อ้างแม้วเหยื่อการเมือง แฉแทรกแซงคดีชั้น14

“ทักษิณ” นั่งโรลส์-รอยซ์กันกระสุนไปขึ้นศาลคดี ม.112 วันสุดท้าย “ทนาย” ไม่หนักใจ  อ้างเป็นเหยื่อทางการเมืองที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมตั้งแต่แรก ด้าน “หมอวรงค์” แฉ “ม.-จ.”   พยายามแทรกแซงศาลฎีกา ให้ตีตกคดีชั้น 14 เผยมีคลิปเสียงยืนยัน

เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ห้องพิจารณา 902 ศาลนัดสืบพยานโจทก์วันที่สาม คดีดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง หมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา  8 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในความผิดฐานดูหมิ่นสถาบัน  ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 ความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีเมื่อปี 2558  นายทักษิณได้ให้สัมภาษณ์สื่อทีวีต่างประเทศประเทศเกาหลีใต้ พาดพิง ดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง  โดยจำเลยให้การปฏิเสธและได้รับการประกันตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายทักษิณได้เดินทางมายังศาลอาญาโดยใช้รถโรลส์-รอยซ์ สีกรมท่า คันเดียวกันกับที่เจ้าตัวใช้เดินทางออกจากศาลเมื่อวันพุธ ก่อนจอดส่งตัวนายทักษิณที่ด้านข้างอาคาร  ส่วนในวันนี้ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรีก็เดินทางมาให้กำลังใจนายทักษิณเช่นเดิม แต่ได้หลบสื่อมวลชนขึ้นทางด้านข้างของศาลอาญาเช่นเดียวกับนายทักษิณ

ภายหลังจากการสืบพยานโจทก์ในช่วงเช้าเสร็จสิ้น นายทักษิณได้ให้รถโรลส์-รอยซ์ซึ่งเป็นรถส่วนตัวไปรับบริเวณด้านข้างของศาล จากนั้นเมื่อขึ้นรถนายทักษิณก็ออกจากศาลไปทันที โดยมีกลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งไปรอยืนโบกมือให้กำลังใจอยู่ริมถนนรัชดาภิเษก แต่เนื่องจากนายทักษิณเปลี่ยนรถ ไม่เหมือนสองวันที่ผ่านมา ทำให้มวลชนที่เดินทางมารอให้กำลังใจไม่มั่นใจว่ารถของนายทักษิณคือคันไหน ทำให้บางคนไม่ทันได้เห็นตอนรถของนายทักษิณผ่าน จึงยังรอนายทักษิณกลับมาที่ศาลอีกครั้งในช่วงบ่าย

ทั้งนี้ นายวิญญัติ นายทักษิณ รับรู้การรอของนักข่าวและมวลชน และมีความเป็นห่วงอยากจะทักทาย แต่เปิดกระจกทักทายไม่ได้เพราะเป็นรถกันกระสุน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังสืบพยานโจทก์วันที่สามเสร็จสิ้น นายวิญญัติเปิดเผยว่า วันนี้สืบพยานฝ่ายโจทก์ปากสุดท้ายเสร็จสิ้น โดยระบุว่าหลังจากนี้จะเป็นการสืบพยานฝ่ายจำเลย ซึ่งตนได้เตรียมไว้ทั้งหมด 14 ปาก แต่จะพิจารณาอีกครั้งว่าจะใช้ทั้งหมดหรือไม่ ซึ่งศาลได้นัดสืบพยานจำเลยปากเเรกวันที่ 15 ก.ค. แต่ในวันดังกล่าวตนติดว่าความคดีบังคับโทษชั้น 14 ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

วันนี้จึงแถลงต่อศาลอาญาขอยกเลิกนัดในวันดังกล่าวที่ศาลอาญา เเละขอสืบพยานจำเลยนัดเเรกเป็นวันที่ 16 ก.ค. ซึ่งศาลอนุญาต โดยทีมทนายจะบริหารจัดการสืบพยานจำเลยทั้งหมดให้ได้ภายใน 3 นัด จากเดิมที่เคยขอไป 4 นัด และหากสืบพยานนัดสุดท้ายเสร็จสิ้นก็จะใช้สิทธิทุกทาง คาดว่าจะมีการแถลงปิดคดี ส่วนศาลอาญาจะมีคำพิพากษาภายในปีนี้หรือไม่ตนไม่ขอก้าวล่วง

ส่วนกลุ่มคนเสื้อแดงที่มารอให้กำลังใจตลอดทั้ง 3 วัน นายทักษิณทราบแล้ว และฝากขอบคุณที่มาให้กำลังใจ แต่ไม่ได้ลงไปทักทายเพราะต้องมีการรักษาความปลอดภัยและความสะดวกเรียบร้อยในพื้นที่ศาล

ส่วนวันที่ 4 ก.ค. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดไต่สวนพยานซึ่งเป็นแพทย์จากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ประมาณ 4-5 ปาก นายทักษิณไม่ได้เดินทางไปด้วย แต่ได้มอบหมายให้ตนไปทำหน้าที่แทน ซึ่งตนได้ส่งคำถามล่วงหน้าตามที่ศาลฎีกาฯ สั่งไปแล้ว ส่วนจะอนุญาตหรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจขององค์คณะ

“ไม่มีความกังวลใจ ยืนยันว่าที่ผ่านมาท่านทักษิณป่วยจริง และเข้าสู่กระบวนการรับโทษจริง  ซึ่งมีการพิสูจน์ทราบอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าศาลจะมีดุลยพินิจในเรื่องนี้อย่างไร” นายวิญญัติกล่าว

เขายังกล่าวว่า เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ชวนสังเกตว่าข้อกล่าวหานี้กลายเป็นข้อกล่าวหาทางการเมืองไปแล้ว แต่ตนยืนยันว่านายทักษิณนั้นเป็นเหยื่อทางการเมืองคนหนึ่ง และไม่ได้รับความเป็นธรรมตั้งแต่ต้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกระบวนการรวบรวมพยานหลักฐาน การสอบสวนต่างๆ ดังนั้นมุมมองของตนในฐานะผู้ทำคดี เมื่อเราได้เห็นหลักฐาน และได้พิสูจน์บางอย่าง จึงไม่หนักใจในคดีนี้ แต่ในอนาคตหลังจากนี้ผลจะออกมาอย่างไร ก็เป็นดุลยพินิจของศาลในการชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานและจะดูว่าโจทก์มีพยานหลักฐานเพียงพอหรือไม่

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี  โพสต์เฟซบุ๊กว่า ผมตั้งใจจะไปฟังการไต่สวนคดีชั้น 14 ในวันศุกร์ที่ 4 ก.ค.นี้ที่ศาลฎีกา ผมคิดพอสมควร ที่อยากขอบคุณและให้กำลังองค์คณะ ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ท่านได้ตั้งองค์คณะไต่สวนขึ้นมา เพราะข่าวที่ได้รับ ยิ่งสร้างความศรัทธาต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาว่า ทุกท่านคือที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง ไม่สามารถให้ใครมาแทรกแซงได้ ผมได้ข่าวมาว่า กว่าจะเกิดการประชุมใหญ่ของศาลฎีกา และนำไปสู่การไต่สวน คดีที่คุณชาญชัยร้อง ได้มีความพยายามของคนบางกลุ่มที่จะทำให้มีการตีตกคำร้องของคุณชาญชัย เพราะมีความพยายามแทรกแซง

นพ.วรงค์ระบุว่า มีข่าวที่ผมได้รับคือ มีความพยายามในการแทรกแซงการแสดงความคิดเห็นของที่ประชุมแผนกของกระบวนการยุติธรรม กรณีควรจะรับคำร้องหรือไม่ โดยใช้คนไม่กี่คนคือ คุณมอ คุณจอ และคุณจอ (มีความสัมพันธ์กับนักการเมือง) โดยใช้เหตุผลว่า เป็นเรื่องการเมืองไม่ควรยุ่ง ตามข่าวยืนยันว่ามีเทปบันทึกเสียงด้วยครับ (จริงหรือไม่ยังสงสัยอยู่)

"สุดท้ายก็มีผู้พิพากษาคณะหนึ่งทนไม่ได้ต่อพฤติกรรมของบุคคลเหล่านี้ โดยเฉพาะคุณมอ จึงมีการร้องเรียนกันเกิดขึ้น พวกเราคนไทยต้องขอขอบคุณผู้บริหารกระบวนการยุติธรรม ที่ทุกท่านยังเป็นที่พึ่งให้กับชาติบ้านเมือง" นพ.วรงค์ระบุ

 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลฎีกาฯ ได้มีคำสั่งนัดพร้อมหรือนัดไต่สวนคดีการบังคับโทษจากการพักรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์มีความพร้อมที่จะชี้แจงศาลอย่างไรว่า ยังไม่ได้ติดตามรายละเอียด

เมื่อถามถึงกรณี นพ.วรงค์ออกมาระบุว่ามีกลุ่มบุคคลพยายามแทรกแซงกระบวนการของศาล เพื่อหวังให้เกิดการตีตกการไต่สวนคดีชั้น 14 นั้น  พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องนี้ ยังไม่ได้อ่าน  แต่เมื่อเรื่องอยู่ที่ศาลแล้วเราไม่ควรไปแทรกแซง ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ

 เมื่อถามย้ำว่า ข้าราชการกระทรวงยุติธรรมพร้อมชี้แจงต่อศาลกรณีดังกล่าวใช่หรือไม่ พ.ต.อ.ทวีตอบเพียงว่า บุคคลที่มีหมายเรียกก็จะไปชี้แจง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน

ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี

อนุทินโวทำจริง/ปปง.จ่อฟันอีก

นายกฯ ลั่นรัฐบาลจริงจังปราบสแกมเมอร์ บอกแค่ 2 เดือนยึดอายัดทรัพย์หมื่นล้าน-เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกกลับ "เพื่อไทย" ถ้าทำงานห่วยจะให้ย้ายไปคุม