หึ่ง!ฮามาสจับ54คนไทย

นายกฯ เผยแรงงานไทยในอิสราเอลดับเพิ่ม 2 ราย ยังไม่ได้รับรายงานถูกจับเป็นตัวประกันรวม 54 คน  บัวแก้วรอยืนยันจากรัฐบาลอิสราเอล  สรุปตัวเลขเสียชีวิต 33 คน บาดเจ็บ 18  โดนคุมตัว 18 ราย ขณะที่สื่อนอกอ้างอิสราเอลระบุฮามาสจับตัวประกัน 220คน จาก 25 ประเทศ รวมถึงชาวไทย 54 คน

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง กล่าวถึงความคืบหน้าในการช่วยเหลือแรงงานไทยในอิสราเอลว่า ได้รับรายงานว่ามีคนไทยเสียชีวิตเพิ่มอีก 2 คน โดยยังคงมีการเจรจาอยู่อย่างต่อเนื่อง 

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ตอบกระทู้ถามสดด้วยวาจาต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน   รองประธานสภาฯ คนที่สอง เป็นประธานในการประชุม โดยนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ถามเกี่ยวกับการเดินทางเยือนต่างประเทศว่าได้อะไรบ้าง 

นายเศรษฐากล่าวตอนหนึ่งถึงเรื่องการเยียวยาแรงงานไทยในอิสราเอลว่า  เป็นเรื่องที่สะเทือนใจของทั้งตนและรัฐมนตรีคนอื่นๆ ทั้งในกรณีที่มีปัญหาในการลำเลียงแรงงานกลับมา แม้จะนำกลับมาได้แล้วกว่า 4,000 คน แต่ยังเหลืออีกครึ่งหนึ่ง ปัญหารายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เป็นปัญหาใหญ่ของการบริหารจัดการ เพราะเมื่อ 4-5 วันที่ผ่านมา เริ่มมีแรงงานเปลี่ยนใจไม่อยากกลับ เพราะนายจ้างสัญญาว่าจะให้เงินเพิ่ม รวมถึงจ่ายเงินให้ในวันที่ 10 พ.ย. ทำให้แรงงานหวั่นไหว ไม่ยอมกลับมา สะท้อนถึงปัญหาเศรษฐกิจของประเทศสะท้อนถึงปัญหาความยากจนของพี่น้องประชาชน ทำไมเขาถึงต้องไปแลกชีวิตกับเงินพิเศษอีก 50,000 บาท และต้องอยู่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายถึงวันที่ 10 พ.ย. ซึ่งทราบดีว่าสงครามนี้จะพัฒนาไปเป็นความรุนแรงที่มากขึ้น รวมถึงการปฏิบัติการภาคพื้นดินที่จะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ จะนำมาซึ่งความสูญเสียอย่างมโหฬาร เรื่องนี้รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ซึ่งอาจจะใช้แผนซ้อนแผน ขอบคุณที่ให้คำแนะนำมา แต่เหนือสิ่งอื่นใดตอนนี้ทำอะไรได้ต้องทำก่อน

นอกจากนี้่ ได้มีการประสานกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรว่า อาจจะมีการให้สินเชื่อพิเศษในมูลค่าไม่เกิน 150,000 บาท เพื่อเป็นแรงจูงใจให้แรงงานกลับมา และอาจจะให้สามารถผ่อนจ่ายระยะยาว 20 ถึง 30 ปี โดยคิดดอกเบี้ยร้อยละ 0.1 เพื่อเป็นแรงจูงใจ ด้านกระทรวงแรงงานเองจะมีแพ็กเกจพิเศษเสริมในการดึงแรงงานกลับมาให้ได้โดยเร็วที่สุด ฝ่ายความมั่นคงได้มีการส่งหน่วยกำลังเข้าไป เพื่อต่อรองช่วยลำเลียงทางด้านโลจิสติกส์ รัฐบาลพยายามทำเต็มที่เพื่อบริหารจัดการในการแรงงานกลับมาได้โดยเร็ว ไม่อยากให้คำนึงถึงเรื่องเงิน เราต้องให้การช่วยเหลือเยียวยา ใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้แรงงานสามารถกลับได้อย่างปลอดภัย โดยยืนยันว่าจะต้องยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน

ในช่วงเย็น นายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีสำนักข่าวรายงานว่ามีการจับคนไทยเป็นตัวประกันเพิ่มล่าสุดรวมแล้ว 54 รายว่า ยังไม่ได้รับรายงาน ก่อนที่จะย้อนถามว่ารายงานตัวเลขดังกล่าวมาจากไหน เพราะล่าสุดยังไม่ได้รับรายงานอะไรเข้ามา เพราะอยู่ระหว่างการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.)

"เพิ่มเป็น 54 คนจาก 19 คน เรื่องนี้ไม่ทราบจริงๆ เดี๋ยวจะสอบถามไป จะโทรศัพท์หาเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย และจะติดตามด้วย ยืนยันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง ยืนยันไม่ได้ลดความสำคัญลงไป" นายเศรษฐาระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศแจ้งสถานะคนไทยที่ได้รับผลกระทบในอิสราเอล ณ คืนวันที่ 25 ต.ค. ดังนี้  ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 2 ราย รวม 33 ราย ผู้บาดเจ็บ 18 ราย และผู้ที่คาดว่าถูกควบคุมตัว จํานวน 18 ราย โดยลดลง 1 ราย เนื่องจากทางการอิสราเอลแจ้งยืนยันรายชื่อว่าเป็นผู้เสียชีวิต

ทั้งนี้ จากที่มีรายงานข่าวว่า มีคนไทยถูกจับกุมตัวไป 54 คนนั้น ยังอยู่ระหว่างการขอยืนยันตัวเลขดังกล่าวจากทางการอิสราเอล อย่างไรก็ตาม  จนถึงวันที่ 26 ต.ค.66 ทางการไทยได้จัดเที่ยวบินอพยพกลับถึงประเทศไทยแล้วจำนวน 21 เที่ยวบิน และมีผู้ได้รับการช่วยเหลือผ่านสถานทูตแล้ว 4,223 คน โดยมีเที่ยวบินอพยพที่จะกลับถึงไทยในวันที่ 27 ต.ค.66 ดังนี้ 1.TG8953 ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 01.40 น. จำนวนผู้ลงทะเบียน 280 คน และ 2. LY085 ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 08.50 น. จำนวนผู้ลงทะเบียน 268 คน

นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ฝ่ายไทยยังไม่ยืนยันว่าจำนวนตัวประกันดังกล่าวถูกต้องหรือไม่ ดังนั้น ณ เวลานี้เรายังยืนยันตัวเลขที่ยอดรวมเดิมคือ ผู้เสียชีวิต 33 คน ผู้บาดเจ็บ 18 คน และผู้ถูกจับเป็นตัวประกัน 18 คน ทั้งนี้ เราต้องรอการยืนยันอย่างเป็นทางการจากทางอิสราเอล แต่เบื้องต้นได้สอบถามกับเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอลแล้ว ซึ่งยังยืนยันที่ตัวเลขเดิมคือ 18 คน

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า  กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ขานรับนโยบายนายกฯ เตรียมมาตรการดูแลแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากประเทศอิสราเอล โดยเตรียมตำแหน่งงานในต่างประเทศที่มีรายได้และลักษณะงานใกล้เคียงกับงานในประเทศอิสราเอลให้กับแรงงานไทยที่ต้องการเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ในส่วนของแรงงานไทยที่ไม่ประสงค์เดินทางไปทำงานต่างประเทศแล้ว ซึ่งได้เตรียมตำแหน่งงานว่างจากทั่วประเทศ จำนวน 63,296 อัตราไว้รองรับ นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมการประกอบอาชีพอิสระ การรับงานไปทำงานที่บ้าน และแนะนำแหล่งเงินทุนที่ถูกกฎหมายจากกองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้าน สำหรับผู้ที่ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 1-10 หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดงาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694

ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ เวลา 10.30 น. ร่าง 7 แรงงานไทยที่เสียชีวิตจากสงครามในอิสราเอลได้กลับมาถึงประเทศไทยแล้ว โดยสายการบิน El Al Israel Airlines เที่ยวบินที่ LY083 ซึ่งประกอบด้วย 1.นายธีรพงษ์ กลางสุวรรณ ชาวจังหวัดอุดรธานี 2.นายศักดา สุระคาย ชาวจังหวัดหนองคาย 3.นายนิติกร แซ่ว่าง ชาวจังหวัดเชียงราย 4.นายอภิชาติ กุสะรัมย์ ชาวจังหวัดขอนแก่น 5.นายศักดิ์สิทธิ์ โคตมี ชาวจังหวัดอุดรธานี 6.นายศรีทัศน์ กาเหว่า ชาวจังหวัดกำแพงเพชร 7.นายพิรุฬห์ พานนพิมพ์ ชาวจังหวัดอุดรธานี

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในจำนวนผู้เสียชีวิต 7 ราย มี 1 ราย คือ นายอภิชาติ กุสะรัมย์ อายุ 29 ปี ชาวขอนแก่น ที่ไปทำงานในฟาร์มเลี้ยงสัตว์พร้อมกับน้องชายคือ นายพงษ์เทพ กุสะรัมย์ อายุ 26 ปี และถูกกลุ่มฮามาสบุกยิงเสียชีวิตทั้ง 2 คน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการส่งศพคนน้องกลับมาแล้วเมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา และทางครอบครัวได้ทำพิธีฌาปนกิจที่วัดหัวหินประเสริฐธรรม จ.ขอนแก่น วันที่ 23 ต.ค.
นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตทุกรายจะได้รับสิทธิประโยชน์การเยียวยาเท่ากันทั้งหมด ต่างกันแค่สิทธิประกันสังคมที่เพิ่มเข้ามา ซึ่งมีอยู่ 5 ราย ขณะที่รัฐบาลยังคงเร่งนำแรงงานไทยกลับประเทศให้เร็วที่สุด เนื่องจากยังไม่ทราบว่าสถานการณ์จะยุติลงเมื่อใด โดยทุกคนที่เดินกลับมายืนยันว่ากระทรวงแรงงานจะดูแลสิทธิประโยชน์ให้ทั้งหมด ส่วนขั้นตอนการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลจากอิสราเอล ที่เหลือยังต้องใช้เวลาพอสมควร

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กลุ่มฮามาสยังคงจับกุมตัวประกันไว้ในฉนวนกาซากว่า 220 คน และมากกว่าครึ่งหนึ่งของตัวประกันเหล่านั้นถือครองหนังสือเดินทางจาก 25 ประเทศ รวมถึงชาวไทย 54 คน ตามรายงานของรัฐบาลอิสราเอลระบุเมื่อวันพุธ

ข้อมูลตัวเลขล่าสุดของรัฐบาลอิสราเอลระบุว่า มีบุคคลราว 328 คน จาก 40 ประเทศ ได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิตหรือสูญหาย นับตั้งแต่กลุ่มฮามาสเริ่มโจมตีทางตอนใต้ของอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. โดยรวมแล้วมีผู้เสียชีวิตจากการโจมตีครั้งนี้ประมาณ 1,400 ราย

อิสราเอลระบุว่า ตัวประกัน 138 คน มีหนังสือเดินทางต่างประเทศ แบ่งเป็นชาวอาร์เจนตินา 15 คน, เยอรมนี 12 คน, อเมริกัน 12 คน, ฝรั่งเศส 6 คน, รัสเซีย 6 คน, เนปาล 5 คน, จีน 1 คน, ศรีลังกา 1 คน, แทนซาเนีย 2 คน และฟิลิปปินส์ 2 คน โดยเชื่อกันว่ามีตัวประกันจำนวนหนึ่งถือ 2 สัญชาติและมีลักษณะคล้ายคนไทย จึงยังไม่สามารถชี้ชัดได้

คนไทยถือเป็นกลุ่มชาวต่างชาติที่เสียชีวิตและสูญหายจำนวนมากที่สุด โดยได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิต 24 ราย และอีก 21 รายยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ โดดป้อง 'อุ๊งอิ๊ง' ปมแบงก์ชาติ อ้างแค่สะท้อนความต้องการประชาชน

นายกฯ ป้อง “อุ๊งอิ๊ง“ สปีชเวทีเพื่อไทย แค่สะท้อนความต้องการประชาชน ลั่น ไม่เคยบีบบังคับใคร เข้าใจความเป็นอิสระ เตรียมคุย ”รมว.คลัง“ หาทางทำงานร่วมแบงค์ชาติ