"อธิบดีราชทัณฑ์" แจงยิบปม "อดีต ผกก.โจ้" เสียชีวิตปริศนาในเรือนจำ พร้อมตั้ง คกก. 2 ชุดสอบ ลั่นความจริงก็คือความจริง ยันมีเอกสารเจ้าตัวขอย้ายแดนเอง พร้อมหลักฐานพฤติกรรมกระด้างกระเดื่อง ตร.ลุยจำลองเหตุการณ์ในคุกสัปดาห์หน้า พฐ.เปิดผลตรวจผ้าขนหนูผูกคอไม่พบดีเอ็นเอคนอื่น หยดเลือดเป็นของผู้ตาย
ที่กรมราชทัณฑ์ เมื่อวันที่ 13 มีนาคม นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยการตรวจสอบข้อเท็จจริงการเสียชีวิตของ ข.ช.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ "อดีตผู้กำกับโจ้" ว่า กรมราชทัณฑ์ได้ตั้งคณะกรรมการ 2 ชุดคือ ชุดแรกตรวจสอบกรณีครอบครัวอดีตผู้กำกับโจ้ร้องเรียนมายังกรมราชทัณฑ์ ซึ่งได้รับเรื่องตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา และตั้งคณะกรรมการเมื่อวันจันทร์ที่ 10 มี.ค. พร้อมลงพื้นที่ตรวจสอบ ส่วนอีกชุดตรวจสอบกรณีการเสียชีวิต จะมีหน่วยงานภายนอก 3 หน่วย ทั้งสถาบันนิติวิทยาศาสาตร์ ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เพื่อให้เห็นว่ากรมราชทัณฑ์พร้อมพิสูจน์ความจริง
โดยก่อนหน้านี้ วันที่ 11 มี.ค. กรมราชทัณฑ์ได้พาตัวแทนสื่อมวลชนเข้าไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ รวมทั้งมอบหลักฐานภาพกล้องวงจรปิด ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่ตอนเช้าที่อดีตผู้กำกับโจ้ลงจากเรือนนอนจนกระทั่งเข้าเรือนนอน และหลังการเสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งพร้อมเปิดให้ดูมากกว่านี้ เพราะอยากให้ความจริงปรากฏว่าเกิดเหตุอะไรขึ้นในเรือนจำกลางคลองเปรม เนื่องจากตอนนี้สังคมคาดการณ์ไปต่างๆ นานา แต่สุดท้ายแล้วความจริงก็คือความจริง
"ส่วนรายละเอียดระหว่างวัน อดีตผู้กำกับโจ้ อยู่แดน 5 คนเดียวในห้องแยกควบคุม ตื่นเช้าทำกิจกรรมปกติ มีการพบทนายหรือญาติบ้าง และร่วมกิจกรรมกับเพื่อนผู้ต้องขัง แต่วันเกิดเหตุได้มีการเยี่ยมญาติเป็นระยะเวลานานพอสมควร จากนั้นเวลาประมาณ 3-4 โมงเย็น อดีตผู้กำกับโจ้เดินกลับไปยังเรือนนอน ส่วนที่ผ่านมาเคยคุยกับญาตินานถึงไหนก็ต้องไปตรวจสอบ นอกจากนี้ ข้อมูลที่พบว่ามีการพูดคุยโวยวายกับทางญาตินั้น เท่าที่ได้รับรายงานเกี่ยวข้องกับสถานการณ์บางอย่าง เช่น ลักษณะท่าทางแฟนอดีตผู้กำกับเหมือนร้องไห้ ซึ่งมีเสียงบันทึกแต่ไม่สามารถยืนยันได้ และอยู่ระหว่างตรวจสอบ" นายสหการณ์ระบุ
ส่วนคำสั่งให้นายชาญ วชิรเดช รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ไปปฏิบัติหน้าที่ผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรมอีกหน้าที่หนึ่ง และให้นายเผด็จ หริ่งรอด กลับไปทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง เพื่อต้องการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม สร้างความเชื่อมั่น โดยนายเผด็จเพิ่งย้ายมารับตำแหน่ง ผบ.เรือนจำกลางคลองเปรมต้นเดือน ก.พ.68 ขณะเดียวกันได้มีการสอบสวนนายสิทธิพร ผู้คุมคู่กรณี และไม่อยากพูดในเรื่องนี้ เพราะเหมือนเป็นการกล่าวร้ายอดีตผู้กำกับโจ้ แต่ทุกอย่างมีข้อมูลทั้งหมด พร้อมขอความร่วมมือสื่อมวลชน เนื่องจากขณะนี้พบว่าผู้คุมสิทธิพรไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ เพราะมีสื่อตามไปสัมภาษณ์ลูกชายผู้คุมซึ่งป่วยซึมเศร้า แต่ยัดเยียดสอบถามต่างๆ จนต้องย้ายที่อยู่ ต้องแยกความเป็นส่วนตัวให้ออก และกลายเป็นละเมิดสิทธิเสียเอง
นายสหการณ์กล่าวยืนยันว่า มีเอกสารที่ระบุว่าอดีตผู้กำกับโจ้ลงชื่อย้ายแดนคุมขังเอง และเมื่อถึงจุดหนึ่งพร้อมที่จะนำมาเปิดเผย รวมทั้งเอกสารที่อดีตผู้กำกับโจ้มีการลงลายมือชื่อยินยอมให้ยุติการสืบสวนกรณีการทำร้ายร่างกาย และถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐานแล้ว ส่วนการยินยอมเซ็นเอกสารดังกล่าวจะมาจากความสมัครใจหรือถูกบังคับนั้น จะต้องมีการตรวจสอบทุกประเด็น
ทั้งนี้ เรือนจำกลางคลองเปรมมีลักษณะที่เข้มงวด เพื่อควบคุมดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยของผู้ต้องขัง ซึ่งกรณีที่มีสื่อมวลชนหรือสังคมตั้งข้อสังเกตว่าการกระทำของผู้คุมบางอย่างเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ส่วนตัวมองว่าไม่ใช่ นักโทษทุกคนต้องทำตามกฎระเบียบ หากมีนักโทษบางคนต้องการแสดงอิทธิพลหรือฝ่าฝืนระเบียบ ก็ต้องถามกลับว่าในฐานะผู้คุมต้องทำอย่างไร ซึ่งกรณีของอดีตผู้กำกับโจ้ พบมีพฤติกรรมกระด้างกระเดื่อง มีข้อมูลยืนยัน แต่ไม่อยากพูดพาดพิงผู้เสียชีวิต
สำหรับประเด็นที่ครอบครัวระบุว่าผู้เสียชีวิตถูกทำร้ายนั้น ยืนยันว่าสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งกรณีที่ก่อนหน้านี้มีผลแพทย์โรงพยาบาลราชทัณฑ์ระบุว่าผู้เสียชีวิตถูกทำร้ายร่างกายด้วยของแข็งไม่มีคมได้รับบาดเจ็บ ได้รับบาดเจ็บที่ซี่โครงนั้น เป็นคนละช่วงเวลากับการถูกคุมขังในแดนที่มีนายสิทธิพรดูแล และเชื่อว่าความจริงจะปรากฏเอง ซึ่งการนำอดีตผู้กำกับโจ้มาแยกขังที่แดน 5 เพื่อเตรียมที่จะดำเนินการสอบสวนประเด็นที่ผู้เสียชีวิตมีพฤติกรรมกระด้างกระเดื่อง และเจ้าตัวประสงค์อยากอยู่คนเดียว
เมื่อถามกรณีกรมราชทัณฑ์เคลื่อนย้ายศพเองนั้น นายสหการณ์ชี้แจงว่า ตามสัญชาตญาณ เมื่อเห็นผู้ต้องขังมีลักษณะคล้ายกับกำลังจะทำร้ายตัวเองเสียชีวิตหรือเสียชีวิตไปแล้ว ต้องช่วยไว้ก่อน เพราะถูกฝึกมาเช่นนี้ เบื้องต้นผู้คุมจะต้องให้ความช่วยเหลือทันทีจนถึงที่สุด
ด้าน พ.ต.อ.สัญญา อุบลวิรัตนา ผกก.สน.ประชาชื่น เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำผู้คุมขังแดน 5 ซึ่งการสอบปากคำทุกครั้งต้องมีอัยการร่วมสอบปากคำด้วย โดยได้ทำการสอบปากคำเจ้าหน้าที่ผู้คุมไปแล้ว 5 ปาก ผู้ต้องขังห้องข้างๆ อีก 3-4 ปาก จากนั้นต้องทำการพิจารณา คาดว่ารู้ผลการสอบไม่นาน เพราะต้องรอผลจากสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ด้วย สำหรับการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ตอนนี้ได้เซิร์ฟเวอร์มาแล้ว อยู่ระหว่างการรอผลพิสูจน์จาก พฐ. เพื่อตรวจสอบว่ามีการตัดต่อภาพหรือไม่ และจะทราบผลประมาณ 1 สัปดาห์
เมื่อถามถึงการจำลองเหตุการณ์การเสียชีวิตของอดีตผู้กำกับโจ้ พ.ต.อ.สัญญากล่าวว่า วันนี้จะไม่มีการจำลองเหตุการณ์ เพราะทางอัยการไม่ว่าง คาดว่าจะทำการจำลองเหตุการณ์การก่อเหตุจนนำไปสู่การเสียชีวิตของอดีตผู้กำกับโจ้ในวันที่ 17-18 มี.ค.นี้ ส่วนเรื่องหลักฐานเสื้อของอดีตผู้กำกับโจ้ จากการตรวจสอบในห้องขัง พบเสื้อจำนวน 2 ตัววางพับอยู่ รวมถึงกางเกง ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณา เพราะภาพจากกล้องวงจรปิดพบอดีต ผกก.โจ้สวมใส่ในขณะเข้าไปในห้องขัง แต่ตอนเสียชีวิตกลับไม่ได้สวมเสื้อ
ส่วนเรื่องไฟล์เสียงในวันเยี่ยมญาตินั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการขอไฟล์เสียงจากเรือนจำแล้ว จากนี้ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง โดยเมื่อวันที่ 12 มี.ค. ได้เข้าไปสอบปากคำน้องสาวของอดีตผู้กำกับโจ้ที่วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร อีกทั้งได้เข้าไปเรือนจำเพื่อเก็บพยานหลักฐานของใช้ส่วนตัวของอดีตผู้กำกับโจ้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม จากการทำคดีได้รับการประสานการทำงานร่วมกับกรมราชทัณฑ์เป็นอย่างดี ไม่มีปัญหาและอุปสรรค และไม่มีความกังวลใจใดๆ
มีรายงานว่า สำนักงานพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เปิดเผยผลการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ จากการตรวจสอบผ้าขนหนูที่อดีตผู้กำกับโจ้ใช้ผูกคอตนเอง ไม่มีดีเอ็นเอของบุคคลอื่นปะปนอยู่บนพื้นผิวสัมผัสของผ้าขนหนู โดยยืนยันว่าผ้าขนหนูดังกล่าวเป็นของใช้ส่วนตัวที่อดีตผู้กำกับโจ้ใช้มาตั้งแต่ถูกคุมขังในแดน 7 และได้นำมาใช้ต่อเนื่องหลังถูกย้ายไปยังแดน 5
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบรอยหยดเลือดที่ปรากฏบนพื้นห้องขัง ซึ่งผลการตรวจดีเอ็นเอยืนยันว่าเป็นเลือดของอดีตผู้กำกับโจ้เอง โดยมีลักษณะบาดแผลคล้ายรอยสัตว์กัด ขณะนี้ผลการตรวจดีเอ็นเอทั้งหมดได้ถูกส่งต่อให้พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น เพื่อดำเนินการในขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เย้ยมั่นคงรำวง ดับไฟใต้ไม่คืบ! ‘อ้วน’เสียงอ่อย
"สว.ไชยยงค์" ฟาดรัฐบาล “ดับไฟใต้” ไม่คืบ “สว.ใต้” ชี้กล้าๆ กลัวๆ ปล่อย "กอ.รมน.ภาค 4-สมช.” รำวง เสนอใช้ กม.ก่อการร้ายสู้
ขีดเส้น30วันแจงส่งทักษิณชั้น14
"ผู้ตรวจการแผ่นดิน" ขีดเส้น 30 วัน ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจงปมส่งตัว "ทักษิณ" รักษาชั้น 14 รพ.ตำรวจ
พิงอาเซียนสู้ทรัมป์ ธปท.ชี้4ปัจจัยเสี่ยง
นายกฯ ย้ำไทยจับตาท่าทีสหรัฐใกล้ชิดทุกมุม เชื่ออเมริการอดูฟีดแบ็กรอบโลกเช่นกัน
ซื้อเสียงเลือกตั้งซ่อม บี้กกต.นครฯจะจับกี่โมง ‘ธรรมนัส’ลุยช่วย‘บิ๊กโอ’
โค้งสุดท้ายเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีฯ กกต.จัดกิจกรรม Road Show ไม่ซื้อสิทธิ
ผงะ!กินหัวคิวปีละ2แสนล. ‘สตง.’กอดขั้นตอนแก้แบบ
"สตง." ก้นร้อนร่อนเอกสารแจง ปรับแก้แบบปล่องลิฟต์ ความหนาลดลง 5 ซม.
ไทย-เขมรชื่นมื่น โชว์สัมพันธ์75ปี ฮุนเซนโอ๋ลูกแม้ว
"ไทย-เขมร" ชื่นมื่น เปิดตราสัญลักษณ์สัมพันธ์ 75 ปีสองประเทศ ลงนามเอกสาร 7 ฉบับ