คุมโอมิครอนช่วงปีใหม่ ลาม37จว.หวั่นงานเลี้ยงระบาดหนักสธ.สั่งทั่วปท.เข้มงวด

ยอดติดเชื้อโควิดรายใหม่ 3,037 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 25 ราย “โอมิครอน” ลามไม่หยุด ล่าสุดขยับเป็น 37 จังหวัด พบผู้ป่วยแล้ว 934 ราย “กทม.-กาฬสินธุ์-ภูเก็ต” พุ่ง “ร้อยเอ็ด” ระทึกติดเชื้อ 50 ราย รอยืนยันผลอีก 84 ราย “อนุทิน” หวั่นงานเลี้ยงสังสรรค์ช่วงปีใหม่ "โอมิครอน" ระบาดหนัก สั่ง สธ.ทั่ว ปท.เดินหน้าเชิงรุกป้องกันอย่างเคร่งครัด  “นายกฯ ขอหลังปีใหม่ 15 วันประเมินสถานการณ์อีกครั้ง “กาฬสินธุ์-ขอนแก่น”ยกระดับคุมเข้มห้ามดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารทุกแห่ง

เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทย พบว่ามีรายงานติดเชื้อรายใหม่ 3,037 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 2,844 ราย จากระบบเฝ้าระวังและบริการ 2,794 ราย ค้นหาเชิงรุกในชุมชน 50 ราย เรือนจำ 81 ราย จากต่างประเทศ 112 ราย หายป่วยเพิ่ม 3,115 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 33,399 ราย อาการหนัก 626 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 161 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 25 ราย เป็นชาย 15 ราย หญิง 10 ราย เป็นผู้มีอายุ 60 ปี ขึ้นไป 20 ราย มีโรคเรื้อรัง 5 ราย โดยเสียชีวิตมากที่สุดที่ กทม.และเชียงใหม่ จังหวัดละ 3 คน ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสม 2,220,324 ราย หายป่วยสะสม 2,165,253 ราย เสียชีวิตสะสม 21,672 ราย มียอดฉีดวัคซีนเพิ่มเมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 455,208 โดส ทำให้มียอดสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.64 ทั้งสิ้น 103,894,611 โดส

สำหรับจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อมากที่สุด ได้แก่ กทม. 430 ราย, ชลบุรี 304 ราย, นครศรีธรรมราช 134 ราย, อุบลราชธานี 126 ราย, สมุทรปราการ 83 ราย,  มหาสารคาม 83 ราย, ขอนแก่น 80 ราย,  เชียงใหม่ 67 ราย, กาฬสินธุ์ 63 ราย และ ร้อยเอ็ด 62 ราย

ขณะที่ นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงข่าวการป้องกันตัวเองให้ห่างไกลจากโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน

นพ.เฉวตสรรกล่าวว่า ภาพรวมผู้เดินทางเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 1-29 ธ.ค.64 เข้ามาใน 3 ระบบคือ ระบบไม่กักตัว (Test and go) ระบบแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) และระบบกักตัว (Quarantine) รวม 270,851 คน พบการติดเชื้อโควิด-19 ในระบบ T&G 730 คน คิดเป็น 0.32% ระบบแซนด์บ็อกซ์ 121 คน คิดเป็น 0.32% และระบบกักตัว 205 ราย คิดเป็น 3.47%

ส่วน นพ.ศุภกิจกล่าวถึงการติดเชื้อโอมิครอนว่า วันนี้พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 194 ราย แบ่งเป็นมาจากต่างประเทศ 88 ราย ติดเชื้อในประเทศ 106 ราย ทำให้ผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศเพิ่ม 357 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 577 ราย ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอนสะสมเพิ่มเป็น 934 ราย

ทั้งนี้ พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน เพิ่มเป็น 37 จังหวัด ประกอบด้วย 1.กรุงเทพมหานคร 325 ราย 2.ภูเก็ต 104 ราย 3.กาฬสินธุ์ 121 ราย 4.ร้อยเอ็ด 50 ราย รอยืนยันข้อมูล 84 ราย 5.มหาสารคาม 42 ราย 6.สมุทรปราการ 38 ราย 7.นนทบุรี 22 ราย 8.สุราษฎร์ธานี 20 ราย 9.ชลบุรี 18 ราย 10.ขอนแก่น 12 ราย 11.เชียงใหม่ 7 ราย 12.นครราชสีมา 5 ราย 13.สุรินทร์ 5 ราย 14.ประจวบคีรีขันธ์ 4 ราย 15.ลำพูน 4 ราย 16.นครพนม 4 ราย 17.หนองคาย 4 ราย 18.บุรีรัมย์ 4 ราย 19.อุบลราชธานี 4 ราย

โอมิครอนลาม 37 จังหวัด

20.กระบี่ 4 ราย 21.ชัยภูมิ 4 ราย 22.ปัตตานี 4 ราย 23.อุดรธานี 3 ราย 24.เลย 3 ราย 25.พระนครศรีอยุธยา 2 ราย 26.สุพรรณบุรี 2 ราย 27.เชียงราย 1 ราย 28. ลำปาง 1 ราย 29.เพชรบูรณ์ 1 ราย 30.พิจิตร 1 ราย 31.นครปฐม 1 ราย 32.เพชรบุรี 1 ราย 33.สระแก้ว 1 ราย รอยืนยันข้อมูล 24 ราย 34.หนองบัวลำภู 1 ราย 35.มุกดาหาร 1 ราย 36. ยโสธร 1 ราย และ 37.สงขลา 1 ราย

นพ.ศุภกิจกล่าวว่า ขณะนี้ในแอฟริกาใต้โอมิครอนความรุนแรงลดลง และอาจมาแทนที่เดลตา ส่วนการสร้างภูมิคุ้มกันต่อไวรัสเกิดขึ้นจาก 2 ทางคือ ฉีดวัคซีน และหลังจากติดเชื้อ แต่จะเอาภูมิที่เกิดจาก 2 กรณีนี้มาเทียบกันไม่ได้ ผู้ที่เคยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์อื่น เช่น เดลตา ก็ยังสามารถติดโอมิครอนได้ ซึ่งแน่นอนว่าหากได้รับวัคซีนแล้ว แนวโน้มความรุนแรงของโรคก็จะลดลง

นพ.ทวีทรัพย์ ศิรประภาศิริ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค เสริมว่า สธ.ได้ร่วมกับกระทรวงคมนาคมจัดบริการตรวจคัดกรองโควิดที่สถานีหมอชิตและหัวลำโพง และสถานีขนส่งในภูมิลำเนาช่วงเดินทางกลับ เพื่อให้ประชาชนฉลองปีใหม่และเดินทางกลับอย่างปลอดภัย

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ถึงปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า จากแนวโน้มของสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) ในประเทศไทยในขณะนี้ พบว่ามีแนวโน้มจํานวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ที่ประชาชนจะมีการจัดงานตามประเพณีท้องถิ่นและทางศาสนา งานเลี้ยงสังสรรค์ รวมถึงการท่องเที่ยว ซึ่งจะมีการรวมกลุ่มบุคคลเป็นจํานวนมาก ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ ลดอัตราการแพร่เชื้อและอัตราการเสียชีวิต

จึงขอให้ท่านได้สั่งการไปยังทุกหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข ติดตามสถานการณ์การระบาดของโอมิครอน (Omicron) อย่างใกล้ชิด โดยขอให้ทุกหน่วยงานเน้นย้ำการปฏิบัติงานตามแนวทางการเฝ้าระวังการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด และสร้างการรับรู้มาตรการสําคัญของทางราชการอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งดําเนินการประชาสัมพันธ์เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนในพื้นที่เข้ารับการฉีดวัคซีน โดยอํานวยความสะดวกให้กับประชาชนด้วย

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ย้ำเตือนช่วงวันหยุดยาวขอให้ทุกคนอย่าประมาท การ์ดอย่าตก รวมทั้งกำชับไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ต้องคุมเข้ม ติดตามผู้ได้รับอนุญาตจัดงาน เจ้าของสถานประกอบการ ร้านค้า ร้านอาหาร สถานบันเทิง ที่จะเปิดให้บริการช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ต้องปฏิบัติตนตามมาตรการอย่างเข้มงวด

 “นายกฯ ได้สั่งการให้ สธ.จัดประชุมประเมินสถานการณ์การระบาดหลังหยุดเทศกาลปีใหม่ผ่านไป 15 วันอีกครั้ง หากพบจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูง อาจนำเข้าสู่ที่ประชุม ศบค. เพื่อพิจารณาปรับแนวทางและเพิ่มมาตรการป้องกันอื่นๆ ได้อีก”โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าว

วันเดียวกัน บริษัท แอสตร้าเซนเนก้าฯ  ได้รายงานว่า ตลอดเดือน ธ.ค. บริษัทได้ส่งมอบวัคซีนป้องกันโควิด-19 จำนวนกว่า 15 ล้านโดสให้กับ สธ. รวมยอดส่งมอบวัคซีน ณ ปัจจุบันครบจำนวน 61 ล้านโดส ตามแผนการจัดหาวัคซีนให้กับประเทศไทย นอกจากนี้ บริษัทจะจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพิ่มอีกจำนวน 60 ล้านโดส ให้แก่ประเทศไทยสำหรับใช้ในการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน โดยจะทำการทยอยส่งมอบในปี 2565 ตามสัญญาการจัดซื้อวัคซีนที่แอสตร้าเซนเนก้าและรัฐบาลไทยได้ร่วมลงนาม

จ.กาฬสินธุ์ นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าฯกาฬสินธุ์ และ นพ.แพทย์อภิชัย ลิมานนท์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ พร้อมคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.กาฬสินธุ์ ประชุมติดตามสถานการณ์โควิดสายพันธุ์โอมิครอนที่เชื่อมสองสามีภรรยาที่กลับมาจากประเทศเบลเยียม และร้านอาหารกึ่งผับในตลาดโรงสี เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ที่ระบาดในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อยกระดับมาตรการป้องกันในช่วงเทศกาลปีใหม่ หลังพบผู้ติดเชื้อจากคลัสเตอร์ดังกล่าวรวม 208 ราย และตรวจพบเป็นเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนมากถึง 121 ราย

‘กาฬสินธุ์-ขอนแก่น’เข้ม

นายทรงพลกล่าวว่า มาตรการที่มีการยกระดับหลักๆ คือ การขยายวงและจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ออกไปอีก จากเดิมปิดสถานศึกษาและให้จัดการเรียนการสอนเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ถึงวันที่ 30 ธ.ค.64 แต่ในที่ประชุมวันนี้มีมติปิดสถานศึกษาและให้จัดการเรียนแบบออนไลน์ทุกระดับ ครอบคลุมทั้ง 18 อำเภอของ จ.กาฬสินธุ์ ไปจนถึงวันที่ 14 ม.ค.65 รวมทั้งสถาบันกวดวิชาด้วย

 “ส่วนร้านอาหารกึ่งผับในตลาดโรงสี ที่เป็นแหล่งการแพร่ระบาดซูเปอร์สเปรดเดอร์ เท่าที่ตรวจสอบเป็นการเข้าไปใช้บริการและแพร่ระบาดจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่ง ซึ่งต่อไปจะต้องมีมาตรการเข้มงวดมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะสถานบริการหรือร้านอาหารที่เป็นห้องแอร์ มีเครื่องปรับอากาศ จะต้องจัดสถานที่ให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก โดยขณะนี้ทางจังหวัดมีคำสั่งห้ามนั่งดื่มสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านอาหารทุกแห่ง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ออกตรวจติดตาม หากพบฝ่าฝืนได้รับโทษตามกฎหมาย พร้อมขอความร่วมมือผู้ประกอบการ ประชาชน รักษามาตรการของกระทรวงสาธารณสุข งดจัดกิจกรรมที่รวมคนเกิน 100 คน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ และห้ามหน่วยงานรัฐจัดงานปีใหม่ เพื่อความสุข ความปลอดภัยจากการได้รับเชื้อโควิด-19” ผวจ.กาฬสินธุ์กล่าว

ศูนย์อำนวยการต้านโควิด-19 จ.กาฬสินธุ์รายงานว่า วันนี้พบผู้ป่วยรายใหม่ 63 ราย เป็นคลัสเตอร์เชื่อมโยงกับสองสามีภรรยากลับจากต่างประเทศ และร้านอาหารกึ่งผับในตลาดโรงสี 11 ราย,  ร้านอาหารคิวบาร์ อ.นามน 1 ราย, พนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อ.เมืองกาฬสินธุ์ 3 ราย, งานแสดงดนตรีหาดแสงจันทร์ อ.สหัสขันธ์ 2 ราย, บุคลากรทางการแพทย์ 5 ราย, สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน 21 ราย มาจากพื้นที่เสี่ยง 5 ราย และอยู่ระหว่างสอบสวนโรค 15 ราย ส่งผลให้ จ.กาฬสินธุ์ มียอดผู้ป่วยสะสม 10,735 ราย โดยหายป่วยแล้ว 10,275 ราย

จ.ชลบุรี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดสายพันธุ์โอมิครอนในพื้นที่ 28 ราย

จ.ขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าฯ ขอนแก่น รายงานว่า พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในพื้นที่แล้วจำนวน 5 ราย และยังมีกลุ่มเสี่ยงที่จัดอยู่ในกลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงอีก 21 ราย ซึ่งตอนนี้อยู่ขั้นตอนการสอบสวนโรค ดังนั้นมติที่ประชุมของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัด จึงมีมติในออกคำสั่งให้ร้านอาหารที่มีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดจำหน่ายภายในจังหวัดตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2565 เป็นต้นไปเป็นเวลา 7 วัน และจะมีการประเมินผลจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อโอไมครอนอีกครั้งอย่างเป็นระยะ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง