ฟื้น‘ครม.ศก.’ทุกจันทร์

"เศรษฐา" ปัดฝุ่นจีดีพีไทยรั้งท้ายอาเซียน เรียกประชุม ครม.เศรษฐกิจทุกวันจันทร์ ชี้เปิดกว้างรับฟังไอเดีย ไม่ได้มาเพื่อสั่งงาน ตีปี๊บผลงานโบแดงร่อนยุโรป นายกฯ อิตาลีจ่อเยือนภูเก็ต เจรจาอียูหนุนยกเว้นวีซ่าเชงเกนไทยสัญญาณดี เชื่อชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจมองเมืองไทยมีเสน่ห์ เป็นกลางทางการเมือง ไม่มีคู่ขัดแย้ง ฟุ้งหนักอ้างโผล่หน้าทั่วโลกสร้างความมั่นใจให้ ตปท. เล็งเดินสายต่อดินแดนภารตะเดือน ก.ค.

ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเวลา 11.50 น. วันที่ 22 พ.ค. (เวลาที่กรุงโตเกียวเร็วกว่าเวลาที่กรุงโรม 7 ชั่วโมง และเร็วกว่าเวลาที่กรุงเทพฯ 2 ชั่วโมง) นายเศรษฐา ทวีสิน เดินทางถึงท่าอากาศยานฮาเนดะ (Haneda Airport) กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจที่กรุงโรม สาธารณรัฐอิตาลี เมื่อวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเครื่องบินของนายกรัฐมนตรีจอดสนิท เอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว เชิญนายกรัฐมนตรีลงจากเครื่องบิน เมื่อถึงเชิงบันได นายโคมูระ มาซาฮิโระ (Mr. KOMURA Masahiro) ผู้ช่วย รมว.กต. ญี่ปุ่น และนางสาวคูกะ ยูริโกะ (Ms. KUGA Yuriko) ผอ.กองเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้การต้อนรับ จากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินทางออกจากท่าอากาศยานฮาเนดะ ไปยังโรงแรมที่พัก The Peninsula Tokyo ก่อนปฏิบัติภารกิจการเข้าร่วมการประชุม Nikkei Forum Future of Asia ครั้งที่ 29 ระหว่างวันที่ 22-24 พ.ค. ณ กรุงโตเกียว ญี่ปุ่น

 นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ว่า ในวันจันทร์ที่ 27 พ.ค.นี้ เวลา 16.00 น. จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ซึ่งจะเรียกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาพูดคุยกัน แต่ไม่ใช่เป็นการเรียกใครมาเพื่อต่อว่า แต่จะเป็นการมาพูดคุยหามาตรการ หรือไอเดียต่างๆ ที่จะต้องทำ ตั้งแต่เรื่องนโยบายและการผันเงินผ่านกรมบัญชีกลาง เรื่องกฎหมายระหว่างประเทศ แก้ไขปัญหา เรียกว่าเป็นการมานั่งแก้ไขปัญหากัน เพราะผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศหรือจีดีพีโตแค่เพียง 1.5% ต่ำที่สุดในอาเซียน

เมื่อถามว่า อะไรคือสิ่งที่รัฐบาลตั้งใจในไตรมาส 4 หลังในโครงการดิจิทัลวอเล็ตถึงมือประชาชน และคาดว่าจีดีพีจะโตขึ้นใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า คงมีส่วน แต่จะคอยไกลขนาดนั้นไม่ได้ ต้องเริ่มทำงานก่อน อย่างที่บอกว่าจีดีพีโตแค่ 1.5% ถ้าไม่มีภาคบริการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เราก็จะตกอยู่ในภาวะเศรษฐกิจถดถอย อันนี้น่าเป็นห่วง และยังมีอีกหลายเรื่อง ทั้งบัตรเครดิต หนี้เสีย และหนี้ครัวเรือน

เมื่อถามว่า จะมีโครงการระยะสั้นออกมากระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตรงนี้เป็นที่มาของการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจดังกล่าว ซึ่งต้องมานั่งคุยกัน และตนเองได้บอกทุกคนไปว่าเวลามาให้มีข้อมูล และมาด้วยใจที่เปิดกว้าง พร้อมกับไอเดีย ไม่ได้ให้มาเพื่อที่จะสั่งว่าต้องทำอะไร การประชุมครั้งนี้คงยังไม่มีโครงการอะไรออกมาเซอร์ไพรส์แน่นอน ต่อไปจะมีการประชุมทุกสัปดาห์ อีกทั้งยังมีการประชุมวงเล็ก ซึ่งตนเองอยากฟังความคิดเห็นของทุกคน จะมีทั้งภาคการค้าระหว่างประเทศ ภาคการเกษตร ภาคกฎหมาย ภาคนโยบาย ซึ่งต้องฟังทุกคน และมีข้อสรุปออกมา

นัดแรก ครม.เศรษฐกิจ

ด้านนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้นิ่งนอนใจกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศ เร่งแก้ไขปัญหานโยบายเศรษฐกิจระยะสั้นอย่างเร่งด่วน กำหนดจัดการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจทุกวันจันทร์ เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่จะถึงนี้ (27 พฤษภาคม 2567) เวลา 16.00 น. ซึ่งจะเชิญรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกภาคส่วน เพื่อรับฟังแนวทางการทำงาน มาระดมความคิดเห็น หามาตรการว่าจะปรับแนวทางการดำเนินงานอย่างไรบ้าง เริ่มตั้งแต่พิจารณานโยบาย การดำเนินนโยบาย การกระตุ้นการเบิกจ่าย และกฎหมายระหว่างประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ภายหลังจบภารกิจการเยือนสาธารณรัฐอิตาลีอย่างเป็นทางการและกิจกรรมคู่ขนานว่า การเยือนประเทศอิตาลีครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จเหนือความคาดหมาย  เพราะมีการกำหนดชั้นตอนชัดเจน ว่าอนาคตจะมีขั้นตอนอย่างไร จะทำอะไรบ้าง ซึ่งตนเองพอใจมากในภาพรวมตลอดเวลาหลายวันที่ผ่านมา และเชื่อว่าความเป็นกลางทางด้านการเมืองของไทยทำให้ไทยมีเสน่ห์ อีกทั้งเราไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร เพราะเรื่องของธุรกิจที่จะตัดสินใจย้ายฐานการผลิตเข้ามา  อิตาลีต้องมั่นใจว่าไทยจะสามารถส่งสินค้าได้โดยที่ไม่เป็นคู่ขัดแย้งกับประเทศไหน ซึ่งแน่นอนว่าชีวิตความเป็นอยู่ในประเทศไทย ทำให้มีคนอยากเดินทางมาอยู่ที่นี่

นายเศรษฐากล่าวว่า หารือทวิภาคีกับนางจอร์จา เมโลนี นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐอิตาลี ในโอกาสการเยือนสาธารณรัฐอิตาลีอย่างเป็นทางการ ว่า ถือเป็นโอกาสดี เพราะนอกจากจะเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ยังเป็นประธานกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก (G7) ซึ่งตำแหน่งนี้สามารถโน้มน้าวประเทศสมาชิกได้หลายๆ เรื่อง ตนโดยมีการหารือทวิภาคีแบบสองต่อสองในบรรยากาศพูดคุยแบบสบายๆ เริ่มต้นด้วยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยได้นำเรื่องการยกเว้นการตรวจลงตราเข้าเขตเชงเกน ที่ไทยได้หารือในเรื่องนี้กับประเทศสมาชิกยุโรปอยู่แล้ว ซึ่งนายกรัฐมนตรีอิตาลีก็พร้อมให้การสนับสนุน เพราะที่ผ่านมาคนไทยที่เดินทางไปอิตาลีไม่มีปัญหาเรื่องการตรวจคนเข้าเมือง ไม่ได้หลบหนี และไม่ได้ก่อปัญหาให้ประเทศอิตาลี จึงไม่มีเหตุผลที่จะไม่ให้ความช่วยเหลือไทย

ลุ้นฟรีเชงเกน

นายเศรษฐากล่าวว่า นายกรัฐมนตรีอิตาลีเป็นคนแรกของยุโรปที่ได้สอบถามว่าทำไมถึงอยากได้วีซ่าฟรีเชงเกน นอกเหนือจากความสะดวกสบายแล้วมีประเด็นอะไรอีกหรือไม่ ซึ่งตนได้บอกว่านอกจากจะมีความสะดวกสบายในการเข้าหากันแล้ว ก็จะทำให้มีการลงทุนและมีการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนกับประชาชน ซึ่งการขอวีซ่าฟรีเชงเกน 1 ครั้ง มีความยากลำบากและใช้เวลานาน

 “หากจะต้องการให้มีการค้าขายระหว่างประเทศไทยกับสหภาพยุโรป(อียู) จึงจำเป็นต้องมีความสะดวกสบายในเรื่องนี้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีอิตาลีได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะผลักดันอย่างเต็มที่ รวมถึงการเจรจาการค้าเสรี (FTA)  หากบริษัทเอกชนในอิตาลีต้องการไปลงทุนในประเทศไทยเพื่อขยายฐานการผลิตและกระจายสินค้าไปทั่วโลก เรื่อง FTA เป็นเรื่องสำคัญ” นายกรัฐมนตรี ระบุ

ส่วนเรื่องของความมั่นคง นายกฯ กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการซื้ออาวุธ และการพัฒนากองทัพร่วมกัน ได้มอบหมายให้ทูตทหารประสานงานกับฝ่ายความมั่นคงของอิตาลี นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการพัฒนาระบบการฝึกซ้อม และเทคโนโลยีต่างๆ ด้วย

ในส่วนเรื่องอุตสาหกรรมการออกแบบ เรื่องแฟชั่นและดีไซน์ ก็มีการพูดคุยในเรื่องนี้เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน เพราะว่าประเทศอิตาลีไปไกลในเรื่องนี้มาก สำหรับเรื่องของพลังงาน ทางอิตาลีให้ความสนใจในเรื่องของการจัดทำพลังงานสะอาด และการค้นหาแหล่งก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเรื่องนี้จะลิงก์กับปัญหาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา (OCA)

นายกฯ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่ทางการอิตาลีเป็นฝ่ายหยิบยกขึ้นมาเสนอ คือเรื่องของแรงงานที่ต้องการให้ไทยส่งแรงงานเฉพาะฤดูที่เกี่ยวกับการเกษตรเข้ามาทำงานที่ประเทศอิตาลี สอดคล้องกับความต้องการแรงงานของชาวไทย ซึ่งจะทำให้มีรายได้สูงมาก และเป็นอีกทางเลือกให้กับเกษตรกรชาวไทย นอกเหนือจากการไปประเทศอิสราเอล ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจะรับไปดูต่อในเรื่องนี้

"การพูดคุยกับนายกฯ อิตาลีใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที รวมเวลารับประทานอาหารร่วมกัน ถือเป็นเรื่องดีๆ เพราะมีเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานเข้าร่วม โดยเฉพาะโครงการแลนด์บริดจ์ที่ได้หยิบยกขึ้นมาพูดคุยกัน ซึ่งนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม อยู่ร่วมวงอาหารด้วย ส่วนเรื่องของการขยายสนามบิน ทางอิตาลีก็มีเทคโนโลยีหลายอย่างที่อาจเข้ามาเสนอตัวมีส่วนร่วมในเรื่องนี้ และทางนายกรัฐมนตรีอิตาลีก็ได้เสนอว่า ทั้งสองประเทศควรมีกลุ่มเป้าหมายเฉพาะที่ชัดเจน และมีการเซ็น MOU อยู่ระหว่างภาคเอกชนกับภาคเอกชน และเอกชนกับรัฐบาล" นายเศรษฐาระบุ

เปิดบินตรงมิลาน

นายเศรษฐากล่าวว่า นอกจากนี้ยังได้เสนอให้นายกรัฐมนตรีอิตาลีเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในช่วงเดือนกันยายน แต่ช่วงเวลานั้นติดการประชุม G7 จึงตัดสินใจว่าอาจมีการเดินทางเยือนในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2568 พร้อมเชิญชวนให้นายกรัฐมนตรีอิตาลีเดินทางไปเที่ยวจังหวัดภูเก็ต  เพราะทราบว่าไม่เคยเดินทางมาเที่ยวในประเทศไทย และทราบว่ามีลูกสาวอายุ 7 ขวบชื่นชอบการท่องเที่ยว

นายกฯ เปิดเผยถึงข่าวดีอีกหนึ่งอย่างว่า จะมีการเปิดเที่ยวบินกรุงเทพฯ-มิลาน ในช่วงวันที่ 1 กรกฎาคม และ ช่วงฤดูหนาวจะมีการเปิดเที่ยวบิน กรุงเทพฯ-โรม ซึ่งคาดว่าสายการบินแห่งชาติของอิตาลีก็น่าจะสนใจในเรื่องนี้ และยอมรับว่าในอดีต 10-20 ปีที่ผ่านมา  เรื่องของการค้าขายระหว่างสองประเทศ ไทยควรทำได้ดีกว่านี้

เมื่อถามว่า แสดงว่า ณ วันนี้ เขามีความมั่นใจในประเทศไทยใช่หรือไม่  นายเศรษฐากล่าวว่า เชื่อว่าเป็นเรื่องของขบวนการทั้งหมด ของการได้มาซึ่งรัฐบาลตามระบอบประชาธิปไตยที่มีความชอบธรรม ซึ่งตรงนี้มันจบแล้ว การที่เราเดินทางไปยังหลายๆ ประเทศ และได้เห็นถึงการไปปรากฏตัวในเวทีโลกหลายเวที ทุกคนเห็นว่าประเทศไทยเปิดแล้วสำหรับทำธุรกิจ เรื่องเหล่านี้สำคัญ และไม่มีโอกาสและจังหวะไหนดีที่สุดเท่าจังหวะนี้แล้ว

เมื่อถามว่า หลังจากจบการเดินทางครั้งนี้แล้ว มีแผนที่จะเดินทางเยือนประเทศไหนอีก นายกฯ กล่าวว่า คาดว่าน่าจะไปประเทศอินเดีย ซึ่งจะมีการเลือกตั้ง ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันอยู่มา 4 เทอมแล้ว  มีความเชี่ยวชาญในหลายด้าน และชื่นชอบประเทศไทย นอกจากนี้ยังคิดว่าจะเดินทางเยือนแอฟริกาเพื่อเปิดตลาดค้าขายเกี่ยวกับเรื่องอาหารและสินค้าการเกษตร รวมถึงประเทศที่เป็นประตูสู่ทวีปยุโรป คือตุรกี ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นในช่วงปลายไตรมาส 3 ขึ้นไตรมาส 4

 “แต่จากนี้เป็นต้นไป ซึ่งเป็นช่วงของวันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผมจะยังไม่เดินทางไปไหน แต่จะลงพื้นที่โครงการพระราชดำริ ซึ่งมีหลายโครงการ จะไปตรวจงานและติดตามให้ทุกโครงการ ดำเนินไปด้วยดี” นายกฯ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายเศรษฐาได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า “ถึงโตเกียวแล้วครับ หลังเตรียมงานวันพรุ่งนี้ที่จะพบภาคเอกชนหลายรายทั้ง Mitsui & Co, Ajinomoto, Nidec Corporation, Sony และ MUFG & SoftBank เรียบร้อยแล้ว เลยเดินออกกำลังกายรอบโรงแรมที่พัก และไม่ลืมใส่เสื้อเชิ้ตผ้าขาวม้าสีสันสดใส จากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ มาอวดชาวญี่ปุ่นด้วยครับ”.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

18 มิ.ย.ลุ้น 4 คดีร้อน จับตาใครจะพินาศ?

จับตาว่าในวันที่ 18 มิ.ย.นี้เป็นต้นไป จะมีการพิจารณาคดีทางการเมือง 4 ประเด็นร้อน ที่จะส่งผลสะเทือนไปถึงเสถียรภาพของรัฐบาล การเมืองไทยในระยะเวลาต่อไป

พร้อมเลือกสว.รอบ2

เตรียมการเลือก สว.ระดับจังหวัดทั่วประเทศคึกคัก เลขาธิการ กกต.เตือนผู้สมัคร สว.มารายงานตัวให้ทันเวลาก่อน 09.00 น. ย้ำสายเพียง 1 วินาทีก็ไม่ได้