สมรสเท่าเทียม1,754คู่ ดันเปลี่ยนคำนำหน้านาม

ทั่วไทยคึกคัก! "สมรสเท่าเทียม" วันแรก "นายกฯ อิ๊งค์" แสดงความยินดีคู่รัก LGBTQIA+ จุดเริ่มต้นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ กฎหมายไทย "โฆษก มท." เผยแห่จดทะเบียนทั่วประเทศ 1,754  คู่ "ปชน." ปลื้มยกเป็นผลงานของ  สส.ทุกคน จ่อลุยต่อแก้ กม.รอง 4 ประเด็น กระทุ้ง พท.ร่วมชงกฎหมายเปลี่ยนคำนำหน้านาม

เมื่อวันที่ 23 มกราคม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวเนื่องในโอกาสกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลบังคับใช้ว่า ในนามของรัฐบาล ขอแสดงความยินดีกับคนไทยทุกคน ที่ต่อจากนี้ทุกความรักของคนไทย จะถูกรับรองทางกฎหมาย ทุกคู่จะมีชีวิตอย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี บนผืนแผ่นดินไทย กว่า 2 ทศวรรษของการต่อสู้ทั้งในทางกฎหมาย การเผชิญหน้ากับอคติ และการเปลี่ยนแปลงค่านิยมของสังคม ชัยชนะในครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จจากความร่วมมือของทุกคน

น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ขอบคุณนายเศรษฐา  ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มุ่งมั่นทำงานร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียมอย่างเต็มที่ ขอขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากทั้งพรรคฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน    สมาชิกวุฒิสภา ที่ร่วมกันผลักดันกฎหมายฉบับนี้ผ่านกลไกของรัฐสภา ขอขอบคุณสื่อมวลชนที่เป็นกระบอกเสียงในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ช่วยทำลายมายาคติและอคติที่ฝังรากลึกในสังคมไทย ทำให้เรามาถึงวันนี้ และสำคัญที่สุด ขอบคุณภาคประชาชน พี่น้อง LGBTQIA+ แกนนำสำคัญที่ทำให้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลบังคับใช้ในวันนี้ได้สำเร็จ รวมถึงความทุ่มเททำงาน สร้างการรับรู้ต่อสู้กับอคติมาตลอดหลายปี ทำให้สังคมไทยยอมรับความหลากหลายทางเพศด้วยหัวใจได้อย่างแท้จริง  ทำให้ธงสีรุ้งปักลงบนประเทศไทยอย่างภาคภูมิ ทำให้ประเทศไทยเป็นชาติแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นประเทศที่ 3 ของเอเชียที่ผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียม

"กฎหมายสมรสเท่าเทียมถือเป็นจุดเริ่มต้นที่แสดงให้เห็นว่าสังคมไทยรับรู้และเคารพในความแตกต่างหลากหลายทั้ง เพศสภาพ เพศวิถี เชื้อชาติ ศาสนา ทุกคนมีสิทธิและศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน เพราะความแตกต่าง ไม่ใช่ข้ออ้างในการเลือกปฏิบัติ เชื่อมั่นพลังความรักของทุกคนที่ทำให้ในวันนี้ประเทศไทยได้บันทึกประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญ ทำให้ทั้งโลกได้รู้ว่า ประเทศไทยโอบรับความรักทุกรูปแบบ ยอมรับความหลากหลายทางเพศ ซึ่งเป็นพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตย พร้อมเชิญชวนให้คนไทยมาร่วมเฉลิมฉลองความสำเร็จนี้ไปด้วยกัน และขอแสดงความยินดีกับคู่สมรสใหม่ทุกคู่" นายกฯ ระบุ

ด้าน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงการดำเนินการของกระทรวงมหาดไทย  โดยกรมการปกครอง ในฐานะหน่วยงานหลักที่ทำหน้าที่เป็นนายทะเบียนผู้จดทะเบียนสมรสสำหรับทุกความรักทั่วประเทศ ตามพระราชาบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ.2567 หรือกฎหมายสมรสเท่าเทียม ซึ่งมีผลใช้บังคับวันนี้เป็นวันแรก ด้วยบริการด้านการทะเบียนบนหลักความเสมอภาคและเท่าเทียม เปิดประตูสู่การยอมรับเพศที่หลากหลายอย่างแท้จริงของประเทศไทย

1,754 คู่รักแห่จดทะเบียน

สำหรับผลการให้บริการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียม ณ วันที่ 23 ม.ค.68 เวลา 16.30 น. พบว่า มีคู่รักเดินทางมาจดทะเบียนสมรส 1,754 คู่        

"วันนี้ ที่ว่าการอำเภอทั้ง 878 อำเภอใน 76 จังหวัดทั่วประเทศ สำนักงานเขตในกรุงเทพมหานครทั้ง 50 เขต สถานเอกอัครราชทูตไทยและสถานกงสุลไทยทั่วโลก ได้เปิดให้บริการจดทะเบียนสมรสแก่คู่รักเพศที่หลากหลาย และจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองก้าวใหม่ของสังคมไทยไปพร้อมกัน ทางด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ได้ฝากความปรารถนาดี และแสดงความยินดีกับทุกคู่รักที่ได้จดทะเบียนในวันประวัติศาสตร์นี้ และกำลังจะจดทะเบียนสมรสกันในวันต่อๆ ไป และท่านยังได้กำชับเจ้าหน้าที่ทุกท่านขอให้อำนวยความสะดวกให้ทุกคู่รักอย่างเต็มที่ และให้ความสำคัญกับการแนะนำให้ความรู้เกี่ยวกับสิทธิทางกฎหมายต่างๆ ที่จะเปลี่ยนไปหลังจากได้ตกลงใจจดทะเบียนใช้ชีวิตร่วมกันแล้ว"  น.ส.ไตรศุลีระบุ

ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ นำฝ่ายค้านฯ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับประชาชนที่ช่วยกันผลักดันกฎหมายฉบับนี้มาต่อเนื่องหลาย 10 ปี ถือเป็นโอกาสอันดีที่คู่รักทุกคู่ ไม่ว่าจะเป็นเพศใดก็ตาม มีโอกาสสมรสเท่าเทียมกัน เริ่มต้นครอบครัวใหม่ทุกคนอีกครั้ง และกฎหมายฉบับนี้ยังได้รับรองสิทธิต่างๆ ไม่ว่าการเซ็นรักษาพยาบาลแทนกัน ระบบสวัสดิการในส่วนของภาครัฐต่างๆ แต่ยังมีประเด็นต่อเนื่อง ที่พรรคประชาชนจะต้องไปผลักดันต่อ ซึ่งเรื่องสิทธิสวัสดิการของภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกองทัพ ยังมีกฎหมายที่เป็นกฎหมายรองอยู่ ที่แต่เดิมอ้างอิงกับข้อกฎหมายที่เป็นสมรสชายหญิง ซึ่งพรรคจะเป็นปากเป็นเสียง ผลักดันให้มีการแก้ไขกฎหมายอันดับรอง เพื่อให้ทุกคู่รักมีสิทธิการเบิกสวัสดิการให้เท่าเทียมกัน

ส่วนจะถือเป็นผลงานของพรรคด้วยหรือไม่นั้น นายณัฐพงษ์ระบุว่า เป็นผลงานของผู้แทนราษฎรทุกคนที่โหวตผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้ เชื่อว่าประชาชนจะตัดสินใจได้ว่าพรรคการเมืองใดบ้างที่ช่วยสนับสนุนร่างกฎหมายมาอย่างต่อเนื่อง

ที่สำนักงานเขตบางรัก ตัวแทนจากพรรคประชาชน นำโดย นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สส.บัญชีรายชื่อ, นายปารเมศ วิทยารักษ์สรรค์ สส.กทม. และ น.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม ร่วมเป็นสักขีพยาน และแสดงความยินดีแด่คู่รักที่เดินทางมาจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมในวันแรกที่กฎหมายมีผลบังคับใช้ พร้อมกับมอบพวงกุญแจรูปสัญลักษณ์สมรสเท่าเทียมให้เป็นของที่ระลึก ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความอบอุ่นและเต็มไปด้วยความยินดี

นายธัญวัจน์กล่าวว่า ถึงแม้กฎหมายสมรสเท่าเทียมจะผ่านแล้ว แต่ยังมีอีกหลายประเด็นที่ต้องร่วมกันผลักดันต่อ เพื่อสร้างความเท่าเทียมในสังคม โดยเฉพาะข้อสังเกต 4 ข้อของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม ที่ต้องเร่งจัดทำรายงานให้แล้วเสร็จภายใน 180 วันหลังกฎหมายมีผลบังคับใช้ เพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรีนำไปพิจารณาต่อ ได้แก่ 1.การแก้ไขกฎหมายเรื่องอัตลักษณ์และการรับรองเพศ 2.การแก้ไขกฎหมายเรื่องเทคโนโลยีเจริญพันธุ์ 3.การแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาเรื่องความผิดทางเพศ และ 4.การสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องความหลากหลายทางเพศ

 “งานจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย จากการต่อสู้ของทุกภาคส่วนมายาวนานกว่า 13 ปี ดิฉันได้ยินเรื่องราวของการสูญเสีย การไม่ยอมรับ การพลัดพราก และการฆ่าตัวตายมานับไม่ถ้วน จากการที่พวกเขาไม่สามารถสร้างครอบครัวได้ วันนี้ฝันของพวกเขาเป็นจริงถึงหมุดหมายหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องร่วมกันผลักดันต่อ เป้าหมายคือทำให้ทุกคนในสังคมเข้าใจในความหลากหลาย ปราศจากอคติและความเกลียดชัง” นายธัญวัจน์ระบุ

บี้พท.แก้กม.คำนำหน้า

เมื่อถามว่า ก้าวต่อไปนอกจากการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมแล้ว ยังมีอะไรที่อยากทำให้เท่าเทียมอีกบ้าง นายธัญวัจน์กล่าวว่า การตั้งครรภ์ด้วยเทคโนโลยี ให้ครอบครัว LGBTQ สามารถมีครอบครัวได้ อีกประเด็นคือเรื่องการขอสัญชาติของผู้สมรส รวมถึงกฎหมายคุ้มครองแต่ละประเทศ ส่วนการเปลี่ยนคำนำหน้านามนั้น ร่างเรื่องนี้ตกไปแล้ว แต่เราได้ร่างขึ้นมาใหม่ โดยต้องรอให้คณะรัฐมนตรียื่นเข้ามาก่อน จึงฝากบอกไปยังพรรคเพื่อไทยว่า เราจะต้องผลักดันกันต่อ เพื่อให้พรรคเพื่อไทยยื่นเข้ามาก่อน

นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า รัฐบาล กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ควรใช้โอกาสดีเกี่ยวกับกิจกรรม “สมรสเท่าเทียม” ที่จัดขึ้นทั่วประเทศในช่วงนี้ ออกแพ็กเกจเชิญชวนและสนับสนุนการท่องเที่ยวทั่วทุกภาคของประเทศไทย เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างชาติให้เข้ามาจดทะเบียนสมรสในประเทศ ลากยาวจนถึงช่วงวาเลนไทน์

น.ส.พลอยทะเล ลักษมีแสงจันทร์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ขอร่วมแสดงความยินดีกับทุกคู่สมรส ไม่ว่าจะมีเพศสภาพใด ที่ได้ร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์อันน่าภาคภูมิใจ

ที่จวนบ้านพักผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา  นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าฯ นครราชสีมา เป็นประธานเปิดงานกิจกรรมการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียม "Korat Love Wins" โดยมีคู่สมรสจำนวน 18 คู่รัก ภายในงานมีการจัดเลี้ยงเครื่องดื่ม อาหารคาว หวาน เช่น ขนมครก ที่สื่อถึงความเป็นคู่ รวมทั้งมีการจัดซุ้มดอกไม้ขนาด 3 คูณ 4 เมตร ไว้สำหรับถ่ายรูป ก่อนจะให้คู่รักทั้ง 18 คู่ เดินบนพรมแดงที่ปูไว้บริเวณหน้าจวนผู้ว่าฯ

ที่ศูนย์การค้าจังซีลอน ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง เป็นประธานเปิดกิจกรรม DOPA-Day One "ตีฆ้องชัย ให้ทุกความรัก 878 อำเภอทั่วไทย" พร้อมระบุว่า กรมการปกครองพร้อมที่จะดูแลทุกคนเข้าสู่สถาบันครอบครัว ขอให้มีชีวิตคู่ มีชีวิตครอบครัวที่เข้มแข็ง

ที่ที่ว่าการอำเภอเบตง จ.ยะลา นายอิสสะมาแอ ยาโกะ นายอำเภอเบตง และ น.ส.บุศริน เถาวัลย์ ปลัดอำเภอเบตง หัวหน้าฝ่ายทะเบียนและบัตรฯ ให้คู่รักได้แสดงความรักต่อกันโดยมอบดอกกุหลาบที่สื่อถึงความรักซึ่งกันและกัน พร้อมมอบกระเช้าของขวัญในการจดทะเบียนเป็นคู่แรกของอำเภอเบตง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดักคอ‘ชิตตู’กุมความลับไทยเทา

เงื้อค้างหมายจับ “ชิตตู” เลื่อนพิจารณาไป 17 ก.พ. “โรม” ดักคอเป็นผู้กุมความลับโยงไทยเทา ตั้งข้อสังเกตรอให้ถ่ายเททรัพย์สินออกไปหมดหรือไม่