ทิ้งเก้าอี้หน.นั่งรมต. ก.ก.ซัดเพื่อไทยการละคร เสี่ยนิดลดทันทีไฟ-น้ำมัน

"เศรษฐา" ขอทุกฝ่ายประเมินรัฐบาลที่ผลงาน เชื่อ "สุทิน"  ประสานกองทัพได้ มั่นใจ "อนุทิน-ธรรมนัส-สมศักดิ์-สุริยะ" เหมาะนั่ง รมต. ลั่นหลังประชุม ครม.นัดแรกราคาพลังงานลดทันที "ชลน่าน" ประกาศไขก๊อกหัวหน้าพรรค พท. รักษาสัจจะตามที่ลั่นวาจา มอบ "ชูศักดิ์" นั่งรักษาการแทน  ก่อนตั้ง กก.บห.ชุดใหม่ 60 วัน พลิ้วบอกพูดแค่ลาออกจาก หน.พรรค ไม่เกี่ยวรับตำแหน่ง รมต. "โรม" ซัดเพื่อไทยการละคร จี้การเมืองต้องรักษาสัญญา  "อนุทิน" เบ้ปากโดนร้องตรวจคุณสมบัติ "ชาดา" วิษณุระบุ "พิชิต" เสี่ยงปมจริยธรรม แนะใครติดใจขอสภาส่งศาลรธน.วินิจฉัย "อนุพงษ์" อำลา 9 ปีเก้าอี้มท.1 รูดม่าน "บิ๊กตู่" 31 ส.ค.เข้าทำงานทำเนียบฯ วันสุดท้าย

มีความเคลื่อนไหวการส่งประวัติและคุณสมบัติของว่าที่รัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรีเศรษฐา 1 (ครม.เศรษฐา 1) เป็นวันที่ 3 หลังจากบรรดาว่าที่รัฐมนตรีได้ทยอยมายื่นที่ตึกสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) แล้วตั้งแต่วันที่ 28 ส.ค.  โดยตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 30 ส.ค. พบว่า ยังมีทีมงานของว่าที่รัฐมนตรีบางส่วนเดินทางมายื่นเอกสารเพิ่มเติมให้ครบถ้วนอยู่ แต่น้อยกว่า 2 วันแรกมาก

ต่อมาเวลา 14.05 น. นางณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้เดินทางขึ้นไปยังตึกไทยคู่ฟ้า โดยเข้าทางด้านหลังตึก ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ก่อนที่จะให้คนขับรถไปรับและเดินทางออกจากตึกไทยคู่ฟ้าในเวลา 14.50 น. ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าการขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงระหว่างที่มีการตรวจสอบประวัติและคุณสมบัติของบรรดาว่าที่รัฐมนตรีอยู่

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี  กล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์หน้าตา ครม.ที่บางคนอาจไม่เหมาะกับบางตำแหน่งว่า ต้องให้เกียรติพรรคร่วมรัฐบาลและผู้ที่ประสานงานจัดตั้ง ครม.ด้วย ตนคิดว่าหน้าตาหรืออะไรก็มีสิทธิ์ที่คนจะคิดกันได้ แต่ต้องให้เกียรติกับรัฐมนตรี และมั่นใจว่ารัฐบาลของเรามีภารกิจมาก และมีเป้าหมายในการทำงานอย่างชัดเจน เราคงวัดกันที่ตรงนี้ เพราะวันนี้ทุกคนคงต้องเริ่มทำงานแล้ว

ถามถึงเสียงสะท้อนเอาพลเรือนมาคุมกองทัพอาจจะเป็นการถูกด้อยค่า  นายเศรษฐากล่าวว่า คิดว่านายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีผู้รายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) เป็นผู้อาวุโส เป็น สส.หลายสมัย เท่าที่ตนรู้จักนายสุทิน ท่านเป็นคนที่ให้เกียรติคน และเชื่อว่าการประสานงานกับกองทัพจะเป็นไปได้ด้วยดี ซึ่งส่วนตัวจะเข้าไปช่วยดูตรงนี้ด้วย ก็ต้องให้แน่ใจว่าทุกสถาบันได้รับการดูแลเอาใจใส่ และได้รับการพูดคุยอย่างเหมาะสมและสมฐานะ

"เรื่องการตรวจสอบประวัติว่าที่รัฐมนตรีตามที่ได้พูดคุยกับเลขาธิการ ครม. ระยะเวลาในการตรวจสอบน่าจะอยู่ที่ 2 วัน หลังจากนั้นก็จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเลย" นายเศรษฐากล่าว

เมื่อถามกรณีนายณฐพร โตประยูร จะทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ มีว่าที่รัฐมนตรี 4 คน ประกอบด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล สส.บัญีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.), นายสมศักดิ์ เทพสุทิน สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท., นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) คุณสมบัติไม่ผ่าน  โดยอ้างอิงจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมานั้น นายเศรษฐากล่าวว่า ยังไม่ได้รับข้อมูล แต่ตนเชื่อว่าทั้ง 4 คนเป็นบุคคลที่เหมาะสมในการเข้าดำรงตำแหน่ง เหลือแค่เช็กคุณสมบัติ จากเลขาธิการ ครม.อีกครั้ง

ถามเรื่อง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน และหัวหน้าพรรค พท. จะลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค นายเศรษฐา กล่าวว่า ทราบเรื่องแล้ว วันนี้ นพ.ชลน่านคงประกาศเรื่องนี้เอง ให้เกียรติท่าน  ซึ่งท่านเป็น สส.หลายสมัย ทำประโยชน์ให้กับ พท.มานาน และเป็นที่รักของ สส.ทุกคน ตนเพิ่งเข้ามาใหม่ นพ.ชลน่านก็ให้การดูแลที่ดี และเชื่อว่าไม่ว่าท่านจะตัดสินใจเช่นไร ในอนาคต นพ.ชลน่านก็จะยังอยู่ในพรรค พท.

เศรษฐาโวลดราคาพลังงาน

ซักถึงเรื่องเซอร์ไพรส์ที่เคยบอกคือเรื่องที่ นพ.ชลน่านจะลาออกใช่หรือไม่  นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่ใช่ครับ นพ.ชลน่านประกาศไว้นาน หากมีการเลือกนายกฯ เสร็จเรียบร้อย และหากเสร็จภารกิจ นพ.ชลน่านก็จะมีการประกาศของท่านออกไป ซึ่งใครจะมาแทนยังไม่ทราบ ต้องมีการประชุมพรรค เพราะเราเป็นพรรคที่มีสมาชิกเยอะ คงต้องว่าไปตามกฎพรรคการเมือง และคงต้องมีการรักษาการไปก่อน ซึ่งจะต้องมีการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคใหม่ภายใน 60 วัน 

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำนโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภาว่า มีความคืบหน้าตลอด เมื่อวานมีการพูดคุยกับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) แล้ว ซึ่งนพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ว่าที่เลขาธิการนายกฯ เป็นคนเจรจาและรวบรวมข้อมูล แล้ววันนี้นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ ม.ล.ชโยทิต กฤดากร หัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จะเข้ามาพบตนที่พรรค พท.  เพื่อพูดคุยเรื่องนโยบาย ซึ่งเราก็เร่งด่วนในเรื่องนี้ เพราะอยากแถลงนโยบายโดยเร็วหลังเข้าถวายสัตย์ฯ เพื่อที่ประเทศจะได้เดินไปข้างหน้าได้ ซึ่งมีหลายเรื่องที่ต้องทำ

ถามว่า หลังจากนำ ครม.ถวายสัตย์ฯ  แล้วคาดว่าจะใช้เวลากี่วันในการแถลงนโยบายต่อสภาได้ นายกฯ กล่าวว่า ขอไปดูนิดหนึ่งก่อน ขึ้นอยู่กับถวายสัตย์ฯ เมื่อไหร่ แต่คาดว่าจะไม่เกิน 1 สัปดาห์

ต่อมานายสุพัฒนพงษ์และ ม.ล.ชโยทิตเข้าพบนายเศรษฐาเพื่อหารือถึงการส่งไม้ต่อในการทำงานด้านเศรษฐกิจรวมถึงการจัดทำร่างนโยบายของรัฐบาลเพื่อแถลงต่อรัฐสภา

นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์หลังการหารือว่า ได้หารือเรื่องของราคาพลังงาน รวมถึงประเด็นอื่นๆ ซึ่งนายสุพัฒนพงษ์ก็ได้ฝากฝังไว้หลายเรื่อง หนึ่งในนั้นคือขั้นตอนในการลดราคาค่าไฟกับค่าน้ำมันดีเซล โดยจะมีประกาศหลังการประชุม ครม.นัดแรกแน่นอน

ซักว่าหลังประชุม ครม.นัดแรกสามารถลดได้ทันทีใช่หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า “ทันทีครับทันที   ประกาศทันที และขอดูขั้นตอนนิดหนึ่ง”  ก่อนจะย้ำว่า ทำงานไม่หยุด เพราะต้องดูนโยบายอื่นๆ ด้วย และถือว่านายสุพัฒนพงษ์ให้ความกรุณาและยินดีส่งไม้ต่อให้ด้วยความราบรื่น

ส่วนนายสุพัฒนพงษ์กล่าวว่า เรื่องนโยบายอย่างเป็นทางการต้องให้หัวหน้าพรรค รทสช.มาพูดคุยกันอีกครั้ง วันนี้เป็นการมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นว่ามีอะไรจะส่งไม้ต่อไปถึงรัฐบาลใหม่ได้  การมาหารือวันนี้เป็นโอกาสที่ดีของรัฐบาลรักษาการจะมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นว่ามีอะไรจะส่งมอบ หรือส่งต่อความคิดเห็นใดๆ ไปถึงรัฐบาลใหม่ โดยเฉพาะเรื่องของเศรษฐกิจที่รัฐบาลใหม่ได้ขอรับทราบสิ่งที่รัฐบาลรักษาการ หรือรัฐบาลที่ผ่านมาได้ทำอะไรไว้บ้าง

ด้านนายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. กล่าวถึงการลาออกจากหัวหน้าพรรคของ นพ.ชลน่าน ว่า การลาออกของหัวหน้าพรรคทำให้คณะกรรมการบริหารชุดปัจจุบันหลุดออกไปทั้งหมด และจะต้องมีการเลือกตั้งใหม่ภายใน 60 วัน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พรรค พท.ยังไม่มีแคนดิเดตหัวหน้าพรรค แต่ส่วนตัวเห็นว่านายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกฯ และอดีต รมว.การคลัง หรือนายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อและอดีต รมว.การต่างประเทศ มีความเหมาะสมเป็นหัวหน้าพรรคได้

ถามถึงกรณีเคยประกาศหาก พท.จับมือกับพรรค 2 ลุงจะเป็นฝ่ายค้านอิสระ นายอดิศรกล่าวว่า ตนมีความคิดไม่แตกต่างกับ นพ.ชลน่าน แต่ได้ถูกวางตัวให้เป็นประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (ประธานวิปรัฐบาล) แล้ว ซึ่งจะต้องประสานงานและดูระเบียบวาระการประชุม เช่น การจัดทำประชามติ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ การเกณฑ์ทหาร เป็นต้น และดูกฎหมายของทุกพรรคการเมือง ซึ่งตนก็เป็นคนชอบสภา จึงขออนุญาตทำหน้าที่เป็นประธานวิปรัฐบาล ซึ่งมีตำแหน่งเทียบเท่ารองนายกรัฐมนตรี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 14.00 น. พรรค พท.มีการประชุมกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) เพื่อหารือเกี่ยวกับกรณีที่ นพ.ชลน่านจะลาออกจาก กก.บห.

ชลน่านไขก๊อกหัวหน้า พท.

จากนั้นเวลา 16.00 น. นพ.ชลน่าน พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค ร่วมแถลงข่าวภายหลังการประชุม โดย นพ.ชลน่านกล่าวว่า "ผม นพ.ชลน่าน ขอทำตามที่เคยประกาศไว้ เป็นสัจจะที่ผมเคยลั่นวาจาไว้ว่า ถ้าพรรค พท. ถ้า กก.บห.มีมติจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีมติจับมือดีลกับลุงป้อม ผมในฐานะหัวหน้าพรรค ผมพร้อมที่จะลาออก และก็ขออนุญาตประกาศ ณ ตรงนี้ว่า ขอลาออกจากหัวหน้าพรรค พท. ตามที่ผมได้ประกาศเอาไว้ ณ บัดนี้”

นพ.ชลน่านกล่าวว่า เหตุผลความจำเป็นที่ตนเลือกมาประกาศในวันนี้ เพราะในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้อยู่ในสถานการณ์พิเศษ ที่พรรค พท.มีความจำเป็นจาก กก.บห. และสมาชิกพรรคที่ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่าต้องจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ และขณะนี้อยู่ในขั้นตอนนำรายชื่อทูลเกล้าฯ ถวาย ก็ถือว่าภารกิจสำเร็จเรียบร้อย

นายประเสริฐเสริมว่า ในที่ประชุมกก.บห.นั้น นพ.ชลน่านได้กล่าวขอบคุณกก.บห.ทุกท่าน และชี้แจงประชาชนตามข้อบังคับ เมื่อหัวหน้าพรรคลาออก  กก.บห.ที่เหลือทั้งหมดต้องหมดสภาพกก.บห. แต่ กก.บห.อื่นๆ นอกจากหัวหน้าพรรคยังรักษาการอยู่ ซึ่งที่ประชุม กก.บห.วันนี้มีมติเลือกนายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค ขึ้นมาเป็นรักษาการหัวหน้าพรรคแทน ส่วนการสรรหา กก.บห.ชุดใหม่นั้น จะต้องทำในระยะเวลา 60 วัน

ถามว่า หากมีสมาชิกเสนอชื่อให้กลับมารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคจะรับหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ต้องนำเรื่องนี้ไปพิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อน ยืนยันการทำหน้าที่หัวหน้าที่ผ่านมา ตนทำงานด้วยความสุข ความภาคภูมิใจ ภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากพรรคในวันที่เข้ามารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 28 ต.ค.64 โดยทำให้พรรคเป็นสถาบันการเมืองเพื่อประชาชน ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากสมาชิกและบุคลากรภายในพรรคเป็นอย่างดี

นพ.ชลน่านกล่าวว่า ช่วงรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พวกเราทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง แต่สิ่งที่เราได้รับคือบทเรียนอันยิ่งใหญ่มาก หลังเลือกตั้งยิ่งทำให้ผมรู้สึกเองว่าผูกพัน มีความรัก มีความยึดมั่นในอุดมการณ์ของพรรค และเห็นผู้คนของพรรคทุ่มเทเสียสละเพื่อประชาชนและประเทศชาติ ฉะนั้นคำกล่าวอ้างวาทกรรม ข้อโจมตีหรือข้อที่เห็นแย้งต่างๆ เราล้วนเห็นว่าเป็นมิติหนึ่งทางการเมือง แต่ความมุ่งมั่นตั้งใจของพวกเราคือทำเพื่อประชาชน

 “ถามว่าผมรู้สึกอะไร ผมไม่มีความรู้สึกที่จะเสียใจ โกรธเคือง หรืออะไรต่างๆ ผมไม่มีครับ เพราะผมถือว่าเป็นหน้าที่ พยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เมื่อทุกอย่างมีข้อกำจัด ทุกอย่างมีสิ่งต้องรับและผูกมัดไว้มันก็ต้องปฏิบัติตามแบบนั้น ผมไม่ได้หนีไปไหน ยังอยู่กับพรรคเพื่อไทย และทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด” นพ.ชลน่านกล่าว 

เมื่อถามว่า การลาออกจากหัวหน้าพรรค แต่ยังคงเป็น สส.และว่าที่รัฐมนตรีใช่หรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า "มันไม่ได้เกี่ยวกับสิ่งที่ผมประกาศเอาไว้ ผมพูดไว้เพียงแต่จะลาออกจากหัวหน้าพรรค"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการแถลงข่าวเสร็จสิ้น ทั้ง 3 ท่านได้ต่างไหว้ พร้อมทั้งลุกขึ้นมาจับมือให้กำลังใจซึ่งกันและกัน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามเพิ่มเติมว่า อยากฝากถึงประชาชนที่หมดศรัทธากับตัวเองหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า เรื่องศรัทธาและความเชื่อเป็นสิทธิส่วนบุคคล เป็นเสรีภาพบนพื้นฐานที่เขาได้รับ ซึ่งหวังว่าประชาชนที่มีความรู้สึก แม้จะแตกต่างกัน หรือจะมีความเชื่อหรือศรัทธาหรือไม่อย่างไร หากได้พิจารณาข้อมูล ข้อเท็จจริง เชื่อว่าพี่น้องประชาชนจะไม่ต้องมาบอกว่าศรัทธาหรือไม่ศรัทธา แต่เราพร้อมที่จะหันหน้าเข้าหากัน และมองจุดสำคัญของแต่ละคนที่เป็นประโยชน์ของบ้านเมือง ตรงนั้นน่าจะเป็นมุมที่ดีที่สุด 

 “เราไม่สามารถตอบสนองความพึงพอใจของทุกคนได้ มีเพียงระดับหนึ่งที่เราสามารถตอบสนองได้ และเป็นเรื่องธรรมดา หน้าที่ของเราคือการทำหน้าที่ในฐานะผู้แทนของประชาชน สมาชิกพรรคการเมือง อยู่ในมิติทางการเมือง ก็แสดงพฤติกรรมที่สอดคล้องให้เหมาะสมที่สุด ภายใต้สิทธิเสรีภาพของกฎหมาย” นพ.ชลน่านกล่าว 

ถามว่า จะเป็นเหมือนพรรคการเมืองอื่นหรือไม่ที่ลาออกจากหัวหน้าพรรค แล้วมีการเสนอชื่อเข้ามาใหม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ขอให้ไปดูกระบวนการ เพราะระหว่างพรรคการเมืองที่เป็นสถาบันทางการเมืองกับบุคคลต้องแยกกัน ตนแสดงความรับผิดชอบในฐานะบุคคล ไม่ได้เอาพรรคมาเกี่ยวข้อง เกี่ยวเพียงแค่เล็กน้อยที่เป็นเหตุเป็นผลเท่านั้น

'โรม' ซัดเพื่อไทยการละคร

ขณะที่นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงการประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรค พท.ของ นพ.ชลน่าน เพื่อรับผิดชอบคำพูดว่า ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าว เพราะเป็นเรื่องภายในของ พท. แต่เป็นเรื่องที่เขาต้องรับผิดชอบต่อประชาชนเอง สิ่งที่ตนให้ความสำคัญ คือเรื่องของสัญญาที่พรรคการเมืองมีต่อประชาชน หากไม่รักษาสัญญา ประชาชนก็จะหมดศรัทธาต่อระบบการเมืองและระบบรัฐสภา ไม่ใช่แค่ต่อพรรคการเมือง ซึ่งหากนักการเมืองพูดอะไรก็ได้ จะทำให้การเมืองถอยหลัง สุดท้ายระบบการเมืองที่เรามีอยู่จะไม่มีคุณค่า เหมือนเป็นการเซ็นเช็คเปล่าให้กับอำนาจมืดที่จะเข้ามาภายหลังได้

"หากมองลึกๆ คำสัญญามีความสำคัญ การเมืองในต่างประเทศก็ให้ความสำคัญกับการรักษาสัญญามาก ผู้นำที่รักษาสัญญาไม่ได้ อย่าว่าแต่ลาออกจากตำแหน่งหนึ่งไปรับตำแหน่งรัฐมนตรี แต่อนาคตทางการเมืองก็ควรจะจบลง การเมืองไทยควรเป็นเช่นนั้น"  นายรังสิมันต์กล่าว

ถามว่า จะแปลความหมายใดได้บ้างที่ นพ.ชลน่านลาออกจากหัวหน้าพรรคแต่อาจจะไปดำรงตำแหน่ง รมว.สธ. นายรังสิมันต์กล่าวว่า อยากให้สะเด็ดน้ำก่อน อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงทีหลัง แต่หากเป็นเช่นนั้นจริง ประชาชนก็ตัดสินใจได้ว่าตกลงแล้วเป็นการรักษาสัญญาจริงๆ หรือเป็นการเตรียมการไว้แล้ว

 “เดี๋ยวผมลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคแน่นอน แต่เดี๋ยวผมจะไปเป็นรัฐมนตรี ถ้าเป็นอย่างนั้น ละครอะครับ นี่เป็นวงการบันเทิงหรือวงการการเมืองกันแน่” นายรังสิมันต์กล่าว

วันเดียวกัน นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ไปถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้พิจารณาสั่งการให้กรมสรรพากรตรวจสอบการเสียภาษีของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.พรรคภูมิใจไทย กรณีการยื่นแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช.กรณีพ้นจากตำแหน่ง สส.เมื่อวันที่ 20 มี.ค.2566  

ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สธ. ในฐานะหัวหน้าพรรค ภท. ทำท่าคว่ำปาก หลังสื่อถามถึงกรณีนายชาดาถูกนายเรืองไกรร้องเรียนเรื่องการเสียภาษี โดยระบุว่า เขามีการตรวจสอบคุณสมบัติอยู่

เมื่อถามว่า นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล กรรมการบริหารพรรค ก.ก. โพสต์บอกให้มีการตรวจปัสสาวะรัฐมนตรีบางคนก่อนเข้ารับตำแหน่ง นายอนุทิน กล่าวว่า “โนคอมเมนต์” เมื่อถามย้ำถึงการตรวจสอบคุณสมบัติของรัฐมนตรี ในส่วนของพรรค ภท. นายอนุทินกล่าวว่า ไม่ใช่เราตรวจสอบ แต่เป็นสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเป็นผู้ตรวจสอบ

ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทราและโฆษกพรรค พปชร. กล่าวถึงรายชื่อรัฐมนตรีโควตาพรรคว่า ขอยืนยันรายชื่อรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคไม่มีการเปลี่ยนแปลง ยังคงเป็นรายชื่อเดิมทั้ง 4 ตำแหน่ง ที่ได้เสนอรายชื่อเพื่อตรวจสอบประวัติและคุณสมบัติไปยังสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

'พิชิต' ส่อมีปัญหาจริยธรรม

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ให้สัมภาษณ์ถึงการวิพากษ์วิจารณ์คุณสมบัติของนายพิชิต ชื่นบาน แคนดิเดตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  หลังเคยถูกจำคุกคดีละเมิดอำนาจศาลประเด็นถุงขนม ประเด็นเรื่องจริยธรรมสามารถดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีได้หรือไม่ว่า ถือเป็นอีกประเด็นหนึ่ง เพราะหากจะตั้งข้อสังเกตเรื่องจริยธรรม ก็สามารถตั้งได้กับทุกคน และจะหนักเบามากน้อยก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ถามว่า หน่วยงานใดควรจะเป็นผู้ชี้ขาดเรื่องจริยธรรม นายวิษณุกล่าวว่า สภาต้องพิจารณาและส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้ชี้ขาด เพราะเป็นเรื่องคุณธรรม จริยธรรม คนอื่นจะไปชี้ หรือเลขาธิการ ครม.จะไปชี้บกพร่องมิได้  และบางทีก็กล่าวหากันไป ก็ไม่เห็นมีใครเอาเรื่องอะไร เพราะถ้าจะดำเนินการก็มีขั้นตอนของมัน และก่อนหน้านี้คนที่เคยถอนเรื่องคุณสมบัติจริยธรรมก็เคยมีมาแล้ว

ส่วนนายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์เฟซบุ๊กเรื่องแนะนำนายพิชิต ทนายถุงขนม 2 ล้าน อ่านคำวินิจฉัยศาลฎีกาอีกครั้ง โดยนายเชาว์แนะนำให้นายพิชัยไปอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4599/2551 ที่ตนเองเป็นผู้ถูกกล่าวหาโดยละเอียดอีกครั้ง ก็จะทราบข้อเท็จจริง

ที่พรรคเสรีรวมไทย นายวิรัตน์ วรศสิริน อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงข่าว พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็น สส.ว่า ได้ลาออกแล้วจริง โดยยื่นหนังสือตั้งแต่สองสัปดาห์ที่ผ่านมาไปยังเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร มีผลในวันที่ 1 ก.ย. ซึ่ง สส.บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปของพรรคคือ นายมังกร ยนต์ตระกูล ผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่ออันดับ 2 และเลขาธิการพรรคเสรีรวมไทย โดยพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ยังดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเหมือนเดิม

ที่รัฐสภา นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน  รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง  กล่าวถึงกรณีเรียกหัวหน้าพรรคหรือตัวแทนพรรคการเมืองประชุมเลือกกรรมาธิการสามัญสภาผู้แทนราษฎรว่า จะดำเนินการให้เร็วที่สุด โดยได้ส่งหนังสือนัดหมายพรรคการเมืองส่งตัวแทนพรรคละ 2 คน ในวันที่ 31 ส.ค. เวลา 13.30 น. เพื่อรับทราบสัดส่วนของกรรมาธิการที่แต่ละพรรคได้รับ ซึ่งคำนวณจากจำนวน สส. หลังจากนั้นจะให้ทุกพรรคกลับไปปรึกษาหารือภายใน เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการว่าเชี่ยวชาญหรือสนใจในคณะกรรมาธิการชุดใด โดยในวันที่ 7 ก.ย.66 จะนัดประชุมทุกพรรคการเมืองอีกครั้ง โดยมีตนเป็นประธาน เพื่อมาคัดเลือกว่าพรรคใดจะได้ประธานคณะกรรมาธิการใด ด้วยวิธีจับสลากหรือตกลงกัน

นอกจากนี้่ เมื่อได้ประธานกรรมาธิการแล้ว วันที่ 12 ก.ย.66 ให้แต่ละพรรคส่งรายชื่อ สส.ทั้ง 500 คน พร้อมระบุว่าท่านใด สังกัดอยู่คณะกรรมาธิการใดบ้าง และในวันต่อมาจะเสนอรายชื่อในห้องประชุมสภา แล้วเริ่มการประชุมกรรมาธิการนัดแรกในวันต่อไปทันที

ที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย จัดงานพบสื่อมวลชนประจำทำเนียบและกระทรวงฯ  เพื่ออำลาตำแหน่ง รมว.มหาดไทย ในโอกาสที่จะมีรัฐบาลใหม่ และถือเป็นวันครบรอบ 9 ปีที่ได้ดำรงตำแหน่ง รมว.มหาดไทย ตั้งแต่ปี 2557

พล.อ.อนุพงษ์กล่าวตอนหนึ่งว่า การที่มีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้ามา เมื่อตนลงจากตำแหน่งก็ถือเป็นประชาชนคนธรรมดา ไม่ว่าเขาจะทำอะไรหรือตัดสินใจอย่างไร เช่น การขึ้นภาษี และอื่นๆ อะไรก็ตามเป็นเรื่องของรัฐบาลชุดใหม่ เพราะการบริหารราชการแผ่นดินเชื่อว่า ตอนเราทำอย่างไรเมื่อเขาเข้ามา สื่อก็จะเป็นผู้เช็กความสมดุลให้โดยการวิพากษ์วิจารณ์หากทำดีหรือไม่ดี เพื่อให้สังคมลงตัว

เช่นเดียวกับทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้ง น.ส.รัชดา ธนาดิเรก,  น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล และ น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ได้ทำการสักการะพระพรหมบนตึกไทยคู่ฟ้า ศาลพระภูมิเจ้าที่ และศาลตาศาลยาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ในโอกาสกำลังจะสิ้นสุดวาระ จากนั้นเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มอบพวงมาลัยขอบคุณตลอดการทำงานที่ผ่านมา

เวลา 15.15 น. ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์จะเดินทางกลับ ได้ถ่ายรูปร่วมกับข้าราชการตำรวจประจำทำเนียบรัฐบาล​ทั้งหมด​ และในวันที่ 31 ส.ค.พล.อ.ประยุทธ์จะเข้าทำเนียบรัฐบาลเป็นวันสุดท้าย.