‘บิ๊กเต่า’ชี้เมียพี่ศรีพันแก๊งรีด

ตร.จ่อหมายจับเพิ่มอีก 2-3 รายแก๊งตบทรัพย์ “บิ๊กเต่า” เผยภรรยาศรีสุวรรณมีเอี่ยวปมรีดทรัพย์อธิบดี “ธรรมนัส” ไม่ให้ค่า "เจ๋ง ดอกจิก" พาดพิง เตือนสาบานอะไรระวังเข้าตัว กมธ.ติดตามงบฯ เรียก “กรมการข้าว-กรมฝนหลวงฯ” แจงประเด็นร้อน อดีตเลขาฯ รมว.ยธ.รับเคยถูกแก๊งนี้ขอเข้าพบกรณีกำไลอีเอ็ม

เมื่อวันที่ 2 ก.พ. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ   ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีแก๊งตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าวว่า จากการสอบปากคำนายเอกลักษณ์  วารีชล หรือเอก ปากน้ำ ให้การนอกรอบเป็นประโยชน์ แต่ในรอบให้การปฏิเสธตลอด ซึ่งพฤติการณ์ของนายเอกสอดคล้องกับการสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐในการเรียกรับผลประโยชน์ มีหลักฐานพอสมควร โดยไม่ต้องการคำอธิบายอะไรมากมาย ในสัปดาห์หน้าจะมีการออกหมายจับเพิ่มประมาณ 3 คน ต้องรอดูกล้องวงจรปิด เพื่อให้หลักฐานชัดเจนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม นายเอกลักษณ์เป็นคนมีความรู้ความสามารถ เป็นหนึ่งในคณะกรรมการต่างๆ สามารถที่จะไปล้วงข้อมูลของหน่วยงานต่างๆ และเป็นบุคคลที่วนเวียนอยู่ในรัฐสภา โดยทางเจ้าหน้าที่ตํารวจต้องการข้อมูลจากนายเอกลักษณ์เยอะ คิดว่าเขาจะมีประโยชน์ในการมาปราบทุจริตต่อไป

พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวว่า ลักษณะพฤติการณ์นายเอก นอกจากจะติดต่อกับ แก๊งนายศรีสุวรรณ จรรยาแล้ว ยังสามารถไปติดต่อได้อีกหลายกลุ่ม และข้อมูลที่ได้มา ได้มาทั้งระดับบิ๊ก ระดับล่าง โดยนายเอกลักษณ์เป็นบุคคลที่เขียนโครงการต่างๆ ในกระทรวงดังกล่าว ถึงได้มีหนังสือร้องเรียนมา เป็นบุคคลที่อยู่ได้ทั้งใต้ดินและบนดิน ใต้ดินเป็นคนที่รวบรวมข้อมูลทั้งหมด พอมาอยู่บนดินเป็นคนประสานงานทั้งหมด ถ้ามีคนมาร้องเรียน เขาจะเป็นคนเคลียร์ พูดคุยต่างๆ ทำทุกขั้นตอน เพื่อให้คนนั้นยอมจ่ายให้แก๊งเขา

รอง ผบช.ก.กล่าวอีกว่า ในคดีการเรียกรับเงินอธิบดีกรมการข้าว ออกหมายจับไปแล้ว 4 คน ส่วนที่เหลือคาดว่าจะสามารถออกหมายจับเพิ่มได้อีก 2-3 คน ภายในวันอังคารที่ 6 ก.พ.นี้ ส่วนบัญชีม้ายังอยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางการเงินในบัญชีระยะยาว เพื่อหาความเชื่อมโยงในกลุ่มผู้เสียหายกลุ่มอื่นๆ

เมื่อถามว่า ภรรยาของนายศรีสุวรรณ จะเกี่ยวข้องในคดีเรียกรับเงินอธิบดีกรมการข้าวหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า จากหลักฐานเบื้องต้นอาจจะเข้าข่ายเป็นผู้ร่วมกระทำความผิด ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายจับ เชื่อภรรยานายศรีสุวรรณมีส่วนรู้เห็น

รอง ผบช.ก.ระบุว่า ในส่วนประเด็นภรรยาแก๊งตบทรัพย์นี้ เห็นใจ เพราะอยากจะดำเนินคดีกับบุคคลที่ผิดทั้งข้อกฎหมายและด้านจิตใจที่โหดร้าย จิตใจคดโกง ผู้หญิงที่เป็นภรรยาแก๊งตบทรัพย์นี้ถ้าสามีสั่งให้ทำอะไรก็จะทำตาม จะทำให้   ซึ่งผู้หญิงตกอยู่ในบ่วงของแก๊งตกทรัพย์นี้ แบบตั้งใจหรือไม่ก็ตาม แต่ในข้อกฎหมายหรือเจตนาต้องตรวจสอบให้ความเป็นธรรมอีกที ส่วนสัปดาห์หน้าถึงจะมีความชัดเจนมากขึ้น ส่วนข้อมูลเบื้องลึกขอเก็บไว้เป็นสำนวนคดี เดี๋ยวถ้าพูดไปเสี่ยงต่อการโดนแก๊งนี้ฟ้อง แต่ยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีพยานหลักฐานชัดเจนแน่นอน

เคยขอเคลียร์กำไลอีเอ็ม

ส่วนกรณีที่ นายศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก ออกมาชี้แจงในงานแถลงข่าวเปิดเผยว่า เป็นผู้ประสานงาน และเป็นคนกลางในการพูดคุย แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรียกรับเงินนั้น พล.ต.ตจรูญเกียรติ กล่าวว่า ถ้อยคำในการแถลงข่าวถือว่าเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี เนื่องจากเป็นการยอมรับในข้อเท็จจริงบางส่วน ถือว่ามีความผิดในการสนับสนุนให้เจ้าพนักงานกระทำความผิด มีการแบ่งหน้าที่ทำงานกันอย่างชัดเจน ส่วนจะรับเงินหรือไม่นั้น  ตำรวจมีหลักฐานในการเอาผิดได้อย่างแน่นอน ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ ยืนยันว่าตำรวจทำตามพยานหลักฐาน หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องก็ดำเนินคดีทั้งหมด

วันเดียวกัน ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี และอดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีเจ๋ง ดอกจิก และทีมงานเคยเข้าพบว่า ไม่เคยรู้จักเป็นการส่วนตัวกับนายยศวริศมาก่อน  แต่นายยศวริศโทรศัพท์มาหาก่อน แจ้งว่าจะขอเข้าพบเพื่อยื่นเรื่องขอความช่วยเหลือ ซึ่งตนได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมให้ดูแลการรับเรื่องราวร้องทุกข์ ที่ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ของกระทรวงยุติธรรม

ว่าที่ ร.ต.ธนกฤตกล่าวว่า มีการพูดคุยถึงโครงการกำไลอีเอ็ม และมีแผนประทุษกรรมคล้ายกันกับกรณีอธิบดีกรมการข้าว แต่ระหว่างนี้กำลังให้ทีมกฎหมายพิจารณาข้อความที่มีการฝากมา ก่อนจะตัดสินใจว่าจะเข้าแจ้งความกับตำรวจ ป.ป.ป.หรือไม่ อย่างไรก็ตาม นายยศวริศกับพวกมาพบตนก่อนวันที่ 6 ก.ย.65 ประมาณ 1-2 สัปดาห์ ฝากข้อความประมาณให้ดูแล โดยฝากตนไปถึงผู้เกี่ยวข้องในโครงการ ซึ่งตนชี้แจงว่าโครงการกำไลอีเอ็มไม่เกี่ยวกับตน จึงไม่ได้ตอบรับดำเนินการใด จากนั้นมีการยื่นเรื่องให้ตรวจสอบการเช่ากำไลอีเอ็มต่อกระทรวงยุติธรรมและกรรมาธิการเมื่อวันที่ 6 ก.ย.65 หลังตรวจสอบเรียบร้อยไม่พบการทุจริต การจัดซื้อจัดจ้างเป็นไปตามกระบวนการ แต่พอต้นเดือน ม.ค.67 นายศรีสุวรรณกลับนำเรื่องโครงการดังกล่าวมาร้องเรียนซ้ำอีก ทีมงานของตนซึ่งเป็นนักกฎหมายได้ไปพบนายศรีสุวรรณ เพื่อแจ้งว่าโครงการดังกล่าวมีการตรวจสอบแล้วถูกต้อง เกรงว่านายศรีสุวรรณจะได้ข้อมูลไม่ถูกต้อง แต่ทำให้รู้ว่าเป็นแบบเดียวกัน

ขณะที่ นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า พร้อมจะเข้าไปให้ข้อมูลกับกรรมาธิการของพรรคก้าวไกลในวันที่ 15 ก.พ.นี้ โดยมั่นใจในข้อมูลที่จะชี้แจงต่อกรรมาธิการ เนื่องจากการจัดซื้อเครื่องบินฝนหลวง 2 ลำ ซึ่งมีการประกวดราคาเมื่อวันที่ 5 ม.ค.67 เป็นไปตามระเบียบที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างทุกประการ

วันเดียวกัน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่มารอทำข่าวที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในประเด็นที่นายยศวริศชี้แจงว่าไม่ได้รีดทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว และยืนยันว่า ร.อ.ธรรมนัสสั่งให้ไปช่วยเคลียร์ โดยทันทีที่ ร.อ.ธรรมนัสลงมาจากห้องทำงานได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยน้ำเสียงมีอารมณ์ว่า “ไม่ขอพูดถึงคนคนนี้แล้ว” แต่ท้ายที่สุด ร.อ.ธรรมนัสก็ให้สัมภาษณ์

ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า โทรศัพท์เครื่องนี้เวลาจะเจอใครหรือรับสายใครสื่อมวลชนจะรู้หมด นายยศวริศโทรศัพท์มา ตนจึงรับสาย เพราะตนเป็นเจ้ากระทรวงอยู่ จะมาทำอะไรในกระทรวงนี้ แต่ไม่เข้าห้องตน ไปเข้าห้องใคร และไม่เคยเจอนายยศวริศในทำเนียบฯ ก่อนที่ ร.อ.ธรรมนัสจะชี้มือไปที่ตึกข้างๆ ฝั่งซ้ายมือ แล้วบอกว่า “เจอกันตรงนี้ ตอนนั้นกำลังแถลงข่าวอยู่ เจอหน้าประตู หน้าบันได จึงถามว่ามาทำอะไร นายศวริศก็ตอบว่ามาติดตามเรื่องร้องเรียน จึงบอกว่าเรื่องนี้ขอไม่ยุ่ง ไปคุยกันเองเลย เพราะเป็นผู้บังคับบัญชาอยู่ตรงนี้ ไม่มาไหว้เจ้ากระทรวง เจ้าที่เจ้าทาง ก็อย่ามาลบหลู่

สงสัยแบ็กดีถึงกล้าทำ

เมื่อถามว่า เป็นเรื่องไหนที่นายยศวริศกำลังติดตามและร้องเรียนอยู่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ตนไม่อยากรู้ เพราะรู้ว่าเวลาจะใช้งานใครต้องรู้ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ตนไม่ได้เสียหาย แต่ต้องดูข้อเท็จจริง และไม่มีเหตุจำเป็นอะไรที่จะต้องใช้คนพรรค์นี้ไปเคลียร์ และขอถามกลับว่า ตนต้องใช้คนแบบนี้ไปเคลียร์เหรอ เขามีหน้าที่ในกระทรวงเกษตรฯ เหรอ และอยู่ในฝ่ายตรวจสอบหรือไม่ ที่ต้องไปเคลียร์คนแบบนี้ เพียงแต่ตนตัดความรำคาญว่าอย่ามายุ่งกับตน ตนไม่ยุ่งเรื่องพวกนี้ คุณมีหลักฐานอะไรก็ว่ามา เมื่อร้องมาแล้วก็ตั้งกรรมการสอบทุกคน

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีนายยศวริศยกพานเหนือหัวสาบาน ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า คนเราหากจะพูดอะไร สิ่งที่พูดกับหลักฐานที่ตำรวจมี มันหนังคนละม้วน ยิ่งพูดยิ่งเข้าตัว และไม่ขอฝากอะไรไปถึงนายยศวริศที่ได้เอ่ยชื่อตนระหว่างแถลงข่าว เพราะตนเป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมือง

รมว.เกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า ไม่ว่าเรื่องไหนก็ตามที่ร้องเรียนมา หากถึงมือตนเอง ในฐานะเจ้ากระทรวงจะสั่งให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนหมด หากร้องเรียนไปองค์กรอิสระจะดำเนินงานไปตามขั้นตอน อย่าไปฟังเสียงคำแก้ตัวของใครบางคน มันทำเป็นขบวนการ และขอตั้งข้อสังเกตว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องเหล่านี้ มีแบ็กอัปดีหรือไม่ ไม่เช่นนั้นคงไม่กล้าละเมิดกฎหมายทั้งที่รู้ว่ามีโทษหนัก ตนรู้ว่าเป็นใคร แต่ขอไม่พูด และในวงการนี้ในฐานะที่ผ่านอะไรมาเยอะ มันเห็นกันหมดว่าใครทำอะไร ใครที่ทำก็เห็นไส้เห็นพุงกัน จึงเตือนว่าอย่าทำ และสิ่งสำคัญอย่ามาทำกับลูกน้องตน

ร.อ.ธรรมนัสยังเปิดเผยด้วยว่า ได้รับรายงานทางลับว่า พวกที่เป็นหนอนบ่อนไส้ หรือเกลือเป็นหนอน นอกจากจะไม่มีโอกาสเจริญรุ่งเรืองในชีวิตราชการแล้ว ตนจะเล่นโทษอาญาให้หนัก ตอนนี้กำลังสืบสวนสอบสวนอยู่ พวกที่เอาความในไปขาย เป็นเรื่องจริงบ้าง ไม่จริงบ้าง เพื่อเลื่อยขาเก้าอี้กัน อย่าทำในยุคที่ตนเป็น รมว.เกษตรฯ ไม่มีใครเลื่อยขาเก้าอี้ได้ อย่าคิดทำร้ายเพื่อนร่วมงานด้วยวิธีสกปรก วันนี้ตนขอพูดครั้งเดียวแล้วจบ

ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ขณะนี้มีคนให้ข้อมูลมาทางหลังบ้าน โดยเฉพาะการอนุมัติโครงการต่างๆ อาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงเป็นที่มาของการยื่นเรื่องเข้า กมธ.ชุดนี้ และขอเรียกร้องให้ กสทช.เข้ามาชี้แจงด้วย ส่วนระเบียบวาระการพิจารณาการใช้งบประมาณที่เกี่ยวข้องกับ 2 กรม คือ กรมการข้าว กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ก็ได้ทำหนังสือให้เข้ามาชี้แจงต่อ กมธ.ในวันที่ 15 ก.พ.นี้เช่นกัน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง