ประวิตรโว7ปีทำชีวิตดีขึ้น จี้ฟัน‘อัศวิน’เอื้อเลือกสก.

หาเสียง

"เต้-มงคลกิตติ์" บุกพื้นที่หาเสียงหวังตัดหน้า "บิ๊กป้อม" สุดท้ายชาวบ้านตะโกนไล่ไม่ต้อนรับ เจ้าตัวโวยลั่นใหญ่มาจากไหน ต่อให้ชื่อ "พลเอกประวิตร" ก็ปิดถนนไม่ได้ ด้าน "ประวิตร” ช่วย “มาดามหลี” ยัน "บิ๊กตู่" ทำงานมา 7 ปีทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น ขณะที่  "เพื่อไทย" บุก "มหาดไทย" ยื่นเรื่องตรวจสอบผู้ว่าฯ กทม.แต่งตั้ง "กก.ติดตามนโยบาย" หวั่นเอื้อประโยชน์ให้ "ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก." บางคน-บางพรรค

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณชุมชนบางบัวร่วมใจพัฒนา (เชิงสะพานไม้ 2) เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2565 ก่อน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะลงพื้นที่ช่วยนางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม. พรรค พปชร.หาเสียง ปรากฏว่านายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้เดินทางมาพร้อมกับผู้สมัครของพรรค

โดยนายมงคลกิตติ์อ้างว่า จะขอเข้าไปภายในชุมชนเพื่อแนะนำผู้สมัคร ไม่มีเจตนาเข้าไปก่อกวนหรือป่วนงาน จนประธานชุมชนต้องเข้ามาเจรจาว่าพื้นที่ดังกล่าวกำลังจะมีการจัดกิจกรรม ไม่สามารถผ่านไปได้  พร้อมแนะนำให้เลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น หรือไปผ่านทางบริเวณชุมชนเชิงสะพานไม้ 1 แต่นายมงคลกิตติ์ยืนยันจะเข้าไปให้ได้ ทำให้ประชาชนออกมาตะโกนไล่ว่า “ไม่ต้อนรับๆ” จนเกิดการโต้เถียงเล็กน้อย ก่อนที่นายมงคลกิตติ์จะยอมกลับ

นายมงคลกิตติ์กล่าวว่า โดยหลักกฎหมายแล้วการจะห้ามเข้าพื้นที่สาธารณะต้องมีคำสั่งราชการ ประธานชุมชนจะทำอย่างนี้ไม่ได้ ต้องให้ทุกพรรคได้เข้าหาเสียง ทำแบบนี้ไม่ได้ จะใหญ่มาจากไหนก็ทำแบบนี้ไม่ได้เพราะเป็นทางสาธารณะ จะเป็น พล.อ.ประวิตรก็ปิดไม่ได้ 

ต่อมาเวลา 17.21 น. พล.อ.ประวิตรเดินทางถึงชุมชนสะพานไม้ 2 ช่วยนางสรัลรัศมิ์หาเสียง โดยมีแกนนำพรรค อาทิ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค, นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม รวมถึง น.ส.ปารีณา  ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี, นายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.กทม.

โดย พล.อ.ประวิตรกล่าวทักทายประชาชนในชุมชน จากนั้นขึ้นเวทีปราศรัยตอนหนึ่งว่า การก่อสร้างโครงการพัฒนาบ้านมั่นคงริมคลอง  เพราะต้องการให้ประชาชนมีบ้าน สามารถเดินทางไปมาหาสู่กันได้ เพราะอยู่ริมคลองลำบาก จึงขอให้ทุกคนมีความรัก ความสามัคคีกัน และยืนยันว่ารัฐบาลนี้ต้องการพัฒนาไม่ใช่แค่ริมคลอง แต่จะทำให้ทั้งประเทศมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ภายใต้การนำของรัฐบาล พล.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ทำงานมา 7 ปี สร้างสรรค์ความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่ประชาชน จึงขอฝากทุกคนช่วยเลือกมาดามหลี พรรคพลังประชารัฐ เบอร์ 7

หลังจากนั้น พล.อ.ประวิตรได้เดินพบปะทักทายประชาชนที่มาให้การต้อนรับ แต่ปรากฏว่าด้านหน้าชุมชนเกิดเหตุชุลมุน เนื่องจากมีตัวแทนกลุ่มพีมูฟเกือบ 10 คน บุกเข้ามาเพื่อจะยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประวิตร เพื่อทวงถามความคืบหน้าและข้อเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาของประชาชน หลังจากที่ปักหลักรอฟังคำตอบบริเวณยูเอ็นมาเป็นเวลา 4 วัน  ทำให้นายอธิรัฐและนายสิระต้องเข้าไปรับหน้าเจรจา โดยระบุว่าเป็นตัวแทนของ พล.อ.ประวิตร ขณะที่ทีมรักษาความปลอดภัยได้เดินประกบ พล.อ.ประวิตร จนมาถึงบริเวณรถที่จอดรออยู่ด้านหน้า

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และรองหัวหน้าพรรค กล่าวถึงการเปิดตัวผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ว่า เป็นเรื่องน่ายินดีที่พรรคก้าวไกลเป็นอีกพรรคการเมืองหนึ่งที่ประกาศเปิดตัวผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ต่อจากพรรคประชาธิปัตย์ที่ได้ประกาศเปิดตัวนายสุชัชวีร์  สุวรรณสวัสดิ์ ไปเมื่อวันที่13 ธ.ค.64 การที่พรรคก้าวไกลเปิดตัวผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. แสดงให้เห็นว่าเป็นพรรคการเมืองที่ให้ความสำคัญต่อการเมืองระดับท้องถิ่น ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข นอกจากนั้นยังทำให้ประชาชนมีทางเลือกที่จะพิจารณาบุคคลที่เหมาะสมมาเป็นผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.มากขึ้น

วันเดียวกัน ตัวแทนพรรคเพื่อไทยนำโดยนายจิรายุ ห่วงทรัพย์  ส.ส.กทม. พร้อมว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.)  พรรคเพื่อไทย ร่วมกันยื่นหนังสือขอให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.) ตรวจสอบข้อเท็จจริงคำสั่งแต่งตั้งกรรมการติดตามการปฏิบัติตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) ใช้อำนาจแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่ง "กรรมการติดตามนโยบายผู้ว่าฯ  กทม." ที่อาจเป็นการกระทำที่ขัดกันแห่งผลประโยชน์ และส่อว่าเป็นการทุจริตต่อหน้าที่เพื่อแสวงหาประโยชน์อันมิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ยังผลให้เป็นการเสื่อมเสียแก่เกียรติศักดิ์ศรีของตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. หรืออาจเป็นเหตุให้เสียหายอย่างร้ายแรงแก่ราชการในส่วนรวมของ กทม. ซึ่งต้องห้ามตามมาตรา 52 (8) แห่ง  พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2528 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และอาจเข้าข่ายปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 หากตรวจสอบพบข้อเท็จจริงเป็นการกระทำที่เข้าข่ายความผิดต่อกฎหมาย ก็ขอให้ใช้อำนาจสั่งการให้ผู้ว่าฯ กทม.ยุติการกระทำดังกล่าว และดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ด้วยการเสนอให้ผู้ว่าฯ กทม.พ้นจากตำแหน่ง  พร้อมขอให้ส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงต่อไป

ทั้งนี้ ปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้ว่าฯ กทม.ได้กระทำการอันอาจเข้าข่ายเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ด้วยการแต่งตั้งหรือยินยอมให้มีการแต่งตั้งว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.ในแต่ละเขตบางคน ซึ่งไม่ทราบชัดเจนว่าเป็นบุคคลในทีมของผู้ว่าฯ กทม. หรือในทีมผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.คนอื่น ให้เป็นกรรมการติดตามนโยบายผู้ว่าฯ กทม.  การกระทำดังกล่าวข้างต้นอาจทำให้เกิดการนำทรัพยากรของรัฐไปใช้เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตนเองหรือผู้อื่น และเป็นการเอาเปรียบผู้สมัครอื่น แม้ขณะนี้จะยังไม่มีประกาศให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ  กทม.และ ส.ก.ก็ตาม แต่การกระทำก็ส่งผลต่อคะแนนนิยมของบุคคลที่อ้างว่าเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.แล้ว และเป็นการกระทำที่ขัดกันแห่งผลประโยชน์ และส่อว่าเป็นการทุจริตต่อหน้าที่เพื่อแสวงหาประโยชน์อันมิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย

ขณะที่นายสรวงศ์ เทียนทอง ผู้อำนวยการเลือกตั้งเขตหลักสี่-จตุจักร พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ผู้สมัครสามารถส่งรายชื่อผู้สังเกตการณ์ประจำหน่วยเลือกตั้งได้ ซึ่งทั้งหมดมี 280 หน่วย พรรคเพื่อไทยยืนยันส่งผู้สังเกตการณ์ประจำหน่วยเลือกตั้งครบทุกหน่วยเลือกตั้ง ในการเลือกตั้งปี 2562 การดำเนินการเลือกตั้งเต็มไปด้วยความเคลือบแคลงสงสัย พรรคเพื่อไทยจึงให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นอย่างมาก จะมีการรวบรวมหลักฐานและติดตั้งกล้องวงจรปิดในพื้นที่ด้วย จึงอยากให้ประชาชนร่วมกันเป็นหูเป็นตา ไม่จำกัดเฉพาะประชาชนในพื้นที่หลักสี่-จตุจักรเท่านั้น ประชาชนทุกคนสามารถมีส่วนร่วมกับการเลือกตั้งครั้งนี้ ทั้งนี้ขอฝากไปถึง กกต.ใน 2 ประเด็นสำคัญที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นธรรม ได้แก่

1.อยากให้ กกต.ทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ กกต.ประจำหน่วยเลือกตั้งด้วยว่า พรรคการเมืองมีสิทธิ์ที่จะส่งผู้สังเกตการณ์ประจำหน่วยเลือกตั้งเข้าไปทำงานภายในหน่วยเลือกตั้งได้

2.ขอให้ กกต.จัดที่นั่งให้ผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้งภายในหน่วยเลือกตั้ง เบื้องต้นมี 2 พรรคที่จะส่งผู้สังเกตการณ์เข้าไปภายในหน่วยเลือกตั้ง จึงขอร้องให้จัดเตรียมเก้าอี้สำหรับเจ้าหน้าที่อย่างเพียงพอ  เก้าอี้เพียง 2 ตัวตั้งในจุดที่เจ้าหน้าที่สังเกตการณ์การเลือกตั้งสามารถมองเห็นเหตุการณ์ต่างๆ ได้อย่างชัดเจนด้วย 

นายสรวงศ์กล่าวว่า อยากให้ประชาชนติดตามการปราศรัยใหญ่ของนายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 9 เบอร์ 3 พรรคเพื่อไทย รวมทั้งผู้บริหาร ส.ส.และสมาชิกพรรคเพื่อไทย ในวันที่ 28  มกราคม 2565 ที่สวนสาธารณะชุมชนเคหะทุ่งสองห้อง ขอให้ประชาชนในพื้นที่ออกไปใช้สิทธิ์อย่างเต็มที่

 “เราเอาจริงกับการจับผิดในครั้งนี้ เราจะรวบรวมหลักฐานการทุจริตการเลือกตั้งซ่อมเขต 9 ผมทราบว่า กกต.มีรางวัลนำจับหากมีการแจ้งเบาะแส แต่ถ้าประชาชนไม่กล้าแจ้ง กกต.ด้วยตัวเอง สามารถมาแจ้งกับผู้สังเกตการณ์ของพรรคเพื่อไทยได้” นายสรวงศ์กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง