
“อดุลย์” หนุน”หมอระวี”ดันร่างกฎหมายนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง ยกเว้นคดีอาญาที่รุนแรง – คอร์รัปชัน -ม.112 เชื่อไม่สุดซอยแน่ ชี้เป็นโอกาสสุดท้ายของรัฐบาล จี้ทุกพรรคการเมืองออกโรงหนุนให้สำเร็จก่อนเลือกตั้ง เพื่อสร้างบรรยากาศประชาธิปไตย แนะ”ทักษิณ”ให้รู้จักรอและ ”อยู่เป็น” เช่นเดียวกับคดีม.112 เป็นเรื่องพระราชอำนาจ
18 ธ.ค. 2565 – นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 และอดีตคณะกรรมการศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดอง สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวถึงการผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรม ว่า กรณี น.พ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กำลังผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นร่างพ.ร.บ. สร้างเสริมสังคมสันติสุข โดยให้มีการนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง ตั้งแต่19ก.ย.49- 30 พ.ย. 65 ไม่เป็นความผิดทั้งทางอาญาและทางแพ่ง ไม่รวมถึงการกระทำความผิดฐานทุจริตหรือประพฤติมิชอบ-การกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หรือเป็นการกระทำที่ส่งผลให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เพื่อลดความขัดแย้งและสร้างความสามัคคีปรองดองของคนในชาติ
แนวทางดังกล่าวเป็นหลักการเดียวกับข้อเสนอแนะของคณะกรรมการศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดอง สปช.ที่มี ดร. เอนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็นประธานฯซึ่งได้ทำการศึกษามาปีกว่าโดยมีการรับฟังความเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายรวมทั้งศึกษาบทเรียนจากต่างประเทศด้วย และได้เสนอต่อที่ประชุมสปช.เมื่อปลายปี 2558 ที่ประชุมสปช.ก็ได้ลงมติเห็นชอบเป็นเอกฉันท์ไม่มีเสียงค้านแม้แต่คนเดียว จากนั้นได้เสนอไปยังรัฐบาลเพื่อดำเนินการ แต่กลับไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ผู้ชุมนุมทุกเสื้อสีก็ติดคุกตารางกันถ้วนหน้า ความขัดแย้งก็ยังดำรงอยู่เหมือนเดิมและรอวันปะทุขึ้นอีก
นายอดุลย์ กล่าวว่า กรณีที่มีการออกมาท้วงติงเกรงว่าจะซ้ำรอยพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอยนั้น ก็ต้องขอขอบคุณสำหรับความห่วงใย แต่คงต้องชี้แจงให้เข้าใจก่อนว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดความผิดพลาดเพราะนายกทักษิณ ชินวัตร ที่ต้องการนิรโทษกรรมให้ตัวเองพ้นผิด ไม่ใช่ทุกฝ่ายไม่อยากทำให้เกิดความปรององ แต่อย่างไรก็ตามหากทำตามข้อเสนอแนะของกก.ปรองดอง ชุด ดร. เอนก เป็นประธานฯ เชื่อว่าจะไม่เกิดปัญหาอย่างแน่นอน โดยนิรโทษกรรมคดีการชุมนุมทางการเมืองของทุกฝ่าย ยกเว้นคดีอาญาโดยเนื้อแท้หรือคดีอาญาที่รุนแรง ซึ่งความจริงผู้ที่มีคดีอาญารุนแรงก็รับโทษกันไปเป็นส่วนใหญ่แล้ว ส่วนคดีทุจริตคอร์รัปชัน โดยหลักสากลทั่วโลกไม่มีกฏหมายตราไว้ ให้มีการนิรโทษ สำหรับคดีม.112 เป็นเรื่องพระราชอำนาจ ไม่ใช่คดีที่จะนิรโทษได้ ซึ่งพระองค์มีพระเมตตาอยู่แล้ว แต่เราต้องทำตามกระบวนการให้เกิดความสมานฉันท์กันก่อน ส่วนที่บอกว่าต้องรอสัญญาณพิเศษก่อนนั้นยืนยันว่าไม่เป็นความจริงเป็นเพียงการแอบอ้างเท่านั้น ขอทุกฝ่ายอย่าดึงสถาบันมายุ่งเกี่ยว
“ ต้องขอชื่นชมหมอระวี ที่เป็นผู้เสนอ ร่างพ.ร.บ. สร้างเสริมสังคมสันติสุข ดังกล่าว เพื่อให้เกิดความปรองดองของคนในชาติ พรรคการเมืองต่างๆ ควรสนับสนุนร่างกฎหมายฉบับนี้ มีนโยบายสร้างความสามัคคีของคนในชาติ และผลักดันให้สำเร็จก่อนการเลือกตั้ง จะทำให้บรรยากาศการเลือกตั้งมีความเป็นประชาธิปไตย และมีเสรีภาพอย่างอย่างแท้จริง จะไม่มีการกล่าวโจมตีกันใส่ร้ายกันให้เกิดความขัดแย้งบานปลายร้าวลึกอีก หลังการเลือกตั้งทุกพรรคการเมืองก็จะสามารถจัดตั้งรัฐบาลให้มีเสถียรภาพ และบริหารบ้านเมืองให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนทุกฝ่ายได้สังคมไทยก็จะเกิดสันติสุข และขอย้ำว่า เรื่อง ม.112 เป็นพระราชอำนาจ หัวหน้ารัฐบาล พูดเอง ว่า พระองค์ท่านไม่ต้องการให้ใช้ม.112 ดังนั้นทุกทุกฝ่ายต้องรู้จักรอ อย่าใช้เป็นเงื่อนไขทำลายแนวทางปรองดอง ส่วนนายกทักษิณ ก็ต้องรู้จักรอเช่นเดียวกัน ขอให้นิรโทษกรรมประชาชนก่อน จึงขอให้รู้จัก ”อยู่เป็น” อย่างที่คุณหญิงพจมาน ชินวัตร บอกว่าถ้าฉลาดเกินไป จะกลายเป็นโง่”นายอดุลย์ กล่าว
อดีตคณะกรรมการศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดอง กล่าวด้วยว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นกับสังคมไทยมีมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ได้กลายเป็นอุปสรรคสำคัญในการนำพาประเทศไปสู่การพัฒนาให้เกิดความก้าวหน้าและมั่นคง การสร้างความปรองดอง คือ การลดความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจากการใช้ความรุนแรงด้วยการถอดบทเรียนรับรู้และเข้าใจถึงเหตุและผลแห่งความขัดแย้ง การสำนึกรับผิดและการฟื้นคืนความสัมพันธ์ การหาข้อตกลงใหม่ในกฎเกณฑ์ในการอยู่ร่วมกันในสังคมเดียวกัน รวมทั้งปฏิรูปโครงสร้างสังคมเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของสังคม ซึ่งกก.ปรองดอง ใช้เวลาศึกษาปีกว่าจนตกผลึกแล้ว หากไม่เอาตามแนวทางนี้บ้านเมืองจะเดินต่อไปไม่ได้ และไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ เสียเวลามา 8 ปีแล้ว โอกาสนี้เหมาะสมที่สุดแล้ว จึงเป็นโอกาสสุดท้ายของรัฐบาลนี้ พรรคการเมือง ส.ส.และ ส.ว.ที่เสนอเรื่องนี้มีหน้าที่ผลักดันต่อรัฐสภาต่อไป ภาคประชาชนก็ต้องร่วมกันสนับสนุน เรียกร้องให้บ้านเมืองเกิดความสามัคคีปรองดองให้ได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สภาที่ 3 เปิดเวทีชำแหละ ส.ว.-ประยุทธ์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 ร่วมจัดเวทีอภิปรายสภาที่
ลุ้น ศาลรธน.ตีความสูตรหาร 100 ขัดรธน. 'หมอระวี' คาดมีโอาส 50:50
'หมอระวี' คาด 50:50 ศาลรธน.ตีความสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ หาร 100 ขัดรัฐธรรมนูญ ชี้จะเป็นสูตรไหนทางไหนก็ยังมีทางออก เป็นไปได้ยากรัฐบาลอยู่รักษาการยาว
สภาที่ 3 ลากบิ๊กตู่ 8 ปี มาสับ จี้จุดเผชิญหน้า 3 เงื่อนไข - เสือ 2 ตัวแข่งกัน
วงเสวนา อัด “ประยุทธ์” ไม่ใช่จุดขายให้เป็นนายกฯ ต่อ เปิด 3 เงื่อนไขต้องเผชิญ บี้ หยุดรัฐธรรมนูญ 60 เอื้อ 3 ป. ยกร่างใหม่ฉบับประชาชน
ประธานญาติวีรชนฯ เรียกร้อง 'บิ๊กป้อม' เลิกกลัวบารมี 'บิ๊กตู่'
นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 แถลงว่า จากการที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องวินิจฉัยเรื่องระยะเวลาการดำรง
'นิกร' ยันสูตรหาร 100 ไม่ขัดรธน. 'หมอระวี' ยื่นตีความเป็นเรื่องดี ช่วยทำให้สิ้นข้อสงสัย
'นิกร' ยันสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ หาร 100 ไม่ขัด รธน. 'หมอระวี' ยื่นตีความเป็นเรื่องดี ช่วยทำให้สิ้นข้อสงสัย พรรคการเมืองจะได้เตรียมเข้าสู่การเลือกตั้ง
เวทีรุมสับ 'บิ๊กตู่' ร้อนฉ่า! เขย่าจริยธรรม เดินตามสปิริตทหารรุ่นพี่
วงเสวนาวาระ 8 ปี เรียงหน้ารุมสับ “บิ๊กตู่” กระตุกต่อมจริยธรรม เดินตามสปิริตทหารรุ่นพี่ ก่อนเกิดวิกฤต “ทนายนกเขา” ขีดขอบเขต รัฏฐาธิปัตย์ สิ้นสุดแล้วทุกอย่างเดินตามระบบปกติ