ตรวจคุณสมบัติโผครม. ‘เศรษฐา’โวไม่ผิดหวัง‘ชลน่าน’จำใจยกเก้าอี้ให้เพื่อน

นายกฯ คนที่ 30 ยันส่งรายชื่อโผ ครม.เศรษฐา 1 ให้ตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว อุบชื่อ รมว.กลาโหม แต่โวเปิดออกมาไม่ผิดหวัง สลค.ให้เวลา 3 วันกรอกประวัติหลังมีว่าที่ รมต.ดอดรับเอกสาร “ชลน่าน” รับสภาพไม่ใช่เสียงข้างมากเด็ดขาด มีแค่ 141 เสียงต้องทำใจยกเก้าอี้ให้เพื่อน แต่ย้ำนโยบายหลักยังเป็นของ พท. “ไผ่" ย้ำโผและเก้าอี้จบแล้วไม่มีพลิก “ภท.-รทสช.” ปรับอีก โยกเก้าอี้ อว.-มท. สภาเคาะสัดส่วนประธาน กมธ. 35 คณะ “ก้าวไกล-เพื่อไทย” กวาดไปพรรคละ 10 เก้าอี้

เมื่อวันจันทร์ที่ 28 สิงหาคม 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงตำแหน่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในส่วนของพรรคเพื่อไทย (พท.) ว่านิ่งหมดแล้ว วันนี้เลขาฯ ครม.จะเข้ามารับโผเอาไปส่งเพื่อการตรวจสอบได้ ส่วนตำแหน่ง รมว.กลาโหม (กห.) จะเป็นคนนอกหรือคนในพรรคนั้นต้องให้เกียรตินิดหนึ่ง ต้องคอยดู ส่วนที่มีกระแสต้านชื่อ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ นั้นไม่ทราบเรื่อง มีอ่านจากโซเชียลมีเดียบ้าง แต่ยืนยันว่าถ้าชื่อออกมาแล้วไม่ผิดหวัง

เมื่อถามว่า รมว.กลาโหมจะไม่เป็นที่คัดค้านใช่หรือไม่ นายเศรษฐาถามกลับว่า "คัดค้านจากฝ่ายไหนเอ่ย ต้องอยู่ที่ผลงาน เพราะรัฐมนตรีต้องมีภาวะผู้นำที่จะคุย และเชื่อว่าพรรคร่วมรัฐบาลหรือใครก็ตามที่เลือกมาแล้ว ก็คงทำงานให้พี่น้องประชาชนและประเทศชาติเต็มที่ แต่ขณะนี้ยังบอกไม่ได้ว่าเป็นพลเรือนหรือใคร อยากให้รอก่อน"

ถามว่า จะส่งผลต่อการปฏิรูปกองทัพหรือไม่นั้น นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่ชอบคำว่าปฏิรูป เราพัฒนาร่วมกันไปมากกว่า ซึ่งพูดไปแล้วในช่วงหาเสียง แต่ต้องดูเรื่องความเหมาะสม โดยต้องมานั่งคุยกับผู้นำเหล่าทัพทั้งหมด ซึ่งก็อยู่ในแผนการเจรจา

เมื่อถามว่า จะนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายได้วันนี้เลยหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ยังต้องใช้เวลาตรวจสอบ ซึ่งไม่รู้ว่าใช้เวลานานเท่าไหร่ ไม่ทราบขั้นตอนจริงๆ แต่เข้าใจว่าใช้เวลา 2-3 วันในแง่การตรวจสอบ

“เท่าที่สามารถเป็นไปได้ ซึ่งต้องยอมรับว่ามีคนสมหวังก็ต้องมีคนผิดหวังเป็นธรรมดา แต่เราก็พยายามเต็มที่เพื่อจะให้ทุกคนมีความสุข อีกทั้งยังมีตำแหน่งที่ปรึกษา เลขาฯ อยู่อีกหลายตำแหน่ง ซึ่งเราต้องการความช่วยเหลือจากคนทุกภาคส่วน หากมีคนทำงานเยอะขึ้นก็ทำงานได้ดีขึ้น” นายเศรษฐาตอบเรื่องการจัดโผ ครม.ว่าทุกฝ่ายมีความสุขหรือไม่

เมื่อถามว่า คาดว่าจะแถลงนโยบายต่อรัฐสภาได้เลยหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า หากทุกอย่างเรียบร้อย มีการถวายสัตย์ฯ แล้วก็หวังว่าจะเร็วกว่านั้น พยายามให้เต็มที่ เพราะพรรค พท.เราเตรียมการมาเรียบร้อยแล้ว

ถามว่า เร่งให้ทันภารกิจแรกที่จะมีการประชุมยูเอ็นในช่วงสิ้นเดือน ก.ย.หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ต้องขอดูขั้นตอนก่อนด้วย เพราะตามมารยาทแล้วอาจต้องไปเยือนประเทศอาเซียนก่อนหรือไม่ เป็นมือใหม่ขอศึกษาก่อน เพราะไม่อยากให้กระทบด้านความสัมพันธ์ แต่การประชุมยูเอ็นเป็นเวทีใหญ่ที่เราจะได้ไปพบปะผู้นำทั่วโลก และอาจถือโอกาสเจรจาธุรกิจการค้าไปด้วย

เมื่อถามว่า จะประชุม ครม.ในวันที่ 1 ก.ย.ได้เลยหรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า คงไปก้าวล่วงไม่ได้

ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน และหัวหน้าพรรค พท. กล่าวถึงกระแส สส.อีสานไม่พอใจเรื่องการแบ่งโควตากระทรวง โดยเฉพาะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงศึกษาธิการที่ให้พรรคอื่นไป ว่าเราได้รับรู้ความต้องการมาตลอด พรรค พท.มีสมาชิกเกือบทุกพื้นที่ และมี สส.ที่รับปัญหามาจากพี่น้องประชาชน แต่เราอยู่ในฐานะต้องมีพรรคร่วมรัฐบาล การเจรจาต่อรองและการทำงานร่วมกัน เพื่อเป้าหมายร่วมกัน ก็ต้องนำเข้ามาพิจารณาร่วมด้วย ทำให้บางกระทรวงที่เราคาดหวังว่าเราจะทำให้พี่น้องประชาชนอาจไม่เป็นไปตามความต้องการ ก็ต้องขออภัย เราไม่ได้เป็นเสียงข้างมากเด็ดขาด เรามี 141 เสียง ทำให้มีข้อจำกัด

 “เราเป็นรัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา พรรคมั่นใจว่านโยบายที่เราได้พูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล เราจะใช้นโยบายของพรรค พท.เป็นหลักขับเคลื่อน ฉะนั้นรัฐมนตรีไม่ว่าจะมาจากพรรคไหนก็ตาม เรามีข้อผูกพันตรงนี้ไว้แล้ว และจะนำนโยบายของพรรคอื่นๆ มาเสริมให้เข้มแข็งมากขึ้น ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ชดเชยได้” นพ.ชลน่านกล่าวและว่า นโยบายพักหนี้เกษตรกรของพรรคไม่เป็นอุปสรรค นโยบายเราได้มีการพูดคุย มีการแถลงในนามพรรคร่วมรัฐบาลไปแล้ว ว่าเราจะใช้นโยบายของพรรค พท.เป็นหลัก

เมื่อถามถึง กระแสข่าว รมว.กลาโหมเป็นชื่อพลเรือน จะควบคุมกระทรวงได้หรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่สิ้นสุดและยังตอบไม่ได้ว่าเป็นพลเรือน หรือมียศมีตำแหน่งหรือไม่ แต่ในยุคใหม่กลไกการบริหารราชการแผ่นดินเชื่อว่าคงไม่เป็นประเด็น โดยเฉพาะในรัฐบาลของเราที่สร้างความสมานฉันท์ ความปรองดอง ลดความขัดแย้ง ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน 

เสี่ยหนูลั่นอธิบายเก้าอี้ รมต.ได้หมด

ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงโผรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคว่า ในส่วนของ ภท.น่าจะนิ่งแล้ว ได้ส่งรายชื่อไปที่พรรค พท.เรียบร้อย ส่วนที่ถามว่าลูกพรรคพอใจแฮปปี้หรือไม่นั้น ในฐานะหัวหน้าพรรคต้องอธิบายได้หมด

เมื่อถามว่า ภท.มั่นใจหรือไม่ว่าประวัติรัฐมนตรีของพรรคที่เลือกมาขาวสะอาดทุกคน นายอนุทินหัวเราะพร้อมระบุว่า ถามแบบนี้ไม่อยากตอบเลย ไม่ควรถาม เพราะรัฐมนตรีมีคุณสมบัติที่ต้องทุ่มเท เสียสละ และเป็นคนที่ต้องไม่มีประวัติด่างพร้อยอยู่แล้ว จึงต้องมีการตรวจสอบประวัติ

ถามอีกว่า พรรค ภท.ไม่ติดใจใช่หรือไม่ที่ไม่ได้กระทรวงตามที่วางไว้ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่ติดใจ ตรงนั้นจบไปแล้ว ขั้นตอนนั้นจบผ่านไปได้ด้วยดี เข้าใจกันทุกฝ่าย ส่วนจะฝาก รมว.สาธารณสุขคนใหม่สานต่อเรื่องกัญชากัญชงหรือไม่นั้น เดี๋ยวค่อยคุยกันในแถลงการณ์ ซึ่งการนำมาใช้ทางการแพทย์และสุขภาพยังอยู่ในแถลงการณ์ที่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลแล้ว

เมื่อถามว่า 8 เก้าอี้รัฐมนตรีพรรค ภท. โควตาได้ครบทุกกลุ่มหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า มันไม่มีโควตาในพรรคอยู่แล้ว รัฐมนตรีทุกคนทางพรรคไม่ได้ดูจากโควตาหรือรากฐานทางการเมืองเท่านั้น ต้องดูหลายๆ อย่าง ทั้งความรู้ความสามารถ ความทุ่มเทและการทำให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ เราดูทุกมิติ

ถามว่า รู้สึกใจหายหรือไม่ที่ต้องจากกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม นายอนุทินกล่าวว่า “อ้าว แน่นอน ทำงานกับท่านมา 4 ปี”

เมื่อถามว่า จะเสนอให้พรรคร่วมรัฐบาลเดิมจัดมีตติงอำลาหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ก็แล้วแต่หัวหน้ารัฐบาล โดยได้กราบเรียน พล.อ.ประยุทธ์ไปว่าพร้อม ถ้าท่านจะชวนไปกินข้าว เที่ยว หรือตีกอล์ฟที่ไหนก็พร้อม

เมื่อถามย้ำว่าใจหายใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า แน่นอนสิ

นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี และรองหัวหน้าพรรค ภท. กล่าวถึงกระแสจะไปเป็น รมช.มหาดไทยว่า ขออภัยด้วยไม่ทราบเลย อยู่ที่พรรคจะดำเนินการเรื่องนี้ ยังไม่มีอะไร ส่วนมากสื่อมวลชนตั้งให้

ถามย้ำว่า หากได้เป็น รมช.มหาดไทยก็พร้อมทำงานใช่หรือไม่ นายชาดากล่าวว่า นักการเมืองทุกคนพร้อมทำงาน สส.พรรคภูมิใจไทย 71 คน เป็นรัฐมนตรีได้ทุกคน เพราะพรรคคัดกรองคนที่มีศักยภาพ พร้อมทำงานทุกคน และทุกตำแหน่ง ซึ่งตนเองถนัดแทบทุกด้าน แต่การทำงานก็ไม่มีใครเก่งคนเดียวในรัฐบาลได้

ส่วนที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร และกรรมการบริหารพรรค พปชร. ให้สัมภาษณ์ว่า รายชื่อของทุกพรรคไม่น่ามีปัญหาอะไร การจัดตั้งรัฐบาลน่าจะเสร็จในเร็ววันนี้ ขอประชาชนไม่ต้องกังวล ส่วนรายชื่อรัฐมนตรีของพรรคนั้นจะเป็นไปตามสื่อหรือไม่ ขอให้รอดูดีกว่า ถ้าพูดอะไรออกไปอาจจะเป็นการพูดนํานายกฯ ไป ขอให้รอฟังนายกฯ เป็นผู้สรุป เพียงแต่ขอให้มั่นใจว่าการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้ง ไม่มีการแย่งชิง ทุกอย่างดำเนินไปได้ด้วยดี

พปชร.ลั่นเก้าอี้รัฐมนตรีจบแล้ว

เมื่อถามว่า รายชื่อรัฐมนตรีที่ออกมาไม่มีชื่อของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรค พปชร. หมายความว่า พล.อ.ประวิตรจะแยกตัวออกจากการเมืองหรือไม่ นายไผ่กล่าวว่า ไม่มีคำว่าแยกตัว พล.อ.ประวิตรจะอยู่กับพรรค พปชร.  จะดูแลพรรคและเป็นเสาหลักของพรรค ส่วนจะได้ตำแหน่งอะไรหรือไม่ ท่านไม่ได้ยึดติดอะไร และไม่มีการทะเลาะอะไรกันในพรรค ทุกคนยังปกติ ไม่มีอะไร

ก่อนหน้านี้ได้มีกลุ่มเกษตรกว่า 100 คน นำโดยนายยศวัจน์ ชัยวัฒน์สิริกุล ประธานสหพันธ์เกษตรกรแห่งประเทศไทย เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประวิตร และให้กำลังใจ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ในฐานะเลขาธิการพรรค ที่มีรายชื่อในตำแหน่ง รมว.เกษตรฯ พร้อมระบุว่ามาเพื่อให้กำลังใจพรรค พปชร. และหวังว่า รมว.เกษตรฯ จะไม่เปลี่ยนไปเป็นของพรรคอื่น อยากได้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับพวกตนโดยตรงแบบ ร.อ.ธรรมนัส  เป็นคนลูกทุ่ง พูดจริงทำจริง 

ขณะที่นายไผ่กล่าวว่า เป็นส่วนหนึ่งในคณะเจรจาจัดตั้งรัฐบาลมาตลอด เชื่อมั่นไม่มีอะไรต้องกังวล ขอให้เกษตรกรสบายใจได้ ชั่วโมงนี้อยากบอกขอเวลาสักนิดไม่ต้องกังวล และเชื่อว่าการจัดตั้งรัฐบาลมันจบลงไปแล้ว คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง สบายใจได้

มีรายงานจากพรรค พปชร.ว่า พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อดีตประธานที่ปรึกษา พปชร. และสมาชิก พปชร.ได้เขียนใบลาออกจากสมาชิกพรรคแล้ว โดย พล.อ.วิชญ์ให้เหตุผลในการลาออกว่า ไม่อยากอยู่ขวางหูขวางตาใคร เพราะหลังจากที่มีชื่อชิง รมว.กลาโหม ก็มีบางคนติติงว่าไม่ได้มีบทบาทใดในพรรค ทำไมจึงมีชื่อได้เป็น รมว.กลาโหม เพื่อความสบายใจจึงตัดสินใจลาออก โดยจะไปทำงานด้านกีฬาเท่านั้น

ด้านนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงรายชื่อ รมต.ของพรรคว่า ต้องให้เกียรติกรรมการบริหารพรรค แม้ว่าจะมอบอำนาจให้ตนและนายพีระพันธุ์พิจารณา ส่วนชื่อที่ปรากฏตามสื่อนั้น การนำเสนอข่าวของแต่ละสำนักไม่เหมือนกันสักสำนัก

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการจัดตั้ง ครม.เศรษฐา 1 ว่า หลังจากส่งรายชื่อบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) แล้ว จากนั้นเลขาฯ คณะรัฐมนตรีจะได้แจ้งไปยังผู้ที่มีรายชื่อให้มากรอกคุณสมบัติและประวัติ โดยให้เดินทางมารับเอกสารเพื่อนำไปกรอก โดยเจ้าตัวจะมาเองหรือมอบหมายให้ทีมงานมารับแทนก็ได้

ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 28 ส.ค.ได้มีบุคคลที่มีรายชื่อจะเป็นรัฐมนตรีใน ครม.เศรษฐา 1 บางรายทยอยเดินทางมารับเอกสารไปกรอกประวัติ ที่ตึกสำนัก สลค.แล้ว  อาทิ พ.ต.ท.ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติ ที่มีชื่อเป็น รมว.ยุติธรรม นายไชยา พรหมา สส.หนองบัวลำภู พรรค พท. ที่มีชื่อเป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ ส่วนนายอนุทินให้ตัวแทนมารับเอกสารของว่าที่รัฐมนตรีทั้งหมดของพรรคไปกรอก โดยในส่วนของพรรค พท.ได้นำเอกสารไปให้ว่าที่รัฐมนตรีกรอกและมาส่งที่ตึก สลค.ด้วยตัวเอง นอกจากนี้ยังมีว่าที่รัฐมนตรีของพรรค พปชร.บางคนมารับเอกสารไปแล้ว ทั้งนี้ ได้ให้เวลาในการกรอกเอกสาร 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 28-30 ส.ค.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ส่วนใหญ่นิ่งแล้ว แต่ยังมีการปรับเปลี่ยนบางตำแหน่ง ในส่วนพรรค ภท.มีการเปลี่ยนชื่อให้ น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี นั่ง รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม แทนนายทรงศักดิ์ ทองศรี ที่ย้ายไปนั่ง รมช.มหาดไทย พรรค รทสช.มีการเปลี่ยนเป็นชื่อ นางพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ นั่ง รมว.อุตสาหกรรม แทน ม.ล.ชโยทิต กฤดากร สส.บัญชีรายชื่อ และ น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล สส.นครศรีธรรมราช เป็น รมช.มหาดไทย แทนนายสุพล จุลใส สส.ชุมพร

มีรายงานว่า ในส่วนของพรรคเพื่อไทยได้เปลี่ยนให้ นายสุทิน คลังแสง นั่ง รมว.กลาโหม ให้นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช นั่ง รมว.วัฒนธรรม นายปานปรีย์ พหิทธานุกร นั่งรองนายกฯ และ รมว.การต่างประเทศ นายจักรพงษ์ แสงมณี นั่ง รมช.การต่างประเทศ และนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ นั่ง รมช.การคลัง

วันเดียวกัน นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา กล่าวถึงกรณีรัฐบาลแถลงนโยบายว่า ยังไม่ได้รับการประสานจากรัฐบาล ส่วนจะเป็นวันที่ 8 ก.ย.ตามที่มีกระแสข่าวหรือไม่ ถ้ารัฐบาลแจ้งมาก็จะจัดประชุมวิปสามฝ่ายเพื่อจะกำหนดวัน และจะใช้เวลาอภิปรายกี่วันนั้น ต้องดูที่ผ่านมาว่าใช้เวลาเท่าไหร่  สว.ต้องใช้เวลาเท่าไหร่ และ สส.ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านต้องใช้เวลาชี้แจงเท่าไหร่

เมื่อถามว่า ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาที่นายพิธา  ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล  (ก.ก.) ไม่รับตำแหน่ง และให้นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาคนที่หนึ่งดำรงตำแหน่งเดิม จะแก้ปัญหาอย่างไร นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า ตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับ หากพรรคก้าวไกลมีจุดประสงค์ต้องการดำรงตำแหน่งรองประธานสภาคนที่หนึ่ง ก็ต้องแจ้งเพื่อสละสิทธิ์ให้พรรคที่เป็นฝ่ายค้านลำดับรองลงมา ซึ่งตามข้อบังคับรัฐธรรมนูญจำเป็นต้องมีผู้นำฝ่ายค้าน เพื่อปฏิบัติหน้าที่เป็นหนึ่งในกรรมการสรรหาองค์กรอิสระ อาทิ ศาลรัฐธรรมนูญ  ป.ป.ช. รวมทั้งคณะกรรมการจริยธรรมของสภาผู้แทนราษฎร

ก.ก.-พท.ยึด 10 เก้าอี้ประธาน กมธ.

เมื่อถามว่า มีกรอบเวลาในการแต่งตั้งผู้นำฝ่ายค้านหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า ไม่ได้มีกำหนดไว้ ถ้าพรรคฝ่ายค้านพร้อมเมื่อไร รัฐสภาจะเสนอชื่อเพื่อโปรดเกล้าฯ ต่อไป

เมื่อถามว่า ในส่วนของคณะกรรมาธิการสามัญ 35 คณะต้องรอให้มี ครม.ที่ชัดเจนหรือไม่ ในการบรรจุระเบียบวาระต่างๆ นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า กมธ.สามัญพร้อมที่จะแแต่งตั้งแล้ว ซึ่งขณะนี้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าพรรคใดบ้างที่เป็นรัฐบาล พรรคใดเป็นฝ่ายค้าน ซึ่งได้คุยกับนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาคนที่สองแล้ว ว่าคงจะมีการประชุมที่ทุกพรรคมาประชุม ซึ่งพรรคใดที่จะอยู่ใน กมธ.ใดใน 35 คณะนั้นกี่คน ก็เป็นไปตามสัดส่วน สส.ของพรรคนั้น แต่เรื่องที่ต้องคุยคือพรรคใดจะเป็นประธาน กมธ.ชุดใด ซึ่งจะใช้เวลา 2-3 วันในสัปดาห์นี้ 

มีรายงานแจ้งว่า การแบ่งสัดส่วนประธาน กมธ. 35 คณะในสภาผู้แทนราษฎร ที่ต้องทำงานคู่ขนานไปกับฝ่ายบริหาร ล่าสุดได้มีการจัดทำเอกสาร คำนวณอัตราส่วน ตำแหน่งประธาน กมธ.ที่แต่ละพรรคจะได้ โดยมีหลักเกณฑ์การคำนวณจากจำนวนคณะ กมธ.ทั้งหมดคูณจำนวน สส.แต่ละพรรคการเมือง จากนั้นหารด้วยจำนวน สส.ทั้งหมด ซึ่งมีพรรคที่มี สส.ถึงเกณฑ์ได้รับตำแหน่งประธาน กมธ.ทั้งสิ้น 8 พรรคการเมือง ประกอบด้วย พรรคก้าวไกล 10 คณะ, พรรคเพื่อไทย 10 คณะ, พรรคภูมิใจไทย 5 คณะ, พรรคพลังประชารัฐ 3 คณะ, พรรครวมไทยสร้างชาติ 3 คณะ, พรรคประชาธิปัตย์ 2 คณะ, พรรคชาติไทยพัฒนา 1 คณะ และพรรคประชาชาติ 1 คณะ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

5 เหตุผล 'เศรษฐา' รอดชั่วคราว

ทำไมคุณเศรษฐา ถึงรอดมาจากเงื้อมมือของศาลรัฐธรรมนูญได้ อย่างฉิวเฉียดขนาดนี้ (5:4) ซึ่งผมคิด แล้วก็เดาเอาเองว่ามันน่าจะมีสาเหตุมาจากหลายๆเรื่