พท.ปัดสวะพล.อ.พิศาล อึ้ง! ผู้ต้องหาตากใบหาย

“เพื่อไทย” พาเหรดถีบ “พล.อ.พิศาล” ยันไม่ใช่เรื่องของพรรค เป็นเรื่องส่วนบุคคล “วิสุทธิ์” บอกไม่มีใครใหญ่กว่ารัฐธรรมนูญ  สมัยประชุมจับกุมคุมขังไม่ได้ “พปชร.” จี้นายกฯ   อิ๊งค์โชว์ศักยภาพผู้นำตามอดีตแม่ทัพภาค 4 อึ้ง!  ตำรวจภาค 9 ตามล่าหัวตามหมายศาลแต่ไม่พบตัวสักรายเดียว

เมื่อวันศุกร์ที่ 4 ต.ค. นายภูมิธรรม เวชยชัย  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลออกหมายจับ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) และอดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ในคดีตากใบ พรรค พท.จะประสานให้ พล.อ.พิศาลรับทราบหรือไม่ ว่าไม่ใช่เรื่องของพรรค เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล เราถือตามที่สภาผู้แทนราษฎรว่าอยู่แล้ว ตอนนี้เป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรม ตำรวจต้องทำหน้าที่ในการต้องเร่งรัดตามคำสั่งของศาล หากมีการพบตัวก็มีการควบคุมได้ หากมีวันประชุมสภาก็ต้องปล่อยตัวให้มาทำหน้าที่ในสภาตามกฎกติกาที่มีอยู่

“ไม่ใช่พรรคไปกำหนดชะตาชีวิตได้ทั้งหมด  พรรคอาจจะแนะนำได้ว่าให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่ก็เป็นเอกสิทธิ์ของเขา แต่นี่ยังไม่ถึง  เอาเป็นว่าไปจับตัวให้ได้ก่อน ซึ่งเป็นเรื่องของตำรวจที่ต้องปฏิบัติตามหมายศาลที่ออกมา”

เมื่อถามว่า ได้มีผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทยประสาน พล.อ.พิศาลให้มามอบตัวหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ขอพูดผ่านสาธารณะแล้วกัน  ยังไม่มีใครสามารถติดต่อ พล.อ.พิศาลได้ ถ้าเรารู้ว่าอยู่ที่ไหนก็จะแนะนำให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม การถูกกล่าวหายังไม่ได้หมายความว่าท่านเป็นผู้มีความผิด ยังถือว่าท่านบริสุทธิ์อยู่ ฉะนั้นการเข้าสู่กระบวนการของศาลน่าจะดีที่สุด ทุกอย่างจะได้จบลงอย่างชัดเจน ซึ่งได้กำชับกับตำรวจให้เร่งดำเนินการให้เห็นชัดเจนที่มีการกล่าวหาเราว่าเป่าคดีบ้าง หรือเราไปเข้าข้างบ้าง

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. กล่าวในเรื่องนี้ว่า เมื่อเดือนที่แล้วทราบว่า พล.อ.พิศาลไปรักษาตัวอยู่ต่างประเทศ แต่ไม่ทราบว่าไปที่ไหน ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 125  บัญญัติไว้ชัดเจนว่า ช่วงของการประชุมสภา  การจับกุมคุมขัง ประธานสภาฯ ต้องนำเข้าสู่การพิจารณาเพื่อให้สภาอนุมัติก่อนถึงจะจับได้ แต่ พล.อ.พิศาลไปต่างประเทศก่อนหน้านี้แล้ว และไม่ได้อยู่ในสภา ซึ่งตามรัฐธรรมนูญมาตราดังกล่าวไม่ว่าจะเป็น พล.อ.พิศาล หรือใครก็แล้วแต่ ถ้าอยู่ในประเทศไทยก็ไม่สามารถจับกุมคุมขังได้ ต้องขออนุญาตก่อน เว้นเสียแต่ว่าคนนั้นถูกฟ้องแล้วไปมอบตัวแล้ว และประกันตัวออกมาแล้ว ศาลสามารถเรียกได้

“ผมไม่ได้เอารัฐธรรมนูญมาอ้างเพื่อที่จะปกป้องท่านพิศาล ไม่ว่าใครไม่สามารถจะยิ่งใหญ่กว่ารัฐธรรมนูญ เพราะเป็นกฎหมายสูงสุดที่จะต้องยึดตามนี้ ดังนั้นถ้าใครทำนอกเหนือก็ถือว่าผิดรัฐธรรมนูญ และตามรัฐธรรมนูญไม่ใช่จะช่วยใคร เพราะรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้แบบนี้ ซึ่งพูดถึงหลักการ ไม่ใช่ท่านพิศาลเพียงคนเดียว หากอยู่ในระหว่างสมัยประชุมสภาการจับกุมคุมขังต้องผ่านสภาก่อน” นายวิสุทธิ์กล่าว

นายวิสุทธิ์ยังกล่าวถึงการพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา ของนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เกี่ยวกับคดีตากใบเมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า พูดไปแล้วมันได้อะไรขึ้นมา และการออกหมายจับ พล.อ.พิศาล ก็เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม การที่เอามาปั่นในสภาแล้วด่ากันอย่างนั้นมันดีหรือไม่ และก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์ตากใบ ต้องดูว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง บางทีคนที่เกิดหลังเหตุการณ์ที่ผ่านมา 20 ปี ฟังแล้วอาจเกิดความแตกแยก วันนี้ควรพูดเรื่องแก้ปัญหาปากท้อง เรื่องน้ำท่วมก่อนดีหรือไม่

พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า พรรค พปชร.ขอเรียกร้องให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และในฐานะกำกับดูแลกระทรวงยุติธรรม รวมถึงยังเป็นหัวหน้าคณะรัฐมนตรี ต้องสร้างความยุติธรรมให้ประชาชน จึงขอให้เร่งติดตามตัว พล.อ.พิศาล ที่ทราบมาว่าได้มีใบลาการประชุมด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ และเดินทางไปต่างประเทศแล้ว มาดำเนินคดีตามหมายจับของศาลจังหวัดนราธิวาสโดยด่วน เพราะคดีตากใบใกล้หมดในอีก 22 วัน คือวันที่ 25 ต.ค.2567 ดังนั้นการดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องจะไม่สามารถดำเนินการได้อีก ซึ่งคดีดังกล่าวยังไม่ได้รับการคลี่คลาย และสังคมยังเกิดคำถามว่า รัฐบาลพยายามเตะถ่วงคดีนี้หรือไม่  เพราะวันที่เกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ 25 ต.ค.2547 ผู้นำรัฐบาลคือนายทักษิณ ชินวัตร

“น.ส.แพทองธารมีฐานะที่สำคัญ ได้แก่ 1.ฐานะหัวหน้ารัฐบาล 2.ฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ 3.ฐานะหัวหน้าผู้ดูแลรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ต้องสั่งการให้เร่งนำตัว พล.อ.พิศาลมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทันที หากยังเพิกเฉย สังคมอาจมองว่า น.ส.แพทองธารใส่เกียร์ว่าง จงใจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้อง สส.ของพรรคตัวเองได้” พล.ต.ท.ปิยะกล่าว

วันเดียวกัน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผบ.ตร. และคณะ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมหน่วยกำลังในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจส่วนหน้า อ.เมืองยะลา พร้อมรับฟังการบรรยายสรุปติดตามผลการปฏิบัติงานของหน่วยในพื้นที่ โดย พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 ได้รายงานผลความคืบหน้าในการติดตามผู้ต้องหาตามหมายจับ จากกรณีสืบเนื่องจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมหน้า สภ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 25 ต.ค.2547 ซึ่งศาลจังหวัดนราธิวาสได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาในคดี 13 ราย

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 14.00 น. ชุดปฏิบัติการสืบสวนคดีพิเศษ กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี ได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 68/3 ม.3 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นบ้านของ พล.ต.ต.ศักดิ์สมหมาย พุทธกูล ผู้ต้องหาในคดีนี้ ซึ่งได้พบ น.ส.ปุณิกา พุทธกูล บุตรสาวของ พล.ต.ต.ศักดิ์สมหมาย โดย น.ส.ปุณิการะบุว่า พบกับ พล.ต.ต.ศักดิ์สมหมายเมื่อเดือน มิ.ย.2567 และติดต่อทางโทรศัพท์ครั้งสุดท้ายเมื่อเดือน ก.ค.2567 โดยบิดาบอกว่าจะไปทำธุระนอกพื้นที่ จากนั้นก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย และไม่สามารถติดต่อได้

และในเวลา 15.20 น. เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 89 ม.6 ต.เกาะยอ อ.เมืองฯ จ.สงขลา ซึ่งเป็นบ้านของ พ.จ.ต.รัชเดช ศรีสุวรรณ  ผู้ต้องหาตามหมายจับ ผลการตรวจค้นไม่พบตัวเช่นกัน พบเพียงนางดลฤทัย ศรีสุวรรณ ภรรยา  จากการสอบถามให้การว่า พ.จ.ต.รัชเดชได้ออกจากบ้านไปก่อนหน้านี้แล้วประมาณ 4-5 วัน จากนั้นไม่สามารถติดต่อได้แต่อย่างใด.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ประเสริฐ' รับเพื่อไทยยังไม่มีผู้สมัครนายก อบจ.โคราช หลัง 'ยลดา' เมียกำนันป้อ ประกาศลงอิสระ

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีนางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครราชสีมาที่ลาออกไป