การันตีศก.สดใส ท่องเที่ยว-ส่งออก ดัชนีผู้บริโภคขยับ

“คลัง” การันตีเศรษฐกิจไทยเดือน ส.ค.2566 ยังสดใส ท่องเที่ยวหนุนเต็มสูบ ส่งออกพลิกโตบวก หลังตลาดคู่ค้าหลักเริ่มฟื้นตัว ดัชนีผู้บริโภคเริ่มขยับ เชื่อมั่นตั้งรัฐบาลใหม่ช่วยเข็นเศรษฐกิจโตต่อเนื่อง พร้อมจับตาแนวโน้มเศรษฐกิจโลก หวั่นส่งออกช่วงที่เหลือของปี

เมื่อวันที่ 28 กันยายน นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในเดือน ส.ค.2566 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวต่อเนื่อง โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย 2.47 ล้านคน ขยายตัว 107.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย จีน เกาหลีใต้ อินเดีย และเวียดนาม เช่นเดียวกับการท่องเที่ยวภายในประเทศ ที่มีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 20.1 ล้านคน ขยายตัว 20.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

ขณะที่การส่งออกสินค้ากลับมาขยายตัวเป็นบวก โดยมูลค่าการส่งออกสินค้ารวมในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ อยู่ที่ 24,279.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 2.6% ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการขยายตัวของสินค้าในหมวดอุปกรณ์กึ่งตัวนำฯ หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า และเครื่องโทรศัพท์อุปกรณ์และส่วนประกอบ รวมถึงสินค้าในหมวดผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็งและแห้ง สิ่งปรุงรสอาหาร ผักกระป๋องและผักแปรรูป และนมและผลิตภัณฑ์  ส่วนการส่งออกยางพารา น้ำตาลทราย  และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังยังคงชะลอตัว ขณะที่ตลาดคู่ค้าหลักของไทย พบว่า ส่วนใหญ่ปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะทวีปออสเตรเลีย สหรัฐ ญี่ปุ่น รวมถึงจีน ที่กลับมาขยายตัวที่ 1.9% และยังมีกลุ่มตลาดอื่นๆ ที่ขยายตัวได้ดี อาทิ กลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช (Commonwealth of Independent States: CIS) ที่ขยาย 30.4%   

สำหรับเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน มีสัญญาณทรงตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยการบริโภคในหมวดสินค้าคงทน สะท้อนจากปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่ง เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 4.9% ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 56.9 จากระดับ 55.9 ในเดือนก่อน เนื่องจากผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นว่าการจัดตั้งของรัฐบาลใหม่จะเป็นปัจจัยสนับสนุนต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวต่อเนื่อง ส่วนรายได้เกษตรกรที่แท้จริงลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ -1.7% ขณะที่การลงทุนภาคเอกชน มีสัญญาณทรงตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากปริมาณนำเข้าสินค้าทุน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 0.2% ขณะที่ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน -19.9%

นายพรชัยกล่าวอีกว่า ในส่วนของเครื่องชี้เศรษฐกิจไทยด้านอุปทาน มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนจากภาคเกษตรและภาคบริการ โดยภาคการเกษตร สะท้อนจากดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรกรรม เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 2.1% จากการขยายตัวของผลผลิตในหมวดปศุสัตว์ โดยเฉพาะสุกร และหมวดไม้ผล สำหรับภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 91.3 จากระดับ 92.3 ในเดือนก่อนหน้า เนื่องจากมีความกังวลว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัว

อย่างไรก็ดี เสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือน ส.ค.2566 อยู่ที่ 0.88% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.79% ส่วนสัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือน ก.ค.2566 อยู่ที่ 61.7% ต่อจีดีพี ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลัง ขณะที่อัตราการว่างงาน ในเดือน ส.ค.2566 อยู่ที่ 1.0% ของกำลังแรงงานรวม และผู้ขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานรายใหม่ อยู่ที่ 0.63% ของผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ทั้งหมด ส่วนเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับที่มั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือน ส.ค.2566 อยู่ที่ 216.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยยังคงต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและผลกระทบต่อภาคการส่งออกสินค้าของไทยในช่วงที่เหลือ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง