พท.รับหักเพื่อนไล่ ‘ประยุทธ์’

เพื่อไทยไปน้ำขุ่น อ้างกฎหมายก้าวไกลตกสภาเพราะโหวตไปก็แพ้ สู้ทำสภาล่มไล่รัฐบาลดีกว่า "บิ๊กตู่"  จะได้ไปไวๆ "จุรินทร์" ติงพรรคแกนหลักอย่างพรรคพลังประชารัฐจะต้องเป็นหลักเสียก่อน งานของรัฐบาลจะเดินหน้าไปด้วยความราบรื่น

เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2565 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ชี้แจงกรณีถูกตั้งคำถามเรื่องพรรคเพื่อไทยไม่แสดงองค์ประชุมในการพิจารณารายงานกฎหมายสำคัญ เช่นการพิจารณากฎหมายสุราก้าวหน้า หรือกรณีร่าง พ.ร.บ.บำนาญแห่งชาติ ว่าเหตุผลง่ายๆ คือเป้าหมายหลักของพรรคเพื่อไทยคือการยุติการสืบทอดอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และการที่สภาล่ม เป็นสัญญาณชี้ว่ารัฐบาลไม่อาจคุมเสียงข้างมากในสภาได้ จะเป็นตัวเร่งให้ยุบสภาเร็วขึ้น เหมือนที่ พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์วันนี้ว่า ถ้าไม่อยากเลือกตั้ง  สภาต้องไม่ล่มยืนยันครับ พรรคเพื่อไทยอยากเลือกตั้ง คืนอำนาจให้ประชาชน

เขาเผยว่า เรื่อง พ.ร.บ.สุรา จริงๆ คือพ.ร.บ.สรรพสามิต เสนอโดย ส.ส.เท่าพิภพ มติพรรคเพื่อไทยคือแสดงตนและเห็นชอบกับ พ.ร.บ. แต่มติที่ไม่ร่วมแสดงตนคือญัตติของรัฐบาลที่ว่าจะขอส่ง พ.ร.บ.ให้รัฐบาลไปพิจารณาสองเดือน เพราะเป็นแค่เกมเตะถ่วงของรัฐบาลเท่านั้น และจะเสียเวลาประมาณ 4 เดือนเป็นอย่างต่ำ 2 เดือน ครม.อีก 1 เดือนปิดสมัยประชุมอีก 1 เดือน กลับมารอคิวตามวาระสภา

"เมื่อกลับมายังสภา ทุกฝ่ายก็ทราบอยู่แล้วว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ไม่มีทางผ่าน กม.จาก ส.ส.ฝ่ายค้านเด็ดขาด สุดท้ายก็ตก แต่เข้าใจทุกฝ่ายว่าทางผู้เสนอย่อมประสงค์จะนำเสนอและฝากความคิดไว้ในสังคม แต่เมื่อไม่อาจเล็งผลเลิศ เพื่อไทยเลือกให้สภาล่ม เอา พล.อ.ประยุทธ์ไปไวๆ ดีกว่า" นายจุลพันธ์ระบุ

ด้านนายชนะศักดิ์ อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้นายกฯ ตัดสินใจกำหนดวันเลือกตั้งให้ชัดหลังแพ้เลือกตั้งซ่อม 3 สนาม ว่าพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งซ่อมสนามเดียว ก็เรียงหน้ากันออกมาพูดไม่หยุด เอามาเรียกร้องให้นายกฯ ลาออก ยุบสภา อีกทั้งสนามเลือกตั้งซ่อมยังไม่สามารถที่จะวัดอะไรได้ ไม่เหมือนกับการเลือกตั้งใหญ่

นายชนะศักดิ์กล่าวว่า การเรียกร้องให้นายกฯ กำหนดวันเลือกตั้งให้ชัดนั้น ตนมองว่าขณะนี้ยังไม่หมดเทอมในการบริหารงานของนายกฯ และรัฐบาล และยังเหลือเวลาอีกเป็นปี ขณะที่การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. นายกฯ ได้พูดชัดเจนไปแล้วว่าอยู่ในช่วงเดือนพฤษภาคม

"ยืนยันว่านายกฯ ยังทำงานแก้ไขปัญหาให้ประชาชนและประเทศชาติได้ เดินหน้าต่อไปได้ แต่หากจะทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองไม่ได้ ก็คงจะเป็นเพราะนายอนุสรณ์หรือบรรดาสมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่วันๆ ไม่ทำอะไรให้เป็นประโยชน์ แล้วยังมีแต่ออกมาพูดใส่ร้าย กล่าวโจมตีนายกฯ เป็นตัวถ่วงความเจริญของบ้านเมืองให้นายกฯ ทำงานยาก

และหากนายอนุสรณ์อยากลงเลือกตั้งมาก ก็ขอให้รอก่อน และเอาเวลานี้ไปลงพื้นที่ทำงานให้ประชาชนได้เห็นว่านายอนุสรณ์มีความสามารถที่จะเป็นตัวแทนประชาชนเข้าไปในสภา ไม่ใช่ใช้แต่ปากพูดว่าคนอื่น ประชาชนเขารู้ว่าคนประเภทไหนที่จะเลือก นอกจากนี้ผมยังสงสารพรรคเพื่อไทยที่เอาคนประเภทนี้เข้ามาทำหน้าที่" นายชนะศักดิ์กล่าว

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การเลือกตั้งใหญ่ตนตอบไม่ได้จริงๆ การดำเนินการไม่ได้อยู่ในอำนาจของตนหรือคนอื่นนอกจากนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม รู้สึกเห็นใจนายกฯ เพราะสถานการณ์การเมืองปัจจุบันต้องรับสภาพปัญหาและแรงเสียดทานหลายเรื่อง  ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่ให้กำลังใจนายกฯ ในฐานะที่ท่านต้องรับผิดชอบบ้านเมือง และในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล เราจะทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดอย่างเต็มกำลังความสามารถ จะเห็นว่าในขณะนี้และช่วงเวลาที่ผ่านมา  พรรคประชาธิปัตย์มีหน้าที่อะไรเราก็ทำอย่างครบถ้วนสมบูรณ์

'ชวน'ทำหน้าที่สมบูรณ์

เมื่อถามถึงกรณีที่การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 4 ก.พ. องค์ประชุมไม่ครบเป็นเหตุให้สภาล่ม ซึ่งในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์มีสมาชิกที่เข้าร่วมประชุมแต่ไม่กดบัตรแสดงตนด้วย จะมีการกำชับสมาชิกของพรรคอย่างไรบ้าง  นายจุรินทร์กล่าวว่า ทุกฝ่ายต้องระมัดระวัง ตนคิดว่าพรรคแกนหลักอย่างพรรคพลังประชารัฐจะต้องเป็นหลักเสียก่อน ฉะนั้นกระบวนการดำเนินการภายในของพรรคที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลถือว่ามีความสำคัญมาก ตนไม่ได้วิจารณ์อะไรเพียงแต่ขอให้ความเห็นในลักษณะปรารถนาที่จะเห็นงานในสภาและงานของรัฐบาลเดินหน้าไปด้วยความราบรื่น เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้ามีเหตุสภาล่มบ่อยๆ เกรงว่าจะเกิดการยุบสภาหรืออุบัติเหตุทางการเมืองก่อนที่กฎหมายลูก 2 ฉบับจะเสร็จหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า ตอบไม่ได้ เพียงแต่เรื่องนี้ไม่ก่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อสภา และในส่วนของพรรคการเมืองต่างๆ ที่เข้ามาทำหน้าที่ในสภา ซึ่งอาจจะมีผลกระทบไปถึงภาพลักษณ์ทางการเมืองของรัฐบาลด้วย ฉะนั้นพรรคพลังประชารัฐซึ่งเป็นพรรคแกนนำจะต้องรีบกลับมาดูเรื่องนี้

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะเลขานุการประธานรัฐสภา กล่าวว่า ต้องนำความจริงมาพูดกันว่า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ทำหน้าที่สมบูรณ์ที่สุด ในการดำเนินการเพื่อให้สภาเดินหน้าประชุมต่อไปได้ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ อย่างไรก็ตาม หลักการสำคัญเรื่ององค์ประชุมที่แท้จริงเป็นหน้าที่ของ ส.ส.ทุกคน จริงอยู่ที่ฝ่ายรัฐบาลมีเสียงข้างมาก มีความจำเป็นที่จะต้องควบคุมเสียงในสภาให้ได้ แต่ ส.ส.ทุกพรรคทุกฝ่ายก็ต้องยึดหลักประโยชน์ของประชาชนและประเทศเป็นที่ตั้งด้วย  ถ้าจะนำทุกเรื่องมาเล่นการเมืองทั้งหมดก็จะเกิดความเสียหายตามมา ไม่ส่งผลดีต่อภาพรวมการทำงานในสภา เวลาของสภาเหลือไม่มาก ทุกฝ่ายควรตั้งหลักมุ่งมั่นทำหน้าที่เพื่อประชาชน

"ฝ่ายนิติบัญญัติต้องเป็นแบบอย่างในการทำหน้าที่ ความน่าเชื่อถือไม่ใช่เกิดจากการเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล แต่ความน่าเชื่อถือเกิดจากการตระหนักในหน้าที่และได้ปฏิบัติงานอย่างสมบูรณ์ ซึ่งนายชวนย้ำเรื่องนี้มาโดยตลอด" โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ แกนนำและผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย ให้สัมภาษณ์กรณีสภาล่มว่า เป็นช่วงเวลาที่ระบบรัฐสภาทำงานไม่เต็มที่อย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งรู้สึกเป็นห่วง เพราะผลเสียนั้นตกอยู่กับพี่น้องประชาชน เพราะระบบรัฐสภาไม่สามารถแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้ แม้กระทั่งการพิจารณากฎหมาย ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ทางรัฐสภาต้องดำเนินการ แต่กลับดำเนินการไม่ได้ ต้องทิ้งค้างบนปัญหาที่รุมเร้าบีบคั้น ซึ่งไม่ควรปล่อยให้เกิดปัญหาแบบล้มลุกคลุกคลานต่อไป แต่ไม่ขอออกความเห็นว่าเป็นความผิดของใคร ส่วนตัวมองว่าถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็ควรต้องคืนอำนาจให้ประชาชน เพราะหากดึงไว้ต่อไปพี่น้องประชาชนจะเสียโอกาส เพราะสภาที่มีอยู่แต่ไม่สามารถดำเนินการขับเคลื่อนได้นั้น ทำให้พี่น้องประชาชนไม่ได้รับโอกาสที่ดีกับการมีรัฐสภา ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้มีอำนาจต้องพิจารณาถึงพี่น้องประชาชน และอาจจะต้องตัดสินใจโดยคิดถึงพี่น้องประชาชนมากกว่าพวกเขาหรือพวกเรา

ขึ้นอยู่กับผู้มีอำนาจ

“ผมคิดว่ารัฐบาลคงคิดอยู่ว่าจะยุบหรือไม่ยุบดี ตรงนั้นผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ท่านต้องคิดว่าถ้าคิดบนผลประโยชน์พี่น้องประชาชนควรจะทำอย่างไร ผมคงไม่สามารถไปชี้นำได้ ถ้าคิดว่าต้องเป็นแบบนี้ไปอีก 5 เดือน 6 เดือน ก็เท่ากับประเทศอยู่บนความบอบช้ำที่ต้องแก้ปัญหานั้น เราได้สะสมปัญหาใหม่เพิ่มขึ้น อันนี้ต้องขึ้นอยู่กับผู้มีอำนาจ แต่ส่วนตัวขอให้มองที่ประโยชน์ของประเทศและประชาชนเป็นหัวใจสำคัญ” นายสนธิรัตน์กล่าว

นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะวิปรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ว่า เชื่อว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้สมาชิกทุกคนรู้ว่าเป็นช่วงปีสุดท้ายของสภาเป็นช่วงที่ต้องนับถอยหลังกันแล้ว ต้องใช้สภาให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างเต็มที่ สภาต้องอยู่เพื่อประชาชน เวลาสำหรับเล่นการเมืองโดยใช้สภาเป็นสมรภูมินั้น ไม่มีเหลือแล้ว ดังนั้นเชื่อว่าจากนี้จะดีขึ้น

"ผมเชื่อว่าสมาชิกคงเข้าใจในสถานการณ์ร่วมกัน เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเสียหายพอกันสำหรับทุกฝ่าย เกิดความเสียหายขึ้นเกิดกับทุกคน ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล โดยเฉพาะชื่อของทุกคนไปปรากฏอยู่ในสื่อหมดแล้ว ผมจึงเชื่อว่าสถานการณ์ในสภาจะดีขึ้นโดยที่ไม่ได้เกิดจากการล็อบบี้ใดๆ แต่เกิดจากการที่ทุกคนเข้าใจในสถานการณ์แล้ว และใช้เวลาที่เหลือของสภาให้เป็นประโยชน์ร่วมกัน เพราะรายงานของกรรมาธิการถือว่ามีความสำคัญมาก เป็นงานของสภาโดยแท้ แบบไม่มีฝักไม่มีฝ่าย และยังมีกฎหมายสำคัญที่มีประโยชน์อีกหลายฉบับ" นายนิกรกล่าว

นายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงสถานการณ์ในพรรคพลังประชารัฐ ภายหลังจาก 21 ส.ส.กลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่าออกไปว่า ไม่มีอะไร ถือเป็นธรรมชาติของการเมือง ถ้าเปรียบก็เหมือนกับแผลอักเสบ แต่ตอนนี้ความรุนแรงของการอักเสบมันลดลง และจะค่อยๆ หาย ปัญหาที่เคยมีมันก็ค่อยๆ คลี่คลาย การเป็นพรรคการเมืองปัญหามันก็ต้องมีอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่ากลุ่ม ร.อ.ธรรมนัสออกไปแล้วมันจะสมูท ไม่มีปัญหาอะไร มันก็ยังมีปัญหาอย่างอื่นอยู่ที่จะต้องแก้กันต่อไป แต่อาจจะไปเป็นปัญหากับทางรัฐบาลมากกว่า โดยเฉพาะเรื่องเสียงที่จะเป็นองค์ประชุม เพราะกลุ่มที่ออกไปเขาก็มีอิสระในการตัดสินใจได้มากขึ้น

เมื่อถามว่า หลังจาก 21 ส.ส.กลุ่มร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ออกไป สมาชิกในพรรคมีการมาพูดคุยหรือหวั่นไหวหรือไม่ นายรงค์กล่าวว่า จากการพูดคุยกันบางคนบอกว่าไม่มีปัญหา พูดกันเพียงว่าเมื่อ 21 คนแยกไปก็ทำให้พรรคเล็กลงเท่านั้น ไม่ได้ว่าจะต้องมาฟูมฟายอะไร และก็คิดกันว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไปเราจะได้ ส.ส.เท่าเดิมหรือไม่ คิดกันในแง่ยุทธศาสตร์มากกว่า แต่ไม่ใช่ว่าเมื่อกลุ่มร.อ.ธรรมนัสออกไปแล้วพวกเราจะต้องมาฟูมฟาย อย่างนั้นคงไม่ใช่.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ ยัน ร่วมโต๊ะอาหารเที่ยงกับ 'เอกนัฏ'

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) ร่วมโต๊ะอาหารกลางวันกับนายกรัฐมนตรีและคณะ