ซื้อได้หมด‘โชห่วย-ห้าง’ เงินดิจิทัลสะพัด2ล้านล.

"รมช.คลัง" การันตีจ่ายเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทผ่านบล็อกเชน รอบเดียวบูม 56 ล้านคน ไม่ต้องลงทะเบียนพิสูจน์ความจน ร้านโชห่วย-สะดวกซื้อ-ห้างใหญ่ ใช้ได้หมด รวมถึงเติมน้ำมัน ยกเว้นสินค้าอบายมุข คาดกระตุ้นเศรษฐกิจ 2 ล้านล้านบาท หนุนรัฐรีดแวตเพิ่ม 3 หมื่นล้านบาท

เมื่อวันที่ 6 กันยายน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ยืนยันว่าการจ่ายเงินดิจิทัล หรือดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน ไม่ใช้แอปพลิเคชันเป๋าตัง จะดำเนินการได้ภายในวันที่ 1 ก.พ.2567 หรือภายในไตรมาส 1/2567 เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ให้คนไทยกลับบ้านไปใช้จ่าย เป็นการปั๊มหัวใจเศรษฐกิจครั้งใหญ่ให้โงหัวขึ้น เพื่อที่จะดำเนินมาตรการเศรษฐกิจอื่นๆ ต่อเนื่อง โดยจะใช้วงเงิน 5.6 แสนล้านบาท จากหลายส่วน เช่น งบประมาณ การนำวงเงินที่ใช้ในโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมาใช้แทน การจัดเก็บรายได้ที่เพิ่มขึ้น เป็นต้น ซึ่งคาดว่าจะกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายอย่างน้อย 4 รอบ มีผลต่อเศรษฐกิจ 2 ล้านล้านบาท

 “รัฐบาลมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจให้ได้ไม่ต่ำกว่าปีละ 5% โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2567 จากที่ผ่านมาถือว่าเราโตต่ำกว่าศักยภาพ ซึ่งการจ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ต นอกจากจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายที่ประชาชนอยู่ในช่วงขาดกำลังซื้อแล้ว จะผลดีต่อการจัดเก็บรายได้จากภาษีมูลค่าเพิ่ม ไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาทต่อการใช้จ่าย 1 รอบ” นายจุลพันธ์ระบุ

สำหรับเงื่อนไขการเข้าร่วมมาตรการดิจิทัลวอลเล็ต ประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป จะได้สิทธิ์ทั้งหมด 56 ล้านคน ยึดที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน เบื้องต้นให้ใช้จ่ายกับร้านค้าในรัศมี 4 กิโลเมตร ซึ่งอยู่ระหว่างเพิ่มรัศมีให้เหมาะสม ไม่ต้องมีการพิสูจน์ความจน เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่าข้อมูลลงทะเบียนไม่ตรงความเป็นจริง ดังนั้นครั้งนี้จึงไม่ต้องลงทะเบียน จะใช้วิธีการโหลดแอปพลิเคชันขึ้นมาใหม่ ในรูปแบบของซูเปอร์แอป เพื่อให้คนไทยทุกคนมีกระเป๋า 2 ใบ คือ กระเป๋าเงินสดและดิจิทัลวอลเล็ต ส่วนกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ กลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน ผู้ป่วยติดเตียง ผู้อยู่พื้นที่ห่างไกล เป็นต้น จะต้องยืนยันตัวตนผ่านธนาคารของรัฐ เพื่อรับคิวอาร์โค้ดสำหรับการใช้จ่ายในโครงการแทนการใช้แอปพลิเคชัน

ทั้งนี้ วิธีการใช้จ่ายเงินจำนวน 1 หมื่นบาท จะถูกโอนเข้าบัญชีในดิจิทัลวอลเล็ตของทุกคน เป็นสิทธิ์ในการใช้จ่าย มีมูลค่าสิทธิ์เทียบเท่ามูลค่าเงินบาท คือ 1 บาทดิจิทัล เท่ากับ 1 บาท ผู้ได้รับสิทธิ์จะรับเงินดิจิทัลเพียงครั้งเดียว มีระยะเวลาใช้จ่าย 6 เดือน สามารถใช้จ่ายกับร้านค้าได้ทั้งหมด ร้านโชห่วย ร้านสะดวกซื้อ ห้างแม็คโคร รวมถึงห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ และสินค้าทุกชนิด เช่น สถานีบริการน้ำมัน โดยห้ามใช้เงินดิจิทัลกับสินค้าอบายมุขและการชำระหนี้เท่านั้น เพื่อต้องการกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายหมุนเวียน

นายจุลพันธ์กล่าวว่า ส่วนการนำเงินดิจิทัลแปลงเป็นเงินสด ให้สิทธิ์เฉพาะร้านค้าที่อยู่ในระบบฐานภาษีเท่านั้น เช่น นายเอ ที่ได้สิทธิ์ ไม่สามารถขึ้นเงินสดได้ ต้องไปซื้อของจากร้านค้าเท่านั้น เช่น ร้านบี แต่ถ้าร้านบี ไม่ได้อยู่ในฐานภาษี ร้านบี ก็ต้องนำเงินดิจิทัลไปลงทุนซื้อของมาจากร้านที่รับเงินดิจิทัลเท่านั้น เช่น ร้านซี และหากร้านซี อยู่ในระบบภาษี ร้านซีก็สามารถแปลงเงินดิจิทัลออกมาในรูปของเงินสดได้ และสามารถถอนเป็นเงินสดได้ที่ธนาคารของรัฐเท่านั้น ซึ่งส่วนนี้ยืนยันว่าติดขัดกับกฎหมายของธนาคารแห่งประเทศไทย เพราะไม่ได้เป็นการสร้างสกุลเงินใหม่

อีกทั้งข้อดีของดิจิทัลวอลเล็ตมีความปลอดภัยสูง และไม่ใช่ดิจิทัลเคอร์เรนซี จึงไม่มีการเก็งกำไร อีกทั้งยังสามารถป้องกันการรั่วไหลและทุจริตและควบคุมพื้นที่การใช้จ่ายได้ และสามารถติดตามเส้นทางของเงินได้ นอกจากนี้ กลุ่มเกษตรกรยังสามารถรวมตัวใช้สิทธิ์พร้อมกัน เพื่อลงทุนซื้อเครื่องมือทางการเกษตรได้ เช่น รถไถ รถเกี่ยวข้าว เป็นต้น หรือรวมตัวทำธุรกิจต่อยอดก็ได้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง