‘ปริญญา’ มองการตีความคำว่า ‘ชี้นำ-ครอบงำ’ กว้าง อยู่ที่ ‘กกต.-ศาลรธน.’ ตัดสิน หลังคำร้อง ‘ยุบเพื่อไทย’ ถูกรับไว้ จับตาเดินตามแนวก้าวไกลหรือไม่
20 ต.ค.2567 – รศ. ดร. ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงกรณีที่เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ได้พิจารณา 6 คำร้องที่มีผู้ร้องขอให้ กกต. พิจารณาสั่งยุบพรรคเพื่อไทย และ 6 พรรคร่วมรัฐบาลเดิม จากกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่ใช่สมาชิกพรรคกระทำการครอบงำ ชี้นำ และ 6 พรรคการเมืองยินยอมให้นายทักษิณ ครอบงำ ชี้นำ โดยเห็นว่า คำร้องมีมูล และให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน
รศ. ดร. ปริญญา กล่าวว่า ข้อเท็จจริงคือภายหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง เย็นวันนั้นนายทักษิณชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เรียกพรรคร่วมรัฐบาลประชุมกันที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ซึ่งเข้าใจว่าเพื่อให้รวดเร็ว และให้ได้ข้อสรุปว่า นายกรัฐมนตรีคนต่อไปจะเป็นใคร เพื่อไม่ให้เกิดการพลิกขึ้น แต่ปัญหาคือ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 (พ.ร.ป.) ในมาตรา 28 ไม่เคยมีมาก่อน
รศ.ดร.ปริญญา ตั้งคำถามว่า การที่นายทักษิณเรียกประชุมนั้น จะถือเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำหรือไม่ กกต. รับคำร้องแล้ว ข้อต่อไปต้องดูว่า กกต. จะยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญแบบเดียวกับตอนที่ยื่นพรรคก้าวไกล หรือจะใช้มาตรา 93 ที่ต้องมีการไต่สวนเปิดโอกาสให้พรรคเพื่อไทยได้ชี้แจงก่อน โดยหลักที่ควรจะเปิดโอกาสให้ชี้แจงก่อน ในการต่อสู้ต้องสู้ว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้ถูกครอบงำ ควบคุม หรือชี้นำ
“คำว่าควบคุม ครอบงำ อาจจะพิสูจน์ง่าย แต่ ชี้นำ คำมันกว้าง อยู่ที่ กกต. และศาลรัฐธรรมนูญจะเห็นว่า ที่นายทักษิณเชิญมาประชุมเข้าข่ายเป็นการชี้นำหรือไม่ หากเข้าข่ายการเมืองก็ต้องดูต่อไปว่าถึงขนาดที่ทำให้พรรคการเมือง กับสมาชิกพรรค ขาดอิสระเลยหรือไม่ หากใช่ก็จะกลายเป็นปัญหา” รศ. ดร. ปริญญา กล่าว
รศ. ดร. ปริญญา กล่าวต่อว่า ต้องรอฟังกันต่อไปว่า กกต. รับคำร้องแล้ว จะมีคำสั่งให้พรรคเพื่อไทยและพรรคอื่นๆ มาชี้แจงเมื่อไหร่
ส่วนที่มีการยื่นคำร้องขอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้นายทักษิณ ผู้ถูกร้องที่ 1 และพรรคเพื่อไทย ผู้ถูกร้องที่ 2 เลิกการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพ อันจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 หากมีการพิจารณาก่อน จะเป็นเป็นการเพิ่มน้ำหนักในคดีที่ กกต.หรือไม่ รศ. ดร. ปริญญา ระบุว่า การใช้กฎหมายคนละช่องทาง เรื่องนี้เป็นการดำเนินการตามรัฐมาตรา 49 ที่ระบุแค่ว่าให้หยุดการกระทำ ไม่ได้ขอให้ไปยุบพรรค ซึ่งคำร้องมุ่งไปที่นายทักษิณและพรรคเพื่อไทยเท่านั้น ส่วนคำร้องที่ กกต.ไม่ได้ร้องนายทักษิณ เพราะไม่ใช่สมาชิกพรรค ต้องดูว่าศาลรัฐธรรมนูญจะดำเนินการต่ออย่างไร หากวินิจฉัยว่าเข้าข่ายล้มล้างการปกครองจริง ทาง กกต.จะต้องทำคำร้องใหม่ในการยุบพรรค ตนไม่สามารถทราบได้ว่า คำร้องไหนจะพิจารณาตัดสินก่อนหรือหลัง
“หากเป็นเรื่องของการถูกร้องในเรื่องการล้มล้างระบบการปกครอง ต้องรอฟังว่าศาลจะกำหนดขั้นตอนในการไต่สวนอย่างไร และในส่วนของ กกต.ในชั้นคำร้องยุบพรรค ให้เราฟังก่อนว่า กกต. จะยื่นตรงหรือไต่สวนก่อน ส่วนตัวเชื่อว่าต้องไต่สวนก่อน เพื่อให้มีข้อเท็จจริงมากกว่านี้“ รศ. ดร. ปริญญา กล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'คารม' สวน 'หมอเชิดชัย' เป็นแค่ผู้เล่นฟุตบอล อย่าคิดแทนเจ้าของทีม
นายคารม พลพรกลาง “รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และในฐานะสมาชิกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่นายแพทย์เชิดชัย ตันติศิริน
'นายกฯอิ๊งค์' ฟังทางนี้! แก้ด่วนบุคลิก 3 เรื่อง ให้สมวุฒิภาวะผู้นำ
นายวันชัย สอนศิริ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเรื่อง "บุคลิกของนายกฯอุ๊งอิ๊ง" โดยระบุว่า คนที่เขาเกลียดคงไม่ต้องพูดถึงหรอก อะไรๆ เขาก็ด่านายกฯ อุ๊งอิ๊ง
'ภูมิธรรม' ให้ท้าย 'หมอเชิดชัย' อ้าง พท.-ภท. ยังแน่นปึ้ก
'ภูมิธรรม' ชี้ 'หมอเชิดชัย' ขู่ภูมิใจไทย ไม่กระทบสัมพันธ์พรรคร่วม อ้างแค่ความเห็น สส. แต่อำนาจยุบสภาอยู่ที่นายกฯ
'หมอเชิดชัย' เรียกแขก 'MOU 44 – ม็อบสนธิ' ไม่ระคายผิวรัฐบาล
“นพ.เชิดชัย” มอง ปม 'MOU44' ควรโยนหารือที่ประชุม 'เพื่อไทย' เพื่อเปิด 'เวที ม.152' ถาม 'สนธิ' อยากปลุกม็อบ ถ้าล้มรัฐบาลได้ จะเอาใครเป็นนายกฯ
ขู่ฟ่อ! บ้านเล็ก บ้านใหญ่งอแง 'แก้รธน.' เจอยุบสภาสั่งสอน
'หมอเชิดชัย' เชื่อ เจรจาใช้เกณฑ์เสียงข้างมากชั้นเดียว 'แก้ รธน.' ได้ ขู่ 'ภูมิใจไทย' หากงอแงมาก เจอยุบสภาฯ สั่งสอน
‘ธีระชัย’ ชี้ชะตา 'อุ๊งอิ๊ง' อยู่ได้..ไม่เกินปี!! | อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร
อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร : วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2567