สั่งรปภ.อธิบดีกรมข้าว ออกหมายเรียกเมียศรี

"บิ๊กเต่า" สั่งจัดกำลังรักษาความปลอดภัยครอบครัวอธิบดีกรมการข้าว หลังพบโดรนบินตกอยู่ในฟาร์มภรรยา แฉอีกตบทรัพย์ประมูลกำไล EM  ยธ. พร้อมเรียกเมีย "ศรีสุวรรณ" รับทราบข้อหา "ธรรมนัส" เรียกอธิบดีกรมการข้าว เข้าพบเรื่องความปลอดภัย เชื่อมีความเชื่อมโยงคดี พร้อมประสานให้ฝ่ายความมั่นคงดูแล

เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีนายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา เนื่องจากรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย หลังพบโดรนบินตกอยู่ในบริเวณฟาร์มซึ่งเป็นธุรกิจของภรรยา และถูกบุคคลลึกลับติดตามคอยดูความเคลื่อนไหวของครอบครัวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าไปหารือกับภรรยาของอธิบดีกรมการข้าวเรื่องการวางกำลังคอยดูแลความปลอดภัยตามคำร้องของอธิบดี เพื่อให้เกิดความสบายใจมากขึ้น ซึ่งเรื่องดังกล่าวถือเป็นเรื่องปกติของผู้ที่ตกเป็นผู้เสียหายในคดีใหญ่ และไม่ถือว่าเป็นเรื่องแปลกที่จะขอการคุ้มครองพยานในคดี

ส่วนกรณีนายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสาน อดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เข้าพบพนักงานสอบสวนเมื่อวานนี้  พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวว่า เป็นการนำหลักฐานที่เคยถูกข่มขู่เรียกรับเงินมาให้ ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี โดยพนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นขณะนายเสกสกลดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นคนละช่วงเวลากัน

พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวถึงกรณีที่เมื่อวานนี้ชุดพนักงานสอบสวนได้เดินทางไปพบนายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์   ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  ที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ว่า เนื่องจากได้รับการประสานมาว่าจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับกรณีที่กลุ่มนายเจ๋ง ดอกจิก เรียกรับทรัพย์สินจากโครงการประมูลสัมปทานกำไล EM ของกระทรวงยุติธรรมในปี 2565 ซึ่งเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอย่างมาก และพบว่ามีแผนประทุษกรรมในลักษณะเดียวกัน คือพยายามร้องเรียนให้ผู้เสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียง และมีการเรียกรับทรัพย์สินหลายครั้ง แต่ไม่มีการจ่ายเงิน            

"ข้อมูลดังกล่าวตรงกับข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีอยู่แล้ว ซึ่งหลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานและประสานงานกับ ป.ป.ช.เพื่อดำเนินการต่อไป โดยจะเปิดเป็นผู้เสียหายวงที่สอง คือวงของกระทรวงยุติธรรม ซึ่งพนักงานสอบสวนอาจพิจารณาเรียกนายธนกฤตมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมในฐานะพยาน นอกจากนี้ จากการตรวจสอบพยานหลักฐานยังพบว่ามีผู้เสียหายวงอื่นๆ อีกมากกว่า 10 วง ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างขยายผลไปทีละวง"

รอง ผบช.ก.กล่าวอีกว่า ในสัปดาห์หน้าข้าราชการสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ก่อนหน้านี้นายอัจฉริยะกล่าวอ้างว่าเป็นผู้นำข้อมูลการทุจริตภายในหน่วยงานไปให้กับนายเอกลักษณ์ หนึ่งในผู้ต้องหา จะเดินทางเข้ามาให้ข้อมูลในฐานะพยานในวันจันทร์หน้า

"ส่วนความคืบหน้าในการติดตามตัวผู้ต้องหา พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกภรรยาของนายศรีสุวรรณ จรรยา หนึ่งในผู้ต้องหาให้มารับทราบข้อกล่าวหาในสัปดาห์หน้า ส่วนสาเหตุที่ว่าทำไมไม่เป็นหมายจับ เพราะเป็นผู้หญิง และมีปัญหาสุขภาพส่วนตัว พนักงานสอบสวนจึงเห็นควรว่าเป็นการออกหมายเรียกก็เพียงพอแล้ว ขณะที่ผู้ต้องหาบัญชีม้าในคดีได้ขอประสานเข้ามาให้ข้อมูลด้วยตนเองภายในสัปดาห์หน้า" พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าว

ที่รัฐสภา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติเปิดเผยว่าอธิบดีกรมการข้าวกังวลเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากมีชายนิรนามป้วนเปี้ยนหน้าบ้าน และมีโดรนปริศนาตกในบ้านว่า อธิบดีกรมการข้าวได้รายงานเรื่องนี้ให้ตนทราบแล้ว พร้อมปรึกษาว่าจะทำอย่างไร เนื่องจากบุคคลดังกล่าวมาป้วนเปี้ยนหลายครั้ง และมีการใช้โดรนบินรอบบ้านตลอดเวลา ทำให้รู้สึกเป็นห่วงทั้งอธิบดีและครอบครัว จึงได้นัดให้อธิบดีมาพบเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมในช่วงบ่ายวันนี้ ตนจะได้ทำหนังสือไปยังหน่วยงานฝ่ายความมั่นคง เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยดูแลในเรื่องนี้ เพราะเชื่อว่าจะส่งผลกระทบในทางคดี 

เมื่อถามว่า พฤติกรรมของบุคคลปริศนาถือเป็นการข่มขู่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า อย่าเพิ่งไปตั้งสมมติฐาน ขอให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากเป็นเรื่องจริงก็คงมีมาตรการออกมาแก้ไข ซึ่งคดีนี้หลักฐานมันไปไกลแล้ว คดีจะปิดแล้ว อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้ยังไม่ทราบรายละเอียดของชายปริศนาที่มาเฝ้าหน้าบ้านของอธิบดีว่าจะเกี่ยวข้องกับคู่กรณีในคดีหรือไม่ เนื่องจากเป็นเพียงการรับฟังรายงานทางโทรศัพท์เท่านั้น ยังไม่ได้พบตัวอธิบดี

ร.อ.ธรรมนัสกล่าวต่อว่า อยากให้แยกเรื่องคดีความที่เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กับการทุจริตในกระทรวงเกษตรฯ  ที่เป็นหน้าที่ของตนที่จะกำกับดูแลตรวจสอบ ซึ่งจะไม่ละเว้น หากพบข้อเท็จจริงว่า เกี่ยวข้องกับการทุจริต

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการตั้งคณะกรรมการสอบสวนในแต่ละเรื่อง เหตุใดจึงไม่ใช้บุคคลภายนอก ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ขอชี้แจงว่าหัวหน้าส่วนราชการทั้งหมดอยู่ภายใต้การดูแลของปลัดกระทรวง ตนในฐานะรัฐมนตรี จึงได้สั่งการให้ปลัดเป็นผู้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน จึงไม่สามารถนำบุคคลภายนอกมาเป็นคณะกรรมการได้

สำหรับกรณีที่นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้ส่งรายงานการตรวจสอบกรณีกรมฝนหลวงและการบินเกษตรไปถึง ร.อ.ธรรมนัสแล้วนั้น ร.อ.ธรรมนัสกล่าวยอมรับว่า ได้รับรายงานแล้ว ตนได้เซ็นอนุมัติให้ปลัดตั้งคณะกรรมการสอบสวนตั้งแต่ปีที่แล้ว  ยืนยันว่าทุกเรื่องของกระทรวงเกษตรฯ ได้ทำไปหมดแล้ว แต่เมื่อเป็นประเด็นในสังคม กระทรวงเกษตรฯ ก็ต้องเน้นให้ละเอียดมากขึ้น ไม่ให้เสียภาพลักษณ์ของกระทรวงเกษตรฯ เชื่อว่าน่าจะใกล้เสร็จแล้ว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง