อึ้ง!คนกรุงเทสังกัดพรรค

“บิ๊กป้อม” โยนลูกกรรมการบริหารพรรค เคาะคำตอบส่งชิงเลือกตั้งซ่อม 21 ธ.ค. แทงกั๊กชื่อ "มาดามแป้ง” นำทัพศึกเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม. ขณะที่ “ปชป.” หลอน โพลขุดหลุมฝัง ชี้คนกรุงยุคใหม่เทพรรคการเมือง

เมื่อวันศุกร์ พล.อ.ประวิตร​ วงษ์สุวรรณ​ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม เขต 6 สงขลา โดยมีชื่อนายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ เปิดตัวเป็นผู้สมัครในนามพรรคพลังประชารัฐ ว่ายังไม่มีๆ

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรค พปชร.จะส่งผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมเพียงจังหวัดเดียวหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ยังไม่รู้ ยังไม่ส่ง เมื่อถามย้ำว่า แต่มีข่าวมาจากในพื้นที่ พล.อ.ประวิตรกล่าวย้อนว่า ใครบอก ยังไม่มี ตอนนี้ยังไม่ได้มีการประชุมพรรค พปชร. โดยจะประชุมในวันอังคารที่ 21 ธ.ค.นี้ และจะสรุปว่าจะส่งหรือไม่ส่ง บางทีอาจจะไม่ส่งเลย หรือส่งทั้งสองคน บางทีก็ส่งคนเดียว แล้วแต่พรรคพิจารณา

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ในที่ประชุมพรรคสัปดาห์หน้าจะพิจารณาเรื่องผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ไปพร้อมกันด้วยหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ยังๆ เพราะยังมีอีกหลายคน ต้องหาคนที่เหมาะสม เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่มีชื่อของนางนวลพรรณ ล่ำซำ หรือมาดามแป้ง ผู้จัดการฟุตบอลทีมชาติไทย พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ให้ไปถามมาดามแป้งเอง จะมาถามอะไรตน เมื่อถามย้ำว่าชื่อของมาดามแป้งอยู่ในรายชื่อพิจารณาลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ถามซ้ำๆ อย่างนี้ไม่ควรถาม

ผู้สื่อข่าวถามว่า อยากได้สเปกผู้ว่าฯ กทม.แบบไหน พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า อยากได้คนดีและโปร่งใสแล้วทำงาน คนรุ่นใหม่หรือคนรุ่นเก่าก็ได้ ขอให้ทำงานได้และต้องแข็งแรง ไม่ใช่อย่างตนเอง ตอนนี้ยังไม่มีใครในใจ ก็บอกแล้วให้เป็นอำนาจของ กก.บห.พปชร.

วันเดียวกัน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น สิงห์สยามโพล คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชาญชัย จิตรเหล่าอาพร คณบดีบัณฑิตวิทยาลัยสาขารัฐศาสตร์ แถลงผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร เรื่องการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) โดยทำการสำรวจข้อมูลระหว่างวันที่ 1-10 ธันวาคม 2564 ด้วยแบบสอบถามออนไลน์จากประชาชนในเขตกรุงเทพฯ ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,642 ตัวอย่าง

โดยผลสำรวจระบุว่า ผู้ว่าฯ กทม.ไม่จำเป็นต้องสังกัดพรรคการเมือง โดยด้านคุณลักษณะของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เห็นว่าคุณลักษณะของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ควรมีความรู้ ความสามารถ มากที่สุดถึง 31.1% มากกว่าคุณลักษณะด้านภาวะผู้นำและซื่อสัตย์สุจริต คิดเป็น 15.6% หรือประเด็นอื่นๆ เช่น การเป็นนักประสานผลประโยชน์ระดับชาติและพื้นที่ คิดเป็น 11.1% โดยเฉพาะการมีคุณธรรม จริยธรรม และอื่นๆ คิดเป็น 8.9%

ขณะที่ด้านการสังกัดพรรคการเมืองของผู้สมัครรับเลือกตั้ง พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เห็นว่าผู้สมัครรับเลือกตั้งไม่จำเป็นต้องสังกัดพรรคการเมือง คิดเป็น 84.1% แต่หากจำเป็นต้องเลือกผู้สมัครจากพรรคการเมือง พบว่า พรรคเพื่อไทย คิดเป็น 11.1% พรรคก้าวไกล 8.9% พรรคอื่นๆ คิดเป็น 6.72% พรรคประชาธิปัตย์ คิดเป็น 6.7% และสุดท้าย พรรคพลังประชารัฐ และพรรคกล้า คิดเป็น 2.2% ซึ่งต่างมีความนิยมใกล้เคียงกัน แต่พบข้อสังเกตว่าพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์นั้นถือเป็นคู่แข่งสำคัญในสนามการเลือกตั้งครั้งนี้

เมื่อมองถึงการคาดหวังต่อนโยบายของกรุงเทพมหานครจากผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่นั้น พบว่า สภาพปัญหาที่ประชาชนในกรุงเทพมหานครรู้สึกอึดอัดและต้องการการแก้ไขปัญหามากที่สุดยังคงเป็นเรื่องของปัญหาการจราจร 26.7%.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เศรษฐา' ตั้ง 6 รองนายกฯรักษาราชการแทน พร้อมแบ่งงาน ใครคุมหน่วยงานใด

น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (7 พ.ค.) คณะรัฐมนตรีรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 166/2567 เรื่อง มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี