น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า วันนี้ (12 ธ.ค. 67) เวลา 17.50 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ผู้ได้รับรางวัลชัยนาทนเรนทร ปี พ.ศ. 2567 นักการสาธารณสุขดีเด่น เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานรางวัล
ซึ่งในปีนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ได้รับการคัดเลือกเป็นนักการสาธารณสุขดีเด่น "ประเภทบริหาร" ด้วย
สำหรับรางวัลชัยนาทนเรนทรนี้ เกิดขึ้นจากที่กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับมูลนิธิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร และมหาวิทยาลัยนเรศวร คัดเลือกผู้ทำคุณประโยชน์ด้านการแพทย์และสาธารณสุข จากทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนที่มีผลงานดีเด่นระดับประเทศ 5 ประเภท ประกอบด้วย ประเภทบริหาร ประเภทบริการ ประเภทวิชาการ ประเภทผู้นำชุมชน และประเภทประชาชน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ และยกย่องเชิดชูเกียรติผู้ที่อุทิศตนทำคุณประโยชน์ด้านการแพทย์และสาธารณสุข อย่างทุ่มเทและเสียสละต่อเนื่องกันอย่างน้อย 5 ปี และการทำงานนั้นส่งผลต่อการพัฒนางานด้านการส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค ก่อให้เกิดการสาธารณสุขที่ดี ส่งผลต่อการมีคุณภาพที่ดีขึ้นของประชาชนในระดับชาติ เป็นแบบอย่างแก่นักการสาธารณสุขทั่วไปได้เจริญรอยตาม
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า เมื่อครั้งนายอนุทิน ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ระหว่างปี 2562-2566 ได้ขับเคลื่อนบริหารราชการด้านการสาธารณสุขในมิติต่าง ๆ อย่างเต็มศักยภาพ เช่น การจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการ ตามโครงการ สบช. สัญจร สร้างความเสมอภาคให้กับนักเรียนทุกคนในการเข้าศึกษาในสถาบันพระบรมราชชนก ในสาขาพยาบาลศาสตร์ นับเป็นครั้งแรกที่นักเรียนโรงเรียนในระดับอำเภอกว่า 2,460 แห่งได้รับโอกาสทางการแนะแนวและได้เข้าเรียนในหลักสูตรการพยาบาล
นอกจากนี้ นายอนุทิน ได้การส่งเสริมให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เข้าเรียนในหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาล นำมาซึ่งการดูแลสุขภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนในทุกถิ่นที่ได้มีสุขภาพดี มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน และในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 นายอนุทิน ได้ทำหน้าที่ผู้บริหารการสาธารณสุขในการบริหารจัดการสถานการณ์ร่วมกับบุคลากรทางการแพทย์ กระทั่งประเทศไทยสามารถผ่านพ้นสถานการณ์ในขั้นวิกฤต และทำให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติสุข
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ /2567
วันที่ 12 ธ.ค. 2567
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' ขออย่าโยงคดีที่ดินอัลไพน์-เขากระโดง เป็นปมการเมือง 2 พรรคแลกหมัด
“อนุทิน” เผยกรมที่ดิน หากเพิกถอนที่ดินอัลไพน์จริง ต้องชดใช้เงินตามมูลค่าปัจจุบันแก่ผู้ได้สิทธิ์โดยสุจริต พร้อมขออย่าโยง คดีที่ดินอัลไพน์ - เขากระโดง เป็นปมการเมือง แลกหมัดภูมิใจไทย - เพื่อไทย ชี้ทุกหน่วยงานยึดหลักกฎหมาย
‘สว.พันธุ์ใหม่’หนุนแก้รธน.ฉบับส้ม
"อนุทิน" ย้ำจุดยืนตลอดกาลแก้ รธน.ไม่แตะหมวด 1-2 ท่าที สส.ภูมิใจไทยไม่เกี่ยว สว. "ไอติม" พร้อมพูดคุยทุกฝ่ายทำความเข้าใจร่างฉบับ
'อนุทิน' ควง 'เนวิน' ทำพิธียกยอดฉัตร วงเวียนรัชกาลที่ 1 เสริมมงคลรับปีใหม่
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย เป็นประธานในพิธียกยอดฉัตรตามโครงการปิดทองเบิกฟ้า สักการบูชา มหาราช รัชกาลที่ 1 ที่บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช(รัชกาลที่ 1)
ส่อง 'พรรคปฏิบัติการ' ปี 68 'ภูมิใจไทย' ถูกขวางยิ่งโต
“พรรคภูมิใจไทย” ภายใต้การนำของ “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถือเป็นองค์กระกอบตัวแปรสำคัญทางการเมือง ที่ทำให้เกิดรัฐบาลไฟต์บังคับนี้ภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย
‘ทักษิณ’ไม่กล้าเขี่ย‘ภท.-รทสช.’
เป็นความสัมพันธ์ที่แม้แต่คนภายนอกยังมองออกว่ากระท่อนกระแท่น สำหรับความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร
“รัฐบาล”ไฟลต์บังคับ “ทักษิณ”ได้แค่กร่าง
ดรามาปม “อีแอบ” อาจเป็นแค่ประเด็นโชว์กร่าง หวังกดดันให้พรรคร่วมรัฐบาลสยบยอม หลัง “ทักษิณ ชินวัตร” นายใหญ่ ที่มีสถานะเป็นพ่อนายกรัฐมนตรี ได้พ่นไฟระหว่างงานสัมมนาพรรคเพื่อไทยที่ อ.หัวหิน เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา