14 ม.ค.2566 - ที่ศูนย์เยาวชนเตชะวณิช กรุงเทพมหานคร บางซื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงเปิดนโยบาย “การศึกษาไทยก้าวหน้า” ซึ่งเป็นชุดนโยบายที่ 5 จากทั้งหมด 9 ชุดนโยบาย เพื่อขับเคลื่อนภารกิจของพรรค สร้างประเทศที่ “เท่าเทียม ก้าวทันโลก ประชาชนเป็นเจ้าของ”
โดยนายพิธา กล่าวว่า พรรคก้าวไกลตั้งใจเปิดนโยบายการศึกษาในวันเด็กแห่งชาติ เพราะทุกปีเรามักคุ้นเคยกับคำขวัญวันเด็กที่ผู้ใหญ่ตั้งขึ้นเพื่อบอกว่าเด็กควรเป็นอย่างไร แต่สำหรับพรรคก้าวไกล เราต้องการพลิกแนวคิดเรื่องการศึกษา จากการศึกษาแบบอำนาจนิยม ที่สั่งให้เด็กต้องเป็นแบบที่ผู้ใหญ่เห็นว่าดี มาเป็นการศึกษาแบบโลกเสรี ที่สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้เด็กมีเสรีภาพในการเรียนรู้อย่างเสมอภาคและหลากหลาย การจัดกิจกรรมวันนี้ จึงต้องการให้ผู้ใหญ่ รวมถึงนักการเมือง มารับฟังเด็กเพื่อเข้าใจปัญหาของเด็กและเสนอทางออก ซึ่งเรื่องนี้ควรเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทุกวัน ไม่ใช่เฉพาะวันเด็ก
นายพิธา กล่าวต่อว่า เราต่างรู้ดีว่าการศึกษาที่ดีคืออะไร การศึกษาที่ดีคือการศึกษาที่ทุกคนเข้าถึงได้ไม่เหลื่อมล้ำ การศึกษาที่มีคุณภาพ ส่งเสริมทักษะที่จำเป็นต่ออนาคตและการใช้ชีวิต และการศึกษาที่ไม่สิ้นสุด ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต แต่หัวใจสำคัญของนโยบายการศึกษาไทยก้าวหน้าของพรรคก้าวไกลคือการเน้นที่ประสิทธิภาพ เพื่อแก้ปัญหาในการศึกษาไทยที่มีมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็น การที่เด็กไทยเรียนหนักเป็นอันดับต้นๆ ของโลก แต่ผลการประเมินทักษะกลับตามหลังสากล การที่กระทรวงศึกษาธิการได้รับงบประมาณสูงมากทุกปี แต่กลับไม่สามารถลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาในประเทศ เรียนฟรีก็ยังไม่ฟรีจริง หรือคุณครูที่ต้องทำงานหนัก แต่กลับหมดเวลาแต่ละวันไปกับเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับการสอน
“ทางออกจึงไม่ใช่การเพิ่มๆ อย่างเดียว จนทำให้ความคาดหวังหรือภาระทั้งหมดไปตกอยู่ที่คนหน้างานอย่างคุณครูและผู้เรียน แต่ต้องมีการลดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปด้วย เช่น ลดอัดฉีดเนื้อหา เพิ่มพัฒนาทักษะ ลดจำนวนชั่วโมงเรียน เพิ่มคุณภาพของสิ่งที่เรียน ลดการบ้านการสอบ เพิ่มวิธีการเรียนรู้รูปแบบใหม่ ลดเวลาครูที่ใช้ไปกับงานที่ไม่เกี่ยวกับการเรียนการสอน เพิ่มเวลาครูในห้องเรียน ลดกฎระเบียบอำนาจนิยมที่ละเมิดสิทธิ เพิ่มมาตรฐานเรื่องความปลอดภัยผู้เรียน ทั้งหมดเพื่อเปลี่ยนจากการทำมากได้น้อย มาเป็นการทำน้อยได้มาก” นายพิธา กล่าว
สำหรับนโยบายการศึกษาไทยก้าวหน้าของพรรคก้าวไกล นายพิธา กล่าวว่า ถูกออกแบบบนพื้นฐานว่านักเรียนหนึ่งคนที่เติบโตในประเทศไทย ต้องได้รับการศึกษาที่ประกอบด้วยอย่างน้อย 6 คุณสมบัติ ได้แก่ (1) การศึกษาที่ฟรีจริง (2) การศึกษาที่ปลอดภัยไร้อำนาจนิยม (3) การศึกษาที่มีคุณภาพ สร้างคนให้ทันโลก (4) การศึกษาที่คืนครูให้ห้องเรียน คืนคุณค่าให้วิชาชีพครู (5) การศึกษาที่ไม่จำกัดอยู่ที่โรงเรียน ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต และ (6) การศึกษาที่ใกล้ชิดผู้เรียน นักเรียน ครู ผู้ปกครองมีส่วนร่วม โดยบรรยากาศในงานมีการจัดกิจกรรมควบคู่เพื่อให้เด็กและเยาวชนเข้ามาร่วมสนุกและเรียนรู้ ในชื่องาน “วันเด็กโต” โดยจัดบูธกิจกรรมจำนวน 6 บูธ สะท้อน 6 คุณสมบัติตามนโยบายการศึกษาของพรรค เช่น กิจกรรมให้เด็กเขียนคำขวัญที่อยากบอกผู้ใหญ่ คุณสมบัติครูที่อยากให้เป็น กฎโรงเรียนที่ไม่อยากให้มี รวมถึงกิจกรรมให้ผู้ใหญ่ทดลองทำข้อสอบที่เด็กต้องเจอ
หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า หลังจากเปิดนโยบาย “ออกแบบหลักสูตรใหม่ ภายใน 1 ปี” พรรคก้าวไกลจะเดินหน้าจัดเวิร์กชอป (workshop) เพื่อชวนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในระบบการศึกษา ทั้งนักเรียน ครูผู้ปกครอง ผู้เชี่ยวชาญ มาเตรียมการร่วมร่างหลักสูตรที่อยากเห็นไว้ล่วงหน้า โดยพรรคจะเปิดนโยบายเฉพาะสำหรับคุณครูและบุคลากรทางการศึกษาในวันครู (16 ม.ค.) ที่จะมาถึงนี้
สำหรับชุดนโยบาย “การศึกษาไทยก้าวหน้า” ของพรรคก้าวไกล แบ่งเป็น 6 ด้าน มีทั้งหมด 20 นโยบาย ได้แก่ ด้านการศึกษาที่ฟรีจริง ประกอบด้วย 1. เรียนฟรี อาหารฟรี มีรถรับส่ง 2. ทุกโรงเรียนมีงบพอ 3. โรงเรียนโปร่งใส ปราศจากทุจริต ด้านการศึกษาที่ปลอดภัย ไร้อำนาจนิยม ประกอบด้วย 4. ส้วมสะอาด อาคารสถานที่ปลอดภัย ซึมเศร้ามีที่ปรึกษา
5. กฎโรงเรียนต้องไม่ขัดหลักสิทธิมนุษยชน 6. ครูละเมิดสิทธิ พักใบประกอบทันที 7.ยกเลิกตั้งแถว ใช้เวลาอัปเดตเหตุการณ์บ้านเมือง ด้านการศึกษาที่มีคุณภาพ สร้างคนให้ทันโลก ประกอบด้วย 8. ออกแบบหลักสูตรใหม่ เน้นทักษะที่ได้ใช้จริง 9. ชั่วโมงเรียนดีมีคุณภาพ ลดคาบเรียน-การบ้าน-การสอบ 10. โรงเรียน 2 ภาษา นักเรียนพูดภาษาอังกฤษได้ 11. เปิดข้อสอบ TCAS ย้อนหลังทั้งหมดพร้อมเฉลยทันที
นายพิธา กล่าวต่อว่า ด้านการศึกษาที่คืนครูให้ห้องเรียน คืนคุณค่าให้วิชาชีพครู ประกอบด้วย 12. คืนครูให้นักเรียน เลิกนอนเวร ลดงานเอกสาร ยกเลิกพิธีรีตองในการประเมิน-รับแขก 13. นักเรียนประเมินครู ครูประเมิน ผอ. 14. งบอบรมให้ครู-โรงเรียน ตัดสินใจเองว่าจะเรียนรู้อะไร ด้านการศึกษาที่ไม่จำกัดอยู่ที่โรงเรียน ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต ประกอบด้วย
15. คูปองเปิดโลก สูงสุด 2,000 บาทต่อปี สำหรับเรียนรู้นอกห้องเรียน 16. เรียนฟรีอาชีวะถึง ปวส. จบแล้วมีงานทำ 17. แพลตฟอร์มเรียนรู้ตลอดชีวิต เรียนฟรีไม่จำกัด รับรองคุณวุฒิพร้อมระบบจัดหางาน และด้านการศึกษาที่ใกล้ชิดผู้เรียน นักเรียน-ครู-ผู้ปกครองมีส่วนร่วม ประกอบด้วย 18. กระจายอำนาจให้โรงเรียน เติบโตได้ภายใต้ท้องถิ่น 19. บอร์ดโรงเรียน ต้องมีตัวแทนนักเรียน 20. สภาเยาวชน มาจากการเลือกตั้ง เสนอกฎหมายไปที่สภาฯได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อัปเดต! กกต. เปิดชื่อ 4 พรรคส่งผู้สมัคร ส.ส.ได้ครบ 77 จังหวัด
มีรายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สรุปจำนวนจังหวัดที่พรรคการเมืองต่าง ๆ สามารถส่งผู้สมัคร ส.ส. ในการเลือกตั้ง 2556 โดยเป็นข้อมูล ณ วันที่ 20 มี.ค. 2566 รวมทั้งหมด 87 พรรค
เพิ่งตื่น! กกต. ประชุมด่วน ปมถูกร้องแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส.กทม. ทำประชาชนสับสน
นายปกรณ์ มหรรณพ กกต. แถลงข่าวชี้แจงข้อท้วงติงจากพรรคการเมืองถึงกรณีการแบ่งเขตเลือกตั้งเลือกตั้งใหม่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ว่า วันนี้กกต.จะมีประชุมด่วน ซึ่งเรื่องดังกล่าวเราพร้อมให้ข้อมูลและเหตุผล ซึ่งสิ่งที่มีข่าวในช่วงนี้คือ การแบ่งเขตของกกต.กทม.อาจจะมีปัญหา
กกต.เปิดข้อมูลร้องยุบพรรค สั่งยุติแล้ว 61 เรื่อง กำลังพิจารณา 19 เรื่อง 'เพื่อไทย' นำลิ่ว
คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ได้รับคำร้องขอให้พิจารณาสั่งยุบพรรคการเมืองต่างๆเนื่องจากมีการกระทำการฝ่าฝืนมาตรา92 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง2560นั้น จากข้อมูลพบว่าตั้งแต่ปลายปี63 จนถึงต้นปี66
ตีแสกหน้า! นโยบายหาเสียงพรรคการเมือง บางเรื่องสร้างภาระงบประมาณ
นักวิชาการทีดีอาร์ไอ วิพากษ์-ตีแสกหน้า นโยบายหาเสียงพรรคการเมือง บางเรื่องสร้างภาระงบประมาณ หวั่นเกิดปัญหาระยะยาว ชี้เลือกตั้งแข่งขันรุนแรง มีการซื้อตัว จี้แคนดิเดตนายกฯขึ้นเวทีดีเบตทุกคน
ราชกิจจาฯ เผยแพร่ประกาศ กกต. 'พรรคสร้างชาติ' สิ้นสภาพพรรคการเมือง
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้งเรื่อง พรรคสร้างชาติสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง
ประกาศแล้ว กกต.กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีจัดทำและติดป้ายหาเสียงผู้สมัคร-พรรคการเมือง
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง ลงนามในประกาศ กกต. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการจัดทำสถานที่ปิดประกาศเกี่ยวกับการเลือกตั้งและสถานที่ติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร