นายกฯ อวยพรกองทัพหนุนการทำงานทุกรัฐบาล ลั่นไม่เคยสอนลูกน้องสนับสนุนตนเองคนเดียว อวยพรประชาชนร่วมฝ่าฟันสถานการณ์โควิดไปด้วยกัน ขอสื่ออย่าขยายความขัดแย้ง อย่าพาดหัวข่าวสร้างความตื่นตระหนก จับฉลากที่ทำเนียบฯ "บิ๊กตู่" มอบเครื่องดูดฝุ่น โฆษกรัฐบาลร่ายยาวรัฐบาลแจกของขวัญปีใหม่เพียบ!
เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อวยพรปีใหม่สื่อมวลชนทุกประเภท ทุกสำนักข่าวและสื่อสิ่งพิมพ์ หลังเป็นประธานการประชุมสภากลาโหม ครั้งที่ 12/2564 ว่าในนามของนายกฯ และรัฐบาล ขอบคุณในการทำงานร่วมกันในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือ เสริมสร้างสื่อทุกสื่อให้เป็นสื่อที่มีจรรยาบรรณ
"สิ่งไหนที่จะขยายเป็นความขัดแย้ง ขอให้ลดลง เพื่อประเทศชาติจะได้เดินไปข้างหน้า ขอให้ช่วยกันตรวจสอบคัดกรองข่าวสารต่างๆ ด้วย อย่าพาดหัวข่าวสร้างความตื่นตระหนก ให้อ่านในเนื้อข่าวด้วย"
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ในส่วนของประชาชน ขอให้คนไทยทุกคนที่มีถิ่นพำนักในไทยและต่างประเทศ มีความสุข ความเจริญ ประสบผลสำเร็จ มีรายได้ที่สูงขึ้น มีสุขภาพที่ปลอดภัย สมความปรารถนาในสิ่งที่ถูกที่ควร สุขภาพแข็งแรงทั้งกายและใจ ฟันฝ่าในช่วงสถานการณ์โควิด-19 นี้ไปให้ได้ และรัฐบาลพยายามอย่างยิ่งที่จะทำให้ทุกคนมีความสุขในช่วงปีใหม่และต่อไป โดยจะต้องเริ่มที่ตนเอง ถ้าไม่เชื่อฟังมาตรการต่างๆ ของรัฐทุกอย่างก็เกิดขึ้นไม่ได้ โดยในช่วงสถานการณ์โอมิครอน ขอให้เพิ่มความระมัดระวัง วันนี้ได้รับรายงานว่ายังรับได้อยู่
เมื่อถามว่า การประชุมสภากลาโหมในวันเดียวกันนี้ได้อวยพรให้กองทัพ เนื่องจากต้องเคียงข้างนายกฯ ในการทำงาน นายกฯ ตอบว่า ต้องเคียงข้างกับทุกนายกฯ อยู่แล้ว เพราะกองทัพอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของกระทรวงกลาโหม ใครเป็นนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีกลาโหม ก็บังคับบัญชากองทัพได้อยู่แล้ว ยืนยันว่ากองทัพพร้อมสนับสนุนรัฐบาลในทุกเรื่อง ไม่ใช่เฉพาะความสัมพันธ์ส่วนตัว ในฐานะที่นายกฯ เป็นทหารมาเก่า
“ผมไม่เคยสอนลูกน้องว่าต้องสนับสนุนนายกฯ คนนี้คนเดียว มันไม่ใช่วันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น ผมไม่รู้ไม่ทราบ กองทัพจะต้องเป็นที่พึ่งของประชาชนทุกโอกาส” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
วันเดียวกันนี้ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยข้าราชการการเมือง อาทิ นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง, นายเสกสกล อัตถาวงศ์ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับสื่อมวลชน ประจำทำเนียบรัฐบาล ในงานกิจกรรมพบปะสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล เนื่องในเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ภายใต้มาตรการ COVID-Free Setting
นายธนกรกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ฝากคำอวยพรถึงสื่อมวลชนว่า "นายกฯ อวยพรสื่อมวลชนให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรง ประสบความสำเร็จตลอดปี 2565 และตลอดไป"
โฆษกรัฐบาลยังกล่าวขอบคุณพี่น้องสื่อมวลชนในนามโฆษกรัฐบาล ที่ได้ร่วมกันทำงานกับท่านนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลมาอย่างดีมาตลอดทั้งปี พร้อมอวยพรให้สื่อมวลชนและครอบครัวสุขภาพแข็งแรง มีความสุข สร้างความสมดุลระหว่างการป้องกันโควิด-19 และการดูแลตนเองแบบครอบจักรวาล สุขสมหวัง ปี 2565 ทุกท่าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในงานยังมีการจับสลากของขวัญและมอบของที่ระลึกให้ตัวแทนสื่อมวลชน โดยในปีนี้ ของขวัญที่นายกรัฐมนตรีมอบเป็นเครื่องดูดฝุ่น ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มอบเครื่องปั่นน้ำผลไม้แยกกาก เพื่อให้ทุกคนร่วมกันตระหนักและรักษาสิ่งแวดล้อม พร้อมดูแลสุขภาพ นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีรวมถึงเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ก็นำของขวัญมอบแก่สื่อมวลชนภายในงานด้วย
นายธนกรเผยว่า ช่วงส่งท้ายปีนี้เป็นช่วงเวลาที่จะได้มอบความสุขแก่ชาวไทย และได้มอบแนวนโยบายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และทุกหน่วยงานได้รับลูกไปดำเนินการเพื่อกำหนดเป็นมาตรการต่างๆ ส่งมอบความสุข มอบของขวัญวันปีใหม่ให้คนไทยทุกคน ยกตัวอย่างถึงมาตรการในช่วงท้ายปีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 นอกจากที่ก่อนหน้านี้ได้ประกาศการตรึงราคาพลังงานแล้ว ดังนี้
มาตรการช้อปดีมีคืน ปี 2565 ผู้มีเงินได้ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการเท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการสำหรับการซื้อสินค้า หรือการรับบริการในราชอาณาจักรให้กับผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงค่าซื้อหนังสือและค่าบริการหนังสือที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต และค่าสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30,000 บาท ระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-15 กุมภาพันธ์ 2565 โดยมีข้อยกเว้นไม่รวมถึงค่าสินค้าและบริการบางชนิด เช่น ค่าสุรา เบียร์ และไวน์ ค่ายาสูบ ค่าน้ำมันและก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ ค่าบริการจัดนำเที่ยว ค่าที่พักในโรงแรม ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย เป็นต้น ซึ่งเป็นไปตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร
นายธนกรกล่าวอีกว่า มาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย ลดค่าธรรมเนียมการโอนจาก 2% ลงเหลือ 0.0% และลดค่าธรรมเนียมการจำนองจาก 1% ลงเหลือ 0.01% (เฉพาะการโอนและจดจำนองในคราวเดียวกัน) สำหรับที่อยู่อาศัยและอาคารพาณิชย์ เฉพาะที่มีราคาซื้อขายและราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 3 ล้านบาท ซึ่งครอบคลุมบ้านเดี่ยว บ้านแฝด บ้านแถว อาคารพาณิชย์ และห้องชุด ตั้งแต่วันถัดจากวันที่เผยแพร่ประกาศกระทรวงมหาดไทยในราชกิจจานุเบกษา จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565
มาตรการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินไอพ่น ลดอัตราภาษีตามปริมาณของน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินไอพ่นที่ใช้บินในประเทศเหลือ 0.20 บาทต่อลิตร ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-30 มิถุนายน 2565 ส่วนโครงการคนละครึ่งเฟส 4 กำหนดให้เว้นช่วงออกไป 3 เดือน เนื่องจากต้องปรับปรุงระบบ ปรับแพลตฟอร์มให้ใช้ง่ายมากขึ้น มีการอัปเดตร้านค้าใหม่ โดยจะเริ่มโครงการในวันที่ 1 มีนาคม-30 เมษายน 2565 การสร้างอาชีพใหม่หลังโควิด ส่งเสริมอาชีพให้แก่กลุ่มเป้าหมาย เช่น ครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว คนพิการ คนด้อยโอกาส ตลอดจนกลุ่มเปราะบางต่างๆ ให้มีอาชีพ จำนวน 34,362 คน เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายสามารถพึ่งพาตัวเอง และสามารถดูแลครอบครัวได้ต่อไป
นายธนกรกล่าวเพิ่มเติมว่า รอยยิ้มในครอบครัวอบอุ่น (Little Big Smile) ช่วยเหลือเด็กกำพร้าจากโควิด-19 จำนวน 441 คน ด้วยการคุ้มครองและช่วยเหลือรายบุคคล อีกทั้งมีการจัดบริการสุขภาพจิต การสนับสนุนทุนการศึกษา การจัดหาผู้ดูแลเด็กและการสนับสนุนครอบครัวด้านสวัสดิการสังคม ตลอดจนเสริมทักษะให้แก่เครือญาติหรือผู้ใกล้ชิด ในการดูแลเด็กที่สูญเสียคนในครอบครัวการเพิ่มช่องทางรับแจ้งเหตุด่วน เหตุร้าย แจ้งปัญหาสังคม และการขอรับบริการของกระทรวง พม. จากเดิมมีเพียงสายด่วนศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 ล่าสุดมีเว็บไซต์ ไลน์ OA (@Hotline1300) ซึ่งรวบรวมสิทธิ สวัสดิการ และบริการของภาครัฐ เพื่อให้ผู้ประสบปัญหาทางสังคมเข้าถึงบริการของกระทรวง พม. และได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะเสนอหลักเกณฑ์การลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ในวันที่ 28 ธันวาคมนี้ ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีคำนึงถึงและห่วงใยประชาชนทุกคน โดยที่ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาเฉลิมฉลองที่ประชาชนทุกคนจะก้าวข้ามผ่านปีร่วมกัน รัฐบาลอยากจะดูแลประชาชนทุกกลุ่ม ให้มีความสุข แบ่งเบาภาระ ให้มีรอยยิ้มในช่วงเวลาเฉลิมฉลองนี้ร่วมกัน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตรึง‘ดีเซล-ก๊าซ’ลดค่าไฟ เอกชนค้านขึ้นค่าแรง400
ครม.ไฟเขียว 3 มาตรการบรรเทาค่าครองชีพประชาชน ตรึงดีเซล 33 บาท
ภูมิธรรมปัดฟอกจำนำข้าว พิชิตขอโอกาสไม่ใช่คนชั่ว
เศรษฐา 1/1 เบิกฤกษ์ไม่สวย ฝนถล่มต้องไปถ่ายรูปหมู่ในตึกสันติไมตรีแทน นายกฯ
ชักศึก!แม้วจุ้นเมียนมา
สื่อโซเชียลเมียนมาแฉ "น.ช.ทักษิณ" รับเคลียร์วิกฤตเมียนมา
อนุมัติงบจัดงาน เฉลิมพระเกียรติ ‘ในหลวง’6รอบ
"ครม." อนุมัติงบกลาง 700 ล. จัดงานเฉลิมพระชนมพรรษาในหลวง
หย่าศึกแบงก์ชาติ รัฐบาลถอยนัดเคลียร์ใจ‘เศรษฐพุฒิ’/ถกดิจิทัลสัปดาห์หน้า
"เศรษฐา" บอกเป็นเรื่องที่ควรทำ หลัง "พิชัย" เตรียมนัดถก "ผู้ว่าฯแบงก์ชาติ"
โบ้ยคลังแก้พรบ.ธปท. นายกฯแย้มให้ไปถาม‘พิชัย’ โซเชียลเซฟผู้ว่าฯแบงก์ชาติ
“เศรษฐา” ปัดขัดแย้งแบงก์ชาติ แค่เห็นไม่ตรงกันเรื่องดอกเบี้ยอย่างเดียว