ส่งคำถามฟังความเห็น ‘สส.-สว.’ ต่อการทำประชามติแก้รธน. คาด 21 ธ.ค.รู้ผล

‘นิกร’ ลงนามส่งคำถามรับฟังความเห็น สส.-สว. ต่อการทำประชามติแก้รธน.แล้ว คาด 21 ธ.ค. รู้ผล ย้ำเป็นคำถามเชิงลึก หวังได้เสียง สว. เป็นแนวร่วมสนับสนุน

4 ธ.ค.2566- ที่รัฐสภา นายนิกร จำนง โฆษกคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 กล่าวว่า ตนได้ลงนามหนังสือถึงนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ และนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เพื่อให้ส่งคำถามประชามติในส่วนที่จะขอความเห็นของ สส. 500 คน และ สว. 250 คน ให้พิจารณาหลังจากที่รัฐสภาเปิดสมัยประชุมวันที่ 12 ธ.ค. นี้ เบื้องต้นคาดว่าจะมีข้อสรุปในส่วนดังกล่าว ช่วงวันที่ 21 ธ.ค. นี้

ทั้งนี้ ในคำถามที่ส่งไปยัง สส. และ สว. นั้นจะเป็นคำถามเชิงลึกมีมากกว่า 1 คำถาม อาทิ เห็นด้วยหรือไม่ต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่, เห็นควรทำประชามติก่อนการดำเนินการใดๆ หรือไม่ ซึ่งเป็นคำถามสำคัญและมีผลต่อการสนับสนุนของสมาชิกรัฐสภา โดยเฉพาะ สว. ที่ต้องเห็นชอบด้วยเสียง 1 ใน 3 และคำถามของที่มาของ ส.ส.ร. ว่าจะเลือกตั้งทั้งหมด หรือเลือกตั้งผสมกับนักวิชาการ

“ในประเด็นการรับฟังความเห็นที่รวบรวมมาทั้งหมด จะเสนอให้กรรมการชุดใหญ่พิจารณาในปลายเดือนธ.ค.นี้ก่อนจะส่งให้ คณะรัฐมนตรีพิจารณาในการทำประชามติถามประชาชน เบื้องต้นอาจจะมีคำถามพ่วงในประเด็นของรูปแบบหรือที่มาของส.ส.ร.ด้วย”

นายนิกร กล่าวว่า สำหรับข้อเสนอของการแก้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ตนได้ทำข้อเสนอไปยังคณะกรรมการชุดใหญ่ พร้อมกับร่างแก้ไข มาตรา 13 จากเดิมที่ใช้เกณฑ์เสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้ออกมาใช้สิทธิ และเสียงที่มาลงคะแนน ตนได้เสนอให้ใช้เกณฑ์เกินกึ่งหนึ่งเพียงชั้นเดียว คือ เฉพาะผู้ออกมาใช้สิทธิที่ต้องออกมาเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ ส่วนผลการลงคะแนนให้ใช้เฉพาะเสียงข้างมาก อย่างไรก็ดีข้อสรุปเรื่องดังกล่าวต้องรอผลการศึกษาจากนายวุฒิสาร ตันไชย กรรมการประชามติอีกครั้ง

เมื่อถามถึงทิศทางการส่งตีความการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยให้ ส.ส.ร.เป็นผู้ดำเนินการต่อศาลรัฐธรรมนูญ นายนิกร กล่าวว่า กรรมการฯ ไม่มีประเด็นดังกล่าว เนื่องจากมองว่าเป็นประเด็นที่พรรคการเมืองจะพิจารณาหลังจากที่ตัวร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว

นายนิกร กล่าวด้วยว่า สำหรับการรับฟังความคิดเห็นนั้น อนุกรรมการ จะเดินทางไปรับฟังความเห็นประชาชนและผู้นำศาสนาในพื้นที่ภาคใต้ และในวันที่ 11 ธ.ค. ตนและคณะกรรมมการฯ ประมาณ 10 คน จะเข้าพบทูตสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อพูดคุยถึงการทำประชามติ ซึ่งประเทศสวิตเซอร์แลนด์ถือว่าเป็นตัวอย่างที่ดี และควรรับฟังเพราะการทำประชามติไม่ได้ใช้เฉพาะเรื่องรัฐธรรมนูญเท่านั้น ยังมีเรื่องอื่นๆ ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคำถามในการรับฟังความคิดเห็นของสมาชิก มีจำนวน 5 ข้อ คือ 1. เห็นสมควรจะทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ โดยมี 3 คำตอบคือ เห็นสมควรจัดทำทั้งฉบับยกเว้นหมวด 1 หมวด 2, จัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ , ไม่เห็นสมควรให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

2. ในกรณีที่เห็นว่าไม่ควรจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับเห็นสมควรแก้เป็นรายมาตราหรือไม่

3. ในกรณีเห็นควรจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับเนื้อหา รัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 มีปัญหาประการใด ที่จำเป็นต้องแก้ไข ซึ่งสามารถเลือกคำตอบได้มากกว่า 1 ข้อ ประกอบด้วย การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน , การมีส่วนร่วมทางการเมือง , ระบบการตรวจสอบถ่วงดุลระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติฝ่ายบริหารฝ่ายตุลาการและองค์กรอิสระ, วิธีและกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปได้ยาก, และอื่นๆ 

4.ในการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ สมควรตั้งส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้งหมดหรือไม่ , สมควรหรือไม่ตั้งส.ส.ร.มาจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยมีนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญในสัดส่วนและวิธีการได้มาตามที่กรรมาธิการกำหนด

5.ในการจัดทำประชามติเห็นด้วยหรือไม่ที่จะให้ทำก่อนเริ่มดำเนินการใดๆในกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ระบุว่ารัฐสภามีหน้าที่และอำนาจ จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้โดยต้องให้ประชาชนผู้มีอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญได้ลงมติเสียก่อน และเห็นด้วยหรือไม่ที่จะจัดให้มีการทำประชามติ เมื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จแล้ว เพื่อให้ประชาชนเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อีกครั้ง ก่อนนายกรัฐมนตรีจะนำร่างขึ้นทูลเกล้าฯ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เพื่อไทย' จ่อเคลียร์ใจ 'ปานปรีย์' ชวนนั่งกุนซือพรรค ไม่รู้ 'นพดล' เสียบแทน

'เลขาฯ เพื่อไทย' รับต้องคุย 'ปานปรีย์' หลังไขก๊อกพ้น รมว.ต่างประเทศ แย้มชงนั่งที่ปรึกษาพรรค มั่นใจไม่เกิดแรงกระเพื่อม ปัดวางตัว 'นพดล' เสียบแทน ชี้ 'ชลน่าน-ไชยา' หน้าที่หลักยังเป็น สส.

คณะก้าวหน้า เชื่อสัญญาณจากผู้มีบารมี  กกต.ประกาศเตือนรณรงค์สมัคร สว.   

กรณี สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ออกประกาศเตือน กรณีมีกลุ่มบุคคลและตัวแทนองค์กรจัดแคมเปญ ให้มีการจูงใจ

กกต.เริ่มขยับ พร้อมงัด 'กฎเหล็ก' คุมเข้มเลือก สว. 2567

ความเคลื่อนไหวการได้มาซึ่ง "สมาชิกวุฒิสภา" (สว.) ชุดใหม่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ล่าสุด ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา