ครป.หวังศาลรัฐธรรมนูญรักษาประโยชน์ชาติ กรณีปล่อยเอกชนผูกขาดผลิตไฟฟ้า

8 ม.ค. 2566 – นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวถึงศาลรัฐธรรมนูญจะมีมติวินิจฉัยคดีที่นายสุทธิพร ปทุมเทวาภิบาล อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยสัดส่วนกำลังการผลิตไฟฟ้าของรัฐลดลงต่ำกว่าร้อยละ 51 เป็นการกระทำที่ขัดหรือ แย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ในวันพรุ่งนี้ว่า ผมคาดหวังว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินโดยรักษาผลประโยชน์ของชาติบ้านเมือง ไม่ใช่รักษาผลประโยชน์ของกลุ่มทุนเอกชนที่เติบโตหลายแสนล้านโดยการผูกขาดการผลิตไฟฟ้า และถูกกล่าวหาว่ารัฐและทุนสุมหัวกันขูดรีดประชาชน

ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) ล่ารายชื่อ 100 พลเมืองไทยเรียกร้องรัฐบาลยุติการให้เอกชนผูกขาดการผลิตไฟฟ้าเกินกึ่งหนึ่งของรัฐ ซึ่งมีผู้ลงชื่อที่มีชื่อเสียงจำนวนมาก ทั้งอดีตผู้ว่าการ กฟผ. และผู้บริหาร ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสากิจหลายแห่ง นักกฎหมาย ทนายความ คณบดี อาจารย์มหาวิทยาลัย อดีต ส.ส. ส.ว. ศิลปิน ดารานักร้อง นักธุรกิจเพื่อสังคม และแกนนำภาคประชาชนจำนวนมาก ที่ไม่ต้องการให้เกิดการผูกขาดเศรษฐกิจโดยการใช้ทรัพยากรของรัฐและสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่ควรเป็นบริการสาธารณะ ไม่ควรปล่อยให้เอกชนแสวงหากำไรเอาเปรียบประชาชน

เรื่องนี้คือความผิดพลาดของรัฐบาลอย่างชัดเจน โดยคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีนายกฯ เป็นประธาน กระทรวงพลังงาน และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) สมคบคิดวางแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย และให้ใบอนุญาตเอกชนผูกขาดการผลิตไฟฟ้าเกินกึ่งหนึ่งของประเทศ ดังนั้น ผมขอเรียกร้องให้เปิดเผยสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระหว่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กับเอกชน โดยทันที เพื่อประโยชน์แก่สาธารณะ และให้ประชาชนเห็นว่าถูกต้องชอบธรรมหรือไม่

ในวันที่ พฤ. 5 ม.ค. 2023 11:34 Metha Matkhao [email protected] เขียนว่า:นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) เผยแพร่แถลงการณ์ 100 พลเมืองไทย

เรียกร้องให้รัฐบาลยุติการให้เอกชนผูกขาดการผลิตไฟฟ้าเกินกึ่งหนึ่งของรัฐ ชี้คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) กระทรวงพลังงาน และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) สมคบคิดวางแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย และให้ใบอนุญาตเอกชนผูกขาดการผลิตไฟฟ้าเกินกึ่งหนึ่งของประเทศ จี้เปิดเผยสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระหว่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กับเอกชน เพื่อประโยชน์แก่สาธารณะ โดยมีรายละเอียดดังนี้

แถลงการณ์ 100 พลเมืองไทย

เรียกร้องรัฐบาลยุติการให้เอกชนผูกขาดการผลิตไฟฟ้าเกินกึ่งหนึ่งของรัฐ

เนื่องจากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 56 ระบุว่า “รัฐต้องจัดหรือดําเนินการให้มีสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่จําเป็นต่อการดํารงชีวิตของประชาชนอย่างทั่วถึงตามหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืนโครงสร้างหรือโครงข่ายขั้นพื้นฐานของกิจการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของรัฐอันจําเป็นต่อการดํารงชีวิตของประชาชนหรือเพื่อความมั่นคงของรัฐ รัฐจะกระทําด้วยประการใดให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ ของเอกชนหรือทําให้รัฐเป็นเจ้าของน้อยกว่าร้อยละห้าสิบเอ็ดมิได้การจัดหรือดําเนินการให้มีสาธารณูปโภคตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง รัฐต้องดูแลมิให้มีการเรียกเก็บค่าบริการจนเป็นภาระแก่ประชาชนเกินสมควร

การนําสาธารณูปโภคของรัฐไปให้เอกชนดําเนินการทางธุรกิจไม่ว่าด้วยประการใดๆ รัฐต้องได้รับ ประโยชน์ตอบแทนอย่างเป็นธรรม โดยคํานึงถึงการลงทุนของรัฐ ประโยชน์ที่รัฐและเอกชนจะได้รับ และค่าบริการที่จะเรียกเก็บจากประชาชนประกอบกัน”

ผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้พิจารณาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้ว เห็นว่า การให้บริษัทเอกชนเข้ามามีบทบาทในการผลิตไฟฟ้ามากขึ้นจนทำให้สัดส่วนการผลิตไฟฟ้าของรัฐน้อยกว่าร้อยละ 51 อันเป็นกระทำที่ฝ่าฝืนต่อรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 56 วรรคสอง ทำให้ผู้ร้องเรียนได้รับผลกระทบจากการใช้ไฟฟ้าในราคาที่แพงขึ้นและไม่เป็นธรรม

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์รับคำร้องที่ นายสุทธิพร ปทุมเทวาภิบาล อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 51 ว่า กระทรวงพลังงานกำหนดยุทธศาสตร์กระทรวงพลังงาน (พ.ศ. 2559 – 2563) พัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561 – 2580 ทำให้สัดส่วนกำลังการผลิตไฟฟ้าของรัฐลดลงต่ำกว่าร้อยละ 51 เป็นการกระทำที่ขัด หรือ แย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 56 วรรคสอง ประกอบมาตรา 3 วรรคสองหรือไม่ ไว้พิจารณาวินิจฉัย เนื่องจากพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องแล้ว เห็นว่าเป็นไปตาม หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 51 ประกอบพ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 45

ดังนั้น เพื่อไม่ให้ละเมิดต่อหลักการ ขัดต่อรัฐธรรมนูญและเกิดความขัดแย้งในสังคมไทย กลุ่มปัญญาชนและพลเมืองไทย จำนวน 100 คน ตามรายชื่อข้างท้ายนี้ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาล คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) กระทรวงพลังงาน และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ยุติแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย การให้ใบอนุญาตเอกชนผูกขาดการผลิตไฟฟ้าเกินกึ่งหนึ่งของประเทศ และเปิดเผยสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระหว่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กับเอกชน เพื่อประโยชน์แก่สาธารณะและประชาชนต่อไป

5 มกราคม 2566

100 พลเมืองไทย ผู้รักชาติ รักประชาธิปไตย

  1. กมล กมลตระกูล กรรมการนโยบายสภาองค์กรของผู้บริโภค
  2. พท.พญ. กมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี ประธานเครือข่ายประชาชนปกป้องประเทศ
  3. กรศิษฏ์ ภัคโชตานนท์ อดีตผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
  4. กาญจนี วัลยะเสวี กลุ่มชาวไทยหัวใจรักสงบ
  5. การุณ ใสงาม อดีตสมาชิกวุฒิสภา
  6. เกษม บุตรขุนทอง อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
  7. คมสันต์ ทองศิริ อดีตประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้านครหลวง
  8. จอมพล รุ่งเรืองชูเลิศ ประธานคณะกรรมการปราบปรามโกงชาติ
  9. ดร.จิตติ มงคลชัยอรัญ อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  10. จำนงค์ หนูพันธ์ แกนนำชุมชนเมือง ประธานขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม
  11. ชลกานดาร์ นาคทิม นักวิชาการอิสระ
  12. ชุมพล ศรีรวมทรัพย์ นักวิชาการอิสระ
  13. ผศ.ดร.ฐกฤต ปานขลิบ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม
  14. ผศ.ฐิติศักดิ์ บุญปราโมทย์ อดีตหัวหน้าภาควิชาเหมืองแร่และปิโตรเลียม คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  15. พ.อ.ถัด ดวงจิตต์ ข้าราชการบำนาญ
  16. ศ.(กิตติคุณ) ธงชัย พรรณสวัสดิ์ อดีตอาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  17. ธงชัย ไวยบุญญา ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการประปาส่วนภูมิภาค
  18. ผศ.ดร. ธีระพงศ์ สติภพ อาจารย์มหาวิทยาลัยมหิดล
  19. นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วชิระ อดีตคณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และอดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
  20. พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน อดีตประธานที่ปรึกษากระทรวงกลาโหม
  21. ผศ.ดร.บันลือ เอมะรุจิ อดีต อาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
  22. บุญแทน ตันสุเทพวีรวงศ์ ประธานคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย
  23. บุญเลิศ สว่างกุล อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
  24. ประทีป นรินทรางกูล ณ อยุธยา นักวิชาการอิสระ
  25. ประยงค์ มูลสาร (ยงค์ ยโสธร) นักเขียน และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
  26. ประเสริฐ เลิศยะโส อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
  27. ผศ.ประสาท มีแต้ม นักวิชาการอิสระด้านพลังงาน
  28. ดร.ปราโมทย์ นาครทรรพ อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
  29. ปรีดา เตียสุวรรณ์ ประธานเครือข่ายธุรกิจเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
  30. พงศ์ฐิติ พงศ์ศิลามณี ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน)
  31. พรรษิษฐ์ ต่อสุวรรณ สถาปนิก
  32. พล คงเสือ อดีตผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
  33. พะเยาว์ อัคฮาด ผู้เสียหายจากเหตุการณ์พฤษภา 2553
  34. พิเชษฐ์ ชูชื่น อดีตผู้อำนวยการโรงฟ้าจะนะ
  35. รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อดีตคณบดี สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
  36. พิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน
  37. ดร.เพชญ์ ภัคโชตานนท์ ภาควิชาเหมืองแร่และปิโตรเลียม คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  38. ภัทรพงศ์ เทพา อดีตผู้ช่วยผู้ว่าการอาวุโส การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
  39. ดร.ภัทรมน สุวพันธุ์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
  40. ภิญโญ มีชำนะ อดีตหัวหน้าภาควิชาเหมืองแร่และปิโตรเลียม คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  41. ศ.(พิเศษ) ดร.มนตรี ค้ำชู อดีตรองคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
  42. มานพ เกื้อรัตน์ เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์
  43. เมธา มาสขาว เลขาธิการ เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย
  44. เยี่ยมยอด ศรีมันตะ ที่ปรึกษาสหภาพครูแห่งชาติ
  45. รณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ
  46. ระวัย ภู่ผะกา อดีตประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การเภสัชกรรม
  47. รัชดา ทองอยู่ อดีตผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสังคม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
  48. รัษฎา มนูรัษฎา ทนายความ
  49. รศ.ดร.รุ้งนภา ยรรยงเกษมสุข อาจารย์มหาวิทยาลัยบูรพา
  50. โรจน์ คำพาที อดีตผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
  51. ดร.ลัดดาวัลย์ ตันติวิทยาพิทักษ์ เลขาธิการองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย
  52. วรรณพร ฉิมบรรจง ศิลปินดารานักแสดง
  53. วรพจน์ มานะพันธุ์พงศ์ อดีตผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
  54. วรพล แกมขุนทด ประธานที่ปรึกษาสมาคมวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะแท็กซี่
  55. วสันต์ สิทธิเขตต์ เครือข่ายศิลปินเพื่อประชาธิปไตย
  56. วัฒนา หลายเพิ่มพูน ผู้ช่วยผู้ว่าการบำรุงรักษา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
  57. วิชัย สิมะธัมนันท์ อดีตรองผู้ว่าการพัฒนาระบบส่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
  58. วิบูลย์ ฤกษ์ศิริทัย อดีตผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
  59. วิทยา รักษ์พงษ์ วิศวกรการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
  60. ดร.วิระวรรณ สมบัติศิริ ที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม
  61. วีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น
  62. ไวบูลย์ เชี่ยวชาญ อดีตผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
  63. ผศ.ดร.ศราวุธ เจ๊ะโส๊ะ อาจารย์คณะสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
  64. ดร.ศักดิ์ณรงค์ มงคล เครือข่ายนักวิชาการเพื่อการกระจายอำนาจ
  65. ศิริชัย ไม้งาม อดีตประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
  66. สมเกียรติ รอดเจริญ อดีตประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการท่าเรือแห่งประเทศไทย
  67. สมใจ ทองบุราณ อดีตสมาชิกสภาจังหวัดยโสธร
  68. สมชาย หอมลออ ประธานมูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา
  69. ดร.สมนึก จงมีวศิน นักวิชาการอิสระ
  70. สมบูรณ์ คำแหง ประธานคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน
  71. สมบูรณ์ วิจารณ์จันทร์ ที่ปรึกษาสหภาพแรงงานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
  72. สมบูรณ์ ทองบุราณ อดีตสมาชิกวุฒิสภา
  73. สมประสงค์ ยิ่งเจริญ นักวิชาการอิสระ
  74. สมภพ พวงจิตต์ อดีตผู้อำนวยการฝ่ายสิ่งแวดล้อม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
  75. สมภพ ปานสวัสดิ์ อดีตประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการประปานครหลวง
  76. พ.จ.อ.ดร.สมศักดิ์ อ่อนศรี ประธานสมาพันธ์สถานบันเทิง
  77. รศ.สมศักดิ์ สายสินธุ์ชัย อดีตอาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  78. สมศรี หาญอนันทสุข กรรมการสมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.)
  79. สมสิทธิ์ ศรีนาชู อดีตประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการประปานครหลวง
  80. สราวุธ สราญวงค์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย
  81. สราวุฒิ นิยมทรัพย์ อดีตวุฒิสภา
  82. ผศ.ดร.สมิทธิรักษ์ จันทรักษ์ นักวิชาการอิสระ
  83. ดร.สานิตย์ แสงขาม นักวิชาการอิสระ
  84. สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค
  85. สาวิทย์ แก้วหวาน ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย
  86. สังวรณ์ พุ่มเทียน อดีตประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท โทรคมนาคมจำกัด (มหาชน)
  87. สุกิจ ชื่นกมล อดีตผู้ช่วยผู้ว่าการโครงการธุรกิจเดินเครื่องและบำรุงรักษา
  88. สุดเจริญ สมชม อดีตประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
  89. ดร.สุทธิชัย จูประเสริฐพร อดีตรองผู้ว่าการบริหาร การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
  90. สุทัศนีย์ ไวยนิยา อดีตผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสังคม
  91. สุนี โชยรส อาจารย์มหาวิทยาลัยรังสิต และอดีตกรรมการปฏิรูปกฎหมาย
  92. สุรทิน พิจารณ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
  93. สุวิน อัจจิมางกูร อดีตผู้ช่วยผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
  94. สุวิช ศุมานนท์ ประธานสมาพันธ์คนงานรถไฟ
  95. ว่าที่พันตรี ดร.อนุชาต ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา อดีตผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
  96. อนุสรณ์ ศรีแก้ว อดีตคณบดีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
  97. อารยา แก้วประดับ อดีตประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การเภสัชกรรม
  98. อุริช อัชชโคสิต นักวิชาการอิสระ อดีตอาจารย์พิเศษคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  99. เอกวริศฐ์ ชะเอม ศิลปินนักร้อง
  100. รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์รัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ชัยธวัช'ลุ้นศาลรัฐธรรมนูญขยายเวลาสู้คดียุบพรรคเพิ่มอีกรอบ!

'ชัยธวัช' ลุ้นศาล รธน.ขยายเวลาสู้คดียุบพรรค มองเป็นข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงต้องหาพยาน-หลักฐาน สู้อย่างเต็มที่ เชื่อปรากฎการณ์งูเห่าน้อยกว่า 'อนาคตใหม่' เหตุสถานการณ์ต่างกัน

ศาลรธน. ไม่รับคำร้องขอวินิจฉัยอำนาจสภาฯแก้รัฐธรรมนูญ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่รับคำร้องของประธานรัฐสภาที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับอำนาจและหน้าที่ของรัฐสภา ในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญตามรัฐธรรมนูญมาตรา 256

'นครินทร์' ย้ำศาลรธน.ไม่มีธงตัดสิน ผลออกได้แค่ขัดหรือไม่ขัดรธน. ไม่มีตรงกลาง

นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงการจัดงานครบรอบ 26 ปีศาลรัฐธรรมนูญว่า วันนี้เป็นการประชุมทางวิชาการที่ได้มีการเตรียมการมาสักระยะหนึ่งแล้ว

ศาลรธน. นัดถก 17 เม.ย. ก้าวไกลขอขยายเวลายื่นคำชี้แจง ตัดสินยุบพรรคไม่ทัน เม.ย.นี้

นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณาคำร้องยุบพรรคก้าวไกล และการขอขยายระยะเวลาการยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหานายนครินทร์ กล่าวว่า ต้องแล้วแต่ที่ประชุมของศาลซึ่งก็จะดูความพอเหมาะ

ศาลรธน. ยังมุ่งมั่นรักษาการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

'นครินทร์' ปลื้มผลงานศาลรัฐธรรมนูญ 26 ปี นำไปสู่การแก้ไขกฎหมายที่ละเมิดสิทธิประชาชน ขัดต่อนิติธรรม 76 ฉบับ ลั่นศาลยังมุ่งมั่นรักษาการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขต่อไป