อดีตรองประธานสภาเสนอที่มา สส.-สว.ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ!

'สามารถ' เสนอแนวทางจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ ปมที่มาของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา เพื่อหลีกเลี้ยงวงวจอุบาทว์

20 ก.ย.2566 - นายสามารถ แก้วมีชัย อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) และอดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า รัฐบาลมีนโยบายจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ถ้ากล้าเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน โดยประชาชนและเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ขอเสนอให้ปรับเปลี่ยนกระบวนการเลือกตั้ง สส. และ สว. ดังนี้

กระบวนการการเข้าสู่อำนาจของตัวแทนประชาชน หรือ สส. ต้องยอมรับความจริงว่า กระบวนการเข้าสู่อำนาจของตัวแทนประชาชนที่ใช้อยู่ในปัจจุบันมีปัญหา

1.ไม่ได้คนดีเป็นที่ประจักษ์ ประชาชนไม่มีทางเลือกอื่น ถ้าไปใช้สิทธิ นอกจากกาไม่เลือกผู้ใดแล้ว ก็ต้องเลือกตัวแทนจากพรรคการเมืองภายใต้บงการของกลุ่มทุน หรือเลือกตามกระแสนิยมที่ถูกสร้างขึ้น มีการใช้เงิน อามิสสินจ้างต่างๆมากมาย

เมื่อได้รับเลือกตั้งเข้าไปทำหน้าที่ ส่วนใหญ่ก็เข้าไปใช้อำนาจที่ได้มาจากประชาชนเพื่อประโยชน์ของกลุ่มทุนเจ้าของพรรค หรือทำตามผู้ชี้นำบงการ แทนที่จะทุ่มเททำงานให้ประชาชนและบ้านเมืองอย่างแท้จริง

2.ปัญหาจากข้อ 1 มีผลต่อการจัดตั้งรัฐบาล โดยพรรคการเมืองที่ได้เสียงข้างมากเด็ดขาด (Absolute Majority) หรือจากพรรคการเมืองหลายพรรคมารวมกันเป็นรัฐบาลผสม (Coalition Government) เมื่อลงทุนในการเลือกตั้งไปมาก รัฐมนตรีที่รับผิดชอบแต่ละกระทรวงก็มักจะเข้าไปถอนทุนคืน ด้วยการทุจริตคอรัปชั่น หรือทำนโยบายที่สุ่มเสี่ยงต่อความเสียหายของบ้านเมือง เพื่อเปิดช่องให้มีการทุจริตเชิงนโยบาย

ในที่สุดจะเป็นเงื่อนไขนำไปสู่ข้ออ้างก่อการรัฐประหารล้มล้างระบอบการปกรรองประชาธิปไตย วนเวียนเป็นวงจรอุบาทว์อยู่ซ้ำซาก

ข้อเสนอกระบวนการเข้าสู่อำนาจของตัวแทนประชาชน หรือ สส.แทนกระบวนการเลือกตั้งที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับผิดชอบดำเนินการ ดังนี้

1.กำหนดจำนวน สส.ที่พึงมีทั้งประเทศ
2.กำหนดจำนวน สส.ที่แต่ละจังหวัดจะพึงมี โดยเฉลี่ยตามจำนวนประชากรของแต่ละจังหวัด
3.เมื่อเฉลี่ยจำนวน สส.แล้ว จังหวัดใดมี สส.มากกว่า 1 คน ให้แบ่งเขตเลือกตั้ง โดยใช้ตำบลเป็นพื้นที่หลัก
4.ให้ผู้ประสงค์จะสมัครเข้ารับเลือกตั้งเป็น สส.ที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กฎหมายกำหนด ไปยื่นสมัคร ณ ตำบลที่ตนมีภูมิลำเนา โดยจะลงสมัครในนามพรรคหรือสมัครอิสระก็ได้
5.จัดให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในแต่ละตำบลเลือกผู้สมัครในตำบลที่ตนมีภูมิลำเนา ผู้ได้รับเลือกตั้งคือ ผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดและได้คะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนผู้มาใช้สิทธิ
6.จัดให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้ง เลือกผู้ที่ได้รับเลือกตั้งจากแต่ละตำบลในเขตเลือกตั้ง เพื่อให้ได้ผู้ที่จะเป็น สส.ซึ่งคือผู้ที่ได้คะแนนเสียงสูงสุด และมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้น

ภายหลังการเลือกตั้ง ในการจัดตั้งรัฐบาล ให้ผู้ที่สามารถรวบรวมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรได้ เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลบริหารประเทศ

วุฒิสภา ให้มีวุฒิสมาชิก จำนวน 200 คน ทำหน้าที่กลั่นกรองกฎหมาย ร่วมกับสภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบบุคคลเข้าดำรงตำแหน่งในองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ฯลฯ

สมาชิกวุฒิสภา มาจากตัวแทนของกลุ่มอาชีพที่ได้รับการคัดเลือกตามกระบวนการที่กฎหมายบัญญัติไว้ และ/หรือมาจากพระมหากษัตริย์ทรงโปรดเกล้าฯแต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิอีกส่วนหนึ่ง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คณะก้าวหน้า เชื่อสัญญาณจากผู้มีบารมี  กกต.ประกาศเตือนรณรงค์สมัคร สว.   

กรณี สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ออกประกาศเตือน กรณีมีกลุ่มบุคคลและตัวแทนองค์กรจัดแคมเปญ ให้มีการจูงใจ

กกต.เริ่มขยับ พร้อมงัด 'กฎเหล็ก' คุมเข้มเลือก สว. 2567

ความเคลื่อนไหวการได้มาซึ่ง "สมาชิกวุฒิสภา" (สว.) ชุดใหม่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ล่าสุด ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา

พนัส อดีตสว.-อดีตสสร. คัดเลือกสภาสูง 2567 ฝ่ายประชาธิปไตยมีสิทธิลุ้น

ความเคลื่อนไหวการได้มาซึ่ง"สมาชิกวุฒิสภา"(สว.) ชุดใหม่ ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ล่าสุดที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. ....

'ช่อ' ฟาดกลับ กกต. เอาอำนาจอะไรมาห้ามรณรงค์ประชาชนสมัคร สว. บอกมาให้ชัดผิดระเบียบข้อไหน

นางสาวพรรณิการ์ วานิช อดีต สส.พรรคบัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ และโฆษกคณะก้าวหน้า กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกประกาศว่าไม่สามารถจูงใจหรือชี้ชวนบุคคลให้สมัครเป็น สว. ได้ ว่า เรื่องนี้ต้องแยกให้ชัดว่า กกต. กำลังทำอะไรอยู่กันแน่