"ผู้นำไทย-ลาว" หารือชื่นมื่น ร่วมเป็นสักขีพยาน MOU-พิธีส่งมอบความช่วยเหลือ 4 ด้าน สะท้อนสัมพันธ์แน่นแฟ้น 75 ปี นายกฯ หารือทีมไทยแลนด์ รับฟังปัญหาภาคเอกชน ตั้งเป้าการค้าทวิภาคี 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2027 หนุนสร้าง "Friends of Thailand" ผลักดันผลประโยชน์แบบวิน-วิน
ที่สำนักงานนายกรัฐมนตรี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) นครเวียงจันทน์ วันที่ 16 ตุลาคม เวลา 09.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่นของนครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งเท่ากับประเทศไทย) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย และภริยา ร่วมพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ โดยขึ้นแท่นรับความเคารพ ตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ ร่วมกับนายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว และนางวันดาลา สีพันดอน ภริยา
จากนั้นนายกรัฐมนตรีและนายสอนไซเป็นประธานร่วมการหารือเต็มคณะ โดยภายหลังเสร็จสิ้น นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญของการหารือ ดังนี้ นายอนุทินขอบคุณรัฐบาล สปป.ลาว ที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ซึ่งเป็นการเยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการครั้งแรกในฐานะนายกฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 75 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ลาวในปีนี้ สะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น มั่นคง และสืบเนื่องยาวนานระหว่างสองประเทศ
นายกฯ ยังเชิญนายสอนไซเยือนไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำแม่น้ำโขง-ล้านช้าง (MLC Summit) ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพในปลายปีนี้ ขณะเดียวกันไทยพร้อมเข้าร่วมประชุม JC และ JBC ที่ลาวจะเป็นเจ้าภาพในปีนี้ โอกาสนี้ นายกฯ สปป.ลาวกล่าวแสดงความยินดีกับนายอนุทินในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง เชื่อมั่นว่าจะสามารถนำพาประเทศไทยให้ก้าวหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน พร้อมยืนยันที่จะสานต่อและขยายความร่วมมือระหว่างไทยและ สปป.ลาว ในประเด็นที่เป็นประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ
ส่วนประเด็นหมอกควันข้ามแดนและการบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำโขง ทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะการร่วมมือภายใต้ยุทธศาสตร์ฟ้าใส โดยไทยจะสนับสนุน สปป.ลาวในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อยกระดับการจัดเก็บข้อมูลและการแจ้งเตือนประชาชน นายอนุทินยืนยันความพร้อมของไทย ในการจัดการประชุมระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า สปป.ลาว (COOP ครั้งที่ 8) เพื่อกำหนดแนวทางเพิ่มปริมาณการค้าระหว่างกัน โดยเฉพาะการส่งเสริมการค้าชายแดน และการส่งเสริมเครือข่ายผู้ประกอบการ SMEs เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายการค้าที่ 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2027
นายกฯ ยินดีที่ทราบว่าโครงการด้านคมนาคมและโลจิสติกส์หลายโครงการมีความคืบหน้า อาทิ การเปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) ในอนาคตอันใกล้นี้ การเสริมกำลังสะพานมิตรภาพฯ แห่งที่ 1 (หนองคาย-เวียงจันทน์) ให้แล้วเสร็จ และการปรับปรุงเส้นทางหมายเลข 12 ทั้งนี้ ไทยพร้อมพิจารณาให้ความช่วยเหลือเพื่ออำนวยความสะดวกการคมนาคมระหว่างไทยและ สปป.ลาว ครอบคลุมการให้ความช่วยเหลือทางการเงินสำหรับสะพานข้ามแม่น้ำโขงเมืองเชียงแมน-หลวงพระบาง การหารือโครงการก่อสร้างสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ และการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ด้านโลจิสติกส์ไทย-ลาวอย่างครบวงจร
นอกจากนี้ นายอนุทินขอให้ สปป.ลาวสนับสนุนการลงทุนจากไทยในด้านพลังงานและธุรกิจ โดยเฉพาะการผลิตไฟฟ้าจากแผงโซลาร์ที่ไทยมีศักยภาพทำให้ทั้งสองประเทศสามารถผลิตไฟฟ้าร่วมกันได้มาก
ที่ประชุมยังได้หารือถึงความร่วมมือในกรอบพหุภาคีอย่างสร้างสรรค์ ไทยพร้อมมีบทบาทเชิงรุกและสร้างสรรค์ในการสนับสนุนให้เกิดสันติภาพที่ยั่งยืนในเมียนมา
ต่อมาเวลา 09.45 น. ที่โถงบันไดกลาง สำนักงานนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว นายกฯ และนายสอนไซร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีแลกเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจระหว่างธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) กับธนาคารส่งเสริมกสิกรรมแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และพิธีส่งมอบความช่วยเหลือจากฝ่ายไทยแก่ฝ่ายลาวอีก 4 รายการ ดังนี้ พิธีมอบการสนับสนุนทางการเงิน สำหรับโครงการความร่วมมือเพื่อสกัดกั้นสารตั้งต้นของการผลิตยาเสพติด ไทย-ลาว จำนวน 10,000,000 บาท พิธีส่งมอบเซรุ่มแก้พิษงู มูลค่า 875,000 บาท พิธีส่งมอบอุปกรณ์เพื่อสนับสนุนการพัฒนาและฝึกอาชีพแรงงาน สปป.ลาว มูลค่า 1,495,930 บาท และพิธีส่งมอบความช่วยเหลือทางวิชาการ สำหรับงานออกแบบรายละเอียด โครงการพัฒนาระบบประปาระยะที่ 2 ใน สปป.ลาว มูลค่า 30,000,000 บาท
ภายหลังเสร็จพิธี นายกฯ และคณะเดินทางไปยังทำเนียบประธานประเทศ สปป.ลาว เพื่อเข้าเยี่ยมคารวะนายทองลุน สีสุลิด ประธานประเทศ สปป.ลาว โดยนายอนุทินได้กล่าวขอบคุณประธานประเทศ สปป.ลาว ที่มีบทบาทสำคัญในฐานะ “มิตรแท้ของไทย” พร้อมยืนยันความมุ่งมั่นที่จะสานต่อและยกระดับความร่วมมือให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนทั้งสองประเทศ
ขณะที่ประธานประเทศ สปป.ลาวได้ย้ำว่า ลาวให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับไทย พร้อมทั้งกล่าวแสดงความซาบซึ้งและความประทับใจต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ที่ทรงมีบทบาทในการกระชับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ เป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่นคงและมิตรภาพระหว่างสองประเทศ
นอกจากนี้ นายอนุทินแสดงความพร้อมในการสนับสนุนงบประมาณเพื่อเสริมสร้างศักยภาพของเจ้าหน้าที่ลาว ในการป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบขนส่งยาเสพติดและสารตั้งต้น พร้อมทั้งยืนยันการสานต่อความเชื่อมโยงด้านคมนาคมและโลจิสติกส์ระหว่างสองประเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางเศรษฐกิจ โดยเน้นยุทธศาสตร์ “เปลี่ยน Land-locked เป็น Land-linked” ส่งเสริมการเชื่อมโยงและการเดินทางไปมาหาสู่ระหว่างประชาชน รวมทั้งได้กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการปรับปรุงเส้นทางหมายเลข 12 ของ สปป.ลาว และโครงการสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ที่จังหวัดหนองคาย
จากนั้นเวลา 13.20 น. ที่ทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ นายกฯ ประชุมหารือร่วมกับทีมไทยแลนด์ และพบปะหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้แทนภาคเอกชนไทยจากบริษัทชั้นนำต่างๆ โดยขอให้ภาคเอกชนไทยดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม และส่งเสริมการจัดกิจกรรม CSR อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างภาพลักษณ์นักลงทุนไทยในฐานะ “นักลงทุนคุณภาพที่ลาวไว้วางใจ” พร้อมสนับสนุนให้ทุกหน่วยงานสร้างเครือข่ายกับบุคคลระดับสูงของลาวในพื้นที่ต่างๆ เพื่อขยายเครือข่าย “Friends of Thailand” ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างผลประโยชน์ร่วมกันอย่างยั่งยืนในลักษณะ win-win ทั้งสองฝ่าย
โอกาสนี้ ที่ประชุมยังหารือครอบคลุม 5 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1.การส่งเสริมการค้าและการลงทุน โดยตั้งเป้าหมายการค้าทวิภาคี 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2027 และเตรียมจัดประชุม JC COOP ครั้งที่ 8 เพื่อส่งเสริมการค้าชายแดนและ SMEs 2.การอำนวยความสะดวกด้านโลจิสติกส์ โดยขอให้ฝ่ายลาวดูแลการขนส่งผลไม้จากไทยผ่านลาวไปจีน รวมถึงค่าธรรมเนียมและการอนุญาตให้รถบรรทุกไทยใช้สถานีเวียงจันทน์เพื่อขนถ่ายสินค้าขึ้นรถไฟลาว-จีนโดยตรง 3.การแก้ปัญหาภาษีหลายรายการ ที่ทำให้ต้นทุนการผลิตสูง โดยจะผลักดันให้มีระเบียบที่ชัดเจนและโปร่งใส 4.การพัฒนาศักยภาพบุคลากรลาว เพื่อรองรับการลงทุนของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมไทยในลาว และ 5.การรองรับอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เติมเงินร้านค้า คนละครึ่งฯ1.5 สูงสุด2พันบาท
นายกฯ นำประชุม ครม.เศรษฐกิจ พ่อค้าแม่ค้าหอบขนมมาให้กำลังใจ ขอบคุณโครงการ "คนละครึ่งพลัส"
ปชน.ปัดปล่อยฟรีรัฐบาล เกมวัดใจอาจทิ้งแก้รธน.
"พรรคส้ม" เสียรังวัด! ปัดชิ่งเปิดศึกอภิปราย "ไอติม" ร่ายยาวกางเงื่อนไขหลัก 3 ข้อ
หนูนำตร.ตีปี๊บ! ต้านสแกมเมอร์ โวจับกุมได้เพียบ
"อนุทิน" นำ ตร.แถลง “รวมพลังคนไทย ต้านภัยสแกมเมอร์” กวาดล้างอาชญากรรมออนไลน์ 13 วัน
กราบพระบรมศพเฉียดหมื่น
"สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
กองทัพไทยพร้อมรบ ทหารเหยียบระเบิด-หยุดปฏิญญาสันติภาพ/บุญสินไม่ฟื้นฝอย
“อนุทิน” เดือด! ทหารไทยเหยียบกับระเบิดใหม่จนขาขาด ลั่นกัมพูชาเป็นปฏิปักษ์ไม่เลิก
'อนุทิน' เรียก สมช. ถกด่วนพรุ่งนี้ หาแนวทางยุติปฏิญญาสันติภาพไทย-กัมพูชา
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีการเรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) วันที่ 11 พ.ย. มีประเด็นอะไรเร่งด่วนว่า “ไทย - กัมพูชา ไงครับถึงต้องเรียกประชุมสมช.” เมื่อถามถึงความชัดเจนเกี่ยวกับปฏิญญาไทยกัมพูชา

