'เท้ง' ประเดิมขู่ 'อิ๊งค์' มีข้อมูลเด็ด ถึงขั้นถอดถอนพ้นเก้าอี้นายกฯ

‘เท้ง’ ประเดิม​ขู่ ‘อิ๊งค์’ ลั่นมีข้อมูลลับถอดถอน​พ้นเก้าอี้นายกฯ​ ปัด​ดีลภูมิใจไทย​ ขอจับตา​ ‘บิ๊กป้อม​’ อภิปราย​ 10 นาทีคุ้มค่า รับประสานทางอ้อม ‘เฉลิม’​ ร่วมวง​

24 มี.ค. 2568 – เมื่อเวลา 07.30 น. นายณัฐพงษ์​ เรืองปัญญาวุฒิ​ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า วันนี้มั่นใจเต็มที่ ซึ่งเราเตรียมตัวมาก่อนหน้านี้แล้ว และทางรัฐบาลควรจะตอบคำถามว่ามีความพร้อมหรือไม่​ และวันนี้ก่อนที่จะมีการเริ่มอภิปราย หากได้เห็นสัญญาณว่ามีการขัดขวาง รัฐบาลจะได้รับผลเสียมากที่สุด พร้อมทั้งยอมรับว่าพรรคประชาชนเตรียมรับมือกับการประท้วงของฝ่ายรัฐบาล และ สส. ของพรรคประชาชนแม่นในข้อบังคับและพร้อมที่จะทำหน้าที่ทุกคน​ ซึ่งไม่ได้กังวลอะไร ทั้งนี้เชิญชวนประชาชนให้รับชมการอภิปราย เพราะมีไฮไลต์ที่ต้องจับตาในหลายประเด็น

เมื่อถามถึงหัวข้อญัตติดีลแลกประเทศหมายถึงอะไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า​ คือสิ่งที่ประชาชนต้องสูญเสียไป เป็นต้นทุนของการเสียโอกาส รวมถึงผลประโยชน์ทับซ้อนที่เป็นเงินภาษีของประชาชน ที่ต้องแลกกับการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งถือว่าเป็นดีลแลกประเทศ เพื่อผลประโยชน์ของคนในตระกูลชินวัตร และพรรคร่วมรัฐบาล ส่วนตระกูลชินวัตรจะครอบคลุมขนาดไหนนั้น​ ยอมรับว่ามีหลายส่วนที่เกี่ยวข้อง จึงอยากให้ติดตาม การอภิปรายใน 2 วันนี้ เพราะถือเป็นสาระสำคัญ

ส่วนการอภิปรายจะมีมากกว่า​ นายทักษิณ​ ชินวัตร​ และนางสาวยิ่งลักษณ์​ ชินวัตร​ อดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า ขอใช้คำว่าคนในตระกูลชินวัตรดีกว่า เพราะครอบคลุมอยู่แล้ว และยืนยันว่าทุกคนที่ถูกพาดพิงจะยืนอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง และมีส่วนสำคัญในการอภิปรายครั้งนี้ เพื่อชี้ให้เห็นว่า การจัดตั้งรัฐบาลนั้นไม่ชอบธรรม และเป็นดีลแลกประเทศจริง

ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลว่าบุคคลภายนอกจะฟ้องหมิ่นประมาทหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่าไม่ห่วง เพราะตามบทข้อบังคับ ผู้อภิปรายต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว หากพาดพิงบุคคลภายนอก และเรามั่นใจในข้อมูล ว่าไม่น่าจะถูกฟ้องร้องอะไร

ส่วนกรณีที่นายทักษิณ​ระบุไม่กลัวยุทธการ​โรยเกลือของพรรคฝ่ายค้าน แต่จะโรยน้ำตาลกลับนั้น ผู้นำฝ่ายค้าน​ กล่าวว่า หากเขาโรยน้ำตาลกลับมาจริงๆ อาจจะเป็นการอภิปรายที่มีสีสัน แต่มั่นใจว่าพักฝ่ายค้านจะกรีดแผล และหลังเสร็จสิ้นการอภิปราย แม้รัฐบาลจะมีเสียงข้างมาก ฝ่ายค้านไม่สามารถโหวตถอดนายกรัฐมนตรีได้ แต่การดำเนินการหลังจากนี้จะสร้างแรงสะเทือนถึงรัฐบาลได้

เมื่อถามว่า คำสัมภาษณ์ของนายทักษิณที่ผ่านมาเหมือนมีนัยยะ ว่าการอภิปรายไม่ได้มีอะไร เหมือนกับมีการพูดคุยกันเรียบร้อยแล้ว นายณัฐพงษ์​ กล่าวว่า​ อยากให้รอดูการอภิปราย ว่าจะมีการอยู่กับฝ่ายรัฐบาลอย่างที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ และข้อมูลที่จะนำเสนอใน 2 วันนี้ จะเป็นข้อพิสูจน์ว่าเราทำหน้าที่ฝ่ายค้าน​ คนที่มีดีลไม่ใช่พรรคประชาชนหรือพรรคฝ่ายค้าน แต่เป็นการดีลระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล​ เพื่อนำไปสู่ผลประโยชน์ทับซ้อน

ส่วนมีการตั้งข้อสังเกตว่าพรรคภูมิใจไทยดีลกับพรรคประชาชน เพื่อหวังผล​ 44 สส.​ คดีแก้มาตรา ​112 นั้น นายณัฐพงษ์​ กล่าวว่า​ ไม่เกี่ยว เพราะการอภิปรายจะมีการพาดพิงหลายกระทรวง มีรัฐมนตรีหลายคนที่เกี่ยวข้อง และข้อมูลที่นำเสนอ ทุกคนมีเอกสิทธิความเป็น สส. คุ้มครอง ดังนั้นทุกหลักฐานที่เปิดเผย จะนำไปสู่การยื่นขอถอดถอนรัฐมนตรี​ที่ไม่สามารถตอบข้อชี้แจงได้​ เพื่อจะชี้ให้เห็นจุดเริ่มต้นของปัญหา อย่างไรก็ตามดีลแลกประเทศ เราไม่ได้หมายถึงการพานายทักษิณกลับบ้าน เพราะยังมีอีกหลายประเด็นที่เกี่ยวข้อง

เมื่อถามถึงการเพิ่มวันอภิปรายนั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับว่าฝั่งรัฐบาลสามารถควบคุมเวลาได้มากน้อยเพียงใด ดังนั้นก่อนเปิดการประชุมในวันนี้ หากมีการตีรวนจากฝั่งรัฐบาล จนทำให้การอภิปรายไม่จบใน 2 วัน ก็ต้องโทษฝั่งรัฐบาล และคาดหวังว่าอยากให้นายกรัฐมนตรีอยู่ตอบคำถามมากที่สุด แต่เชื่อว่าท่านคงมีภารกิจครอบครัว คงไปกะเกณฑ์ไม่ได้ว่าต้องอยู่กี่ชั่วโมง

ส่วนกรณีที่พรรคฝ่ายค้านให้เวลา ร้อยตำรวจเอกเฉลิม​ อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย​ ในการอภิปรายรัฐบาลนั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ขอให้รอดูหน้างาน เพราะมีเสียงสะท้อนจากฝั่งรัฐบาล แต่ฝ่ายค้านก็มองว่าให้โอกาสสมาชิกทุกคนอย่างเต็มที่ ไม่ว่าสังกัดพรรคใด หากมีข้อมูลที่จะตรวจสอบฝ่ายตรงข้าม แต่ฝ่ายค้านยังไม่เคยเจรจาโดยตรงกับร้อยตำรวจเอกเฉลิม เพียงแต่ได้รับการประสานในทางอ้อม

นายญัฐพงษ์ กล่าวกรณีพลเอกประวิตร​ วงษ์สุวรรณ สส. บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะอภิปราย​ 10 นาทีว่า ถือว่าเป็นเวลาที่คุ้มค่า และที่ผ่านมาไม่ได้เห็นบทบาทของพลเอกประวิตรในสภามากนัก ถือเป็นอีกหนึ่งช่วงที่น่าติดตาม​

“ประเด็นที่จะอภิปรายในวันนี้ นอกจากจะเป็นการบริหารงานล้มเหลวของรัฐบาลแล้ว ยังมีเรื่องการทุจริต ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล และการขาดคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรี หรือตัวรัฐมนตรี และมีข้อมูลที่ไม่เคยถูกเปิดเผยมาก่อน และมีความเป็นไปได้สูง ที่จะนำไปสู่การถอดถอนนายกรัฐมนตรีได้จริง” ผู้นำฝ่ายค้าน ระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นักวิชาการ ค้าน ‘รัฐบาล-คลัง’ ส่งคนคุมเสียงข้างมากบอร์ดการบินไทย ปูทาง ’ลวรณ’ นั่งปธ.

นักวิชาการ ค้านรัฐบาล-ก.คลังส่งคนคุมเสียงข้างมากบอร์ดการบินไทย  ปูทาง ลวรณ-ปลัดคลัง จ่อนั่งปธ.ฯคนใหม่ หวั่น ซ้ำรอยอดีต คนของพรรคฝ่ายรัฐบาล เคยเข้าไปบริหารสายการบินแห่งชาติ จนหนี้ท่วมเกือบล้มละลาย

ลุ้น! แพทยสภา ถก 8 พ.ค. ปมชั้น 14 ‘หมอตุลย์’ ชี้หากไม่ผิดมาตรฐานจริยธรรม เรื่องใหญ่วงการแพทย์

ลุ้น’แพทยสภา’ นัดประชุม 8 พ.ค.ลงดาบ-ยกคำร้องหรือเลื่อนอีก สรุปผลสอบจริยธรรมแพทย์รักษาทักษิณ ชั้น 14  ‘หมอตุลย์’ ชี้หากไม่ผิดมาตรฐานจริยธรรม จะเป็นเรื่องใหญ่มากในวงการแพทย์ หลังเลื่อนมาหนึ่งเดือน

'วิสุทธิ์' ชี้ปรับครม.อยู่ในมือนายหญิงอิ๊งค์ กาสิโนกระแสดี ปชช.ไม่ขวาง

'วิสุทธิ์' ไม่รู้ มีดีลแลกเก้าอี้ รมต. 'พท.-ภท.' หรือไม่ บอกได้ยินแต่ข่าวจากสื่อ ย้ำ ทุกเรื่องเป็นอำนาจตัดสินใจของ 'นายกฯ อิ๊งค์' เผย วง สส.พท. อยากให้ปรับ ครม. กระทรวงค้าขาย ชี้ หลังฟังเสียง ปชช. ไม่ค้าน 'กม.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์' 

‘ดร.ณัฏฐ์’ วิเคราะห์เกมปรับ ครม. แพทองธารใช้สูตร ‘ดองเค็ม’ สั่งสอนภูมิใจไทย

นักกฎหมายมหาชนชี้ เกมการเมืองหลังสงกรานต์ร้อนแรง รัฐบาลแพทองธารอาจไม่ยุบสภาแต่เลือก ‘ปรับ ครม.’ แบบลดบทบาทภูมิใจไทย ดองเค็มไม่ให้กล้าต่อกรกลางสภา ย้ำ กระทรวงมหาดไทย คือเป้าหมายหลักในยุทธศาสตร์คืนอำนาจ ก่อนศึกเลือกตั้ง 2570

คปท. จี้ ‘นายกฯอิ๊งค์’ ตอบให้ชัด ไป ‘กัมพูชา’ 23-24 เม.ย.มีวาระซ่อนเร้นอะไรหรือไม่

ข้อสังเกตุที่ต้องจับตามองคือ มติ ครม.วันอังคารที่ 22 เมษายน 2568 นี้ จะมี มติ ครม.อะไรที่ไปเกี่ยวข้องกับการไป กัมพูชา ครั้งนี้หรือไม่  และ นายกฯแพทองธาร ต้องตอบให้ชัดว่า ไป กัมพูชา ครั้งนี้มีวาระซ่อนเร้นอะไร

ซูเปอร์โพลชี้ผลสำรวจคนไทยมีความทุกข์มากขึ้น แต่ยังมั่นใจฝีมือ 'อิ๊งค์'

นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัย ซูเปอร์โพล ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง สังคม เศรษฐกิจ และการเมือง ในสายตาของประชาชน กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) รวมจำนวนตัวอย่างในการวิเคราะห์ทางสถิติทั้งสิ้น 1,215 ราย ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 15 - 19 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา