ท็อปแนะใจเย็น สงกรานต์30วัน ‘ช่อ’หวั่นเผาเงิน

"บิ๊กทิน" รับลูก "อุ๊งอิ๊ง" จัดสงกรานต์ทั้งเดือนเม.ย.67 พร้อมส่งทหารช่วยงาน ตร.-ฝ่ายปกครอง “วราวุธ” วอนคนวิจารณ์นโยบายซอฟต์พาวเวอร์ใจเย็น เชื่อผลงานจะช่วยลบคำครหา ด้าน "พรรณิการ์" ห่วงละลายแม่น้ำไปกับอีเวนต์

เมื่อเวลา 12.25 น. วันที่ 3 ธ.ค. ที่กองบัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี  ต.โนนสูง อ.เมืองฯ จ.อุดรธานี นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เสนอจัดงานสงกรานต์ตลอดทั้งเดือนเม.ย.67 ในส่วนของฝ่ายความมั่นคงพร้อมสนับสนุนอย่างไร ว่าหากจัดนานก็ต้องดูแลความเรียบร้อยมากขึ้น  เพราะกำลังตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองไม่พอ ดังนั้นทหารยินดีให้การสนับสนุน

เมื่อถามว่า เห็นด้วยที่ให้จัดงานสงกรานต์ตลอดทั้งเดือนเม.ย.ใช่หรือไม่  นายสุทินกล่าวว่า เห็นด้วย ส่วนเรื่องของระยะเวลามากน้อยอย่างไรคงต้องดูกันอีกครั้ง

ขณะที่ นายวราวุธ ศิลปอาชา  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)  กล่าวถึงกรณีมีการวิพากษ์วิจารณ์การใช้งบประมาณสำหรับนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ว่า เชื่อว่าคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์มีบุคลากรที่มีคุณภาพหลายฝ่าย คงช่วยกันดูและแนะนำว่าควรจะดำเนินการไปในทิศทางใด

  “ประเทศไทยของเรามีเรื่องดีๆ หลายอย่าง ที่สามารถดึงดูดและโน้มน้าวจิตใจคนประมาณ 8,000 ล้านคนทั่วโลก สร้างเศรษฐกิจไทยให้มีความเข้มแข็งได้ ตอนนี้อาจมีคนให้ความคิดเห็นต่างๆ นานา รวมถึงคำติ แต่ขอให้รอชมผลงานก่อน ซึ่งผลงานจะเป็นตัวลบคำครหาและซัพพอร์ตสิ่งที่ได้ดำเนินการมา” นายวราวุธกล่าว

ด้าน น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า กล่าวว่า เป็นเรื่องที่เกิดจากการพาดหัวจัดสงกรานต์ 30 วัน ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันไป แต่เมื่อไปดูในรายละเอียด สิ่งที่ตนกังวลใจไม่ใช่เรื่องสงกรานต์ 30 วันแน่นอน จัดเฟสติวัลทั้งเดือน แต่สลับสถานที่หรือจัดโซนนิงก็สามารถจัดการได้

น.ส.พรรณิการ์กล่าวต่อว่า สิ่งที่เราอยากตั้งคำถามจริงๆ เกี่ยวกับงานเฟสติวัลคือ 1.อย่าลืมว่างบประมาณ 5,164 ล้านบาทที่ถูกเปิดออกมาล่าสุดมีถึง 1,009 ล้านบาท ในส่วนของเฟสติวัล ทั้งที่มีถึง 11 กลุ่มอุตสาหกรรม การที่กลุ่มอุตสาหกรรมเฟสติวัลได้มากที่สุด ทำให้เกิดคำถามที่ว่า สุดท้ายจะลงเอยด้วยการจัดอีเวนต์แล้วก็จบหรือไม่ ที่ผ่านมาก็ไม่ใช่ว่าประเทศไทยจะว่างเว้นจากอีเวนต์ แต่จะมีอะไรที่แตกต่างออกไป ในเมื่อเราทุ่มเงินจัดอีเวนต์ระดับพันล้านบาท ไม่นับอีเวนต์ที่มีอยู่แล้วของกระทรวงต่างๆ

2.การจัดสงกรานต์เป็นเฟสติวัลยาวหนึ่งเดือน และหมุนเวียนกันไปในแต่ละจังหวัดทั่วประเทศ ข้อสังเกตจากกรณีที่นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านเฟสติวัลได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า จะเน้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร คำถามคือถ้านโยบายซอฟต์พาวเวอร์ของพรรคเพื่อไทยจะเป็นไปอย่างที่พรรคเพื่อไทยได้หาเสียงไว้ ซึ่งคือการสร้างงาน สร้างอาชีพใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นในประเทศ การไปหาสถานที่ใหม่ สร้างจุดหมายปลายทางทางการท่องเที่ยวใหม่ๆ ในเทศกาลสงกรานต์ ที่ไม่ว่าอย่างไรคนก็มาท่องเที่ยวอยู่แล้ว อาจจะดีกว่าหรือไม่ คงเป็นความเห็นที่แตกต่างในเชิงนโยบาย

 "ถ้ารัฐบาลยืนยันว่าจะทำแบบนี้ ก็ย่อมสามารถทำได้ แต่ถ้าคิดจะสร้างเม็ดเงิน สร้างรายได้ สร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับประเทศ รวมถึงต่อยอดต่อไปในปีต่างๆ จุดหมายปลายทางใหม่ๆ อาจจะน่าสนใจมากกว่า การไปจัดในที่ที่แออัด คับคั่ง จนแทบจะมีการจองเกินจำนวนอยู่แล้วในเมืองท่องเที่ยวต่างๆ".

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง