จับตาครม.นัดแรก 2ปีได้รถไฟฟ้า20บ.

ทูตสหรัฐเข้าแสดงความยินดีนายกฯ คนใหม่ "เศรษฐา" หวังได้ต้อนรับ "ไบเดน" เยือนไทย ย้ำถก ครม.นัดแรก 13 ก.ย. มีหลายเรื่องน่าสนใจ  ปัดประชุม ครม.เศรษฐกิจ บอกไม่จำเป็น อุบเปิดชื่อกระบอกเสียงรัฐบาล "รมต." ทยอยเดินทางเข้ากระทรวง  "ภูมิธรรม" เตรียมลุยดูแลปากท้อง-ค่าครองชีพ "สุริยะ" เผย 2 ปีได้แน่รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย "สุทิน" ขอคำแนะนำ "บิ๊กจิ๋ว" มท.1 ถือเคล็ดไม่เดินเข้ากระทรวงประตูทางออก

ตลอดทั้งวันที่ 7 ก.ย. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง  ปฏิบัติภารกิจอยู่ที่พรรคเพื่อไทย (พท.)  โดยในช่วงเช้าได้ให้การต้อนรับ 14 หน่วยงานที่เข้าพบ​ อาทิ​ สมาคมสตรีไทยดีเด่นแห่งชาติ, สมาคมชาวเหนือแห่งประเทศไทย, สมาคมไหหลำ,  สมาคมนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย​-เพชรบุรี,​ กงสุลกิตติมศักดิ์​ สหรัฐเม็กซิโก​ ประจำจังหวัดภูเก็ต เขตกงสุล​ภูเก็ต​ พังงา​ กระบี่ และนางเยาวเรศ​ ชินวัตร​

เวลา 11.00 น. นายเศรษฐาพร้อมด้วยนายปานปรีย์ พหิทธานุกร ​​รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การต่างประเทศ, นายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.การต่างประเทศ, นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี, น.ส.สรัสนันท์ อรรณนพพร สส.ขอนแก่น พรรค พท. และคณะทำงานด้านนโยบายการต่างประเทศ พรรค พท. ได้หารือกับนายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เกี่ยวกับการเดินหน้าการส่งเสริมการลงทุนในประเทศไทย

ต่อมาเวลา 13.00 น. นายโรเบิร์ต เอฟ. โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เข้าพบเพื่อแสดงความยินดีกับนายเศรษฐา ในโอกาสมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี โดยนายเศรษฐากล่าวขอบคุณเอกอัครราชทูตสหรัฐที่ร่วมแสดงความยินดี ชื่นชมความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทย-สหรัฐ ที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาอย่างยาวนาน และหวังจะได้พบประธานาธิบดีไบเดน ในระหว่างการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 พร้อมหวังว่าจะได้ให้การต้อนรับประธานาธิบดีไบเดนที่ประเทศไทยในอนาคตอันใกล้นี้

จากนั้นนายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ถึงการประชุม ครม.นัดแรก วันที่ 13 ก.ย. นอกจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และลดราคาพลังงานแล้ว มีเรื่องอะไรเร่งด่วนอีกบ้างว่า ขอให้อดใจนิดหนึ่ง เพราะมีหลายเรื่อง มีเรื่องที่เตรียมไว้ยาวมาก ทั้งนี้เราได้มีการประกาศไว้แล้วว่าการประชุม ครม.นัดแรกจะทำอะไรบ้าง และต้องไปดูว่าวันที่จะเริ่มทำได้จริงเมื่อไหร่ ถ้าพูดไปก่อนเดี๋ยวจะเกิดความสับสน อย่างไรก็ตาม วันเดียวกันนี้ก็จะพูดคุยภายในเกี่ยวกับการจัดเตรียมวาระ

ถามว่า การประชุมวันที่ 13 ก.ย.จะแบ่งงานให้รองนายกฯ เลยหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า น่าจะและกำลังทำอยู่ ซึ่งวันนี้ก็จะเป็นเรื่องหนึ่งในการพิจารณากับคณะทำงาน เมื่อถามว่านายกฯ ระบุจะนั่งเป็นประธาน ก.ตร. นายกฯ จะดูแลงานด้านความมั่นคงด้วยตัวเองเลยหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า เรื่องนี้จะพูดคุยกันในที่ประชุม ครม.ครั้งต่อไป และยืนยันจะไปกำกับดูแล ก.ตร.ด้วยตัวเอง

เศรษฐาลั่นไม่มี 'ครม.ศก.'

ซักถึงการประชุม ครม.จะมีการประชุม ครม.เศรษฐกิจโดยเฉพาะหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ขอย้ำอีกครั้งว่าการประชุม ครม.นอกสถานที่จะมีอย่างแน่นอน แต่จะเป็นเมื่อไหร่ ขอกำหนดวันเวลาอีกครั้ง ส่วนการประชุม ครม.เศรษฐกิจ ส่วนตัวคิดว่าการทำงานในสมัยนี้ไม่จำเป็นต้องนั่งล้อมวงกัน เสียเวลาเตรียมเอกสารที่มีค่อนข้างเยอะ เราใช้การทำงานแบบจับกลุ่มการพูดคุยและรวมตัวกันทำงานดีกว่า คนจะได้ไม่ต้องมาเตรียมเอกสารกันเยอะไปหมด อีกทั้งปัจจุบันมีวิธีสื่อสารหลายวิธี จึงคิดว่าการประชุม ครม.ไม่มีความจำเป็น แต่มั่นใจว่าทุกเรื่องจะเดินหน้าได้เร็วกว่าที่ทำในทุกวันนี้

ถามว่า รัฐบาลชุดนี้จะมีการกำหนดกรอบเวลาทำงานหรือไม่ ว่า 100 วันจะมีผลงานอะไรออกมา นายกฯ กล่าวว่า  ต้องขอพิจารณาก่อน ยังไม่มีการพูดคุยตรงนั้น แต่ยืนยันว่าจะเห็นผลงานอย่างแน่นอน

"วันนี้เป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่อง คือการเฟ้นหาบุคคลที่จะมารับตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเข้าใจว่าได้แล้ว และจะมีการพูดคุยอย่างดี จะได้ไม่ต้องมีความสับสน พูดกลับไปกลับมา  ไม่เช่นนั้นจะทำให้ประชาชนและสื่อมวลชนสับสนได้ ส่วนจะเป็นใครนั้น ขอเวลาอีกนิดเดี๋ยวได้ทราบ" นายกฯ กล่าว

ซักว่า นอกจากตำแหน่งโฆษกฯ แล้วตำแหน่งข้าราชการการเมืองอื่นๆ จะแต่งตั้งเลยหรือไม่ในการประชุม ครม.นัดแรก นายเศรษฐากล่าวว่า ก็คงมีบางส่วนด้วย เพราะหลายหน่วยงานมีการเตรียมเรื่องไว้แล้ว และถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการ

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแบ่งงานรองนายกฯ ว่า จากที่พูดคุยกันยังไม่เรียบร้อยดี เพราะถึงเวลาอาจจะเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งส่วนตัวมีงานที่ถนัดหลายอย่าง แต่ก็ต้องดูว่าจะได้รับมอบงานที่ถนัดหรือไม่ แต่หากได้งานที่ไม่ถนัดก็ไม่เป็นไร ก็ต้องศึกษา

ถามว่า ตอนนี้ สส.ในพรรค พท.หายงอนหรือยังที่พรรคไม่ได้รับผิดชอบกระทรวงเกษตรฯ นายสมศักดิ์กล่าวว่า  ไม่มีงอนแล้ว เพราะตั้งรัฐบาลแล้ว และนายกฯ ได้พูดแล้วว่าไม่ต้องไปคำนึงถึงเส้นแบ่งระหว่างพรรคการเมือง แต่ให้รัฐบาลเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และบูรณาการกันให้เป็นพลังสำคัญที่จะก้าวเดินไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว

ที่กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ ได้เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงพาณิชย์

นายภูมิธรรมกล่าวว่า จะมีการหารือกับผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ทั้งปลัดกระทรวงพาณิชย์ อธิบดีกรมต่างๆ เพื่อรับฟังรายละเอียดการทำงาน รับฟังความคิดเห็น โดยมีแนวทางการทำงาน คือร่วมมือกันเป็นทีม ทั้ง รมช.พาณิชย์และข้าราชการ ยึดนโยบายเร่งด่วนของนายกฯ เรื่องใดที่เป็นปัญหาประชาชนและทำได้ก่อนก็ให้ทำทันที ถ้าระเบียบขัดขวางเป็นอุปสรรคก็ต้องแก้

"เรื่องเร่งด่วน เช่น การดูแลค่าครองชีพให้กับประชาชน การดูแลราคาสินค้าที่จะต้องจัดการให้เหมาะสม แต่จะยึดหลักผู้ประกอบการต้องอยู่ได้ ประชาชนก็ต้องอยู่ได้ ถ้าอยู่ไม่ได้ก็มีปัญหา ต้องหาจุดสมดุล ส่วนเรื่องการส่งออกที่หลายฝ่ายมีความกังวลว่าขยายตัวติดลบมาต่อเนื่อง จะต้องเร่งหาตลาดใหม่โดยทำงานเชิงรุกทั้งกระทรวงพาณิชย์และทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ ที่จะต้องหาช่องทางขายสินค้า ซึ่งจะขอดูก่อน และหารือกันว่าจะช่วยกันอย่างไร" นายภูมิธรรมกล่าว

รมต.ทยอยเข้ากระทรวง

ถามว่า นโยบายการดูแลสินค้าเกษตรจะนำนโยบายรับจำนำกลับมาใช้หรือไม่ รมว.พาณิชย์กล่าวว่า ยังไม่ขอตอบ เพราะมีทั้งจำนำ มีทั้งประกันรายได้ และนโยบายก็มีข้อดี-ข้อเสียต่างกัน ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่จะต้องพิจารณาต่อไป

"สิ่งที่จะทำเลยจะเน้นการลดต้นทุน ลดรายจ่ายให้กับเกษตรกร เช่น ปุ๋ยเคมี อาหารสัตว์ ขณะที่การเจรจาการค้าระหว่างประเทศจะเดินหน้าต่อไปเพื่อขยายตลาดให้กับไทย โดยมีกรอบการเจรจาหลายฉบับที่ใกล้จะสำเร็จ ส่วนการทำข้อตกลงการค้ากับรัฐและมณฑล หากเป็นสิ่งที่ดีก็เดินหน้า ถ้าไม่ดีขอทบทวน" รมว.พาณิชย์กล่าว

ที่กระทรวงคมนาคม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม พร้อมด้วยนางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม และนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม ได้เข้าสักการะองค์พระพุทธคมนาคมบพิธ และไหว้ศาลพ่อปู่กระทรวงคมนาคม และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงคมนาคม

นายสุริยะกล่าวถึงประเด็นนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายว่า ต้องขอโทษประชาชนที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่านโยบายนี้ไม่เร่งด่วน เพราะยืนยันว่านโยบายนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลจะทำเพื่อแก้ไขปัญหาลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน แต่เนื่องจากการผลักดันนโยบายนี้ต้องมีความพร้อมจากทั้งภาครัฐและเอกชน หารือร่วมกันในการพัฒนาระบบตั๋วร่วม จึงต้องใช้เวลาในการหารือกับผู้ประกอบการ อีกทั้งต้องใช้เวลาติดตั้งระบบซอฟต์แวร์ที่ประเมินว่าใช้เวลาอย่างเร็ว 1 ปี ดังนั้นจึงประเมินว่าจะใช้เวลาทำงานเรื่องนี้ 2 ปีสำเร็จ

 “พอลดราคาค่าโดยสาร 20 บาท ผู้โดยสารก็จะเพิ่มขึ้น 10% รายได้ของผู้ประกอบการก็จะเพิ่มขึ้นทันที เมื่อเอกชนมีรายได้เพิ่มขึ้น ก็ต้องแบ่งปันผลประโยชน์ ซึ่งตอนนี้ทางกรมการขนส่งทางรางก็ประเมินตัวเลขออกมาแล้วว่า หากจะดำเนินการนโยบายนี้รัฐบาลต้องชดเชยเม็ดเงินเท่าไหร่ แต่ผมก็มอบหมายให้ไปหารือกับนักวิชาการ ม.ธรรมศาสตร์ ที่มีข้อมูลเรื่องนี้ และกลับมาทบทวนตัวเลขกัน ยืนยันว่า 20 บาทต้องทำแน่นอน แต่ขอเวลา” นายสุริยะกล่าว

ที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดีอีเอส เดินทางเข้ากระทรวงดีอีเอสเป็นวันแรก โดยเน้นย้ำนโยบายเร่งด่วนจัดการกับมิจฉาชีพออนไลน์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตลอดจนงานสนับสนุนรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ของรัฐบาล การกำหนดรูปแบบโครงการสำคัญที่กำลังดำเนินอยู่ เช่น ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการเรื่องกระเป๋าเงินดิจิทัลภายในปีหน้าตามนโยบายพรรคเพื่อไทย

ขณะที่นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม เดินทางเข้าพบ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ และ รมว.กลาโหม เพื่อขอคำแนะนำต่างๆ โดยพล.อ.ชวลิตกล่าวว่า ที่ผ่านมากองทัพได้มีการปรับปรุงแก้ไขและพัฒนามาโดยตลอด ซึ่ง รมว.กลาโหมจะต้องสนใจเรื่องความมั่นคงในประเทศ ซึ่งการที่พลเรือนมาคุมกองทัพเป็นสิ่งที่ดี เมื่อมารับผิดชอบในเรื่องความมั่นคงก็จะเห็นว่าต้องปรับปรุงแก้ไขบ้าง

"ยอมรับว่าปัญหาในกองทัพมีมาก เรื่องเร่งด่วนที่ต้องทำก่อนคือเรื่องคน ต้องมีการพัฒนายกระดับให้ทัดเทียม และเป็นที่ยำเกรงของต่างประเทศ รวมถึงพัฒนายุทโธปกรณ์ แต่เรื่องที่สามคือปัจจัยอื่นๆ ที่ควบคุมไม่ได้ นโยบายปรับลดกำลังพลทำกองทัพให้เล็กกะทัดรัด ต้องคำนึงถึงความแข็งแกร่ง และเป็นเสาหลักให้ประเทศด้วย" พล.อ.ชวลิตกล่าว

ที่วัดราชบพิธฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย พร้อมด้วยนายทรงศักดิ์ ทองศรี, นายชาดา ไทยเศรษฐ์ และนายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย เข้ากราบสักการะพระพุทธอังคีรส พระประธานในพระอุโบสถวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม จากนั้นนายอนุทินพร้อมคณะเดินเข้ากระทรวงมหาดไทย โดยนายอนุทินถือเคล็ดไม่เดินเข้ากระทรวงทางประตูทางออก  โดยยอมเดินอ้อมไปเข้าประตูทางเข้าทางประตูสิงห์ ริมคลองหลอด

นายอนุทินกล่าวว่า การปฏิบัติหน้าที่จะเริ่มอย่างเป็นทางการหลังวันแถลงนโยบายเป็นต้นไป ทุกอย่างก็จะเริ่มดำเนินการจากตรงนั้นไปในส่วนที่เป็นทางราชการ วันนี้ก็ถือว่าเข้ามาทำความรู้จักกับพี่น้องข้าราชการกระทรวงมหาดไทยทุกท่าน

"จากยุคที่ผมอยู่ที่นี่ จะไม่มีคำว่าท่าน ไม่มีคำว่านาย มีแต่พี่น้องในหมู่ข้าราชการ และทำงานด้วยกันด้วยเป้าหมายเดียวกัน บำบัดทุกข์ บำรุงสุขอย่างเดียวไม่พอ ประชาชนต้องอุดมสมบูรณ์พูนสุขกันถ้วนหน้า" นายอนุทิน กล่าว

ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.ทรัพยากรฯ เดินทางเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง โดยแสดงความเป็นห่วงปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่ประเทศไทยกำลังเผชิญปัญหาและสร้างผลบกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในฤดูหนาวของทุกปี. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง