ควํ่ากม.2ฉบับ ล้างมรดกคสช. ก้าวไกลลุยต่อ

สภาตีตก 2 ร่างกฎหมายล้างมรดก คสช.ฉบับ "จอน-ปิยบุตร" ไอลอว์ผิดหวัง ปลุกประชาชนอย่าเลือก ส.ส.เหล่านี้กลับเข้าสภาอีก ก้าวไกลซัดมติอัปยศ ลั่นเดินหน้ารื้อระบอบประยุทธ์ต่อ

ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาคนที่สอง ทำหน้าที่เป็นประธานที่ประชุม ได้มีการลงมติร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ยกเลิกประกาศและคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย พ.ศ. …. ที่เสนอโดยนายจอน อึ๊งภากรณ์ กับประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง จำนวน 12,609 คน เป็นผู้เสนอ และร่าง พ.ร.บ.ยกเลิกประกาศ คสช.และคำสั่งหัวหน้า คสช. พ.ศ. …. ที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล กับคณะเป็นผู้เสนอ ซึ่งสมาชิกได้อภิปรายแสดงความคิดเห็นเสร็จสิ้นไปแล้วเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา เหลือเพียงการลงมติเท่านั้น

โดยที่ประชุมลงมติไม่เห็นชอบผ่านร่างของนายจอน ด้วยคะแนน 234 ต่อ 162 คะแนน งดออกเสียง 3 คะแนน ไม่ลงคะแนน 1 คะแนน และไม่เห็นชอบผ่านร่างของนายปิยบุตร ด้วยคะแนน 229 คะแนน ต่อ 157 คะแนน งดออกเสียง 4 คะแนน ไม่ลงคะแนน 2 คะแนน จึงถือว่าที่ประชุมสภาไม่เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ทั้ง 2 ฉบับ

จากนั้น ส.ส.พรรคก้าวไกล อาทิ นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พร้อมด้วยนายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเตอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) ร่วมกันแถลง

โดยนายยิ่งชีพ ในฐานะผู้ชี้แจงร่างกฎหมาย กล่าวว่า ประชาชนอาจรู้สึกผิดหวัง เสียใจ โกรธ ที่สภาปัดตกร่างกฎหมายดังกล่าว โดยไม่แม้แต่จะรับในสิ่งที่ประชาชนช่วยกันรณรงค์ ทำกิจกรรมมากว่าหลายร้อยครั้งเพื่อมาเสนอสู่สภา เราหวังอยากจะเห็นสภาที่มาจากการเลือกตั้งได้ตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจที่มาจากรัฐประหาร ที่เราเคยอยู่ภายใต้ประกาศคำสั่งที่มีการจับกุม คุมขัง ละเมิดสิทธิเสรีภาพ ออกกฎหมายเพื่อเอื้อประโยชน์ไปถึงที่ดิน ผืนป่า แต่ผลออกมา ส.ส.ส่วนใหญ่ไม่รับหลักการ และไม่มี ส.ส.คนใดอธิบายเหตุผลได้เลยว่าไม่รับหลักการเพราะเหตุใด หรือมีความชอบธรรมใด

"แต่เรายังมีอำนาจสำคัญตามกลไกระบอบประชาธิปไตย คือการเลือกตั้งครั้งต่อไปขอให้ประชาชนจดจำ ส.ส.เอาไว้ ใครที่ไม่รับหลักการโดยไม่มีเหตุผล ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปเราจะไม่เลือกคนเหล่านั้นเข้ามา ยังมีกฎหมาย คสช.อีกหลายฉบับที่ยังจำเป็นต้องถูกตรวจสอบ ไม่ว่าจะขณะนี้หรือในอนาคต ประชาชนยังต้องรวมพลังกันสู้ต่อไปอีกหลายครั้ง" นายยิ่งชีพระบุ

ด้านนายณัฐวุฒิกล่าวว่า ร่างกฎหมายประกาศคำสั่ง คสช.ยังมีผลบังคับใช้อยู่ในปัจจุบันประมาณ 16 ฉบับ โดยเฉพาะคำสั่ง คสช.ที่ 3/2558 คำสั่งเรียกรายงานตัว รวมไปถึงการอุ้มหาย ละเมิดสิทธิ จนกระทั่งเสียชีวิต จากผลกระทบของคำสั่งนี้ คำสั่งที่เกี่ยวกับผังเมือง อีอีซี เป็นที่มาของนิคมอุตสาหกรรมจะนะที่กำลังเป็นประเด็นขณะนี้ กฎหมายเกี่ยวกับการทวงคืนผืนป่าที่มีผู้ได้รับผลกระทบกว่า 20,000 ราย จาก 10,000 กว่าคดี เป็นต้น ซึ่งพรรคก้าวไกลต้องขอบอกว่าผิดหวัง แต่ไม่ผิดคาด เช่นเดียวกับที่นายยิ่งชีพได้กล่าวไป ไม่มี ส.ส.คนใดให้เหตุผลได้เลยว่าอะไรคือปัจจัยที่ลงมติไม่รับหลักการ ในเมื่อพวกเราบอกว่ามาจากการเลือกตั้ง แต่ยังมีคำสั่ง คสช.กดหัวพวกเราอยู่ ทำไมถึงไม่ช่วยกัน ยืนยันว่าเราจะยังเดินหน้ารื้อมรดก คสช. รื้อระบอบประยุทธ์ทั้งหมด

นายรังสิมันต์กล่าวว่า ตนผิดหวังจริงๆ ความตั้งใจในการยกเลิกประกาศคำสั่ง คสช. เราเชื่อว่ามันคือการถอดสลักสำคัญทางการเมือง ประชาชนมากมายและ ส.ส.พรรคก้าวไกลทั้ง 52 คนได้รับผลกระทบจากประกาศคำสั่ง คสช.ที่ควบคุมปิดปากไม่ให้พูด เราหวังว่าเสียงนี้จะดังไปถึง ส.ส.ให้ช่วยกันเดินหน้าประเทศอีกครั้ง แต่ ส.ส.ที่ลงมติไม่รับหลักการกลับไม่อธิบาย ไม่สื่อสารให้ประชาชนทราบ ทั้งที่ร่างกฎหมายดังกล่าวใช้เวลาถึง 2 ปีกว่าจะเข้าสู่สภา มีเวลาเตรียมตัวชี้แจง แต่ก็ไม่มีคำตอบ ไม่พูดอะไร แล้วลงมติ จึงขอให้ประชาชนช่วยกันตรวจสอบนักการเมือง หรือ ส.ส.คนไหนที่คัดค้านไม่ให้ประเทศเดินหน้าไปสู่ระบอบประชาธิปไตย

"คนที่โหวตไม่รับหลักการ ขอให้ไปส่องกระจกว่าจำได้หรือไม่ตัวเองเป็นใคร ใครเลือกท่านมา คสช.หรือประชาชนเลือกท่านมา ถ้าจำตัวเองได้ก็ขอให้แก้ปัญหาให้ประชาชน แต่ถ้าจำไม่ได้ประชาชนก็จะจำท่านไม่ได้เหมือนกัน เหมือนผลกรรมที่ท่านทำมา" นายรังสิมันต์ระบุ

นางอมรัตน์กล่าวว่า ผิดหวังเป็นอย่างมากกับผลการลงมติอัปยศ ถือเป็นเรื่องผิดปกติอย่างมาก แต่ก็ขอให้กำลังใจประชาชน แม้จะโดนปัดตกแต่ไม่สูญเปล่า อย่างน้อยเราก็ได้เปิดหน้ากากคนที่ไม่ยอมปลดแอกออกจากบ่าและไม่ยอมปลดโซ่ตรวนแล้ว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง