คุก4ปี‘ทนายอานนท์’ รบ.ไม่จำกัดสิทธิชุมนุม

จำคุก "อานนท์" 4 ปี ไม่รอลงอาญา ฐาน "ดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้ายสถาบันกษัตริย์" ปรับตาม  พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2 หมื่น ส่งนอนเรือนจำหลังส่งศาลอุทธรณ์พิจารณาประกันตัว  “แอมเนสตี้” ยื่น จม.เปิดผนึกถึง “นายกฯ-รมว.ยุติธรรม” คืนสิทธิในการประกันตัวให้ผู้ต้องขัง "สมคิด" รับลูกเห็นด้วยนิรโทษกรรมคดีการเมือง "รังสิมันต์" จี้แก้ไข ม.112 โวย "ทนายอานนท์" ติดคุก 4 ปีหนักเกินไป อ้างมีลูกเล็กควรได้สิทธิประกันตัว  

ที่ห้องพิจารณา 811 ศาลอาญา  ถนนรัชดาภิเษก วันที่ 26 กันยายน ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.2495/2564 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ ฟ้อง นายอานนท์ นำภา อายุ 39 ปี ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เป็นจำเลย ในความผิดฐานดูหมิ่น สถาบันเบื้องสูง ร่วมกันมั่วสุมชุมนุม ก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ

กรณีเมื่อวันที่ 14 ต.ค.63 เวลากลางวัน จำเลยกับพวกได้ร่วมกันจัดกิจกรรมรวมกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมือง กลุ่มราษฎร 2563 ที่บริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ทำให้กระถางต้นไม้รอบอนุสาวรีย์ได้รับความเสียหาย โดยจำเลยใช้เครื่องขยายเสียงประกาศเรียกร้องให้รัฐบาลทำตามข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ได้แก่ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีลาออก แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ และปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยบางช่วงบางตอนของการปราศรัยจำเลยได้กล่าวแสดงความอาฆาตมาดร้ายดูหมิ่นสถาบันฯ               จำเลยให้การปฏิเสธ และได้รับการประกันตัว

โดยวันนี้นายอานนท์ จำเลย เดินทางมาฟังคำพิพากษาพร้อมด้วยภรรยาและลูกชาย ขณะที่มีทีมทนายความและตัวแทนสถานทูตเยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์   และสหประชาชาติ พร้อมมวลชนมาให้กำลังใจประมาณ 100 คน

ศาลอาญาพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายที่นำสืบหักล้างกันแล้ว เห็นว่า ฝ่ายโจทก์มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.สำราญราษฎร์  สน.ชนะสงคราม เบิกความสอดคล้องในทำนองเดียวกันว่า วันเกิดเหตุจำเลยกับพวกได้ร่วมกันจัดชุมนุมทางการเมือง โดยจำเลยแถลงข่าวและใช้สื่อโซเชียลชักชวนให้ประชาชนมาร่วมชุมนุมประมาณ 1,000 คน โดยมีข้อเรียกร้อง 3 ข้อให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และปฏิรูประบบสถาบันกษัตริย์

โดยบางช่วงบางตอน จำเลยปราศรัยว่า หากวันนี้มีการสลายการชุมนุมก็ไม่ต้องคิดมาก เพราะเป็นคำสั่งจากเบื้องบนเท่านั้น ซึ่งเป็นการดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้ายสถาบันกษัตริย์ให้ได้รับความเสื่อมเสีย ประชาชนเข้าใจผิดถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ทั้งที่จำเลยเป็นนักกฎหมายและทนายความ ย่อมทราบดีถึงขอบเขตการชุมนุมที่จะไม่กระทบสิทธิเสรีภาพและสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น อีกทั้งการชุมนุมของจำเลยเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ที่จำเลยอ้างว่าเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ชุมนุมได้รับความเดือดร้อนนั้น ไม่มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ หักล้างพยานโจทก์ได้

การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมฐานดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จำคุก 4 ปี และฐานกระทำ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ  ปรับ 20,000 บาท ส่วนข้อหาอื่นให้ยก

ด้านนายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความนายอานนท์ กล่าวว่า ญาติและนายอานนท์แจ้งว่าประสงค์จะยื่นประกันตัว และเตรียมหลักทรัพย์ไว้อัตราสูงสุดจำนวน 2 แสนบาท แต่เรากังวลว่าคดีที่มีอัตราโทษสูง 3-4 ปี ศาลชั้นต้นอาจจะส่งให้ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งประกัน ทำให้อาจจะใช้ระยะเวลาพิจารณานานหลายวัน จึงอยากจะขอให้ศาลคำนึงถึงสิทธิประกันตัวของจำเลยที่ยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ จนกว่าจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด

น.ส.ณัฐาศิริ เบิร์กแมน นายกสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน  กล่าวว่า ได้มายื่นหนังสือถึงอธิบดีศาลอาญาในวันนี้ และยื่นหนังสือถึงผู้พิพากษาศาลที่พิจารณาคำร้องขอปล่อยชั่วคราวของนายอานนท์ในวันนี้ด้วย โดยขอให้มีการพิจารณาทันทีโดยไม่ต้องส่งไปที่ศาลอุทธรณ์ เพื่อจะได้ไม่ละเมิดสิทธิของทุกคนที่ต้องการประสงค์ต่อสู้คดี

ต่อมานายกฤษฎางค์ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 2 แสนบาทขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดี  อย่างไรก็ตาม ศาลอาญาพิจารณาแล้วเห็นควรส่งเรื่องให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาเพื่อมีคำสั่งต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลอุทธรณ์น่าจะใช้เวลาพิจารณา 2-3 วัน จึงจะมีคำสั่งลงมา ทำให้นายอานนท์จะต้องถูกเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัวไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไปพลางก่อน

ทั้งนี้ นายอานนท์ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าฟังคำพิพากษาว่า ทั้งขบวนคนรุ่นใหม่ได้สร้างปรากฏการณ์ที่เปลี่ยนประเทศไปจนไม่สามารถย้อนกลับไปเหมือนเดิมได้แล้ว ผลการเลือกตั้งที่ผ่านมาก็ชัดเจนแล้ว คนรุ่นใหม่ก็โตมาโดยเชื่อในสิทธิเสรีภาพความเท่าเทียม ฝากให้กำลังใจขอบคุณคนที่สนับสนุน ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร การต่อสู้ยังไม่สิ้นสุด ตอนนี้กำลังใจยังดี วันนี้อาจจะสูญเสียเสรีภาพตามคำพิพากษา อาจจะหลายปี แต่ก็คุ้มค่าอย่างมากด้วยความเต็มใจ หากวันนี้ต้องเข้าคุกยังมีกลุ่มนักกิจกรรมออกมาเคลื่อนไหวเรื่อยๆ มีการผ่อนไปตามสถานการณ์ แต่เราจะไม่หยุด การต่อสู้มีเป้าหมายชัดเจนว่าเราต่อสู้เพื่ออะไร

ที่หน้าศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย นำโดย น.ส.ปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการฯ ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เรียกร้องให้คืนสิทธิในการประกันตัว ดูแลและเคารพสิทธิมนุษยชนของผู้ต้องขังเป็นอย่างดี พร้อมแสดงจุดยืนขอให้ยกเลิกข้อกล่าวหาต่อประชาชนที่ใช้สิทธิในเสรีภาพการเเสดงออกเเละการชุมนุมประท้วงโดยสงบ รวมทั้งต้องปล่อยตัวผู้ถูกคุมขังทันทีและไม่มีเงื่อนไข ซึ่งเป็นกิจกรรมภายใต้แคมเปญ #FREERATSADON

น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน อ่านข้อความของนายโสภณ สุรฤทธิ์ธำรง หรือเก็ท ที่เรียกร้องยุติการดำเนินคดีทางการเมืองที่เป็นไปตามสิทธิพลเมืองสิทธิมนุษยชน นิรโทษกรรมคดีทางการเมือง เพื่อให้สังคมไทยดำรงอยู่ในระบบประชาธิปไตยอันสอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชนได้อย่างสถาพร

ขณะที่ นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง  เป็นตัวแทนรับหนังสือ กล่าวว่า เข้าใจเรื่องของการถูกกระทำ เพราะตนเองก็โดนหลายคดี ซึ่งจากที่ น.ส.ทานตะวัน เสนอให้มีการนิรโทษกรรมในคดีทางการเมือง ตนก็ได้รับการประสานงานจากกลุ่มคนเสื้อแดง เสนอให้มีการนิรโทษกรรมเช่นเดียวกัน ซึ่งก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้ เพื่อตัดปัญหาสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต เพื่อเดินหน้าไปสู่อนาคต ขอย้ำว่ารัฐบาลของนายกฯ เศรษฐาไม่ได้จำกัดการชุมนุม เราเข้าใจเรื่องสิทธิทั้งหมด  และยิ่งไปกล่าวที่การประชุมสมัชชาสหประชาชาติแล้ว ก็เป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องทำส่วนเรื่องกระบวนการยุติธรรมนั้น พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ตนเองก็จะประสานงานส่วนตัวไป อะไรที่เร็วทำได้ ให้ทำก่อน                

ด้านนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ว่า การที่นายอานนท์โดนจำคุก 4 ปี ถ้าเทียบเทียมกับคดีอื่นๆ ถือว่าหนักมาก และนายอานนท์จะได้รับการประกันตัวหรือไม่ ถึงแม้นายอานนท์จะถูกศาลตัดสินไปแล้วก็ยังมีสิทธิ์ที่จะสู้คดี แสดงความบริสุทธิ์ในศาลอุทธรณ์และในศาลฎีกาต่อไป ซึ่งควรที่จะได้รับการประกันตัวมาสู้คดี หวังว่าจะได้รับการประกันตัว และถ้าพิจารณาในกฎหมาย นายอานนท์พิสูจน์แล้วว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมาไม่ได้หลบหนี ไม่ได้มีพฤติกรรมไปยุ่งเกี่ยวกับหลักฐาน ที่จะทำให้ไม่ได้รับสิทธิประกันตัว

ทั้งนี้ นายรังสิมันต์ยังวิงวอนขอให้นายอานนท์ที่มีลูกเล็กได้สิทธิประกันตัวเพื่อให้ได้ต่อสู้อย่างถึงที่สุด.         

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชั้น 14 เย็นไว้โยม! ‘ทักษิณ’ ยันทำตามกฎหมาย/ปัดครอบงำแค่ชวนกินมาม่า

“ทักษิณ” ตอบเรื่องชั้น 14 ยังมี 15-17 ยันทำในสิ่งที่ถูกต้อง ตามกฎหมาย ตามประเพณีปฏิบัติ ไม่ต้องสนใจอะไรเลย เผยไปบ้านจันทร์ส่องหล้าแค่กินมาม่าอร่อย

จับตา ‘อุ๊งอิ๊ง’! โชว์วิสัยทัศน์ เวทีผู้นำเอเปก

จับตา "นายกฯ อิ๊งค์" โกอินเตอร์! บินลัดฟ้าสหรัฐ ไม่ได้พบตัวแทนทำเนียบขาว แต่ไปเจอทีมไทยแลนด์ มอบนโยบายขับเคลื่อนความร่วมมือในภูมิภาคอเมริกา

‘แม้ว’ หวง ‘MOU44’

“ทักษิณ” เหน็บคนไม่รู้เอ็มโอยู 44 คืออะไร แต่ขอตีไว้ก่อน ไม่เห็นมีอะไรให้ตื่นเต้น ยันสนิทกับฮุน เซน สมัยเผาสถานทูต แต่ผลประโยชน์ประเทศต้องมาก่อน

‘พ่อนายกฯ’ เปิดศึก ซัดพวกขาประจำ !

อดีตผู้ป่วยร้ายแรง 4 โรค ฟิตจัด! “ทักษิณ” ไปอุดรฯ ชดเชยที่หนีไปต่างประเทศ 17 ปี ขอบคุณที่ไม่ลืมกัน เผยเสียงต่อต้าน "แพทองธาร" เป็นพวกขาประจำ