90วันหาสาเหตุตึกถล่ม เทงบ370ล.แจ้งภัยพิบัติ

นายกฯ ถก กก.ติดตามสอบตึก สตง.ถล่ม ย้ำยึดหลัก กม.หาสาเหตุบอกชาวโลกให้ได้  สั่งทบทวนตรวจตึก-อาคารใหม่ทั้ง "เอกชน-ราชการ" เพิ่มมาตรการรองรับแผ่นดินไหว ดึง 4 สถาบันวิศวะ-กรมโยธาฯ ร่วมทำโมเดล ขีดเส้น 90 วัน ลั่นต้องมีผู้รับผิดชอบแน่นอน “อนุทิน” เผย ปภ.ส่งตัวเลขเงินเยียวยาเหตุตึกถล่มแล้ว ยัน 100,000  บาทเหมือนเดิม ครม.อนุมัติงบกลางฯ จัดทำระบบเฝ้าระวังแจ้งเตือนภัยแผ่นดินถล่ม-น้ำป่าไหลหลาก  370 ล้าน 

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 8 เมษายน ที่ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร  ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมติดตามผลการสืบสวนข้อเท็จจริงอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย, น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม, นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง, นายธเนศ วีระศิริ นายกสภาวิศวกร ที่ปรึกษาคณะกรรมการฯ, นายเอนก ศิริพานิชกร ผู้แทนวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย, น.อ.ณัชฐ์ ลิ้มสุวรรณ์ ผู้แทนสภาวิศวกร เข้าร่วม

น.ส.แพทองธารกล่าวว่า เรื่องนี้ต้องเป็นเรื่องที่เราสืบสวนสอบสวนอย่างใกล้ชิด และขอรายละเอียดและดีเทลให้ชัดเจน เพื่อให้ได้คำตอบ ไม่ใช่แค่กับประเทศของเราเท่านั้น แต่ต้องตอบไปทั่วโลกว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ถ้ามีจุดไหนที่เราต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาดก็ขอให้ใช้กระบวนการทางกฎหมายดำเนินการอย่างเด็ดขาด รวบรวมข้อมูลให้ครบ ขอยืนยันว่าเป็นเรื่องที่จริงจัง และขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันอย่างเต็มที่ ตนพร้อมสนับสนุนทุกหน่วยงานอย่างเต็มที่

ภายหลังการประชุม น.ส.แพทองธารแถลงว่า วันนี้ได้หลายข้อสรุป คือขอให้ความมั่นใจประชาชน กฎหมายที่ออกมาเกี่ยวกับการสร้างอาคารสามารถรองรับในเรื่องแผ่นดินไหวแบบที่เกิดขึ้นมาได้ ถ้าเกิดแผ่นดินไหวความรุนแรงเท่าเดิมก็จะไม่ทำให้ตึกเกิดการถล่ม แต่ตึกเหล่านั้นต้องทำตามกฎหมายที่กำหนดไว้ ที่ประชุมได้ข้อสรุปเราจะใช้ 4 สถาบันการศึกษาและกรมโยธาธิการและผังเมือง เพื่อทำโมเดลจำลองเหตุการณ์ตึกถล่มที่เกิดขึ้นจริง เพื่อที่จะให้รับทราบว่าอะไรคือเหตุผลที่ทำให้ตึกถล่ม เพราะเรื่องนี้เกี่ยวกับชีวิตคน รัฐบาลติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และพูดคุยกับคณะทำงานแล้วบอกว่าโมเดลที่จะทำจากแต่ละสถาบันใช้เวลาประมาณ 90 วัน เพื่อให้เกิดความร่วมมือและความโปร่งใสในการตรวจสอบให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนและมั่นใจได้

"จะต้องทบทวนกระบวนการตรวจสอบเรื่องของตึกและอาคารใหม่ทั้งหมด ทั้งของเอกชนและของราชการ ซึ่งบอกแล้วว่าเคยสร้างตึกในภาคเอกชน มีข้อต้องได้รับการอนุมัติมากมาย เราต้องมาทบทวนกันใหม่ว่าการอนุมัติเรานั้นปลอดภัยใช่หรือไม่ กระบวนการต่างๆ เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันหรือไม่ และอาคารของราชการเราต้องดูต้องเพิ่มอะไรเข้าไปหรือไม่ จะเพิ่มมาตรการอย่างไรเพื่อรองรับตึกที่สร้างในอนาคตไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก"

เมื่อถามว่า มีข้อสงสัยเรื่องคุณภาพเหล็กที่นำมาใช้ก่อสร้าง ได้มีการตรวจสอบเรื่องนี้หรือไม่ว่ามีความคืบหน้ามากน้อยแค่ไหน นายกฯ กล่าวว่า  ตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย อันนี้เป็นข้อมูลเรื่องของวัสดุต่างๆ เกี่ยวข้องแน่นอน โดยสถาบันต่างๆ มาช่วยกันดูประกอบว่าสิ่งใดบ้างที่ทำให้เกิดเหตุนี้

 “ผลการตรวจสอบสาเหตุจะต้องมีผู้รับผิดชอบแน่นอน และเราได้ดูแล้วว่าระหว่างทางกว่าที่จะได้โมเดลจำลองเหตุการณ์ตึกถล่มใน 90 วัน เราจะดูว่ามีสิ่งใดบ้างที่ทำแล้วผิดกฎหมายบ้าง หรือหากมีการผิดมาตรฐานหรือผิดกระบวนการก็ผิดกฎหมายอยู่ดี เรื่องไหนที่ผิดกฎหมายเราดำเนินคดีควบคู่กันไปอยู่แล้ว แต่ผลสรุป 100 เปอร์เซ็นต์ จะทำให้ทราบว่าทั้งตึกเป็นเพราะอะไรจึงเกิดการถล่ม”นายกฯ กล่าว

เมื่อถามอีกว่า จะมีการดำเนินการกับบริษัทที่ผลิตเหล็กหรือไม่ ภายหลังจากที่ออกมาข่มขู่จะย้าย รมว.อุตสาหกรรม ที่ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว นายกฯ ย้อนถามว่าใครจะย้าย รมว.อุตสาหกรรม ก่อนกล่าวอีกว่า บริษัทจะย้ายรัฐมนตรีอาจจะไม่ถูกต้องในเรื่องกฎหมายหรืออำนาจ ความจริงรัฐมนตรีที่รับผิดชอบทุกคน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ไม่มีใครโอเค กลับเรื่องการวิ่งเต้น และไม่สนับสนุนเรื่องนี้อยู่แล้ว

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ  รมว.มหาดไทย กล่าวถึงความคืบหน้าที่กรมป้องกันและทางสาธารณภัยเตรียมส่งเรื่องให้กับกระทรวงมหาดไทยเพื่อขอเบิกเงินทดรองราชการ ในการช่วยเหลือเบื้องต้นให้กับผู้ประสบภัยเหตุแผ่นดินไหวและอาคาร สตง.ถล่ม  โดยระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงตัวเลข แต่ยังยืนยันว่าอยู่ในวงเงิน 100,000 บาท จาก 13,300-29,700 บาท สำหรับผู้เสียชีวิตและผู้ที่ทุพพลภาพเสียอวัยวะสำคัญ ซึ่งตอนนี้พยายามที่จะใช้งบที่เหลือจากการอนุมัติก่อนหน้านี้ เพราะจะไม่ต้องไปขอเงินส่วนกลางเพิ่ม

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบบริษัทเหล็กซึ่งเกี่ยวข้องกับตึก สตง.ที่ถล่มว่า ในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรมจะมีการแถลงข่าวในวันที่ 10 เม.ย.นี้

นายเป็นหนึ่ง วานิชชัย ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยแผ่นดินไหวแห่งชาติ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ  กล่าวว่า การตรวจสอบจะทำการรวบรวมคุณภาพเหล็กคอนกรีตแบบวิดีโอเทปที่มีการประเมินและทำแบบจำลองคอมพิวเตอร์ เพื่อการใช้แบบจำลองจะทำให้เข้าใจ กระบวนการของตึกที่พังทลาย คาดว่าต้องใช้เวลาประเมิน 90 วัน ส่วนเหตุผลที่คณะทำงานไม่กล้าสรุป เนื่องจากยังไม่มีการศึกษาครบกระบวนการ ที่จะรู้ว่ามีสาเหตุหลักมาจากส่วนใด

ขณะที่ นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวว่า ในส่วนโยธาฯ ขณะนี้ได้ตรวจเฉพาะอาคารในพื้นที่กรุงเทพฯ จำนวน 559 อาคาร 191 หน่วยงานแล้ว พบว่าผลการตรวจสอบมีเพียง 2 หน่วยงานที่มีความเสียหายรุนแรงและห้ามใช้อาคาร คือ อาคารกรมสรรพากร และอาคารสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งได้ปิดการใช้ ส่วนอาคารทั่วประเทศมีทั้งหมดกว่า 7,000 มีอาคารเสียหายไม่ถึง 1% ขณะที่อาคารภาคเอกชน คอนโดมิเนียม โรงแรม ห้างสรรพสินค้า นายอนุทินสั่งการให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครประสานให้ผู้ประกอบการทำการตรวจสอบอาคารอีกครั้ง เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับประชาชน

นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.มีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เป็นเงินทั้งสิ้น  370,390,200 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายโครงการจัดทำระบบเฝ้าระวังแจ้งเตือนภัยแผ่นดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ   จะทำให้มีการติดตั้งเครื่องตรวจติดตามการเคลื่อนตัวของมวลดินในพื้นที่เสี่ยงแผ่นดินถล่มระดับสูง-สูงมาก รายลุ่มน้ำ เพิ่มประสิทธิภาพการเฝ้าระวังแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าแผ่นดินถล่ม และการอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย

ที่จุดเกิดเหตุอาคารก่อสร้างสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินถล่ม ถนนกำแพงเพชร 2 พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีคุ้มครองผู้บริโภค และโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ลงพื้นที่ตรวจสอบ โดยระบุว่า ในเบื้องต้นได้รับประเด็นการสอบสวนที่เกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการเสนอราคาหรือการแข่งราคาที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งอาจนำไปสู่การใช้วัสดุหรืออุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน เช่น เหล็กเส้นหรือคอนกรีตที่ไม่มีคุณภาพ นอกจากนี้จะตรวจสอบในประเด็นการถือหุ้นแทน หรือนอมินี ประเด็นเรื่องมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมก็ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญของการสืบสวน โดยจะมีการตรวจสอบว่ามีการนำวัสดุก่อสร้างที่ไม่ได้รับการรับรองมาตรฐานเข้ามาใช้ในโครงการหรือไม่

ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ สำนักงานเขตจตุจักร  รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยเมื่อคืนวันที่ 7 เม.ย.68 ว่า เราได้ยืนยันผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมจาก 17 ราย วันนี้เป็น 21 ราย ร่างที่นําออกมาอีก 4 ร่าง มาจากโซน C ช่วงที่พบร่างในช่วงหลังจะอยู่ที่โซน B และ C เยอะที่สุดเป็นส่วนใหญ่ และเชื่อว่าก่อนที่ตึกอาคารจะถล่มมีจํานวนคนงานและบริษัทต่างๆ ที่ทําอยู่ในช่วงชั้นดังกล่าวประมาณ 20 ถึง 30 ราย ดังนั้นเราจะพยายามเข้าไปที่ตรงนี้ให้ได้.     

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง