ไล่บี้ฟ้อง4รมต. วิชญ์สมัคร‘ศท.’ จ่อนั่งหน.พรรค

“ก้าวไกล” ตามเช็กบิลหลังศึกซักฟอกไม่ลงมติ ลุยฟ้อง 4 รัฐมนตรี  “โรม” จี้ “ประวิตร-อนุพงษ์” ตอบปมค้ามนุษย์ ฝ่ายค้านกางตารางเดินสายไล่รัฐบาล ทวงอำนาจให้ประชาชน “บิ๊กน้อย” สมัครสมาชิกพรรคเศรษฐกิจไทยแล้ว เตรียมนั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรค 

ที่ห้องแถลงข่าว อาคารรัฐสภา นายณัฐวุฒิ บัวประทุม, นายรังสิมันต์ โรม,  นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล, นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา และนายปดิพัทธ์​ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ร่วมแถลง​กรณีการเตรียมยื่นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบข้อเท็จจริงรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง 4 คน ภายหลังที่ได้มีการอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 เมื่อวันที่ 17-18 ก.พ.

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า พรรคก้าวไกลพบข้อมูลข้อเท็จจริงพยานหลักฐานที่มากกว่าการซักถามและเสนอแนะการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล ได้แก่ 1.เรื่องการค้ามนุษย์ที่เกี่ยวเนื่องกับการลี้ภัยของชาวโรฮีนจา 2.โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) พบว่า มีการปกปิดข้อเท็จจริงนำไปสู่ราคาสินค้าแพง 3.การใช้สถานีรถไฟฟ้ากลางบางซื่อ ที่เชื่อได้ว่ามีการทุจริต 4.สถานการณ์น้ำมันรั่วในท้องทะเลภาคตะวันออก ทั้ง 4 ประการ เป็นยุทธการโรยเกลือภาคต่อเนื่อง มั่นใจว่า กรณีดังกล่าวมีคนผิดทั้งหน่วยงานราชการ คณะรัฐมนตรี (ครม.)​ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงความรับผิดชอบของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกฯ

นายปดิพัทธ์กล่าวว่า การอภิปรายเรื่อง ASF หลักฐานที่มีอยู่เพียงพอที่จะฟ้องนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ต่อ ป.ป.ช. และจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของ กมธ.ป.ป.ช. เนื่องจาก กมธ.วิสามัญที่ตั้งขึ้นมาเรียกข้อมูลจากหน่วยงานราชการยากมากขึ้น จึงจำเป็นที่จะต้องซักถามอีกหลายประเด็นต่อ รวมทั้งเราจะดำเนินการฟ้องแพ่งแบบหมู่ หรือคลาสแอคชั่น

นายจิรัฏฐ์กล่าวว่า เรื่องสถานีกลางบางซื่อ ที่ใช้ในการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน ประกอบกับค้างค่าก่อสร้าง ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้บริษัทผู้รับเหมาทั้งบริษัท ซิโน-ไทยฯ และบริษัท ยูนิคฯ ฟ้องเรียกค่าเสียหายมูลค่า 7,200 ล้านบาท พรรคมองว่าเป็นเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อนที่เกี่ยวข้องกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม พรรคจะดำเนินการฟ้องบุคคลทั้งสองต่อ ป.ป.ช.

นายรังสิมันต์กล่าวว่า เรื่องการค้ามนุษย์ พบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐหลายภาคส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกองทัพเรือ  ตำรวจ ที่ควบคุมดูแลไม่ให้กระทำผิดในเรื่องนี้ก็จับได้น้อย รวมถึงฝ่ายปกครอง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ทราบเรื่องนี้เป็นอย่างดี รวมถึงเรื่องการลี้ภัยของ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และอดีตหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮีนจา ที่โดนโยกย้ายตำแหน่งให้ไปอยู่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีการบีบบังคับ ขัดขวาง จนเจ้าตัวต้องลาออกจากราชการ ทั้งหมดนี้จะนำเรื่องเข้าสู่ กรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาฯ เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริง ตั้งแต่ที่มีการอภิปรายยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนจาก พล.อ.อนุพงษ์และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ยืนยันว่าท่านไม่สามารถใช้ความเงียบเพื่อกลบฝังปัญหาหรือคำถามของประชาชนได้อีกต่อไป

นพ.วาโยกล่าวว่า จะฟ้องนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต่อ ป.ป.ช. ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จากเหตุน้ำมันรั่วกลางทะเลภาคตะวันออก

เมื่อถามถึงการตั้งข้อสังเกตถึง พล.ต.ต.ปวีณ ไม่ได้รับสถานะผู้ลี้ภัยของประเทศออสเตรเลีย นายรังสิมันต์กล่าวว่า ยืนยันว่า พล.ต.ต.ปวีณได้รับสถานะการลี้ภัยจริง และขณะนี้อาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลียแน่นอน ซึ่งรัฐบาลก็ไม่ได้ปฏิเสธในเรื่องนี้ ทั้งนี้ ตนไม่เชื่อว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์จะแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ได้ การจะแก้ปัญหาได้ต้องมีรัฐบาลใหม่ มีผู้นำใหม่ แล้วการแก้ปัญหาเหล่านี้จะดีขึ้น

 รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยแจ้งว่า หลังปิดสมัยประชุมสภาวันที่ 1 มี.ค. หลายพรรคการเมืองจะขยับทำกิจกรรมลงพื้นที่พบปะประชาชน ประชุมสัมมนาเพื่อเตรียมความพร้อมทางการเมือง เช่น พรรคประชาธิปัตย์ กำลังหาสถานที่จัดประชุมสัมมนาคณะ ส.ส.และแกนนำของพรรค ในส่วนของพรรคเพื่อไทย จะมีการจัดกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวเช่นกัน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย คณะ ส.ส.เพื่อไทยและตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน จะร่วมเดินสายไปเปิดเวทีพบปะประชาชนในภูมิภาคต่างๆ โครงการผู้นำฝ่ายค้านพบประชาชน ทั่วไทยทวงคืนอำนาจประชาชน วันอาทิตย์ที่ 13 มี.ค. กรุงเทพมหานครมีการจัดกิจกรรมหัวข้อ “ทั่วไทยทวงคืนอำนาจประชาชน หมดเวลานายกฯ ก่อนประเทศหมดเวลา”, วันอาทิตย์ 27 มี.ค. ที่ จ.น่าน “ทั่วไทยทวงคืนอำนาจประชาชน บริหารล้มเหลวซ้ำซาก ประชาชนจน ประเทศเจ๊ง”, วันอาทิตย์ที่ 24 เม.ย. ที่ จ.นครราชสีมา “ทั่วไทยทวงคืนอำนาจประชาชน รัฐบาลสั่นคลอน สภาล้มลุกคลุกคลาน”, วันอาทิตย์ที่ 1 พ.ค. ที่ จ.ชลบุรี “ทั่วไทยทวงคืนอำนาจประชาชน รัฐธรรมนูญสู่ทางตัน การเมืองสู่วิกฤต”

กำหนดการของการจัดกิจกรรมแต่ละจังหวัด ประกอบด้วย เวลา 09.00-09.30 น. เสวนา/ปราศรัย โดยผู้นำฝ่ายค้าน  เวลา 09.30-11.30 น. เสวนาปราศรัย ตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้านทั้ง 6 พรรค คนฟังไม่เกิน 300 คน จากนั้นในเวลา 13.00-16.00 น. ลงพื้นที่รับฟังปัญหาร่วมกัน

อีกด้านหนึ่งของความเคลื่อนไหวพรรคร่วมรัฐบาล​ หลังจาก พล.อ.วิชญ์​ เทพหัสดิน​ ณ​ อยุธยา​ อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ​ ยื่นใบลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ตั้งแต่​ต้นเดือน​ ก.พ. ล่าสุด พล.อ.วิชญ์​ เปิดเผยว่า​ ได้เข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคเศรษฐกิจไทยเรียบร้อยแล้ว​ จากนี้ต้องรอให้มีการประชุมใหญ่พรรคในกลางเดือน​ มี.ค.

สำหรับพรรคเศรษฐกิจไทย เป็นพรรคที่​ ร.อ.ธรรมนัส​ พรหมเผ่า​ ส.ส.พะเยา​ กับ​พวก ส.ส.​ รวม 18​ คนย้ายมาเป็นสมาชิก​พรรคหลังถูกพรรคพลังประชารัฐมีมติขับออก​ มีรายงานว่า​ พล.อ.วิชญ์จะมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทยด้วยตัวเอง​ โดย ร.อ.ธรรมนัส​เป็นเลขาธิการพรรค

วันเดียวกัน น.ส.จิราพร นาคดิลก ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ เดินทางมารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ตามประกาศสภาผู้แทนราษฎร เรื่องให้ผู้มีชื่ออยู่ในลำดับถัดไปในบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองเลื่อนขึ้นมาเป็น ส.ส.แทนตำแหน่งที่ว่าง โดยน.ส.จิราพรได้รับการเลื่อนขึ้นมาเป็น ส.ส.แทนนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ที่ลาออกจากตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 17 ก.พ. อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 105 (2) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 จึงประกาศให้ผู้มีรายชื่อในลำดับถัดไปในบัญชีรายชื่อของพรรคเศรษฐกิจใหม่ เลื่อนขึ้นมาเป็น ส.ส.แทน จากนั้นในการประชุมสภาที่มีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุม น.ส.จิราพรได้กล่าวปฏิญาณตนในสภาผู้แทนราษฎรก่อนเข้ารับหน้าที่ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 115.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง