"สนค." วิเคราะห์สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน สินค้าเกษตรไทยมีโอกาสส่งออกเพิ่มขึ้น ทั้งข้าว อาหารสัตว์ ปลาแมกเคอเรลปรุงแต่ง หน่อไม้ปรุงแต่ง เหตุไทยครองส่วนแบ่งตลาดลำดับต้น มีลุ้นยึดส่วนแบ่งจากจีนเพิ่ม ส่วนเส้นหมี่ วุ้นเส้น หมึกแช่แข็ง ซอสถั่วเหลือง ปลาอื่นๆ ปรุงแต่ง พืชตระกูลถั่ว เป็นสินค้าที่จีนครองส่วนแบ่ง แต่ไทยมีโอกาสขายเพิ่ม ส่วนกระเทียม ผัก พริกแห้ง พริกไทยเทศแห้ง ชาเขียว หอมหัวใหญ่ ต้องระวังการแข่งขัน สศค.เผยเศรษฐกิจภูมิภาคเดือน มี.ค.มีปัจจัยหนุนจากการบริโภคภาคเอกชน ความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวลดลง
เมื่อวันที่ 28 เมษายน นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) และโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สนค.ได้ติดตามสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศในยุคทรัมป์ 2.0 จากการที่สหรัฐฯ มีนโยบายเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มขึ้นจากสินค้านำเข้า รวมถึงยกเลิกมาตรการยกเว้นภาษีขั้นต่ำ (De Minimis) ต่อสินค้าจีน และจีนตอบโต้กลับโดยปรับเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ในอัตราที่สูงเช่นเดียวกัน ว่าจะส่งผลกระทบต่อการค้าสินค้าเกษตรไทยทั้งทางตรงและทางอ้อมอย่างไร สินค้าอะไรมีโอกาสในการส่งออกได้เพิ่มขึ้น และสินค้าอะไรที่ต้องเฝ้าระวังการเบี่ยงเบนทางการค้า
โดย สนค.ได้ทำวิเคราะห์ผลกระทบต่อการค้าสินค้าเกษตรไทย แบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก โดยพบว่า 1.สินค้าที่ไทยมีศักยภาพ เป็นกลุ่มสินค้าที่ไทยมีส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐฯ อยู่อันดับต้นๆ อาจได้รับส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นจากการนำเข้าเพื่อทดแทนสินค้าจีน เช่น อาหารสุนัขและแมว ข้าว ปลาแมกเคอเรลปรุงแต่ง เนื้อปลาลิ้นหมาแบบฟิลเล และหน่อไม้ปรุงแต่ง
2.สินค้าที่ไทยมีโอกาส เป็นกลุ่มสินค้าที่จีนครองส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐฯ อันดับต้นๆ ขณะที่ไทยยังมีส่วนแบ่งตลาดไม่มากนัก ซึ่งหากได้รับการผลักดันและเสริมสร้างศักยภาพทางการผลิตและการตลาดเพิ่มขึ้น อาจทำให้ไทยมีส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น เช่น สินค้ากลุ่มพาสตาอื่นๆ เช่น เส้นหมี่ วุ้นเส้น หมึกแช่แข็ง ซอสถั่วเหลือง ปลาอื่นๆ ปรุงแต่ง เช่น ปลาฮอร์สแมกเคอเรล พืชผักตระกูลถั่วอื่นๆ แช่แข็ง
3.สินค้าที่ต้องเฝ้าระวังการเบี่ยงเบนทางการค้า โดยเฉพาะสินค้าเกษตรที่จีนมีศักยภาพและไทยก็ปลูกได้เอง แต่อาจไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ภายในประเทศและบางครั้งจำเป็นต้องนำเข้า ซึ่งสินค้ากลุ่มนี้ผู้ประกอบการและเกษตรกรไทยต้องเผชิญการแข่งขันมากขึ้น และอาจได้ประโยชน์จากการนำเข้าวัตถุดิบเพื่อใช้สำหรับแปรรูปในราคาถูกลง เช่น กระเทียมสดหรือแช่เย็น พืชผักอื่นๆ ที่ปรุงแต่งหรือทำไว้ไม่ให้เสีย พริกแห้ง หรือพริกไทยเทศแห้งทั้งเม็ด ชาเขียวอื่นๆ ไม่หมัก และหอมหัวใหญ่แห้งหรือผง
นายพูนพงษ์กล่าวว่า การรักษาส่วนแบ่งตลาดของสินค้าเกษตรไทยในสหรัฐฯ ยังมีความท้าทาย เนื่องจากไทยเป็นหนึ่งในประเทศคู่ค้าที่สหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษีต่างตอบแทน (Reciprocal Tariff) ในอัตราสูงถึง 36% แม้การเก็บภาษีดังกล่าวจะถูกระงับไว้เป็นเวลา 90 วัน นับตั้งแต่ 9 เม.ย. 2568 โดยไทยต้องเฝ้าระวังการสูญเสียส่วนแบ่งในตลาดอื่นด้วย ในกรณีเมื่อจีนถูกตั้งกำแพงภาษีและไม่สามารถส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ ได้เช่นเดิม จึงอาจระบายสินค้าไปตลาดอื่นเพิ่มขึ้น ส่งผลให้การแข่งขันกับสินค้าจีนในตลาดนั้นๆ สูงขึ้น
"อัตราภาษีระหว่างสหรัฐฯ กับจีนยังคงมีความไม่แน่นอน รวมถึงอัตราภาษีระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้าอื่น ๆ ซึ่ง สนค.จะติดตามสถานการณ์ความตึงเครียดทางการค้าและมาตรการทางการค้าของสหรัฐฯ ในยุคทรัมป์ 2.0 อย่างใกล้ชิด เพื่อวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจการค้าไทยต่อไป"
นายพูนพงษ์กล่าวด้วยว่า ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ได้วางแผนดำเนินการทั้งในระยะสั้นและระยะยาว อาทิ ป้องกันการลักลอบนำเข้าสินค้า กำกับดูแลการนำเข้าสินค้าเกษตรอย่างใกล้ชิด ให้เป็นไปตามกฎระเบียบข้อบังคับด้านคุณภาพและมาตรฐาน เฝ้าระวังผลกระทบต่อสินค้าเกษตรภายในประเทศ เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศและการปกป้องผลประโยชน์ของผู้ผลิตภายในประเทศ บังคับใช้กฎระเบียบด้านคุณภาพและมาตรฐานสินค้า เร่งแก้ไขประเด็นที่คาดว่าสหรัฐฯ อาจนำมาใช้อ้างเป็นเหตุผลในการกีดกันทางการค้า เช่น การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา เร่งรัดการเจรจาความตกลงการค้าเสรีและกระจายตลาดส่งออก ตลอดจนรักษาสมดุลความสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศต่างๆ พร้อมทั้งพัฒนาขีดความสามารถการแข่งขันในทางการค้า เพื่อป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากสงครามการค้าที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ด้านนายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนมีนาคม 2568 ว่า เศรษฐกิจภูมิภาคเดือนมีนาคม 2568 มีปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชน โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ และการท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ในภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวลดลงทุกภูมิภาค
นอกจากนี้ ผลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคของไทยประจำเดือนมีนาคม 2568 ซึ่งสำรวจจากสำนักงานคลังจังหวัดและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พบว่า ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคเดือน มี.ค.ปรับตัวชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าทุกภูมิภาค โดยความเชื่อมั่นในภาพรวมชะลอลงทั้งในภาคเกษตร อุตสาหกรรมและบริการ ในขณะที่กำลังซื้อสะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคประชาชน ที่ปรับตัวชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าในเกือบทุกภูมิภาค ยกเว้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อย่างไรก็ดีดัชนียังมีแรงหนุนจากรายได้ในภาคบริการที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้
"สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคใน 6 เดือนข้างหน้าปรับตัวชะลอลงในหลายภูมิภาค โดยภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรมยังเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะสภาพอากาศที่แปรปรวน ต้นทุนการผลิตสูง สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน และภาวการณ์ลงทุนที่ยังชะลอตัวในหลายพื้นที่ อย่างไรก็ดี ภาคบริการและการจ้างงานยังมีสัญญาณฟื้นตัวจากการท่องเที่ยว และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ" นายพรชัยกล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
คดี‘ฮั้วสว.’ไม่สะดุด DSIลุยสอบฟอกเงิน-อั้งยี่ ดาบสองชงป.ป.ช.ฟัน‘ทวี’
"นายกฯ อิ๊งค์" ปัดคุมดีเอสไอเอง รอ ครม.เคาะตัวแทนทวี "โฆษกดีเอสไอ" ลั่นคดีฮั้ว สว.ไม่สะดุด เดินหน้าสอบฟอกเงิน-อังยี่ตาม กม.
เตือนคลังติดคุก หนุน‘G-Token’ แฉเอื้อบิตคอยน์
"ธีระชัย" จี้รัฐหยุดตีความกฎหมายสร้างความชอบธรรมออก "จีโทเคน" ชี้ไม่ตรงเจตนารมณ์ พ.ร.บ.หนี้
พิชัยถกแบงก์รัฐ ศก.ฟุบหนัก2ปี จ่ออัดซอฟต์โลน
"อิ๊งค์" บอกยังไม่ยกเลิก "เงินหมื่นเฟส 3" อ้างเวลานี้ต้องกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งหมด
ขวาง‘สมศักดิ์’วีโตมติแพทยสภา
ขวาง “สมศักดิ์” วีโตมติแพทยสภา “วรงค์” เชื่อมีเกมดิสเครดิตแพทยสภา
หมายจับ17รายเอี่ยวตึกสตง.
ออกหมายจับ 17 ราย วิศวกร-ผู้ควบคุมงาน-กิจการร่วมค้า เอี่ยวคดี “ตึก สตง.ถล่ม”
เยียวยาตึกถล่ม จี้‘ผู้ว่าสตง.’ออก เอื้อสอบโปร่งใส
นายกฯ มอบเงินเยียวยาทายาทเหยื่อแผ่นดินไหวล็อตแรก 32 ราย คนละ 3 แสนบาท รวม 9.6 ล้าน