัด ยูโซ๊ะ ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการพรรค, นายมนตรี มนจรัส ดำรงตำแหน่งเหรัญญิก,  นางณีรานุช วัฒนาทร ดำรงตำแหน่งนายทะเบียนพรรค, นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ โฆษกพรรค, นายสุไลมาน บือแนปีแน นายต่วนอิสกันดาร์ ดาโต๊ะมูลียอ น.ส.รอมือละห์ แซเยะ รองโฆษกพรรค และนายสาเหะมูหามัด อัลอิดรุส กรรมการยุทธศาสตร์.